ธนาธร ลุยเมืองเก่าภูเก็ต ชู 10 นโยบาย หาเสียงให้ หมอโอ-ทีมอบจ.พรรคประชาชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4995151
ภูเก็ต – ธนาธร ลุยเมืองเก่าภูเก็ต ชู 10 นโยบาย หาเสียงให้ หมอโอ-ทีมอบจ.พรรคประชาชน
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี
สมชาติ เตชถาวรเจริญ , นาย
ฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาชน และ นพ.
เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ทีม อบจ.ประชาชน พรรคประชาชน
ทางด้าน ชาวภูเก็ต ใน บริเวณย่านเมืองเก่าภูเก็ตและประชาชนทั่วไปที่มาเดินในบริเวณดังกล่าวให้ความสนใจกับการหาเสียง นำโดยนายธ
นาธรฯเป็นอย่างมากได้เข้ามาขอถ่ายภาพเซลฟี่ กับนายธนาธร ฯพร้อมระบุว่าขอสนับสนุน ทีมอบจ.ประชาชน และจะไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้ง อบจ.ภูเก็ต
โดยการเดินแจกเอกสารประชาสัมพันธ์ แนะนำตัวผู้สมัครพร้อมนโยบายพรรคประชาชน “ภูเก็ตน่าอยู่ปลอดภัย ดูแลคนในใส่ใจผู้มาเยือน” ใน 10 นโยบายหลักภูเก็ต ประกอบด้วย (1.) ขนส่งสาธารณะ รถโรงเรียนอัจฉริยะ (2.)โรงเรียนสามภาษา (3.) โรงเรียนกีฬาภูเก็ต (4.) หลักสูตรโรงเรียนชีวิตจริง (5.) คัดกรอง 5 มะเร็งถ้วนหน้า (6.) รพ.สต.ก้าวหน้า และคลินิกชุมชน 24 ชั่วโมง (7.)สูงวัยไม่พึ่งพิงติดเตียงเราเคียงข้าง (8.) กระจายรายได้สู่ชุมชน (9.) น้ำดีต้องมีพอน้ำเสียเคลียร์ให้ใสแก้ไขน้ำท่วมซ้ำซาก (10.) ภูเก็ตปลอดภัยอุ่นใจทุกเวลา
นาย
ธนาธร กล่าวว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ของพ่อแม่พี่น้องชาวภูเก็ต เลือกนายกอบจ.จังหวัดภูเก็ต นพ.
เลอศักดิ์ ผู้สมัครนายกอบจ.ภูเก็ต จากพรรคประชาชน วันนี้ทางพรรคประชาชนทั้ง ผู้สมัครและ ส.ส.ภูเก็ต ร่วมเดินหาเสียงด้วยกันในย่านเมืองเก่าภูเก็ต มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ในสนามอบจ.ภูเก็ตนี้ประชาชนให้ความสนใจส่วนตัวการเมืองออกมาใช้สิทธิ และให้โอกาสกับพวกเรา
“
เราเห็นว่า ภูเก็ตจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลง วันนี้ทั้งเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม ปัญหาขยะยังเป็นปัญหาที่ใหญ่มากของภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ที่จำเป็นจะต้อง ทำให้ลูกหลานของคนภูเก็ตเข้าถึงการศึกษาที่ดี การเดินทางขนส่งสาธารณะที่ยังไม่เข้าถึงทั้งเกาะ เราอยากจะเข้ามา ผลักดันสิ่งต่างๆเหล่านี้ ทำให้ภูเก็ตมีความเจริญก้าวหน้า และเป็นเมืองที่น่าอยู่เป็นมิตรกับทุกคน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
นาย
ธนาธร กล่าวต่อว่า ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนมาใช้สิทธิ์กันสำคัญมาก แล้วก็ขอให้ติดตามนโยบายของผู้สมัครทุกเบอร์ ชอบนโยบายของผู้สมัครเบอร์ไหนก็กาเบอร์นั้น คิดว่าจะทำให้การเมืองเกิดการพัฒนา การเมืองระดับจังหวัดเราไม่ค่อยเห็นการพูดถึงการพัฒนานโยบายพัฒนาระดับจังหวัดเท่าไหร่ ไม่เหมือนนโยบายระดับชาติ ดังนั้น อยากจะเชิญชวน พ่อแม่พี่น้องประชาชนให้มาสนใจการเมืองระดับจังหวัดให้มาติดตามนโยบายการพัฒนาจังหวัดของผู้สมัครแต่ละคนแต่ละเบอร์ แล้วคอยตรวจสอบติดตามเมื่อได้เข้าไปดำรงตำแหน่งว่า ได้ทำตามนโยบายหรือไม่จะทำให้การเมืองพัฒนาและ นี่ก็คือสิ่งที่พวกเราอยากจะผลักดันให้เกิดการเมืองที่แข่งกันที่นโยบายไม่ใช่แค่ในการเมืองระดับชาติ แต่เป็นการเมืองระดับท้องถิ่นด้วย”
ด้าน นพ.
