JJNY : 5in1 ปชต.ไทยถอยหลังสองก้าว│พรรคปชช.ลุยสู้ศึกนายกอบจ.│‘อนุสรณ์’เตือนรับมือ│ชาวนาระทม│ยูเครนทำลายสะพานแห่งที่สอง

บทความ The Washington Post ชี้ ประชาธิปไตยไทยถอยหลังสองก้าว หลังยุบก้าวไกล-ถอดถอนนายกฯ
https://thestandard.co/thai-democracy-has-taken-two-steps-backward/
 
 
 
The Washington Post เผยแพร่บทความแสดงความคิดเห็นที่เขียนโดยกองบรรณาธิการของสำนักข่าว โดยชี้ว่าระบอบประชาธิปไตยอันเปราะบางของไทยกำลังเผชิญกับความถดถอยครั้งใหญ่ถึง 2 ครั้งจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งการยุบพรรคก้าวไกล และถอดถอน เศรษฐา ทวีสิน จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคำตัดสินที่ไม่สามารถอุทธรณ์ได้
 
บทความระบุว่า เหตุการณ์ทางการเมืองล่าสุดของไทยแสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดในความพยายามของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ส่งเสริมประชาธิปไตยให้เป็นศูนย์กลางของนโยบายต่างประเทศ แต่กลับมีการถดถอยของประชาธิปไตยเกิดขึ้นในประเทศที่เป็นมิตรของสหรัฐฯ และยังเป็นป้อมปราการสำคัญต่ออิทธิพลของจีนที่เพิ่มมากขึ้น
 
The Washington Post ชี้ว่าคำตัดสินทั้ง 2 กรณีแสดงให้เห็นว่ากลุ่มอำนาจเก่าของประเทศไทย และฝ่ายต่อต้านการปฏิรูปและประชาธิปไตย หันมาใช้แนวทาง ‘นิติสงคราม’ (Lawfare) เพื่อบ่อนทำลายเจตจำนงของประชาชน
 
ขณะที่นิติสงครามยังกลายเป็นอาวุธที่รัฐบาลเผด็จการนิยมใช้ เพื่อสร้างความชอบธรรมทางกฎหมายและปกปิดการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามในรูปแบบเก่าๆ
 
เนื้อหาบทความยังระบุว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไทยมีผลให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวไทยมากกว่า 14 ล้านคนสูญเสียสิทธิ หลังจากที่ลงคะแนนให้พรรคก้าวไกลชนะในการเลือกตั้งปีที่แล้วได้อย่างน่าทึ่ง
 
กรณีถอดถอนเศรษฐานั้น นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า สาเหตุที่แท้จริงคือฝ่ายอนุรักษนิยมต้องการส่งคำเตือนไปถึงผู้สนับสนุนเศรษฐา ซึ่ง The Washington Post ระบุว่า คือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่เชื่อกันว่ายังคงควบคุมอำนาจของพรรคเพื่อไทยอยู่เบื้องหลัง
 
บทความยังชี้ว่า แม้จะเกิดกรณียุบพรรคก้าวไกล หรือถอดถอนเศรษฐา แต่ไทยก็ยังคงเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ
 
The Washington Post ระบุว่า ประเทศไทยนั้นเป็นภาวะ ‘กลืนไม่เข้า คายไม่ออก’ สำหรับสหรัฐฯ โดยไทยยังคงเป็นพันธมิตรที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกองทัพสหรัฐฯ และยังมีการฝึกซ้อมรบร่วมกันทุกปี ขณะที่ยังมีรายงานว่า สหรัฐฯ กำลังพิจารณาเรื่องการขายเครื่องบินรบ F-16 Block 70 ให้กับกองทัพอากาศไทย
 
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการยุบพรรคก้าวไกล ฝ่ายสหรัฐฯ มีการแสดงท่าที โดยกระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์แสดงความกังวลอย่างยิ่ง ในขณะที่วุฒิสมาชิกเบน คาร์ดิน ประธานคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า สภาคองเกรสจะประเมินว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและสหรัฐฯ อย่างไร
 
อ้างอิง:
 
https://www.washingtonpost.com/opinions/2024/08/17/thailand-move-forward-party-dissolution-democracy/
 


พรรคปชช. ลุยสู้ศึกนายก อบจ.ราชบุรี 'พิธา' ขอชาวราชบุรีทั่วประเทศกลับบ้านมาเลือกตั้ง 1 ก.ย.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4742538

พรรคปชช. ลุยหาเสียงต่อเนื่อง สู้ศึกนายก อบจ.ราชบุรี “พิธา” ย้ำอนาคตอยู่ในมือทุกคน ขอชาวราชบุรีทั่วประเทศกลับบ้านมาเลือกตั้ง 1 ก.ย. ช่วยกันเปลี่ยนใจคนให้หันมาเลือก “ชัยรัตน์” พร้อมชวนจับตาเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม
 
