ตามที่พระท่านสอนมาว่า กำลังของฌานที่จะใช้ทำวิปัสสนาได้ จะต้องไล่ลำดับองค์ฌานขึ้นมา จึงจะใช้เป็นฐานในการวิปัสสนาได้
ในที่นีว่ากันแค่เรื่องรูปฌานนะครับ องค์ฌานด้านล่างนี้ท่านผู้รู้ก็ย่อมทราบดี คือ
- สมาธิในฌาน ที่ 1 มีองค์ 5 คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตารมณ์
- สมาธิในฌาน ที่ 2 มีองค์ 3 คือ ปีติ สุข เอกัคคตารมณ์
- สมาธิในฌาน ที่ 3 มีองค์ 2 คือ สุข เอกัคคตารมณ์
- สมาธิในฌาน ที่ 4 มีองค์ 2 คือ อุเบกขา เอกัคคตารมณ์ (ในฌานขั้นนี้บางสำนักท่านเรียกองค์ฌานว่าฌาน สติ ก็มี)
เมื่อปฏิบัติเข้าสมาธิ จนถึงอัปปนาฌาน หรือ อัปปนาสมาธิ แล้วก็ถอยฌานลงมาเพื่อทำวิปัสสนา ทางคัมภีร์ท่านให้ถอยลงมาถึงอุปจารสมาธิ บางสำนักท่านให้ถอยลงมาที่ ฌาน 3 หรือ ฌาน 2 ก็ทำวิปัสสนาได้ (เพราะฌาน 4 จิตมันคิดอะไรไม่ได้ ต้องถอยฌานลงมา ลดกำลัง พอให้รู้สึกตัว)
หากคราวนี้ ท่านที่ได้อรูปฌาน ท่านไม่แน่ใจว่า ท่านได้จริงหรือไม่อย่างไร ลองตรวจสอบแบบนี้สิครับ
เมื่อท่านทำสมาธิ ในระดับอรูปฌานแล้ว ลองถอยลงมาสักฌาน 3 หรือ ฌาน 2 แล้วทำวิปัสสนาสิครับ
อย่าได้ไหลรูดลงไปทำวิปัสสนาที่ ขณิกะสมาธิ เอาแค่ให้รู้ตัวว่า ขณะนี้เราอยู่ในสมาธิในฌานขั้น 3 หรือ 2 แล้ว มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม แล้วค่อยยกจิตขึ้นทำวิปัสสนา
ถ้าหากจิตทรงอารมณ์ฌาน 3 หรือ 2 ได้ ก็แสดงว่า ท่านปฏิบัติแบบไล่ลำดับฌานมาอย่างถูกต้อง คล้ายๆ กับขึ้นบันไดมา เวลาจะลงก็ก้าวลงบันไดได้สบายมีฐานรองรับ ไม่ใช่กลับไหลรูดลงไปถึงระดับขณิกะสมาธิ คือผู้ปฏิบัติต้องไล่ลำดับฌานเข้าออกให้ได้ที่เขาเรียกว่า ทำจนเป็น "วสี" นะครับ นึกจะเข้าออกไประดับไหนอย่างไรได้หมด
แต่ก็มีบางท่านเหมือนกันเมื่อท่านทำสมาธิ ท่านไม่สามารถเกาะอารมณ์กรรมฐานนั้นได้ตลอด เพราะสติอ่อนไป เช่น บางท่านเอาลมหายใจเป็นสิ่งรู้ของจิตเป็นสิ่งระลึกของสติ เมื่อจิตเขาละเอียดขึ้นไปอยู่ในสมาธิระดับอุปจารสมาธิ มีองค์สุข ยังไม่ทันจิตจะตั้งมั่นเป็นฌาน (เอกกัคตารมณ์) ก็ลืมเสียซึ่งลมหายใจอันเป็นสิ่งรู้ของจิตเป็นสิ่งระลึกของสติ หลงอยู่ในขั้นสุข จิตไม่ยึดสิ่งใด เมื่อพอมีสติระลึกขึ้นมาได้บ้างก็เจอแต่อากาศบ้าง สิ่งว่างๆ บ้าง เห็นว่าสบายดีก็เอายึดเป็นอารมณ์ของจิตแทน, บางท่านก็หลุดไปยึดเกาะความว่าง จากหลุด สุข ในฌานขั้นที่ 2 ก็มี เช่น ไปเจอสุข แต่สุขในระดับนี้ยังไม่เป็นฌาน (เอกกัคคตารมณ์) (แต่ จขกท. คิดว่าคงมีส่วนน้อยที่จะหลุดจากสุขในฌานขั้นที่ 3 เพราะว่าสมาธิและสติเริ่มมั่นคงผ่านด่านมาเยอะแล้ว)
เมื่อปฏิบัติไปเรื่อยๆ จิตมาถึง สุขในอุปจารสมาธิบ้าง มาถึงสุขในฌาน 1 2 บ้าง จิตก็กระโดดไปจับความว่างหรืออากาศ เพราะความเคยชิน มันทำบ่อยๆ มันก็หลุดไปเป็นประจำ จิตมันไม่ไปต่อตามลำดับองค์ฌาน