เลอศักดิ์ กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาหลัก แบ่งเป็นการแก้ปัญหาที่มีอยู่และสะสมเรื้อรังไม่ว่าจะเป็นปัญหาจราจร ปัญหาสาธารณูปโภค ปัญหาปากท้อง ปัญหาความปลอดภัย และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นนโยบายเกี่ยวกับการต่อยอดนโยบายเสริมศักยภาพของโอกาสของภูเก็ตที่มีอยู่ เสริมสร้างเสน่ห์ใหม่ๆของภูเก็ตนอกจากเรื่อง Sea Sand Sun แล้วจะมีเสน่ห์วัฒนธรรมการศึกษาการทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองศิลปะดนตรีแฟชั่นต่างๆและระบบสาธารณสุขเป็น มุมใหญ่ที่จะเข้ามาทำ โดยมีความมั่นใจแต่ไม่ประมาท ขึ้นกับพี่น้องประชาชน เราเต็มที่อยู่แล้ว ทุ่มเต็มร้อยเกินร้อยทุกคน ที่สำคัญที่สุดขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งอบจ.ภูเก็ต
ลำพูนไม่ลำพัง! พิธา ใส่เสื้อหมูเด้ง ร่วมวันเด็ก ผู้ปกครองพาลูกขอถ่ายรูปพรึบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4995497
ลำพูนไม่ลำพังแล้ว! “พิธา” ใส่เสื้อ “หมูเด้ง” โชว์ตัววันเด็กลำพูน คนขอถ่ายรูปพรึ่บ ขณะตัวแทนชาวบ้าน มอบเสื้อทอมือประจำถิ่น
เมื่อวันที่ 11 มกราคม นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม นาย
วิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.เขต 1 จังหวัดลำพูน ได้เดินทางมาร่วมงานวันเด็ก ที่เทศบาลตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน โดยมีประชาชน แฟนคลับ และเด็กๆ ส่งเสียงกรี๊ด และขอถ่ายรูปจำนวนมาก
โดยนาย
พิธา สวมใส่เสื้อหมูเด้งสีม่วงมาลงพื้นที่ สีหน้าแจ่มใส อารมณ์ดี เมื่อมาถึงได้เล่นกับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง ซึ่งผู้ปกครองบางคน ได้ขอนำลูกสาวลูกชายมาถ่ายรูปกับนาย
พิธาด้วย รวมถึงชมรม To be number one จังหวัดลำพูน
ขณะที่ตัวแทนชุมชน ได้มอบเสื้อคลุม ซึ่งทอด้วยมือ เป็นลายประจำถิ่นของจังหวัดลำพูนให้นาย
พิธา เพื่อเป็นของขวัญขอบคุณสำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ภายหลังการลงพื้นที่จังหวัดลำพูน นายพิธาได้ขึ้นรถไปยังจังหวัดเชียงใหม่ต่อทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ม.ค. 68) นาย
พิธา ได้กล่าวติดตลกว่าตนคงต้องมาลำพูนแบบลำพัง ระหว่างให้สัมภาษณ์ในงานแต่ง ส.ส.พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย
เปิดคำให้การ จ่าเอ็ม สารภาพ รับงานใช้หนี้ผู้มีพระคุณ ตร.ปัดตอบ คนไทยหรือไม่
https://www.matichon.co.th/local/news_4995681
เปิดคำให้การ จ่าเอ็ม สารภาพ รับงานใช้หนี้ผู้มีพระคุณ ตร.ไม่ตอบ คนไทยหรือไม่
เมื่อวันที่ 11 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี นาย
เอกลักษณ์ แพน้อย หรือเอ็ม กองเรือ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านของกัมพูชา ดับบริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ ก่อนจับกุมได้ที่พระตะบอง กัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปคุมตัวกลับมาประเทศไทยเมื่อช่วงสายวันนี้
ภายหลังจากที่ควบคุมตัวนาย
เอกลักษณ์ แพน้อย หรือ “จ่าเอ็ม” มาสอบปากคำที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ต.
อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้นเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งประเด็นหลักที่ผู้ต้องหายังคงกังวล คือเกรงว่าญาติพี่น้องจะรู้เรื่องจากเหตุการณ์นี้ แต่ตนได้มีการให้พบทนายความและมีการพูดคุยจนกระทั่งนายเอ็มเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นจนสามารถให้การกับพนักงานสอบสวนได้บ้างแล้ว
พล.ต.ต.
อัฏธพร กล่าวว่า ให้เขาเล่า เปิดใจให้เขาผ่อนคลาย เป็นประโยชน์กับรูปคดี ค่อนข้างตรงกับกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานที่มี บางประเด็นบอกไม่รู้ เช่นไม่รู้ชื่อจริง รู้แต่ชื่อเล่น และอนุญาตให้เราเข้าถึงข้อมูลทางโทรศัพท์ อธิบายข้อความแชตต่างๆ คืออะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่จ่าเอ็มกังวลเรื่องความปลอดภัย กลัวอะไร พล.ต.ต.
อัฏธพร กล่าวว่า เขาไม่รู้ใครเป็นใคร เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ จนได้เจอกับทนายความสักระยะ และให้ของว่าง ให้น้ำทาน เขาไม่กลัว กังวลเพราะไม่รู้ว่าการที่เขาถูกสอบสวน ถูกถามหลายครั้ง ก็ไม่สบายใจ ทนายที่มา ก็เป็นทนายจากกรมคุ้มครองสิทธิ ก็คุยจนให้ความไว้วางใจ
“
ให้การเป็นประโยชน์ แต่อยู่ในสำนวน ทำให้การสอบสวนเราง่ายขึ้น เบื้องต้น เขาบอกว่า เขารับงานมาจากบุคคลที่เคยช่วยที่เคยช่วยเขา ผู้มีพระคุณของเขา ไม่ได้รับค่าจ้างตอบแทนใดๆ ทำเพื่อที่จะเห็นว่ายามเขาเดือดร้อน ถูกออกจากราชการ ก็มีคนนี้สนับสนุน ให้เงินให้ทอง โทรไปปรึกษาก็ได้ทุกครั้ง เมื่อผู้มีพระคุณขอร้องมา ก็ตัดสินใจอยู่สักระยะ จึงรับปาก กะว่าจะทำใช้หนี้บุญคุณ”
เมื่อถามว่า ผู้มีพระคุณเป็นพลเรือน ข้าราชการ หรืออดีตราชการ พล.ต.ต.
อัฏธพร กล่าวว่า เป็นพลเรือน ตอนนี้ผู้ต้องหา อดนอน เบื้องต้นสับสนตัวเอง เวลาก็จำไม่ได้ เราใช้ความอดทน และพยายามให้เขาผ่อนคลาย ประเด็นเรื่องการสอบสวน มีความกระจ่างระดับหนึ่ง คงไม่ได้ทั้งหมด เพราะเขาก็เดินทางมา 8-10 ชั่วโมง หลายทอด และกังวล ขนาดว่า คนใกล้ชิดเขาจะมาขอพบ ยังไม่ประสงค์
เขาได้แจ้งว่า 1.ไม่ประสงค์พบใครเลย อยากอยู่คนเดียว เราถามว่าอยากได้นักจิตวิทยาไหม การสอบสวนเราต้องใช้ศิลปะพอสมควร ให้เขาพัก เมื่อให้การเป็นประโยชน์ค่อยสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้ความร่วมมืออย่างดี แต่เขาเรียบเรียงเนื้อหาไม่ถูก บางครั้งก็จำผิดๆถูกๆ เป็นอาการของคนเครียดและพักผ่อนน้อย การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เขาแจ้งว่าไม่ประสงค์จะทำแผน เนื่องจากไม่อยากพบเจอใคร แต่ยินดีจะเปิดวิดีโอและพูดอธิบาย ก็ให้เขาเรียบเรียง เขาขอพัก สอบได้ไม่นานก็ขอสูบบุหรี่ ขณะนี้ให้พักอยู่
ถามถึงผู้มีพระคุณ ได้พูดคุยกันเมื่อไหร่ ถึงตัดสินใจไปเอาปืนมา พล.ต.ต.
