ขออนุญาต หากผิดพลาดอย่างไร แนะนำนะคะ เพิ่งสมัครพันธ์ทิพย์คะ จากคำแนะนำพี่ท่านหนึ่ง..

ขอเกริ่นเรื่องก่อน... (ภาษาอาจจะทางการ พยายามเขียนให้รัดกุมถูกต้องที่สุดค่ะ) อาจจะยาวหน่อยคะ แต่ต้องการให้รายละเอียดครบถ้วน

ได้เข้าไปเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Samsung รุ่น A5 2016 สีชมพู ในงาน Thailand Mobile Expo ในวันพฤหสับดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
และได้ตัดสินใจซื้อกับบู๊ทของทางบริษัท คอมพิวเตอร์ ซีสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด หรือ CSC ในวันดังกล่าว หน้าบิลตีวันที่ 11/02/2016 เวลา 17.59.15 น. พนักงานทางร้านบริการดีมากคะ พูดจาดี เครื่องมาเปลี่ยนได้ภายใน 7 วัน ฯลฯ

ดิฉันได้ตรวจสอบเครื่องเบื้องต้น ดังนี้
- ลองโทรเข้า-ออกฟังเสียงเรียกเข้า เสียงสนทนา
- ตรวจปุ่มกด แป้นพิมพ์ต่างๆ
- เปิดกล้องลองดูในสภาพแสงในงาน สว่างมาก ซึ่งภาพปกติ

ระหว่างทางกลับบ้านพยายามเล่นเครื่องเพื่อตรวจสอบตลอดคะ (เพราะได้รับบทเรียนจากเครื่อง Samsung และแบรนด์ผลไม้สีดำมาแล้ว ไม่ได้เล่นเครื่องใน 7 วันนำมานอนรอฤกษ์งามยามดีค่อยใช้ปรากฏมีปัญหา) จึงตัดสินใจลองเล่นเรื่อยๆคะ  เครื่องมีค้าง ช้าบ้าง แต่เข้าใจในคุณภาพเครื่องคะ

เช้าวันรุ่งขึ้น (วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559) ได้ทำการชาร์จโทรศัพท์มือถือเครื่องดังกล่าว โดยเสียบชาร์จตรงกับปลั๊ก (ไม่ได้ต่อปลั๊กเสริมใดๆ และใช้สายชาร์จและหัวชาร์จจากในกล่องที่ให้) พร้อมกับอีกเครื่องยี่ห้อผลไม้ แต่แยกปลั๊กกัน วางไม่ไกลกันมาก ไม่ถึง 15 นาที  เดินกลับมาจับเครื่อง ปรากฏว่า เครื่องร้อน รีบวางเครื่องลง และสะบัดมือเพื่อให้มือเย็น (ปฏิกิริยาการรับรู้) (เป็นคนชอบทำขนม อบขนมประจำ -- เข้าใจใช่ไหมคะ ว่ามือทนร้อนได้แค่ไหน) โทรถาม Call center บอกเครื่องร้อนปกติ อาจเกิดจากการ Update ต่างๆพร้อมการชาร์จทำให้เครื่องร้อนสูง (อันนี้พอทำความเข้าใจคะ) และได้ทำการโหลดโปรแกรมตรวจความร้อน (GSam Battery) ตกเย็นรีบเดินทางไปที่งานที่ได้ซื้อเครื่องมา ตรงไปที่บู๊ท แจ้งน้องพนักงานขาย ได้คำตอบว่า ร้อนปกติ ถามกี่คนก็บอกปกติ และเดินจากไปไม่สนใจไม่ดูแลใดๆ ไม่แม้กระทั่งจับเครื่องตรวจสอบดู (วันดังกล่าว มีเพื่อนไปด้วย เพื่อนตัดสินใจซื้อรุ่นเดียวกันอีกสี เพื่อมาตรวจสอบว่าปกติหรือไม่คะ --- เพื่อนอยากให้เครื่องเป็นเครื่องคู่ด้วย เลยซื้อตามนี้คืออีกเหตุผลที่ตกลงซื้อคะ) ดิฉันจึงตัดสินใจหยิบที่ชาร์จัตวเดิมที่ให้จากกล่องมาลองชาร์จ โดยครั้งนี้ ชาร์จคู่กับเครื่องใหม่ที่เพิ่งซื้อคะ ปรากฏว่า ร้อน 34 องศาเซลเซียล ทั้งคู่ (ทำให้เข้าใจว่า ร้อนมากปกติ คือเท่านี้) แต่เมื่อเช้าวันเดียวกันที่ชาร์จครั้งแรกร้อนกว่านี้คะ แต่ไม่มีโปรแกรมตรวจวัดอุณหภูมิ (ได้ทำใจ ปรับความเข้าใจกับตัวเอง เพื่อให้เข้าใจตรงกับทาง Call center บอกว่า อาจจะเป็นเพราะ Update พร้อมชาร์จ จึงได้เดินทางกลับบ้าน

