ในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมาชาวคาตาลันต่างเรียกร้องเอกราช (ก็มีบางส่วนที่ยังคงอยากรวมกับสเปน) ทำประชามติ เพื่อเอกราชของคาตาโลเนีย ต่อมาวันที่ 27 ตุลาคม 2560 รัฐสภาคาคาโลเนียประกาศเอกราชฝ่ายเดียว สาเหตุในการขอเเยก อาจมีทั้งเศรษฐกิจ ทั้งกีฬา ทั้งวัฒนธรรม เเต่ในที่นี้จะเสนอในมุมมองของประวัติศาสตร์เท่านั้น ซึ่งมีหลายตอน ผิดพลาดประการใด เช่น เเปลผิด ข้อมูลผิด ก็เเจ้งได้ หรือ ถกเถี่ยงกัน เพื่อความรู้ต่อไป
(คอนที่1
https://ppantip.com/topic/36941336 เเละ ตอนที่2
https://ppantip.com/topic/36945135 ตอนที่3
https://ppantip.com/topic/36948232 ตอนที่4
https://ppantip.com/topic/36958700 เเละตอนที่5
https://ppantip.com/topic/36962780 ตอนที่6
https://ppantip.com/topic/36967458 เเละตอนที่7
https://ppantip.com/topic/36973144 ตอนที่8
https://ppantip.com/topic/36985242ตอนที่9 https://ppantip.com/topic/36988968 ตอนที่10
https://ppantip.com/topic/36993192 ตอนที่11
https://ppantip.com/topic/36997321 ตอนที่12
https://ppantip.com/topic/37016757 ตอนที่13
https://ppantip.com/topic/37020177ตอนที่14 https://ppantip.com/topic/37026729 เเละตอนที่15
https://ppantip.com/topic/37030059 )
จากตอนที่16
https://ppantip.com/topic/37037544 เหล่าอาณานิคมสเปนในทวีปอเมริกาได้ประกาศตัวเป็นเอกราชจนเเทบหมดสิ้นสุดที่จะปราบปรามได้ในปี1833 ในรัชสมัยพระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน (ครั้งที่2) เหลือเพียงคิวบาเเละเปอร์โตริโก ทำให้สเปนสูญเสียเเหล่งรายได้มหาศาล ก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ เกิดปัญหาการเงินของประเทศเข้าสู่ภาวะล้มละลาย สถานะมหาอำนาจของสเปนจึงสิ้นสุดลงตั้งเเต่บัดนั้น พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน จึงจำเป็นต้องเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหราชอาณาจักร ใน1820 ระหว่างสงครามในทวีปอเมริกา พระองค์จึงได้ประกาศรัฐธรรมนูญยอมอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ สเปนจึงเข้าสู่ระบอบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญตั้งเเต่บัดนั้น โดยรัฐธรรมนูญฉบับ1812 ซึ่งร่างโดยกลุ่มกบฏต่อต้านราชวงศ์โบนาปาร์ตตั้งเเต่รัชสมัยของพระเจ้าJoseph I เเห่งสเปน ราชวงศ์โบนาปาร์ต เเต่เมื่อฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บอง พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน สามารถกลับสู่ราชบัลลังก์สเปนได้ในปี1813 เนื่องจากเกิดปัญหามากมายจึงต้องจัดการหลายประการจึงประกาศใช้รัฐธรรมนูญใน 7 ปีหลังจากนั้น เนื้อหาของรัฐธรรมนูญ เป็นในลักษณะตามลัทธิเสรีนิยม ให้สิทธิเเละเสรีภาพ เเละความเป็นพลเมืองสเปนเเก่ทุกชนชาติทั้งในสเปนเเละอาณานิคม