อัฏธพร กล่าวว่า ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 24 ชั่วโมง จากคำให้การ ก็สอดคล้องกับข้อมูลในโทรศัพท์และแชตไลน์ ครั้งแรกที่ร้องขอ เขายังไม่รับปาก มีการโทรมาเร้าหรือ ปรากฏข้อมูลในโทรศัพท์ว่ามีจริง ไลน์มา จนเขาตัดสินใจว่าทำครั้งเดียว ใช้หนี้บุญคุณกัน
ถามว่าผู้มีพระคุณ เป็นคนไทยหรือไม่ พล.ต.ต.
อัฏธพร ระบุว่า อยู่ในสำนวน ตอบไม่ได้ ส่วนในเรื่องคดีต้องพิสูจน์ต่อไป
ทุเรียนไทย งานงอก จีนพบสารย้อมสีก่อมะเร็ง สั่งตรวจทุกด่าน หากเจอระงับนำเข้าทันที
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9585504
ส่งออก ทุเรียนไทย งานงอก จีนตรวจพบสารย้อมสีก่อมะเร็ง สั่งตรวจทุกด่าน หากเจอระงับนำเข้าทันที ด้านสมาคมส่งออกผลไม้ไทย ชี้ควรออกมาตรการเด็ดขาดให้เลิกใช้
11 ม.ค. 2568 ประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าวจากกรมวิชาการเกษตรแจ้งว่า สำนักงานบริหารทั่วไปของศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) แจ้งพบปัญหาการใช้สารย้อมสี “Basic Yellow 2” ในทุเรียนส่งออก ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 2B
จึงกำหนดให้ทุเรียนทุกลอตของไทยที่จะส่งออกจีน ต้องแนบผลวิเคราะห์ Test Report ทั้ง Basic Yellow 2 และแคดเมียม ทุกลอต โดยจีนจะสุ่มตรวจที่ด่านนำเข้า หากพบจะระงับทันที มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. เป็นต้นไป
นาย
สัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย เปิดเผยถึงที่มาของการใช้สาร Basic Yellow 2 ในน้ำยาชุบทุเรียนว่า เริ่มจริงจังเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เดิมใช้สีผสมอาหารหรือขมิ้นให้เปลือกเป็นสีเหลือง ไม่มีอันตราย แต่เมื่อความนิยมคนจีนชอบเปลือกสีเขียว จึงนำสาร Basic Yellow 2 เข้ามาใช้ในล้ง โดยมีคนจีนนำเข้ามาและรับจ้างชุบสีให้ล้งต่าง ๆ ตู้ละ 12,000-15,000 บาท โดยที่เจ้าของล้งไม่รู้ว่าใช้สารที่เป็นอันตราย กระทั่งทุเรียนส่งออกไปจีนถูกตรวจสอบและจับได้
ในเมื่อเป็นสารอันตราย องค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 2B หน่วยงานของรัฐต้องรีบออกมาตรการที่เด็ดขาดให้เลิกใช้ทันที หากมีการฝ่าฝืนต้องกำหนดบทลงโทษจำคุก และเพิกถอนการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช (DOA) และทะเบียนผู้ส่งออก (DU) และแบรนด์สินค้า
ควรต้องเจรจากันระหว่างไทยและจีน และต้องรีบดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น วิธีการตรวจหามาตรฐานของ Basic Yellow ต้องชัดเจน ห้องแล็บต้องเพียงพอ การเตรียมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการส่งออก ช่วงเวลานี้เหมาะที่สุดเพราะทุเรียนยังมีปริมาณน้อย แต่เดือน เม.ย. 2568 ทุเรียนภาคตะวันออกจะออกมาวันละ 500-600 ตู้ ห้องแล็บจะเพียงพอและพร้อมให้บริการหรือไม่ หากใช้ระยะเวลานานจะกระทบกันเป็นลูกโซ่
JJNY : 5in1 ธนาธรลุยภูเก็ต│พิธาใส่เสื้อหมูเด้งร่วมวันเด็ก│จ่าเอ็มสารภาพรับงาน│ทุเรียนงานงอก│โลกร้อนทำอุรุกวัยเผชิญหนาว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4995151
