.................
นิชา สาวน้อยร่างเล็ก ก้มหน้าก้มตาเดินออกมาเซเว่นที่หน้าปากซอย โดยไม่ทันมอง และเธอก็ชนเข้าอย่างจัง
กับชายหนุ่มคนหนึ่ง..จนทำให้ข้าวของในมือหล่นลงพื้น และเขาก็ก้มลงเก็บของของเธอ..พร้อมกับเสียง
" ขอโทษ ครับ "
" ขอโทษค่ะ "..ของทั้งคู่ ที่ดังขึ้นพร้อมๆกัน
ชานนท์ ชายหนุ่มรูปร่างสันทัด ส่งของที่เก็บให้หญิงสาว พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ชวนอบอุ่นให้เธอ หญิงสาว
รับของจากมือของชายหนุ่ม แล้วเอ่ยเบาๆว่า
" ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ "...แล้วทั้งสองก็เดินจากกันมาเหมือนปรกติ
วันนี้...นิชา กำลังเลือกซื้อของที่เซเว่นอยู่เหมือนเดิม พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็น ชายหนุ่มคนหนึ่ง..
เค้ายืนอยู่ตรงหน้าเธอ...หันมามองแล้วยิ้มให้เธอ
" พระเจ้า..รอยยิ้มแบบนี้เธอจำมันได้..มันเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่น และเธอ
ก็โหยหามันมานาน..นานซะจนเธอคิดว่า ชาตินี้เธอคงจะไม่ได้พบ กับรอยยิ้มแบบนี้แล้ว "
" สวัสดี..ค่ะ..ครับ.." ทันที่ที่ทั้งคู่เอ่ยจบ เสียงหัวเราะของทั้งคู่ก็ดังขึ้นพร้อมๆกัน...และที่ดูเหมือนทุกอย่างที่เกิด
ขึ้นในครั้งนี้ มันช่างรวดเร็ว อบอุ่น และเป็นกันเองยิ่งนัก บทสนทนาต่อมาของเขาและเธอจึงไม่เก้อเขินอีกต่อไป...
3 เดือนต่อมา...หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกัน..นิชาจึงตัดสินใจย้ายจากคอนโดที่เธออยู่ ออกมาเช่าบ้านเดี่ยว
อยู่แถวๆชานเมือง แม้จะเปลี่ยวมากนัก และการเดินทางก็ค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยราคาที่ถูก และความเป็นส่วนตัวที่สะดวกสบาย
สภาพที่เหมาะกับคำว่า " ครอบครัว" จึงทำให้เธอตัดสินใจมาเช่าอยู่ โดยที่ชานนท์ ไม่เคยเสนอความคิดเห็นใดๆเลย นอกจาก
คำว่า
" ตามใจ "หรือไม่ก็
"แล้วแต่เธอจ้ะ" และก็มีหน้าที่ออกค่าใช้จ่ายให้เธอ อย่างสม่ำเสมอ...
แต่มีสิ่งเดียวที่ ชานนท์บอกกับนิชาว่าเค้าคงไม่อาจอยู่ค้างกับเธอได้ทุกวัน เพราะหน้าที่การงาน
ที่เค้าต้องออกต่างจังหวัดเสมอๆและนานๆจะได้กลับมาที นิชาต้องทำความเข้าใจและยอมรับมัน..ซึ่งนิชาก็ยอมรับอย่างไม่มี
เงื่อนไขเพราะเธอคิดว่าเธอตัดสินใจแล้ว และคิดว่าน่าจะเลือกคนไม่ผิด...
นิชา..ใช้ชีวิตคู่ อย่างมีความสุข 3 เดือนแรก ชานนท์มาหาอยู่กินกับนิชา แทบจะวันเว้นวัน เขาบอกกับเธอว่า ช่วงนี้งานที่
บริษัทไม่ได้ยุ่งไรมากมายนัก เขาจึงมีเวลามาอยู่กับเธอ แต่ถ้าหากมีช่วงไหนที่ยุ่งๆ เค้าอาจจะไม่ได้กลับมา ซึ่งนิชาก็เข้าใจดี
และเธอก็ทำหน้าที่แม่บ้านอย่างดีและสม่ำเสมอ...