เเต่รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว เเน่นอน พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน ทรงไม่ได้สมัครใจยินยอมเเต่อย่างใด เพราะทำให้การเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์สิ้นสุดลง ต้องอยู่ในรัฐธรรมนูญเเละสภาCortes อันเป็นสภาที่พัฒนามาจากกลุ่มกบฏต้านราชวงศ์โบนาปาร์ต เมื่อฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บองสำเร็จ กลุ่มกบฏเหล่านี้ก็พัฒนากลายเป็นสภาปกครองประเทศภายใต้อิทธิพลของเสรีนิยม มีอิทธิพลเหนือกษัตริย์ พระเจ้าFerdinand VIIถูกสภาCortesกักขังในพระราชวังCardiz ผู้ต่อต้านสภาถูกสังหาร เช่น คณะเยซูอิต การกระทำดังกล่าว ทำให้ยุโรปส่วนใหญ่ที่หวาดกลัวลัทธิเสรีนิยมอยู่เเล้ว หลังจากศึกนโปเลียน จึงประชุมกันที่Verona ได้เเก่ สหราชอาณาจักร รัสเซีย ออสเตรีย ปรัสเซีย เเละฝรั่งเศส ซึ่งมติของที่ประชุมอนุมัติให้ฝรั่งเศสเข้าโจมตีสเปน เพื่อฟื้นฟูระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสเปน พระเจ้าLouis XVIII เเห่งฝรั่งเศส โปรดเกล้าให้ "ดยุคLouis Antoineเเห่งAngoulême" พระราชภาติยะ เป็นเเม่ทัพใหญ่ กองทัพฝรั่งเศสได้เข้าโจมตีสเปน ขุนศึกเเห่งสภาCortes นำโดย"Rafael del Riego" ทั้งสองฝ่ายจึงเปิดสงครามHundred Thousand Sons of Saint Louis ซึ่งผลของสงครามคือ ฝรั่งเศสได้รับชัยชนะเหนือสเปนในปี1823 พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปนได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ ยกเลิกรัฐธรรมนูญเเละฟื้นฟูระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์ ถึงเเม้ว่า พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปนจะชนะศึกภายใน เเต่ศึกภายนอกพระองค์เป็นฝ่ายพ่ายเเพ้ย่อยยับด้วยการเสียอาณานิคมเกือบทั้งหมดในรัชสมัยของพระองค์ พระองค์เสด็จสวรรคตในปี1833 สิริพระชนมายุ 48 พรรษา ครองราชย์สมบัติรวมสองครั้งยาวนาน 20 ปี
เนื่องจากพระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน มีเเต่พระราชธิดา เหล่าขุนนางสเปนจึงอัญเชิญพระราชธิดาองค์ใหญ่ขึ้นครองราชย์ เป็น "ราชินีนาถIsabella II เเห่งสเปน" เนื่องจากพระนางเจ้ามีพระชนมายุเพียง 3 พรรษา จึงให้พระราชชนนี"Queen Maria Christina"เป็นผู้สำเร็จราชการเเทนพระองค์ เเต่ก็มีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งไม่พอใจก็ครองราชย์ของยุวราชินีนาถ นั่นก็คือ "Count Charles of Molina" พระอนุชาในพระเจ้าFerdinand VII ทรงอ้างถึงกฎมณเฑียรบาลของราชวงศ์บูร์บองอันเป็นราชวงศ์ที่มาจากฝรั่งเศส ซึ่งมีรากฐานจากSalic law ที่มีเนื้อหาว่า มรดกที่ดินเเละตำเเหน่งจะไม่สืบทอดไปยังทายาทฝ่ายหญิง ทำให้ควรจะเป็นพระองค์มากกว่าที่จะสืบทอดราชสมบัติต่อมา เหล่าผู้สนับสนุนส่วนใหญ่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมจึงสถาปนาพระองค์เป็น พระเจ้าCharles V เเห่งสเปน" พระองค์จึงก่อสงครามFirst Carlist เพื่อชิงราชสมบัติจากพระภาติยะ โดยมีโปรตุเกสของพระเจ้าMiguel I