ภูเก็ต – ธนาธร ลุยเมืองเก่าภูเก็ต ชู 10 นโยบาย หาเสียงให้ หมอโอ-ทีมอบจ.พรรคประชาชน
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี สมชาติ เตชถาวรเจริญ , นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาชน และ นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต และ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ทีม อบจ.ประชาชน พรรคประชาชน
ทางด้าน ชาวภูเก็ต ใน บริเวณย่านเมืองเก่าภูเก็ตและประชาชนทั่วไปที่มาเดินในบริเวณดังกล่าวให้ความสนใจกับการหาเสียง นำโดยนายธนาธรฯเป็นอย่างมากได้เข้ามาขอถ่ายภาพเซลฟี่ กับนายธนาธร ฯพร้อมระบุว่าขอสนับสนุน ทีมอบจ.ประชาชน และจะไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้ง อบจ.ภูเก็ต
โดยการเดินแจกเอกสารประชาสัมพันธ์ แนะนำตัวผู้สมัครพร้อมนโยบายพรรคประชาชน “ภูเก็ตน่าอยู่ปลอดภัย ดูแลคนในใส่ใจผู้มาเยือน” ใน 10 นโยบายหลักภูเก็ต ประกอบด้วย (1.) ขนส่งสาธารณะ รถโรงเรียนอัจฉริยะ (2.)โรงเรียนสามภาษา (3.) โรงเรียนกีฬาภูเก็ต (4.) หลักสูตรโรงเรียนชีวิตจริง (5.) คัดกรอง 5 มะเร็งถ้วนหน้า (6.) รพ.สต.ก้าวหน้า และคลินิกชุมชน 24 ชั่วโมง (7.)สูงวัยไม่พึ่งพิงติดเตียงเราเคียงข้าง (8.) กระจายรายได้สู่ชุมชน (9.) น้ำดีต้องมีพอน้ำเสียเคลียร์ให้ใสแก้ไขน้ำท่วมซ้ำซาก (10.) ภูเก็ตปลอดภัยอุ่นใจทุกเวลา
นายธนาธร กล่าวว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ของพ่อแม่พี่น้องชาวภูเก็ต เลือกนายกอบจ.จังหวัดภูเก็ต นพ.เลอศักดิ์ ผู้สมัครนายกอบจ.ภูเก็ต จากพรรคประชาชน วันนี้ทางพรรคประชาชนทั้ง ผู้สมัครและ ส.ส.ภูเก็ต ร่วมเดินหาเสียงด้วยกันในย่านเมืองเก่าภูเก็ต มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ในสนามอบจ.ภูเก็ตนี้ประชาชนให้ความสนใจส่วนตัวการเมืองออกมาใช้สิทธิ และให้โอกาสกับพวกเรา
“เราเห็นว่า ภูเก็ตจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลง วันนี้ทั้งเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม ปัญหาขยะยังเป็นปัญหาที่ใหญ่มากของภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ที่จำเป็นจะต้อง ทำให้ลูกหลานของคนภูเก็ตเข้าถึงการศึกษาที่ดี การเดินทางขนส่งสาธารณะที่ยังไม่เข้าถึงทั้งเกาะ เราอยากจะเข้ามา ผลักดันสิ่งต่างๆเหล่านี้ ทำให้ภูเก็ตมีความเจริญก้าวหน้า และเป็นเมืองที่น่าอยู่เป็นมิตรกับทุกคน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
นายธนาธร กล่าวต่อว่า ขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนมาใช้สิทธิ์กันสำคัญมาก แล้วก็ขอให้ติดตามนโยบายของผู้สมัครทุกเบอร์ ชอบนโยบายของผู้สมัครเบอร์ไหนก็กาเบอร์นั้น คิดว่าจะทำให้การเมืองเกิดการพัฒนา การเมืองระดับจังหวัดเราไม่ค่อยเห็นการพูดถึงการพัฒนานโยบายพัฒนาระดับจังหวัดเท่าไหร่ ไม่เหมือนนโยบายระดับชาติ ดังนั้น อยากจะเชิญชวน พ่อแม่พี่น้องประชาชนให้มาสนใจการเมืองระดับจังหวัดให้มาติดตามนโยบายการพัฒนาจังหวัดของผู้สมัครแต่ละคนแต่ละเบอร์ แล้วคอยตรวจสอบติดตามเมื่อได้เข้าไปดำรงตำแหน่งว่า ได้ทำตามนโยบายหรือไม่จะทำให้การเมืองพัฒนาและ นี่ก็คือสิ่งที่พวกเราอยากจะผลักดันให้เกิดการเมืองที่แข่งกันที่นโยบายไม่ใช่แค่ในการเมืองระดับชาติ แต่เป็นการเมืองระดับท้องถิ่นด้วย”