เดือนที่ 4 ชานนท์เริ่มค่อยๆห่างหายไป นิชา ถามเค้าถึงเหตุผลที่หายไป คำตอบก็คือ งาน..งาน..งาน..และจากอาทิตย์
ละครั้งที่เคยมากลายเป็นสองอาทิตย์...และก็เป็นเดือนละครั้ง...จนในที่สุด....การติดต่อก็ขาดหายไป.......
วันนี้เป็นวันลอยกระทง...เสียงเพลงลอยกระทงดังอยู่แทบจะทุกบ้าน ปีนี้น่าจะเป็นปีที่สนุกสนานสำหรับเทศกาลนี้
สังเกตุได้จาก การตกแต่งรูปกระทงและจัดงานประกวดนางนพมาศของหน่วยงานต่างๆก็ดูคึกคักและยิ่งใหญ่มาก...
ชานนท์...ขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน เวลาค่ำๆแบบนี้ นิชา กำลังทำอะไรอยู่หนอ..จะดีใจหรือป่าวที่ได้เห็นเค้ามา
ข้าวของที่เขาซื้อมาฝากนิชา..ถูกหิ้วออกมาจากรถ อย่างพะรุงพะรัง...สองมือสองไม้แบบนี้ จะเปิดประตูยังไงนี่ ชานนท์ คิดในใจ
และในขณะที่กำลังละล้าละลังอยู่นั้น..ภาพของหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาเปิดประตูให้ ...ชานนท์ดีใจมาก โผเข้าหาเธอ พร้อมๆ
กับที่เธอก็โผหาเค้าเช่นกัน...ทั้งคู่กอดกันอย่างโหยหาและอบอุ่นที่สุด...
เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว...ชานนท์ลุกจากที่นอน แล้วถามนิชาว่า คืนนี้นิชาจะไปลอยกระทงไหม..นิชาตอบว่า
"ไม่ไปหรอกค่ะ..อยากจะใช้เวลาอยู่กับชานนท์นานๆ ให้สมกับความคิดถึง" ...ชานนท์ ได้แต่ยิ้มแล้วบอกกับเธอว่า ช่วงนี้เค้ามีงาน
ด่วนมาก อาจจะไม่ได้ค้างกับนิชา แต่เค้าก็จะพยายามมาทุกวัน...นิชา ก็ได้แต่ยิ้ม และถามกลับไปว่า
" คุณยังรักนิชาอยู่หรือป่าวคะ ?"
แทนคำตอบ ชานนท์ดึงตัวนิชามากอดและก็หอมเบาๆ พร้อมกับบอกว่า
" นอนเถอะ พรุ่งนี้ผมต้องไปตั้งแต่ตีสี่นะ" ++++++
ชานนท์ รักษาสัญญาที่เค้าให้ไว้กับนิชา เป็นอย่างดี....เกือบครบอาทิตย์แล้วที่เค้ามาหานิชาในตอนค่ำอย่างสม่ำเสมอ
และก็กลับไปทำงานตอนตีสี่อย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน....
เที่ยงแล้ว ชานนท์รีบร้อนที่จะขับรถไปยังบ้านของนิชา ด้วยเมื่อคืน เค้าลืมโทรศัพท์ไว้ที่นี่ และตอนเช้ามือเค้าก็รีบออกไป
จากบ้านและลืมซะสนิท อีกทั้งต้องรีบไปเคลียร์งานด้วย ทำให้เค้าต้องกลับมาเอาโทรศัพท์ ในตอนเที่ยง ป่านนี้ลูกค้าคงโทรหา
จนสายไหม้แล้วมั้ง เค้าคิด...พร้อมๆกับโกธร นิชาว่า ทำไมไม่ยอมรับสาย ทั้งของเค้า และของเธอ ..นิชามัวทำไรอยู่?