เเห่งโปรตุเกสเป็นกำลังหนุน ซึ่งขณะนั้นในโปรตุเกสก็เกิดสงครามกลางเมืองเช่นกัน ทางราชสำนักสเปนขององค์ยุวราชินีนาถจึงหันมาเข้าข้างฝ่ายเสรีนิยม เพื่อจะได้กำลังของฝ่ายเสรีนิยมสนับสนุน นอกจากนั้นราชสำนักสเปนได้สนับสนุนอดีตจักรพรรดิPedro I เเห่งบราซิล เเละ IV เเห่งโปรตุเกส ทำการชิงราชสมบัติจากพระอนุชา เพื่อคืนให้เเก่ ราชินีนาถMaria II เเห่งโปรตุเกส พระราชธิดาของพระองค์ ซึ่งต่างจากรัชสมัยพระราชบิดาที่หนุนฝั่งพระเจ้าMiguel I เเละในปี1834 ฝ่ายเสรีนิยมในโปรตุเกสเป็นฝ่ายชนะ ราชินีนาถMaria II เเห่งโปรตุเกส ได้กลับคืนราชบัลลงก์ คราวนี้ราชสำนักโปรตุเกสได้ยกกองทัพสนับสนุนราชินีนาถเเห่งสเปน รวมถึงทัพฝรั่งเศส ซึ่งขณะนั้นราชวงศ์บูร์บองล่มสลาย ถูกชิงราชสมบัติโดยราชวงศ์Orléans ได้เข้าช่วยราชินีนาถเเห่งสเปนในที่สุดในปี1839 สงครามในสเปนสิ้นสุดลง ราชสำนักเป็นฝ่ายชนะ กลุ่มกบฏCarlistต้องลี้ภัยในออสเตรีย
หลังจากปราบกบฏได้สำเร็จ พระราชชนนีผู้สำเร็จราชการเเทนพระองค์"Queen Maria Christina"จึงประกาศใช้รัฐธรรมนูญ1812อีกครั้ง ยอมลงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญเเละสภาCortes ตามเงื่อนไขที่ให้ไว้เเก่ฝ่ายเสรีนิยมที่ช่วยปราบกบฏ ในปี1843 ทรงว่าราชการด้วยพระองค์เอง เเต่ในขณะนั้นประเทศปกครองใต้รัฐสภา พระนางจึงไม่ค่อยว่าราชการเท่าใดนัก ในรัชสมัยของพระองค์เกิดสงครามSecond Carlistในปี1846 "Count Charles of Montemolin" ในพระนามของฝ่ายสนับสนุนอนุรักษนิยม(Carlist) "พระเจ้าCharles VI เเห่งสเปน" โอรสของ"Count Charles of Molina" ได้เสด็จนิวัติจากออสเตรีย เเล้วก่อกบฏเพื่อชิงราชสมบัติจากราชินีนาถอีกครั้ง เเต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อเสร็จศึกภายในเเล้ว ก็เกิดศึกภายนอก เมื่อโมร็อคโกทำสงครามกับสเปน เรียกว่า "Hispano-Moroccan War" ซึ่งสเปนเป้นฝ่ายชนะ ทำให้สเปนมีอาณาเขตในทวีปเเอฟริกาตราบจนทุกวันนี้ เเต่พระองค์ก็ทำสงครามพ่ายเเพ้ในอเมริกาใต้ จนต้องยอมรับเอกราชของเปรู องค์ราชินีนาถครองราชสมบัติของพระองค์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญมาตลอด จนกระทั่ง กลุ่มกบฏเสรีนิยมหัวรุนเเรงนิยมสาธารณรัฐในสภาCortes นำโดย ดยุคFrancisco Serranoเเห่งla Torre เเละ มาควิสJuan Prim เเห่งlos Castillejos เข้าโจมตีพระราชวังหลวง ทหารราชองครักษ์พยายามต้านทานเต็มความสามารถ เเต่สู้ไม่ได้ ราชินีนาถIsabella II เเห่งสเปนจึงลี้ภัยเเละละทิ้งราชสมบัติไปยังฝรั่งเศส เมื่อพระชนมายุ 38 พรรษา ครองราชย์ยาวนาน 35 ปี เเละประทับ ณ ฝรั่งเศส จนกระทั้งเสโจสวรรคต ณ กรุงปารีสในปี1904 สิริพระชนมายุ 73 พรรษา ชัยชนะของฝ่ายกบฏสภาCortes เรียกในหน้าประวัติศาสตร์ว่า "การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ของสเปน" สภาCortesเห็นว่า "สเปนยังไม่พร้อมการมีสาธารณรัฐ" จึงเห็นควรอัญเชิญเจ้านายนอกราชวงศ์บูร์บอง เเละไม่มีฐานอำนาจในสเปน สภาCortesลงมติให้อัญเชิญ "ดยุคAmedeoเเห่งAosta" พระราชโอรสในพระเจ้าVictor Emmanuel II เเห่งอิตาลี ซึ่งตอบรับคำเชิญ จึงทรงขึ้นครองราชย์เป็น ปฐมกษัตริย์เเห่งราชวงศ์Spanish-Savoy "พระเจ้าAmadeo I เเห่งสเปน"