ด้าน นพ.เลอศักดิ์ กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาหลัก แบ่งเป็นการแก้ปัญหาที่มีอยู่และสะสมเรื้อรังไม่ว่าจะเป็นปัญหาจราจร ปัญหาสาธารณูปโภค ปัญหาปากท้อง ปัญหาความปลอดภัย และอีกกลุ่มหนึ่งเป็นนโยบายเกี่ยวกับการต่อยอดนโยบายเสริมศักยภาพของโอกาสของภูเก็ตที่มีอยู่ เสริมสร้างเสน่ห์ใหม่ๆของภูเก็ตนอกจากเรื่อง Sea Sand Sun แล้วจะมีเสน่ห์วัฒนธรรมการศึกษาการทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองศิลปะดนตรีแฟชั่นต่างๆและระบบสาธารณสุขเป็น มุมใหญ่ที่จะเข้ามาทำ โดยมีความมั่นใจแต่ไม่ประมาท ขึ้นกับพี่น้องประชาชน เราเต็มที่อยู่แล้ว ทุ่มเต็มร้อยเกินร้อยทุกคน ที่สำคัญที่สุดขอเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งอบจ.ภูเก็ต
ลำพูนไม่ลำพัง! พิธา ใส่เสื้อหมูเด้ง ร่วมวันเด็ก ผู้ปกครองพาลูกขอถ่ายรูปพรึบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4995497
ลำพูนไม่ลำพังแล้ว! “พิธา” ใส่เสื้อ “หมูเด้ง” โชว์ตัววันเด็กลำพูน คนขอถ่ายรูปพรึ่บ ขณะตัวแทนชาวบ้าน มอบเสื้อทอมือประจำถิ่น
เมื่อวันที่ 11 มกราคม นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.เขต 1 จังหวัดลำพูน ได้เดินทางมาร่วมงานวันเด็ก ที่เทศบาลตำบลทาสบเส้า อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน โดยมีประชาชน แฟนคลับ และเด็กๆ ส่งเสียงกรี๊ด และขอถ่ายรูปจำนวนมาก
โดยนายพิธา สวมใส่เสื้อหมูเด้งสีม่วงมาลงพื้นที่ สีหน้าแจ่มใส อารมณ์ดี เมื่อมาถึงได้เล่นกับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง ซึ่งผู้ปกครองบางคน ได้ขอนำลูกสาวลูกชายมาถ่ายรูปกับนายพิธาด้วย รวมถึงชมรม To be number one จังหวัดลำพูน
ขณะที่ตัวแทนชุมชน ได้มอบเสื้อคลุม ซึ่งทอด้วยมือ เป็นลายประจำถิ่นของจังหวัดลำพูนให้นายพิธา เพื่อเป็นของขวัญขอบคุณสำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ภายหลังการลงพื้นที่จังหวัดลำพูน นายพิธาได้ขึ้นรถไปยังจังหวัดเชียงใหม่ต่อทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ม.ค. 68) นายพิธา ได้กล่าวติดตลกว่าตนคงต้องมาลำพูนแบบลำพัง ระหว่างให้สัมภาษณ์ในงานแต่ง ส.ส.พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย
เปิดคำให้การ จ่าเอ็ม สารภาพ รับงานใช้หนี้ผู้มีพระคุณ ตร.ปัดตอบ คนไทยหรือไม่
https://www.matichon.co.th/local/news_4995681
เปิดคำให้การ จ่าเอ็ม สารภาพ รับงานใช้หนี้ผู้มีพระคุณ ตร.ไม่ตอบ คนไทยหรือไม่
เมื่อวันที่ 11 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี นายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือเอ็ม กองเรือ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านของกัมพูชา ดับบริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศ ก่อนจับกุมได้ที่พระตะบอง กัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปคุมตัวกลับมาประเทศไทยเมื่อช่วงสายวันนี้