อาจเป็นไปได้ว่าของ นิชา เธออาจจะเปลี่ยนเบอร์เพราะเค้าไม่ได้โทรหาเธอเลย...แต่ของเค้านี่สิ เธอควรจะรับเพราะเค้าจะได้รู้ว่า
มีใครติดต่อมาบ้างคิดแล้วน่าโมโหจริงๆ
ทันที่ที่รถจอดหน้าบ้าน ...ทำไมบ้านมันช่างเงียบแบบนี้..นิชาไปไหน? เศษใบไม้ก็รกมากๆ ทำไมไม่กวาดซะบ้าง เค้าคิด
ชานนท์กดกริ่งอยู่หลายทีแต่ก็เงียบ...จนเค้าถอดใจและกำลังจะหันหลังกลับขึ้นรถ เพราะความโมโห ...ก็มีรถคันนึงขับเข้ามาจอด
ข้างๆรถของชานนท์ ชายและสตรีผู้สูงอายุก้าวลงมา พร้อมๆกับคนขับที่เป็นหญิงสาว.....
" คุณมาทำอะไรที่บ้านหลังนี้คะ " เธอถามพร้อมกับส่งสายตาแบบหวาดระแวงมายังเขา เหมือนกับเขาเป็นขโมยไม่ปาน
เขารีบตอบ
" ผมเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ครับ และผมมาหาภรรยาผม" ทั้ง 3 คนที่มาใหม่มองหน้ากันอย่าง งงๆแล้วถามพร้อมๆกันว่า
"ภรรยา คุณคือใคร "เขาจึงตอบว่า "ภรรยาผมชื่อ นิชาครับ เรามาเช่าบ้านหลังนี้อยู่เมื่อปลายปีที่แล้ว พอดีผมมีงานอยู่ต่างจังหวัด
ไม่ค่อยได้กลับมา ผมเพิ่งกลับมาหาเธอเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง"..และก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรหญิงผู้สูงวัยก็ร้องไห้ออกมาเบาๆ
โดยไม่มืสาเหตุ....และยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับชานนท์..............
++++++++++ชานนท์ ยืนนิ่งๆเงียบๆ อยู่เป็นเวลานาน....น้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ มันทำให้เค้ามองอะไรไม่ชัดเจนเอาซะเลย
++++++++++
กระดาษแผ่นนั้น บอกถึง ผู้ตายว่าเป็นหญิง หรือชาย อายุของผู้ตาย สาเหตุของการตาย ว่าเป็นไปโดยธรรมชาติหรือ
ผิดธรรมชาติแน่นอน เราเรียกมันว่า " มรณบัตร "..... และคุณพ่อคุณแม่ของนิชา ก็เป็นผู้ที่เก็บมันไว้...
ชานนท์ อ่านชื่อผู้ตายซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ นางสาว นิชา..นามสกกุล.........อายุ 32 ปี และสายตาที่เลื่อนลงมา
ในสาเหตุของการตายคือ ..." อาการป่วยด้วยโรคมะเร็งในสมอง" ...วันที่เธอเสียชีวิต คือ...24 สิงหาคม 2556.....
และวันนี้ก็เป็นวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ครบรอบ 3 เดือนพอดี ที่นิชาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ...............
สายฝนที่เยือกเย็น กระทบลงบนร่างของชานนท์ สายลมก็วนเวียนล้อมอยู่รอบๆตัวของเขา...
เสียงหวีดหวิวเบาๆของมันช่างคล้ายกับกับเสียงที่ร่ำไห้เสียนี่กระไร ใบของดอกลีลาวดีตกลงมากระทบลงมาบนใบหน้าของเขา.
..และหล่นสู่ลงพื้น ใบแล้วใบเล่า...
สิ่งกระตุ้นรอบนอกเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เค้าเกิดความรู้สึกใดๆเลย...นอกจากเสียงที่ดังวนเวียนขึ้นอยู่ในหัวของเค้าเท่านั้น
ที่มันทำให้น้ำตาของเค้าต้องไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว....
" คุณยังรักนิชาอยู่หรือป่าวคะ " ?........