ในรัชสมัยของพระเจ้าAmadeo I เเห่งสเปน ทรงเป็นกษัตริยใต้รัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด จนความเห็นของนักประวัติศาสตร์หลายท่านมองเห็นว่า ทรงเป็นหุ่นเชิดของสภาCortesด้วยซ้ำ ในปี1870 ทรงรอดจากปลงพระชนม์ เเต่ในคราวนั้น ผู้มีอำนาจในประเทศ ซึ่งหนุนราชสมบัติของพระองค์อย่างมาควิสJuan Prim เเห่งlos Castillejos ไม่รอดจากเหตุการณ์นั้น ทำให้พระองค์ตกอยู่ในสภาพลำบาก เพราะพระองค์เป็นชาวอิตาลี ไร้ซึ่งความชอบธรรมเเละรากฐานในสเปน รวมถึงการที่กลุ่มCarlistได้ก่อกบฏอีกครั้งเป็นสงครามThird Carlist นำโดย ดยุคCharlesเเห่งมาดริด ในฐานะที่ผู้สนับสนุนสถาปนาว่า "พระเจ้าCharles VII เเห่งสเปน" โดยทรงมีฐานผู้สนับสนุนจำนวนมากอยู่ในคิวบา คาตาโลเนีย เเละบาสก์ การดังกล่าว ทำให้พระเจ้าAmadeo I เเห่งสเปน ทรงตัดสินใจสละราชสมบัติในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1873 ครองราชสมบัติยาวนาน 2 ปีเศษ เเล้วเสด็จไปประทับที่อิตาลี เเล้วดำรงสถานะเดิมเเห่งราชวงศ์อิตาลีจระทั่งสวรรคตในปี1890 สิริพระชนมายุ 44 พรรษา การสละราชสมบัติดังกล่าว ทำให้สภาCortesประกาศจัดตั้ง"สาธารณรัฐสเปนที่1" มีประธานาธิบดีเป็นประมุข เเต่สงครามThird Carlistก็ดำเนินต่อไป รัฐบาลสาธารณรัฐได้ต่อสู้กับกลุ่มกบฏสุดความสามารถ เเต่ก็ไม่สามารถปราบปรามได้ รัฐบาลสาธารณรัฐอ่อนเเอลงอย่างชัดเจน ทำให้นายพลArsenio Martínez Camposเข้าควบคุมอำนาจสภาCortes เเล้วประกาศฟ้นฟูสถาบันกษัตริย์ สภาCortesเสนอให้อัญเชิญพระราชโอรสองค์ใหญ่ของราชินีนาถIsabella II ขึ้นเป็นกษัตริย์ ซึ่งได้รับการตอบรับ "พระเจ้าAlfonso XIIเเห่งสเปน" จึงขึ้นครองราชย์ สาธารณรัฐถึงกาลล่มสลาย ราชอาณาจักรได้รับการฟื้นฟู
"พระเจ้าAlfonso XIIเเห่งสเปน" ทรงดำเนินการปราบกบฏได้โดยสำเร็จ ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มภักดีของอดีตราชินีนาถเเละเสรีนิยม สงครามครั้งนี้ทำให้กลุ่มCarlistสิ้นฤทธิ์จากสเปน นอกเหนือจากนั้น การที่พระองค์เป็นโอรสของดยุคFrancisเเห่งCádiz โอรสของเจ้าชายFrancisco de Paula พระอนุชาในพระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน ทำให้พระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ที่พวกCarlistยอมรับนับถือ เพราะภายหลังการสิ้นพระชนม์ของดยุคAlfonso Carlosเเห่งSan Jaime (พระเจ้าCharles XII เเห่งสเปน) ประมุขของCarlist โดยไม่มีทายาท ทำให้สายสกุลของCount Charles of Molinaสิ้นสุดลง ทำให้การสืบทอดของพวกCarlist สืบไปยัง สายสกุลของดยุคFrancisเเห่งCádiz ซึ่งก็คือ พระเจ้าAlfonso XIIเเห่งสเปน การนี้ทำให้สายเสรีนิยมปกครองสเปนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถึงเเม้ว่าผู้สนับสนุนCarlistบางส่วนหันไปสนับสนุนราชวงศ์บูร์บง-ปาร์ม่า หรือ ราชวงศ์Habsburg-Lorraine เเต่ก็ไม่ได้ทำให้Carlistกลับมาก่อความวุ่นวายในสเปนของราชวงศ์Spanish-Bourbon อีกต่อไป
