. สิ่งปรุงแต่งทั้งหลายเมื่อถูกปรุงแต่งให้เกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อเราไม่พิจารณาให้ดีเราก็จะถูกหลอกให้เห็นว่ามันมีสิ่งที่เป็นตัวตนของสิ่งนั้นจริงๆ และยังจะเห็นว่าตัวตนนั้นจะตั้งอยู่ไปอย่างไม่มีวันแตกสลายหรือดับหายไปได้ รวมทั้งยังจะเห็นว่าสิ่งปรุงแต่งทั้งหลายนั้นจะตั้งอยู่อย่างไม่ยากลำบากอีกด้วย ซึ่งนี่เองที่ทำให้ผู้ที่ไม่พิจารณาให้ดีจึงถูกธรรมชาติหลอกว่าสิ่งปรุงแต่งทั้งหลายนั้นมีตัวตนที่เที่ยงแท้ถาวร (หรือเป็นอมตะ) และสุขสบาย โดยสิ่งที่หลอกลวงที่สำคัญที่สุดก็คือเรา (ตามการสมมติของโลก) ได้ถูกธรรมชาติหลอกว่าจิตนี้คือตัวตนที่แท้จริงที่เป็นอมตะ (ไม่มีวันตาย) ที่จะตั้งอยู่ไปชั่วนิรันดรได้ ซึ่งนี่ก็คือต้นเหตุให้เกิด “ความรู้ผิดว่าจิตนี้คือตัวตนที่เป็นเรา” ที่เป็นต้นเหตุให้เกิด “ความยึดถือว่าจิตใจและร่างกายนี้คือตัวเรา-ของเรา” ที่ทำให้จิตเกิดความทุกข์ขึ้นมา
ยังไม่เท่านั้นความรู้ผิดนี้ยังเป็นเหตุให้เกิดความเชื่อว่ามีจิตหรือวิญญาณที่เป็นอมตะ ที่สามารถออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วได้ อันเป็นต้นเหตุให้เกิดความเชื่อเรื่องนรก สวรรค์ อย่างเป็นสถานที่และความเชื่อเรื่องการเกิดใหม่หลังความตายได้ขึ้นมาอีก อย่างที่ชาวโลกเกือบทั้งหมดเชื่อถือกันอยู่ อีกทั้งความเชื่อนี้ยังเป็นต้นเหตุให้เกิดความเห็นแก่ตัวและการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น รวมทั้งการกินและใช้อย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น จนทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าที่มีคุณของโลกไปอย่างมากมายมหาศาล จนโลกสูญเสียความสมดุล แล้วก็เกิดภัยพิบัติย้อนกลับมาสู่มวลมนุษย์อย่างที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน
(จาก
http://www.whatami.net/for/bud.html )
ความรู้ผิดว่ามีตัวเรามาจากการถูกธรรมชาติหลอก
ยังไม่เท่านั้นความรู้ผิดนี้ยังเป็นเหตุให้เกิดความเชื่อว่ามีจิตหรือวิญญาณที่เป็นอมตะ ที่สามารถออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วได้ อันเป็นต้นเหตุให้เกิดความเชื่อเรื่องนรก สวรรค์ อย่างเป็นสถานที่และความเชื่อเรื่องการเกิดใหม่หลังความตายได้ขึ้นมาอีก อย่างที่ชาวโลกเกือบทั้งหมดเชื่อถือกันอยู่ อีกทั้งความเชื่อนี้ยังเป็นต้นเหตุให้เกิดความเห็นแก่ตัวและการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น รวมทั้งการกินและใช้อย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น จนทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าที่มีคุณของโลกไปอย่างมากมายมหาศาล จนโลกสูญเสียความสมดุล แล้วก็เกิดภัยพิบัติย้อนกลับมาสู่มวลมนุษย์อย่างที่กำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน
(จาก http://www.whatami.net/for/bud.html )