" เพ็ญพิชญา "
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล อยากเขียนนิยายรักแบบ ที่หลายคนอาจเคยคุ้นชินมาบ้างแลัวอ่ะค่ะ
เลยลองหัดเขียนดู เป็นเรื่องแต่งแบบแนวเดิมๆนะคะ ผิดพลาดยังไง
ต้องขอโทษด้วยนะคะ มือใหม่หัดแต่งอ่ะค่ะ
เรื่องสั้น.....รักแท้?
กับชายหนุ่มคนหนึ่ง..จนทำให้ข้าวของในมือหล่นลงพื้น และเขาก็ก้มลงเก็บของของเธอ..พร้อมกับเสียง " ขอโทษ ครับ "
" ขอโทษค่ะ "..ของทั้งคู่ ที่ดังขึ้นพร้อมๆกัน
ชานนท์ ชายหนุ่มรูปร่างสันทัด ส่งของที่เก็บให้หญิงสาว พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ชวนอบอุ่นให้เธอ หญิงสาว
รับของจากมือของชายหนุ่ม แล้วเอ่ยเบาๆว่า " ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ "...แล้วทั้งสองก็เดินจากกันมาเหมือนปรกติ
วันนี้...นิชา กำลังเลือกซื้อของที่เซเว่นอยู่เหมือนเดิม พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็น ชายหนุ่มคนหนึ่ง..
เค้ายืนอยู่ตรงหน้าเธอ...หันมามองแล้วยิ้มให้เธอ " พระเจ้า..รอยยิ้มแบบนี้เธอจำมันได้..มันเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่น และเธอ
ก็โหยหามันมานาน..นานซะจนเธอคิดว่า ชาตินี้เธอคงจะไม่ได้พบ กับรอยยิ้มแบบนี้แล้ว "
" สวัสดี..ค่ะ..ครับ.." ทันที่ที่ทั้งคู่เอ่ยจบ เสียงหัวเราะของทั้งคู่ก็ดังขึ้นพร้อมๆกัน...และที่ดูเหมือนทุกอย่างที่เกิด
ขึ้นในครั้งนี้ มันช่างรวดเร็ว อบอุ่น และเป็นกันเองยิ่งนัก บทสนทนาต่อมาของเขาและเธอจึงไม่เก้อเขินอีกต่อไป...
3 เดือนต่อมา...หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกัน..นิชาจึงตัดสินใจย้ายจากคอนโดที่เธออยู่ ออกมาเช่าบ้านเดี่ยว
อยู่แถวๆชานเมือง แม้จะเปลี่ยวมากนัก และการเดินทางก็ค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยราคาที่ถูก และความเป็นส่วนตัวที่สะดวกสบาย
สภาพที่เหมาะกับคำว่า " ครอบครัว" จึงทำให้เธอตัดสินใจมาเช่าอยู่ โดยที่ชานนท์ ไม่เคยเสนอความคิดเห็นใดๆเลย นอกจาก
คำว่า " ตามใจ "หรือไม่ก็ "แล้วแต่เธอจ้ะ" และก็มีหน้าที่ออกค่าใช้จ่ายให้เธอ อย่างสม่ำเสมอ...
แต่มีสิ่งเดียวที่ ชานนท์บอกกับนิชาว่าเค้าคงไม่อาจอยู่ค้างกับเธอได้ทุกวัน เพราะหน้าที่การงาน
ที่เค้าต้องออกต่างจังหวัดเสมอๆและนานๆจะได้กลับมาที นิชาต้องทำความเข้าใจและยอมรับมัน..ซึ่งนิชาก็ยอมรับอย่างไม่มี
เงื่อนไขเพราะเธอคิดว่าเธอตัดสินใจแล้ว และคิดว่าน่าจะเลือกคนไม่ผิด...
นิชา..ใช้ชีวิตคู่ อย่างมีความสุข 3 เดือนแรก ชานนท์มาหาอยู่กินกับนิชา แทบจะวันเว้นวัน เขาบอกกับเธอว่า ช่วงนี้งานที่
บริษัทไม่ได้ยุ่งไรมากมายนัก เขาจึงมีเวลามาอยู่กับเธอ แต่ถ้าหากมีช่วงไหนที่ยุ่งๆ เค้าอาจจะไม่ได้กลับมา ซึ่งนิชาก็เข้าใจดี
และเธอก็ทำหน้าที่แม่บ้านอย่างดีและสม่ำเสมอ...