ความเเตกต่าง ความเอาเปรียบ ความไม่ยุติธรรม เอกราชของคาตาลัน (ตอนที่17 เสรีนิยมVSอนุรักษ์ กษัตริย์-ราชินีนาถ สาธารณรัฐ)
(คอนที่1 https://ppantip.com/topic/36941336 เเละ ตอนที่2 https://ppantip.com/topic/36945135 ตอนที่3 https://ppantip.com/topic/36948232 ตอนที่4 https://ppantip.com/topic/36958700 เเละตอนที่5 https://ppantip.com/topic/36962780 ตอนที่6 https://ppantip.com/topic/36967458 เเละตอนที่7 https://ppantip.com/topic/36973144 ตอนที่8 https://ppantip.com/topic/36985242ตอนที่9 https://ppantip.com/topic/36988968 ตอนที่10 https://ppantip.com/topic/36993192 ตอนที่11 https://ppantip.com/topic/36997321 ตอนที่12 https://ppantip.com/topic/37016757 ตอนที่13 https://ppantip.com/topic/37020177ตอนที่14 https://ppantip.com/topic/37026729 เเละตอนที่15 https://ppantip.com/topic/37030059 )
จากตอนที่16 https://ppantip.com/topic/37037544 เหล่าอาณานิคมสเปนในทวีปอเมริกาได้ประกาศตัวเป็นเอกราชจนเเทบหมดสิ้นสุดที่จะปราบปรามได้ในปี1833 ในรัชสมัยพระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน (ครั้งที่2) เหลือเพียงคิวบาเเละเปอร์โตริโก ทำให้สเปนสูญเสียเเหล่งรายได้มหาศาล ก่อให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ เกิดปัญหาการเงินของประเทศเข้าสู่ภาวะล้มละลาย สถานะมหาอำนาจของสเปนจึงสิ้นสุดลงตั้งเเต่บัดนั้น พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน จึงจำเป็นต้องเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหราชอาณาจักร ใน1820 ระหว่างสงครามในทวีปอเมริกา พระองค์จึงได้ประกาศรัฐธรรมนูญยอมอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ สเปนจึงเข้าสู่ระบอบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญตั้งเเต่บัดนั้น โดยรัฐธรรมนูญฉบับ1812 ซึ่งร่างโดยกลุ่มกบฏต่อต้านราชวงศ์โบนาปาร์ตตั้งเเต่รัชสมัยของพระเจ้าJoseph I เเห่งสเปน ราชวงศ์โบนาปาร์ต เเต่เมื่อฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บอง พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน สามารถกลับสู่ราชบัลลังก์สเปนได้ในปี1813 เนื่องจากเกิดปัญหามากมายจึงต้องจัดการหลายประการจึงประกาศใช้รัฐธรรมนูญใน 7 ปีหลังจากนั้น เนื้อหาของรัฐธรรมนูญ เป็นในลักษณะตามลัทธิเสรีนิยม ให้สิทธิเเละเสรีภาพ เเละความเป็นพลเมืองสเปนเเก่ทุกชนชาติทั้งในสเปนเเละอาณานิคม