ภายหลังจากที่ควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือ “จ่าเอ็ม” มาสอบปากคำที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้นเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งประเด็นหลักที่ผู้ต้องหายังคงกังวล คือเกรงว่าญาติพี่น้องจะรู้เรื่องจากเหตุการณ์นี้ แต่ตนได้มีการให้พบทนายความและมีการพูดคุยจนกระทั่งนายเอ็มเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นจนสามารถให้การกับพนักงานสอบสวนได้บ้างแล้ว
พล.ต.ต. อัฏธพร กล่าวว่า ให้เขาเล่า เปิดใจให้เขาผ่อนคลาย เป็นประโยชน์กับรูปคดี ค่อนข้างตรงกับกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานที่มี บางประเด็นบอกไม่รู้ เช่นไม่รู้ชื่อจริง รู้แต่ชื่อเล่น และอนุญาตให้เราเข้าถึงข้อมูลทางโทรศัพท์ อธิบายข้อความแชตต่างๆ คืออะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่จ่าเอ็มกังวลเรื่องความปลอดภัย กลัวอะไร พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า เขาไม่รู้ใครเป็นใคร เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ จนได้เจอกับทนายความสักระยะ และให้ของว่าง ให้น้ำทาน เขาไม่กลัว กังวลเพราะไม่รู้ว่าการที่เขาถูกสอบสวน ถูกถามหลายครั้ง ก็ไม่สบายใจ ทนายที่มา ก็เป็นทนายจากกรมคุ้มครองสิทธิ ก็คุยจนให้ความไว้วางใจ
“ให้การเป็นประโยชน์ แต่อยู่ในสำนวน ทำให้การสอบสวนเราง่ายขึ้น เบื้องต้น เขาบอกว่า เขารับงานมาจากบุคคลที่เคยช่วยที่เคยช่วยเขา ผู้มีพระคุณของเขา ไม่ได้รับค่าจ้างตอบแทนใดๆ ทำเพื่อที่จะเห็นว่ายามเขาเดือดร้อน ถูกออกจากราชการ ก็มีคนนี้สนับสนุน ให้เงินให้ทอง โทรไปปรึกษาก็ได้ทุกครั้ง เมื่อผู้มีพระคุณขอร้องมา ก็ตัดสินใจอยู่สักระยะ จึงรับปาก กะว่าจะทำใช้หนี้บุญคุณ”
เมื่อถามว่า ผู้มีพระคุณเป็นพลเรือน ข้าราชการ หรืออดีตราชการ พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า เป็นพลเรือน ตอนนี้ผู้ต้องหา อดนอน เบื้องต้นสับสนตัวเอง เวลาก็จำไม่ได้ เราใช้ความอดทน และพยายามให้เขาผ่อนคลาย ประเด็นเรื่องการสอบสวน มีความกระจ่างระดับหนึ่ง คงไม่ได้ทั้งหมด เพราะเขาก็เดินทางมา 8-10 ชั่วโมง หลายทอด และกังวล ขนาดว่า คนใกล้ชิดเขาจะมาขอพบ ยังไม่ประสงค์
เขาได้แจ้งว่า 1.ไม่ประสงค์พบใครเลย อยากอยู่คนเดียว เราถามว่าอยากได้นักจิตวิทยาไหม การสอบสวนเราต้องใช้ศิลปะพอสมควร ให้เขาพัก เมื่อให้การเป็นประโยชน์ค่อยสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้ความร่วมมืออย่างดี แต่เขาเรียบเรียงเนื้อหาไม่ถูก บางครั้งก็จำผิดๆถูกๆ เป็นอาการของคนเครียดและพักผ่อนน้อย การทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เขาแจ้งว่าไม่ประสงค์จะทำแผน เนื่องจากไม่อยากพบเจอใคร แต่ยินดีจะเปิดวิดีโอและพูดอธิบาย ก็ให้เขาเรียบเรียง เขาขอพัก สอบได้ไม่นานก็ขอสูบบุหรี่ ขณะนี้ให้พักอยู่