เดือนที่ 4 ชานนท์เริ่มค่อยๆห่างหายไป นิชา ถามเค้าถึงเหตุผลที่หายไป คำตอบก็คือ งาน..งาน..งาน..และจากอาทิตย์
ละครั้งที่เคยมากลายเป็นสองอาทิตย์...และก็เป็นเดือนละครั้ง...จนในที่สุด....การติดต่อก็ขาดหายไป.......
วันนี้เป็นวันลอยกระทง...เสียงเพลงลอยกระทงดังอยู่แทบจะทุกบ้าน ปีนี้น่าจะเป็นปีที่สนุกสนานสำหรับเทศกาลนี้
สังเกตุได้จาก การตกแต่งรูปกระทงและจัดงานประกวดนางนพมาศของหน่วยงานต่างๆก็ดูคึกคักและยิ่งใหญ่มาก...
ชานนท์...ขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน เวลาค่ำๆแบบนี้ นิชา กำลังทำอะไรอยู่หนอ..จะดีใจหรือป่าวที่ได้เห็นเค้ามา
ข้าวของที่เขาซื้อมาฝากนิชา..ถูกหิ้วออกมาจากรถ อย่างพะรุงพะรัง...สองมือสองไม้แบบนี้ จะเปิดประตูยังไงนี่ ชานนท์ คิดในใจ
และในขณะที่กำลังละล้าละลังอยู่นั้น..ภาพของหญิงสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาเปิดประตูให้ ...ชานนท์ดีใจมาก โผเข้าหาเธอ พร้อมๆ
กับที่เธอก็โผหาเค้าเช่นกัน...ทั้งคู่กอดกันอย่างโหยหาและอบอุ่นที่สุด...
เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว...ชานนท์ลุกจากที่นอน แล้วถามนิชาว่า คืนนี้นิชาจะไปลอยกระทงไหม..นิชาตอบว่า
"ไม่ไปหรอกค่ะ..อยากจะใช้เวลาอยู่กับชานนท์นานๆ ให้สมกับความคิดถึง" ...ชานนท์ ได้แต่ยิ้มแล้วบอกกับเธอว่า ช่วงนี้เค้ามีงาน
ด่วนมาก อาจจะไม่ได้ค้างกับนิชา แต่เค้าก็จะพยายามมาทุกวัน...นิชา ก็ได้แต่ยิ้ม และถามกลับไปว่า " คุณยังรักนิชาอยู่หรือป่าวคะ ?"
แทนคำตอบ ชานนท์ดึงตัวนิชามากอดและก็หอมเบาๆ พร้อมกับบอกว่า " นอนเถอะ พรุ่งนี้ผมต้องไปตั้งแต่ตีสี่นะ" ++++++
ชานนท์ รักษาสัญญาที่เค้าให้ไว้กับนิชา เป็นอย่างดี....เกือบครบอาทิตย์แล้วที่เค้ามาหานิชาในตอนค่ำอย่างสม่ำเสมอ
และก็กลับไปทำงานตอนตีสี่อย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน....
เที่ยงแล้ว ชานนท์รีบร้อนที่จะขับรถไปยังบ้านของนิชา ด้วยเมื่อคืน เค้าลืมโทรศัพท์ไว้ที่นี่ และตอนเช้ามือเค้าก็รีบออกไป
จากบ้านและลืมซะสนิท อีกทั้งต้องรีบไปเคลียร์งานด้วย ทำให้เค้าต้องกลับมาเอาโทรศัพท์ ในตอนเที่ยง ป่านนี้ลูกค้าคงโทรหา
จนสายไหม้แล้วมั้ง เค้าคิด...พร้อมๆกับโกธร นิชาว่า ทำไมไม่ยอมรับสาย ทั้งของเค้า และของเธอ ..นิชามัวทำไรอยู่?