เเต่รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว เเน่นอน พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน ทรงไม่ได้สมัครใจยินยอมเเต่อย่างใด เพราะทำให้การเป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์สิ้นสุดลง ต้องอยู่ในรัฐธรรมนูญเเละสภาCortes อันเป็นสภาที่พัฒนามาจากกลุ่มกบฏต้านราชวงศ์โบนาปาร์ต เมื่อฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บองสำเร็จ กลุ่มกบฏเหล่านี้ก็พัฒนากลายเป็นสภาปกครองประเทศภายใต้อิทธิพลของเสรีนิยม มีอิทธิพลเหนือกษัตริย์ พระเจ้าFerdinand VIIถูกสภาCortesกักขังในพระราชวังCardiz ผู้ต่อต้านสภาถูกสังหาร เช่น คณะเยซูอิต การกระทำดังกล่าว ทำให้ยุโรปส่วนใหญ่ที่หวาดกลัวลัทธิเสรีนิยมอยู่เเล้ว หลังจากศึกนโปเลียน จึงประชุมกันที่Verona ได้เเก่ สหราชอาณาจักร รัสเซีย ออสเตรีย ปรัสเซีย เเละฝรั่งเศส ซึ่งมติของที่ประชุมอนุมัติให้ฝรั่งเศสเข้าโจมตีสเปน เพื่อฟื้นฟูระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสเปน พระเจ้าLouis XVIII เเห่งฝรั่งเศส โปรดเกล้าให้ "ดยุคLouis Antoineเเห่งAngoulême" พระราชภาติยะ เป็นเเม่ทัพใหญ่ กองทัพฝรั่งเศสได้เข้าโจมตีสเปน ขุนศึกเเห่งสภาCortes นำโดย"Rafael del Riego" ทั้งสองฝ่ายจึงเปิดสงครามHundred Thousand Sons of Saint Louis ซึ่งผลของสงครามคือ ฝรั่งเศสได้รับชัยชนะเหนือสเปนในปี1823 พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปนได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ ยกเลิกรัฐธรรมนูญเเละฟื้นฟูระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์ ถึงเเม้ว่า พระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปนจะชนะศึกภายใน เเต่ศึกภายนอกพระองค์เป็นฝ่ายพ่ายเเพ้ย่อยยับด้วยการเสียอาณานิคมเกือบทั้งหมดในรัชสมัยของพระองค์ พระองค์เสด็จสวรรคตในปี1833 สิริพระชนมายุ 48 พรรษา ครองราชย์สมบัติรวมสองครั้งยาวนาน 20 ปี
เนื่องจากพระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน มีเเต่พระราชธิดา เหล่าขุนนางสเปนจึงอัญเชิญพระราชธิดาองค์ใหญ่ขึ้นครองราชย์ เป็น "ราชินีนาถIsabella II เเห่งสเปน" เนื่องจากพระนางเจ้ามีพระชนมายุเพียง 3 พรรษา จึงให้พระราชชนนี"Queen Maria Christina"เป็นผู้สำเร็จราชการเเทนพระองค์ เเต่ก็มีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งไม่พอใจก็ครองราชย์ของยุวราชินีนาถ นั่นก็คือ "Count Charles of Molina" พระอนุชาในพระเจ้าFerdinand VII ทรงอ้างถึงกฎมณเฑียรบาลของราชวงศ์บูร์บองอันเป็นราชวงศ์ที่มาจากฝรั่งเศส ซึ่งมีรากฐานจากSalic law ที่มีเนื้อหาว่า มรดกที่ดินเเละตำเเหน่งจะไม่สืบทอดไปยังทายาทฝ่ายหญิง ทำให้ควรจะเป็นพระองค์มากกว่าที่จะสืบทอดราชสมบัติต่อมา เหล่าผู้สนับสนุนส่วนใหญ่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมจึงสถาปนาพระองค์เป็น พระเจ้าCharles V เเห่งสเปน" พระองค์จึงก่อสงครามFirst Carlist เพื่อชิงราชสมบัติจากพระภาติยะ โดยมีโปรตุเกสของพระเจ้าMiguel I เเห่งโปรตุเกสเป็นกำลังหนุน ซึ่งขณะนั้นในโปรตุเกสก็เกิดสงครามกลางเมืองเช่นกัน ทางราชสำนักสเปนขององค์ยุวราชินีนาถจึงหันมาเข้าข้างฝ่ายเสรีนิยม