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่จ.ราชบุรี แกนนำและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชนลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันหาเสียงให้กับ นายชัยรัตน์  ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ราชบุรี หมายเลข 1 ในนามพรรคประชาชน โดยช่วงเช้านายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ  ส.ส. บัญชีรายชื่อและ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน และนายชัยรัตน์ ร่วมกิจกรรมงานประเพณีกินข้าวห่อและเรียกขวัญ ซึ่งเป็นประเพณีประจำปีของชาวกะเหรี่ยงบ้านบ่อ ตำบลสวนผึ้งโดยมีประชาชนให้ความสนใจและเดินเข้ามาพูดคุยด้วยเป็นจำนวนมาก
 
จากนั้นได้เดินทางไปที่ตลาดโอ๊ะป่อย ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ผู้ประกอบการร้านค้าส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยง โดยบรรยากาศการหาเสียงได้รับการตอบรับจากทั้งผู้ค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่ต่างให้ความสนใจ เข้ามาทักทายพูดคุยและขอถ่ายภาพด้วยเป็นจำนวนมาก
 
จากนั้นในช่วงบ่าย นายชัยรัตน์ได้เปิดวงพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) ในจังหวัด โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน และ นายณรงเดช อุฬารกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมวงสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางการจัดการสินค้าเกษตร
 
หลังจากนั้นได้ร่วมกันขึ้นรถแห่หาเสียงไปตามถนนในอ.ดำเนินสะดวก ก่อนที่จะร่วมกันเปิดเวทีปราศรัยที่บริเวณตลาดน้ำดำเนินสะดวก ท่ามกลางชาวดำเนินสะดวกที่ให้ความสนใจเข้ารับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก
 
ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย นายพิธา ระบุว่า ถึงแม้เราจะมีความมั่นใจ แต่ก็ไม่ประมาท และต้องขอวานพี่น้องชาวราชบุรีให้ช่วยกันสามเรื่อง หนึ่งคือช่วยกันตามชาวราชบุรีทั่วประเทศให้กลับบ้านมาเลือกตั้ง สองคือช่วยกันเปลี่ยนใจชาวราชบุรีที่ยังต้องการความมั่นใจ ว่าผู้สมัครของพรรคประชาชนแตกต่างจากคู่แข่งคนอื่นอย่างไร และสามคือขอให้ชาวราชบุรีช่วยกันเป็นตาสับปะรด ร่วมกันจับตาการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรีครั้งนี้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด
 
นายพิธา กล่าวต่อไปว่า อนาคตของราชบุรีไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ตน พรรคประชาชน หรือนายชัยรัตน์ แต่ขึ้นอยู่กับประชาชนชาวราชบุรีทุกคน ว่าจะตามชาวราชบุรีกลับมาเลือกตั้งได้มากน้อยเพียงใด จะเปลี่ยนใจคนที่ยังไม่มั่นใจในพรรคประชาชนได้มากน้อยอย่างไร และจะช่วยกันจับตาการเลือกตั้งให้พรรคประชาชนได้มากแค่ไหน
 
ถ้าทั้งสามขั้นนี้เกิดขึ้นได้พวกเราชนะแน่นอน แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ คนราชบุรีทั้งประเทศไม่กลับมา คนที่ไม่ได้เลือกพรรคก้าวไกลในครั้งที่แล้วไม่เปลี่ยนใจ ไม่มีใครคอยเป็นหูเป็นตาให้การซื้อเสียง พรรคประชาชนก็อาจไม่ชนะก็ได้ อนาคตชาวราชบุรีขึ้นอยู่กับทุกคนแล้ว” นายพิธากล่าว


 
‘อนุสรณ์’ ชี้ตั้งรบ.เร็วกระทบศก.จำกัด เตือนรับมือภาวะเงินฝืด วิกฤตหนี้ ปิดรง. คาดครึ่งปีหลังโตต่ำ
https://www.matichon.co.th/economy/news_4742568
 
‘อนุสรณ์’ ชี้ตั้งรบ.เร็วกระทบศก.จำกัด แต่คาดครึ่งปีหลังโตต่ำ เตือนรัฐบาลใหม่รับมือภาวะเงินฝืด วิกฤตหนี้ รง.ปิด แนะทีมเศรษฐกิจต้องมีวิสัยทัศน์ชัด ระบุระยะยาวต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ทั้งเศรษฐกิจ-การเมือง
 
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศักยภาพในการเติบโตของไทยนั้นมีขีดจำกัดอยู่แล้วจากปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ เมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง และเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อยๆยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาเพิ่มขึ้นไปอีก ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองกระทบต่อผู้เดือดร้อนทางเศรษฐกิจที่รอมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล ทำให้นักลงทุนระยะยาวลังเลในการตัดสินใจลงทุนจากปัญหาความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง เกิดความไม่ต่อเนื่องของการบริหารและนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม หลังจากนายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งโดยศาลรัฐธรรมนูญ สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ทันทีในรัฐสภาทำให้ผลกระทบระยะสั้นเบาลง
 
ผลกระทบและความเสียหายทางเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และภาคการลงทุน จะจำกัดลงได้ระดับหนึ่งในระยะสั้น ด้วยการตั้งรัฐบาลให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ความล่าช้าในการพิจารณางบประมาณปี 68 เกิดขึ้นแน่ การขยับโครงการลงทุนภาครัฐและนโยบายต่างๆของรัฐบาลต้องช้าออกไป ขณะเดียวกันก็อาจมีมาตรการและนโยบายบางส่วนถูกทบทวนหรือยกเลิกไป อย่างเช่น นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเลตและให้เช่าที่ดิน 99 ปี เป็นต้น
 
รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาของการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลตามบริบทประชาธิปไตยแบบไทยไทยสร้างความเสี่ยงต่อการลงทุนระยะยาว ทำให้เกิดการชะลอตัวของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของต่างชาติ หรือ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของบรรษัทชาติก็ตัดสินใจเลือกไปลงทุนประเทศอื่นแทนจากความไม่แน่นอนทางการเมือง การทุจริตคอร์รัปชัน ความไม่พร้อมของทุนมนุษย์ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
 
ระบบการเมืองและเศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากการที่ “สหรัฐอเมริกา” เป็น มหาอำนาจนำเพียงหนึ่งเดียว มาเป็น ระบบพหุขั้วอำนาจ มากขึ้น การแข่งขันเชิงอำนาจเพื่อครองความเป็นเจ้า (Hegemony) ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคอาเซียน ย่อมส่งผลต่ออนาคตของประเทศไทยพอสมควร รัฐบาลใหม่ควรมีการจัดวางฐานะทางยุทธศาสตร์ต่อดุลอำนาจระหว่าง จีน กับ สหรัฐอเมริกา อย่างเหมาะสม การมี นโยบายต่างประเทศอย่างสร้างสรรค์ มุ่งสู่การสันติภาพทั้งภายนอกประเทศและภายในประเทศเป็น “ความจำเป็น” พื้นฐานในการสร้าง “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” และ “สันติธรรมประชาธิปไตย” ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
 
รศ.ดร.อนุสรณ์กล่าวว่า การทะลายขีดจำกัดของประเทศจำเป็นต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมืองไปพร้อมกัน เดินหน้าปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจทั้งมิติการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและมิติการสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำควบคู่กันไป การปฏิรูปและปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจก็ยังไม่ใช่หลักประกันเพียงพอที่ทำให้อัตราการขยายทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในระยะยาว สำหรับไทยแล้ว การขจัดการแทรกแซงทางการเมืองด้วยอำนาจนอกวิถีทางประชาธิปไตยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจและการลงทุนลงอย่างมาก ความมีเสถียรภาพของระบอบประชาธิปไตยและการปฏิรูปการเมืองให้มีความมั่นคงและตอบสนองต่อผลประโยชน์ประชาชนมีความสำคัญ เสถียรภาพของระบบการเมืองและระบอบประชาธิปไตยจึงเป็นพื้นฐานต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนในระยะยาว
 
ชี้ปีนี้ศก.ขยายตัว 3% เป็นไปไม่ได้
 
รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า โอกาสที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยเกิน 3% นั้นเป็นไปไม่ได้แล้วในปีนี้ การเร่งใช้จ่ายงบลงทุน งบประมาณปี 2567 ให้เบิกจ่ายในระดับ 75% ขึ้นไปเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากสำหรับรัฐบาลรักษาการ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ก็ต้องใช้อีกอย่างน้อย 1-2 เดือน อาจทำให้งบประมาณปี 2568 ล่าช้าออกไปบ้างแต่จะดีกว่าสถานการณ์ของงบประมาณปี 2567 หลังการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ที่มีความล่าช้าอย่างมาก คาดว่า ปัจจัยการลงทุนภาครัฐในปีหน้าจะดีกว่าปีนี้มาก ส่วนการลงทุนเอกชนปีนี้จะขึ้นกับสถานการณ์การส่งออกและเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ
 
รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยไม่น่าจะเผชิญปัญหาเงินเฟ้อสูง แต่มีความเสี่ยงที่จะต้องเจอกับภาวะเงินฝืดมากกว่า การทะลักเข้ามาของสินค้าจีนกดอัตราเงินเฟ้อลงมา ความเสี่ยงทางการเมืองจะกดทับความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนต่อไป ไม่มีเงินเฟ้อจากแรงดึงของอุปสงค์ ราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นจากสงคราม ราคาสินค้าเกษตรและอาหารอาจปรับตัวสูงขึ้นบ้างจากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่เป็นปัจจัยทางด้านอุปทานทั้งสิ้น วิกฤติหนี้สิน การปิดโรงงานและการเลิกจ้างในบางอุตสาหกรรมจะยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะๆ แต่ปัญหาอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ
 
ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา แรงงานไทยจำนวนมากได้เคลื่อนย้ายจากภาคเกษตรกรรมมายังภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคเกษตรกรรมประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานและแรงงานไทยในภาคเกษตรกรรมมีอายุเฉลี่ยสูงมาก แรงงานข้ามชาติจึงเป็นทางเลือกหลักการผลิตในภาคเกษตรกรรม ภาคประมง ภาคก่อสร้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่