อาจเป็นไปได้ว่าของ นิชา เธออาจจะเปลี่ยนเบอร์เพราะเค้าไม่ได้โทรหาเธอเลย...แต่ของเค้านี่สิ เธอควรจะรับเพราะเค้าจะได้รู้ว่า
มีใครติดต่อมาบ้างคิดแล้วน่าโมโหจริงๆ
ทันที่ที่รถจอดหน้าบ้าน ...ทำไมบ้านมันช่างเงียบแบบนี้..นิชาไปไหน? เศษใบไม้ก็รกมากๆ ทำไมไม่กวาดซะบ้าง เค้าคิด
ชานนท์กดกริ่งอยู่หลายทีแต่ก็เงียบ...จนเค้าถอดใจและกำลังจะหันหลังกลับขึ้นรถ เพราะความโมโห ...ก็มีรถคันนึงขับเข้ามาจอด
ข้างๆรถของชานนท์ ชายและสตรีผู้สูงอายุก้าวลงมา พร้อมๆกับคนขับที่เป็นหญิงสาว.....
" คุณมาทำอะไรที่บ้านหลังนี้คะ " เธอถามพร้อมกับส่งสายตาแบบหวาดระแวงมายังเขา เหมือนกับเขาเป็นขโมยไม่ปาน
เขารีบตอบ " ผมเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ครับ และผมมาหาภรรยาผม" ทั้ง 3 คนที่มาใหม่มองหน้ากันอย่าง งงๆแล้วถามพร้อมๆกันว่า
"ภรรยา คุณคือใคร "เขาจึงตอบว่า "ภรรยาผมชื่อ นิชาครับ เรามาเช่าบ้านหลังนี้อยู่เมื่อปลายปีที่แล้ว พอดีผมมีงานอยู่ต่างจังหวัด
ไม่ค่อยได้กลับมา ผมเพิ่งกลับมาหาเธอเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง"..และก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรหญิงผู้สูงวัยก็ร้องไห้ออกมาเบาๆ
โดยไม่มืสาเหตุ....และยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับชานนท์..............
++++++++++ชานนท์ ยืนนิ่งๆเงียบๆ อยู่เป็นเวลานาน....น้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ มันทำให้เค้ามองอะไรไม่ชัดเจนเอาซะเลย ++++++++++
กระดาษแผ่นนั้น บอกถึง ผู้ตายว่าเป็นหญิง หรือชาย อายุของผู้ตาย สาเหตุของการตาย ว่าเป็นไปโดยธรรมชาติหรือ
ผิดธรรมชาติแน่นอน เราเรียกมันว่า " มรณบัตร "..... และคุณพ่อคุณแม่ของนิชา ก็เป็นผู้ที่เก็บมันไว้...
ชานนท์ อ่านชื่อผู้ตายซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ นางสาว นิชา..นามสกกุล.........อายุ 32 ปี และสายตาที่เลื่อนลงมา
ในสาเหตุของการตายคือ ..." อาการป่วยด้วยโรคมะเร็งในสมอง" ...วันที่เธอเสียชีวิต คือ...24 สิงหาคม 2556.....
และวันนี้ก็เป็นวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ครบรอบ 3 เดือนพอดี ที่นิชาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ...............
สายฝนที่เยือกเย็น กระทบลงบนร่างของชานนท์ สายลมก็วนเวียนล้อมอยู่รอบๆตัวของเขา...
เสียงหวีดหวิวเบาๆของมันช่างคล้ายกับกับเสียงที่ร่ำไห้เสียนี่กระไร ใบของดอกลีลาวดีตกลงมากระทบลงมาบนใบหน้าของเขา.
..และหล่นสู่ลงพื้น ใบแล้วใบเล่า...
สิ่งกระตุ้นรอบนอกเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เค้าเกิดความรู้สึกใดๆเลย...นอกจากเสียงที่ดังวนเวียนขึ้นอยู่ในหัวของเค้าเท่านั้น
ที่มันทำให้น้ำตาของเค้าต้องไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว...." คุณยังรักนิชาอยู่หรือป่าวคะ " ?........
" เพ็ญพิชญา "
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้