เพื่อจะได้กำลังของฝ่ายเสรีนิยมสนับสนุน นอกจากนั้นราชสำนักสเปนได้สนับสนุนอดีตจักรพรรดิPedro I เเห่งบราซิล เเละ IV เเห่งโปรตุเกส ทำการชิงราชสมบัติจากพระอนุชา เพื่อคืนให้เเก่ ราชินีนาถMaria II เเห่งโปรตุเกส พระราชธิดาของพระองค์ ซึ่งต่างจากรัชสมัยพระราชบิดาที่หนุนฝั่งพระเจ้าMiguel I เเละในปี1834 ฝ่ายเสรีนิยมในโปรตุเกสเป็นฝ่ายชนะ ราชินีนาถMaria II เเห่งโปรตุเกส ได้กลับคืนราชบัลลงก์ คราวนี้ราชสำนักโปรตุเกสได้ยกกองทัพสนับสนุนราชินีนาถเเห่งสเปน รวมถึงทัพฝรั่งเศส ซึ่งขณะนั้นราชวงศ์บูร์บองล่มสลาย ถูกชิงราชสมบัติโดยราชวงศ์Orléans ได้เข้าช่วยราชินีนาถเเห่งสเปนในที่สุดในปี1839 สงครามในสเปนสิ้นสุดลง ราชสำนักเป็นฝ่ายชนะ กลุ่มกบฏCarlistต้องลี้ภัยในออสเตรีย
หลังจากปราบกบฏได้สำเร็จ พระราชชนนีผู้สำเร็จราชการเเทนพระองค์"Queen Maria Christina"จึงประกาศใช้รัฐธรรมนูญ1812อีกครั้ง ยอมลงอยู่ใต้รัฐธรรมนูญเเละสภาCortes ตามเงื่อนไขที่ให้ไว้เเก่ฝ่ายเสรีนิยมที่ช่วยปราบกบฏ ในปี1843 ทรงว่าราชการด้วยพระองค์เอง เเต่ในขณะนั้นประเทศปกครองใต้รัฐสภา พระนางจึงไม่ค่อยว่าราชการเท่าใดนัก ในรัชสมัยของพระองค์เกิดสงครามSecond Carlistในปี1846 "Count Charles of Montemolin" ในพระนามของฝ่ายสนับสนุนอนุรักษนิยม(Carlist) "พระเจ้าCharles VI เเห่งสเปน" โอรสของ"Count Charles of Molina" ได้เสด็จนิวัติจากออสเตรีย เเล้วก่อกบฏเพื่อชิงราชสมบัติจากราชินีนาถอีกครั้ง เเต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อเสร็จศึกภายในเเล้ว ก็เกิดศึกภายนอก เมื่อโมร็อคโกทำสงครามกับสเปน เรียกว่า "Hispano-Moroccan War" ซึ่งสเปนเป้นฝ่ายชนะ ทำให้สเปนมีอาณาเขตในทวีปเเอฟริกาตราบจนทุกวันนี้ เเต่พระองค์ก็ทำสงครามพ่ายเเพ้ในอเมริกาใต้ จนต้องยอมรับเอกราชของเปรู องค์ราชินีนาถครองราชสมบัติของพระองค์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญมาตลอด จนกระทั่ง กลุ่มกบฏเสรีนิยมหัวรุนเเรงนิยมสาธารณรัฐในสภาCortes นำโดย ดยุคFrancisco Serranoเเห่งla Torre เเละ มาควิสJuan Prim เเห่งlos Castillejos เข้าโจมตีพระราชวังหลวง ทหารราชองครักษ์พยายามต้านทานเต็มความสามารถ เเต่สู้ไม่ได้ ราชินีนาถIsabella II เเห่งสเปนจึงลี้ภัยเเละละทิ้งราชสมบัติไปยังฝรั่งเศส เมื่อพระชนมายุ 38 พรรษา ครองราชย์ยาวนาน 35 ปี เเละประทับ ณ ฝรั่งเศส จนกระทั้งเสโจสวรรคต ณ กรุงปารีสในปี1904 สิริพระชนมายุ 73 พรรษา ชัยชนะของฝ่ายกบฏสภาCortes เรียกในหน้าประวัติศาสตร์ว่า "การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ของสเปน" สภาCortesเห็นว่า "สเปนยังไม่พร้อมการมีสาธารณรัฐ" จึงเห็นควรอัญเชิญเจ้านายนอกราชวงศ์บูร์บอง เเละไม่มีฐานอำนาจในสเปน สภาCortesลงมติให้อัญเชิญ "ดยุคAmedeoเเห่งAosta" พระราชโอรสในพระเจ้าVictor Emmanuel II เเห่งอิตาลี ซึ่งตอบรับคำเชิญ จึงทรงขึ้นครองราชย์เป็น ปฐมกษัตริย์เเห่งราชวงศ์Spanish-Savoy "พระเจ้าAmadeo I เเห่งสเปน"