คราวนี้สิ่งที่นักปฏิบัติเจอทั้งสุข เจอทั้งอากาศ ความว่างนั้น ก็ต้องยอมรับว่า เขาอาจจะได้พบกับสิ่งนั้นจริง เขาได้พบกับอรูปฌานจริงๆ ได้พบองค์ฌานที่มีแต่อุเบกขาจริง (มันเป็นความว่าง) สิ่งนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาได้พบจริง สิ่งนี้เขาเรียกว่าอัปปนาสมาธิจริง แต่ไม่ได้เป็นอัปปนาฌาน เพราะไม่ได้ไล่ลำดับฌานมาตั้งแต่แรก ซึ่งสมาธิที่จะใช้เพื่อมรรคผลนิพพาน จะต้องไล่ลำดับองค์ฌานมา ดังนั้น เมื่อนักปฏิบัติท่านใด คิดว่าปฏิบัติได้ถูกต้องท่านก็ลดระดับของฌานลงมา แล้วท่านก็จะเจอสิ่งที่ท่านผ่านมา เช่น ท่านผ่าน ฌาน 1 2 3 4 มาตามลำดับ เวลาท่านถอยฌานลง เพื่อใช้ทำวิปัสสนา ท่านก็ถอยลง 4 3 2 1 อุปจารสมาธิ แบบนี้เป็นต้น ในกรณีอรูปฌานก็เช่นเดียวกัน ท่านย่อมถอยหลังลงมาได้แบบเดียวกับรูปฌานแน่นอน เพราะท่านผ่านสิ่งนั้นมา มันต้องทำได้ แต่หากถอยหลังลงไปแล้วไม่เจอลำดับองค์ฌานข้างต้น ก็ขอให้ท่านลองพิจารณาดูอีกครั้ง ทบทวนการปฏิบัติอีกสักครั้งนะครัรบ ว่าตรงตามคัมภีร์ หรือ พระอาจารย์ที่ท่านสอนมาหรือไม่อย่างไร เพราะปล่อยทิ้งนานไปสมาธิที่ได้จะเป็นโมหะสมาธิ มันใช้การใช้งานไม่ได้ เสียเวล่ำเวลา ครับ
ทั้งนี้ หากท่านนักปฏิบัติผู้ใดทำได้ถึงอรูปฌาน ผมขออนุโมทนา ยกมือขึ้นสาธุการด้วยคนครับ
ถอยฌาน ลดกำลังลง เพื่อทำวิปัสสนา/ทดสอบว่าไล่ลำดับฌานมาหรือเปล่า
ในที่นีว่ากันแค่เรื่องรูปฌานนะครับ องค์ฌานด้านล่างนี้ท่านผู้รู้ก็ย่อมทราบดี คือ
- สมาธิในฌาน ที่ 1 มีองค์ 5 คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตารมณ์
- สมาธิในฌาน ที่ 2 มีองค์ 3 คือ ปีติ สุข เอกัคคตารมณ์
- สมาธิในฌาน ที่ 3 มีองค์ 2 คือ สุข เอกัคคตารมณ์
- สมาธิในฌาน ที่ 4 มีองค์ 2 คือ อุเบกขา เอกัคคตารมณ์ (ในฌานขั้นนี้บางสำนักท่านเรียกองค์ฌานว่าฌาน สติ ก็มี)
เมื่อปฏิบัติเข้าสมาธิ จนถึงอัปปนาฌาน หรือ อัปปนาสมาธิ แล้วก็ถอยฌานลงมาเพื่อทำวิปัสสนา ทางคัมภีร์ท่านให้ถอยลงมาถึงอุปจารสมาธิ บางสำนักท่านให้ถอยลงมาที่ ฌาน 3 หรือ ฌาน 2 ก็ทำวิปัสสนาได้ (เพราะฌาน 4 จิตมันคิดอะไรไม่ได้ ต้องถอยฌานลงมา ลดกำลัง พอให้รู้สึกตัว)
หากคราวนี้ ท่านที่ได้อรูปฌาน ท่านไม่แน่ใจว่า ท่านได้จริงหรือไม่อย่างไร ลองตรวจสอบแบบนี้สิครับ
เมื่อท่านทำสมาธิ ในระดับอรูปฌานแล้ว ลองถอยลงมาสักฌาน 3 หรือ ฌาน 2 แล้วทำวิปัสสนาสิครับ
อย่าได้ไหลรูดลงไปทำวิปัสสนาที่ ขณิกะสมาธิ เอาแค่ให้รู้ตัวว่า ขณะนี้เราอยู่ในสมาธิในฌานขั้น 3 หรือ 2 แล้ว มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม แล้วค่อยยกจิตขึ้นทำวิปัสสนา