ถามถึงผู้มีพระคุณ ได้พูดคุยกันเมื่อไหร่ ถึงตัดสินใจไปเอาปืนมา พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 24 ชั่วโมง จากคำให้การ ก็สอดคล้องกับข้อมูลในโทรศัพท์และแชตไลน์ ครั้งแรกที่ร้องขอ เขายังไม่รับปาก มีการโทรมาเร้าหรือ ปรากฏข้อมูลในโทรศัพท์ว่ามีจริง ไลน์มา จนเขาตัดสินใจว่าทำครั้งเดียว ใช้หนี้บุญคุณกัน
ถามว่าผู้มีพระคุณ เป็นคนไทยหรือไม่ พล.ต.ต.อัฏธพร ระบุว่า อยู่ในสำนวน ตอบไม่ได้ ส่วนในเรื่องคดีต้องพิสูจน์ต่อไป
ทุเรียนไทย งานงอก จีนพบสารย้อมสีก่อมะเร็ง สั่งตรวจทุกด่าน หากเจอระงับนำเข้าทันที
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9585504
ส่งออก ทุเรียนไทย งานงอก จีนตรวจพบสารย้อมสีก่อมะเร็ง สั่งตรวจทุกด่าน หากเจอระงับนำเข้าทันที ด้านสมาคมส่งออกผลไม้ไทย ชี้ควรออกมาตรการเด็ดขาดให้เลิกใช้
11 ม.ค. 2568 ประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าวจากกรมวิชาการเกษตรแจ้งว่า สำนักงานบริหารทั่วไปของศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) แจ้งพบปัญหาการใช้สารย้อมสี “Basic Yellow 2” ในทุเรียนส่งออก ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) จัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 2B
จึงกำหนดให้ทุเรียนทุกลอตของไทยที่จะส่งออกจีน ต้องแนบผลวิเคราะห์ Test Report ทั้ง Basic Yellow 2 และแคดเมียม ทุกลอต โดยจีนจะสุ่มตรวจที่ด่านนำเข้า หากพบจะระงับทันที มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. เป็นต้นไป
นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย เปิดเผยถึงที่มาของการใช้สาร Basic Yellow 2 ในน้ำยาชุบทุเรียนว่า เริ่มจริงจังเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว เดิมใช้สีผสมอาหารหรือขมิ้นให้เปลือกเป็นสีเหลือง ไม่มีอันตราย แต่เมื่อความนิยมคนจีนชอบเปลือกสีเขียว จึงนำสาร Basic Yellow 2 เข้ามาใช้ในล้ง โดยมีคนจีนนำเข้ามาและรับจ้างชุบสีให้ล้งต่าง ๆ ตู้ละ 12,000-15,000 บาท โดยที่เจ้าของล้งไม่รู้ว่าใช้สารที่เป็นอันตราย กระทั่งทุเรียนส่งออกไปจีนถูกตรวจสอบและจับได้
ในเมื่อเป็นสารอันตราย องค์การอนามัยโลกจัดให้เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 2B หน่วยงานของรัฐต้องรีบออกมาตรการที่เด็ดขาดให้เลิกใช้ทันที หากมีการฝ่าฝืนต้องกำหนดบทลงโทษจำคุก และเพิกถอนการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช (DOA) และทะเบียนผู้ส่งออก (DU) และแบรนด์สินค้า
ควรต้องเจรจากันระหว่างไทยและจีน และต้องรีบดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น วิธีการตรวจหามาตรฐานของ Basic Yellow ต้องชัดเจน ห้องแล็บต้องเพียงพอ การเตรียมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการส่งออก ช่วงเวลานี้เหมาะที่สุดเพราะทุเรียนยังมีปริมาณน้อย แต่เดือน เม.ย. 2568 ทุเรียนภาคตะวันออกจะออกมาวันละ 500-600 ตู้ ห้องแล็บจะเพียงพอและพร้อมให้บริการหรือไม่ หากใช้ระยะเวลานานจะกระทบกันเป็นลูกโซ่