ในรัชสมัยของพระเจ้าAmadeo I เเห่งสเปน ทรงเป็นกษัตริยใต้รัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด จนความเห็นของนักประวัติศาสตร์หลายท่านมองเห็นว่า ทรงเป็นหุ่นเชิดของสภาCortesด้วยซ้ำ ในปี1870 ทรงรอดจากปลงพระชนม์ เเต่ในคราวนั้น ผู้มีอำนาจในประเทศ ซึ่งหนุนราชสมบัติของพระองค์อย่างมาควิสJuan Prim เเห่งlos Castillejos ไม่รอดจากเหตุการณ์นั้น ทำให้พระองค์ตกอยู่ในสภาพลำบาก เพราะพระองค์เป็นชาวอิตาลี ไร้ซึ่งความชอบธรรมเเละรากฐานในสเปน รวมถึงการที่กลุ่มCarlistได้ก่อกบฏอีกครั้งเป็นสงครามThird Carlist นำโดย ดยุคCharlesเเห่งมาดริด ในฐานะที่ผู้สนับสนุนสถาปนาว่า "พระเจ้าCharles VII เเห่งสเปน" โดยทรงมีฐานผู้สนับสนุนจำนวนมากอยู่ในคิวบา คาตาโลเนีย เเละบาสก์ การดังกล่าว ทำให้พระเจ้าAmadeo I เเห่งสเปน ทรงตัดสินใจสละราชสมบัติในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1873 ครองราชสมบัติยาวนาน 2 ปีเศษ เเล้วเสด็จไปประทับที่อิตาลี เเล้วดำรงสถานะเดิมเเห่งราชวงศ์อิตาลีจระทั่งสวรรคตในปี1890 สิริพระชนมายุ 44 พรรษา การสละราชสมบัติดังกล่าว ทำให้สภาCortesประกาศจัดตั้ง"สาธารณรัฐสเปนที่1" มีประธานาธิบดีเป็นประมุข เเต่สงครามThird Carlistก็ดำเนินต่อไป รัฐบาลสาธารณรัฐได้ต่อสู้กับกลุ่มกบฏสุดความสามารถ เเต่ก็ไม่สามารถปราบปรามได้ รัฐบาลสาธารณรัฐอ่อนเเอลงอย่างชัดเจน ทำให้นายพลArsenio Martínez Camposเข้าควบคุมอำนาจสภาCortes เเล้วประกาศฟ้นฟูสถาบันกษัตริย์ สภาCortesเสนอให้อัญเชิญพระราชโอรสองค์ใหญ่ของราชินีนาถIsabella II ขึ้นเป็นกษัตริย์ ซึ่งได้รับการตอบรับ "พระเจ้าAlfonso XIIเเห่งสเปน" จึงขึ้นครองราชย์ สาธารณรัฐถึงกาลล่มสลาย ราชอาณาจักรได้รับการฟื้นฟู
"พระเจ้าAlfonso XIIเเห่งสเปน" ทรงดำเนินการปราบกบฏได้โดยสำเร็จ ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มภักดีของอดีตราชินีนาถเเละเสรีนิยม สงครามครั้งนี้ทำให้กลุ่มCarlistสิ้นฤทธิ์จากสเปน นอกเหนือจากนั้น การที่พระองค์เป็นโอรสของดยุคFrancisเเห่งCádiz โอรสของเจ้าชายFrancisco de Paula พระอนุชาในพระเจ้าFerdinand VII เเห่งสเปน ทำให้พระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ที่พวกCarlistยอมรับนับถือ เพราะภายหลังการสิ้นพระชนม์ของดยุคAlfonso Carlosเเห่งSan Jaime (พระเจ้าCharles XII เเห่งสเปน) ประมุขของCarlist โดยไม่มีทายาท ทำให้สายสกุลของCount Charles of Molinaสิ้นสุดลง ทำให้การสืบทอดของพวกCarlist สืบไปยัง สายสกุลของดยุคFrancisเเห่งCádiz ซึ่งก็คือ พระเจ้าAlfonso XIIเเห่งสเปน การนี้ทำให้สายเสรีนิยมปกครองสเปนได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถึงเเม้ว่าผู้สนับสนุนCarlistบางส่วนหันไปสนับสนุนราชวงศ์บูร์บง-ปาร์ม่า หรือ ราชวงศ์Habsburg-Lorraine เเต่ก็ไม่ได้ทำให้Carlistกลับมาก่อความวุ่นวายในสเปนของราชวงศ์Spanish-Bourbon อีกต่อไป