ถ้าหากจิตทรงอารมณ์ฌาน 3 หรือ 2 ได้ ก็แสดงว่า ท่านปฏิบัติแบบไล่ลำดับฌานมาอย่างถูกต้อง คล้ายๆ กับขึ้นบันไดมา เวลาจะลงก็ก้าวลงบันไดได้สบายมีฐานรองรับ ไม่ใช่กลับไหลรูดลงไปถึงระดับขณิกะสมาธิ คือผู้ปฏิบัติต้องไล่ลำดับฌานเข้าออกให้ได้ที่เขาเรียกว่า ทำจนเป็น "วสี" นะครับ นึกจะเข้าออกไประดับไหนอย่างไรได้หมด
แต่ก็มีบางท่านเหมือนกันเมื่อท่านทำสมาธิ ท่านไม่สามารถเกาะอารมณ์กรรมฐานนั้นได้ตลอด เพราะสติอ่อนไป เช่น บางท่านเอาลมหายใจเป็นสิ่งรู้ของจิตเป็นสิ่งระลึกของสติ เมื่อจิตเขาละเอียดขึ้นไปอยู่ในสมาธิระดับอุปจารสมาธิ มีองค์สุข ยังไม่ทันจิตจะตั้งมั่นเป็นฌาน (เอกกัคตารมณ์) ก็ลืมเสียซึ่งลมหายใจอันเป็นสิ่งรู้ของจิตเป็นสิ่งระลึกของสติ หลงอยู่ในขั้นสุข จิตไม่ยึดสิ่งใด เมื่อพอมีสติระลึกขึ้นมาได้บ้างก็เจอแต่อากาศบ้าง สิ่งว่างๆ บ้าง เห็นว่าสบายดีก็เอายึดเป็นอารมณ์ของจิตแทน, บางท่านก็หลุดไปยึดเกาะความว่าง จากหลุด สุข ในฌานขั้นที่ 2 ก็มี เช่น ไปเจอสุข แต่สุขในระดับนี้ยังไม่เป็นฌาน (เอกกัคคตารมณ์) (แต่ จขกท. คิดว่าคงมีส่วนน้อยที่จะหลุดจากสุขในฌานขั้นที่ 3 เพราะว่าสมาธิและสติเริ่มมั่นคงผ่านด่านมาเยอะแล้ว)
เมื่อปฏิบัติไปเรื่อยๆ จิตมาถึง สุขในอุปจารสมาธิบ้าง มาถึงสุขในฌาน 1 2 บ้าง จิตก็กระโดดไปจับความว่างหรืออากาศ เพราะความเคยชิน มันทำบ่อยๆ มันก็หลุดไปเป็นประจำ จิตมันไม่ไปต่อตามลำดับองค์ฌาน
คราวนี้สิ่งที่นักปฏิบัติเจอทั้งสุข เจอทั้งอากาศ ความว่างนั้น ก็ต้องยอมรับว่า เขาอาจจะได้พบกับสิ่งนั้นจริง เขาได้พบกับอรูปฌานจริงๆ ได้พบองค์ฌานที่มีแต่อุเบกขาจริง (มันเป็นความว่าง) สิ่งนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาได้พบจริง สิ่งนี้เขาเรียกว่าอัปปนาสมาธิจริง แต่ไม่ได้เป็นอัปปนาฌาน เพราะไม่ได้ไล่ลำดับฌานมาตั้งแต่แรก ซึ่งสมาธิที่จะใช้เพื่อมรรคผลนิพพาน จะต้องไล่ลำดับองค์ฌานมา ดังนั้น เมื่อนักปฏิบัติท่านใด คิดว่าปฏิบัติได้ถูกต้องท่านก็ลดระดับของฌานลงมา แล้วท่านก็จะเจอสิ่งที่ท่านผ่านมา เช่น ท่านผ่าน ฌาน 1 2 3 4 มาตามลำดับ เวลาท่านถอยฌานลง เพื่อใช้ทำวิปัสสนา ท่านก็ถอยลง 4 3 2 1 อุปจารสมาธิ แบบนี้เป็นต้น ในกรณีอรูปฌานก็เช่นเดียวกัน ท่านย่อมถอยหลังลงมาได้แบบเดียวกับรูปฌานแน่นอน เพราะท่านผ่านสิ่งนั้นมา มันต้องทำได้ แต่หากถอยหลังลงไปแล้วไม่เจอลำดับองค์ฌานข้างต้น ก็ขอให้ท่านลองพิจารณาดูอีกครั้ง ทบทวนการปฏิบัติอีกสักครั้งนะครัรบ ว่าตรงตามคัมภีร์ หรือ พระอาจารย์ที่ท่านสอนมาหรือไม่อย่างไร เพราะปล่อยทิ้งนานไปสมาธิที่ได้จะเป็นโมหะสมาธิ มันใช้การใช้งานไม่ได้ เสียเวล่ำเวลา ครับ
ทั้งนี้ หากท่านนักปฏิบัติผู้ใดทำได้ถึงอรูปฌาน ผมขออนุโมทนา ยกมือขึ้นสาธุการด้วยคนครับ