ระหว่างนั้นจนถึงวันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ก่อนเวลา 20.00 น.กว่าๆ (จับเวลาไม่ได้แน่ชัดคะ เนื่องจากกำลังขับรถออกจากห้างแห่งหนึ่ง แล้วมีเหตุให้ต้องถ่ายนโยบายการจอดรถมาเป็นหลักฐาน **นี่อีกเรื่องที่กำลังร้องเรียนคะ**) ทำให้พบว่า กล้องหน้ามีปัญหา (สภาพแสงตอนนั้น กลางคืน มีไฟรถ ไฟห้างเล็กน้อยคะ) ภาพที่ได้ ติดแสงเขียว และฟ้า ตามมุมกล้อง โดยเฉพาะด้านล่างขวาและซ้าย พยายามทดลองหลายภาพ แตะเลือกโฟกัสก็แล้ว ก็ไม่หาย เปิดไฟในรถ เพื่อช่วยลองถ่ายใหม่ก็ไม่หาย (ด้วยความที่เล่นมือถือหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ชอบ IT) จึงได้ลองนำกระดาษมาปิดเพื่อให้ขอดำ ปรากฏว่า เป็นจอดำติดฟ้าเขียว  ทำให้มั่นใจแล้วว่า white balance กล้องเสียแน่นอน (จึงได้รีบขับรถกลับบ้าน) เมื่อมาถึงในหมู่บ้านได้ทำการทดลองใหม่ หลายครั้ง ปิดเปิดเครื่อง เพื่อตรวจเช็กอีกหลายรอบก็ไม่หาย จึงมั่นใจแน่ชัดแล้ว จึงได้ติดต่อเพื่อนที่ซื้ออีกเครื่อง ทำการทดลองถ่ายในสภาพแสงน้อยมาก เพื่อตรวจสอบ ปรากฏว่าเครื่องเพื่อนไม่เป็นคะ ปกติมาก จึงได้ตัดสินใจหาเบอร์ Call center โทรแจ้ง.. ได้รับการช่วยเหลือดีมากคะ (ขอชมเชยในส่วนการรับฟังปัญหา และพยายามหาทางแก้ไข) พนักงาน Call center สอบถามว่าทางเรามีการเปลี่ยนแปลงอะไรเครื่องบ้าง ทางดิฉันได้แจ้งไปคะตามตรงคะว่า "เพิ่งได้ทดลองถ่ายรูปครั้งแรกเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี่คะ เพราะมีปัญหากับทางห้างจึงได้ขอถ่ายรูปไว้ ทำให้ทราบว่ากล้องมีปัญหา" พนักงานพยายามให้ทดลองเปลี่ยน โหมดจาก Auto เป็น Pro แต่ก็ไม่หายคะ จึงได้แจ้งตามที่ทางเราได้ทำการแก้ไข และตรวจสอบ และแจ้งว่าทดลองทั้ง 2 เครื่องแล้ว...
ทางพนักงาน ได้แนะนำให้ติดต่อร้านที่ซื้อและช่วยคำนวณวันรับประกัน 7 วันคะ โดยแจ้งว่าหากซื้อวันที่ 11 จะหมดวันนี้ (วันที่ 17) แต่ทางเราไม่มั่นใจในวันที่ซื้อคะ ดิฉันได้แจ้งพนักงานไปว่า ขอเข้าบ้านตรวจสอบเอกสารก่อน..

ในที่สุดก็เดินทางถึงบ้านคะ รีบไปตรวจสอบเอกสาร ปรากฏว่า ซื้อวันที่ 11/02/2016 และได้เดินไปรับของสมนาคุณ เวลา 17.59.15 น. จริง
จึงได้ตรวจสอบข้อมูลทางกฎหมาย เท่าที่สืบค้นและอ่านพบ ตามกฏหมายระบุไว้ประมาณว่า จะนับวันถัดไปเป็นวันที่ 1 ***วานขอผู้รู้ทางกฏหมายช่วยยืนยันความถูกต้องที่คะ***

เมื่อมั่นใจแน่ชัดแล้ว จึงได้โทรประสานงานกับทาง Call Center Samsung อีกครั้งหนึ่ง
พนักงานท่านหนึ่งรับเรื่อง  ดิฉันได้ปรึกษาเรื่องการนับวัน ทางพนักงานยังยืนยันนับวันที่ซื้อคือวันที่ 1...ดิฉันแจ้งเรื่องการนับทางกฏหมาย ทางพนักงานจึงได้แนะนำให้พรุ่งนี้เช้า ไปที่ร้านที่ซื้อตามใบเสร็จที่ได้รับก่อน นั้นคือ CSC (ถนนพระราม 4)  ดิฉันได้เน้นย้ำ!! เรื่องการบันทึกเหตุการณ์และเรื่องที่โทรมา ว่ามีการบันทึกในระบบ Call center หรือไม่ พนักงานแจ้งว่าทำการบันทึกแล้ว ให้ไปติดต่อร้านก่อน หากไม่ได้อย่างไร ค่อยติดต่อ Samsung อีกครั้ง เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป (ขอชื่นชมในส่วนนี้มากๆคะ)

ดิฉันได้ทำการติดต่อทั้งทาง CSC เป็นข้อความ Online และ facebook Samsung thailand เป็น Post พร้อมภาพปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เช่นเดียวกับหลักฐานทาง Call center แล้ว

แต่...คำถามคาใจในการบริการคะ
ในส่วนของ SamSung
1. คุณควรจะมีระบบยืนยันการรับเรื่องร้องเรียนปัญหาตัวเครื่อง 7 วันหรือไม่คะ ???  เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นการแจ้งก่อน 7 วันถูกต้องไหมคะ ทางคุณรับเรื่องแล้ว (เพราะคุณคือสำนักงานใหญ่ ควรรับเรื่องแทนร้านตัวแทนที่ไม่มี Call center 24 ชม.ถูกไหมคะ) หากลูกค้าอยู่ไกลมาก 7 วันก็ไร้ค่าถูกไหมคะ อย่างกรณีดิฉันพบตอนกลางคืน ร้านตัวแทนคุณปิด ดิฉันหมดสิทธิที่ควรได้หรือคะ
2. นโยบายรับประกัน 7 วันหากนับวันที่ซื้อ ถือว่าถูกต้องตรงตามหลักความเป็นจริงแล้วใช่ไหมคะ (อย่างอีกเครื่องที่ซื้อวันที่ 12/06/2016 ซื้อตอน booth จะปิดก็นับวันที่ 1 หรือคะ ---- จากความเข้าใจที่ Call center แจ้ง)
3. ควรมีการอบรมพนักงานขาย ให้ตรวจสอบคุณภาพเครื่องพร้อมลูกค้าเบื้องต้น เพื่อป้องกันปัญหา error แบบนี้เกิดขึ้นไหมคะ เหมือนแบรนด์ผลไม้ ก็มีการให้พนักงานขายช่วยดูแลตรงนี้


ในส่วนของ CSC
1. พนักงานขายควรมีการบริการหลังการขายที่ดีกว่านี้คะ อย่าหน้ามือเป็นหลังมือ
2. พรุ่งนี้ (18.02.2016) จะรีบเข้าไปพบ หวังว่าจะได้รับคำตอบดีๆนะคะ หากเป็นไปได้ กรุณานำ เอกสาร นโยบายมาให้ดิฉัน ถ่ายเอกสาร ไว้เป็นหลักฐานด้วยคะ

***ใครจะแนะนำให้ restore บอกได้คำเดียวคะ ว่าไม่สามารถ เพราะกลัวหลักฐานการถ่ายรูปแรกในเครื่องหาย***
***** โดยส่วนตัว ดิฉันคิดว่า การนับวันรับประกันแบบที่ทาง Call center แจ้ง มันไม่เป็นกลางสำหรับผู้บริโภคเลยคะ (ไม่ใช่แค่กับมือถือนะคะ สินค้าทั่วไปเป็นแบบนั้นหมด) *****

แก้ไข
เพิ่มเติมคะ (ไม่แน่ใจถูกต้องไหม??)   http://thai-civil-code.blogspot.com/2009/08/blog-post.html