JJNY : 5in1 พรรคส้มดาวกระจาย สู้ศึกอบจ.│We Watch เสวนาจับตา│เปิดผลศึกษา‘กาสิโน’ ถูก กม.│รบ.ทหารระส่ำ!│สหรัฐรอดชัตดาวน์

พรรคส้มดาวกระจาย แกนนำปูพรม ลงพื้นที่หาเสียง สู้ศึกอบจ.ทั่วประเทศ 23 ธ.ค.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4965392
พรรคส้มดาวกระจาย แกนนำปูพรมลงพื้นที่หาเสียงสู้ศึกอบจ.ทั่วประเทศ 23 ธ.ค.
 
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาชนเตรียมตัวส่งผู้สมัครนายก อบจ.ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ในวันที่ 23 ธ.ค. ที่กำลังจะถึงนี้ โดยส่งระดับแกนนำและผู้ช่วยหาเสียงที่เป็นผู้นำจิตวิญญาณลงประกบตามพื้นที่ต่างๆ ประกอบไปด้วย

1. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน จะเดินทางไปให้กำลังใจผู้สมัครที่สนามกีฬา อบจ.นนทบุรี
 
2. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง ร่วมแถลงข่าวร่วมกับผู้สมัครนายก อบจ. หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอน กกต. ซึ่ง จ.สมุทรปราการ มีรายงานว่า นายธนาธรทุ่มสรรพกำลังช่วยหาเสียงเนื่องจากเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์
 
3. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางไปให้กำลังใจผู้สมัครที่ อบจ.ปราจีนบุรี ก่อนจะเดินทางไปเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.ชลบุรี ในช่วงเย็นวันเดียวกันที่สวนสาธารณะเทศบาลเมืองศรีราชา
 
4. น.ส.เบญจา แสงจันทร์ อดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล เดินทางไปให้กำลังใจผู้สมัครนายก อบจ.ระยอง ที่สนามกีฬาจังหวัดระยอง
 
5. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางไปที่ อบจ.จันทบุรี
 
6. นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน เดินทางไปที่ อบจ.ภูเก็ต จากนั้นจะไปขึ้นรถแห่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.พังงาต่อ
  
7. นางสาวภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน ร่วมถ่ายรูปและแถลงข่าวร่วมกับผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอน กกต.

8. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน เดินทางไปที่ อบจ.มุกดาหาร
 
9. นางสาวพรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียง ร่วมถ่ายรูปและแถลงข่าวร่วมกับผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอน กกต. ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยและศาลหลักเมือง
 
10. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ช่วยหาเสียง เดินถนนคนเดินประตูท่าแพ ในช่วงเย็นวันที่ 22 ธ.ค. และวันที่ 23 ธ.ค. เดินพบปะพี่น้องประชาชน ตลาดวโรรส
  


We Watch เสวนาจับตาเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ
https://prachatai.com/journal/2024/12/111792

We Watch ร่วมกับมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดวงเสวนา "จับตาเลือกตั้งท้องถิ่น" การนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ปี 2567
 
21 ธ.ค. 2567 NBT Connext รายงานว่า ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี  เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์ การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We Watch) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดวงเสวนา "จับตาเลือกตั้งท้องถิ่น" การนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ปี 2567 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค. 2567 นี้ ร่วมแลกเปลี่ยนโดยมี ผศ.ปฐวี โชติอนันต์ ประธานกลุ่มท้องถิ่นศึกษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผศ. กิตติชัย ขันทอง สาขาวิชารัฐศาสตร์ วิทยาลัยกฎหมายและการปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ นายศุภกิจ จันทะพงษ์ เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์ การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย (We Watch) และนายพงศธร กันทวงค์ นักศึกษาสาขาวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ ม.อุบลราชธานี
 
วงเสวนามุ่งอธิบายถึงนโยบายหาเสียงของผู้สมัครแต่ละคน เจาะลึกถึงแนวทางและการพัฒนาที่ผู้สมัครแต่ละคนนำเสนอในด้านต่าง ๆ อาทิ การสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาลส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น โดยเชื่อมโยงงบประมาณและโครงการจากระดับชาติไปยังท้องถิ่นเพื่อพัฒนาจังหวัดในหลายมิติ พัฒนาจังหวัดอุบลราชธานีให้ก้าวหน้าและยั่งยืนผ่าน 5 ด้านสำคัญ ซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเสียหายเพื่อความสะดวกในการเดินทางและการขนส่งสินค้า เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สุขภาพ โครงสร้างพื้นฐาน และคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัด ภายใต้บรรยากาศการเลือกตั้งที่มีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ และความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นจากประชาชน


  
เปิดผลศึกษา ‘กาสิโน’ ถูกกฎหมาย คดีอาชญากรรมพุ่ง
https://www.dailynews.co.th/news/4211320/

เปิดผลศึกษากาสิโนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำปัญหาอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้น ทั้งฆาตกรรม 2.47 ต่อแสนประชากร ส่วนข่มขืน สูงถึง 4.08 ราย กว่า 88% ซดแอลกอฮอล์ย้อมใจก่อนก่อเหตุ

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการศึกษาผลกระทบของกาสิโนถูกกฎหมายต่อการฆาตกรรมและข่มขืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2010-2020 เทียบค่าเฉลี่ยการอนุญาตกับไม่อนุญาตให้มีกาสิโนในประเทศพบว่า ประเทศที่ไม่อนุญาติให้มีกาสิโน อัตราการฆาตกรรมอยู่ที่ 1.97 รายต่อ 100,000 ประชากร กรณีที่อนุญาตให้มีกาสิโน อัตราการฆาตกรรมอยู่ที่ 2.47 รายต่อ100,000 ประชากร ส่วนกรณีข่มขืนพบว่า ประเทศที่ไม่อนุญาตให้เปิดกาสิโน อัตราการข่มขืนอยู่ที่ 1.80 รายต่อ 100,000 ประชากร ในขณะประเทศที่อนุญาตให้เปิดกาสิโนอยู่ที่ 4.08 ราย โดยในกาสิโนและละแวกมีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอออล์สูงมาก ปัญหาอาชญากรรมร้ายแรงจึงเพิ่มขึ้นตาม สอดคล้องกับผลการศึกษาในต่างประเทศที่พบว่า จำนวนร้านเหล้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตราการฆาตกรรมเพิ่มสูงขึ้น และกว่า 88% ของผู้ก่อเหตุข่มขืนใช้แอลกอฮอล์ย้อมใจให้เกิดความกล้า ลดการรู้ผิดชอบชั่วดี
 
เช่น เหตุการณ์นักพนันชาวเวียดนามถูกฆาตกรรมในปี 2022 ที่ Moc Bai Casino เมือง Bavet ประเทศกัมพูชา ตรวจสอบพบเป็นหนี้การพนันกว่า 3,000 ดอลลาร์ น่าสนใจว่า มีเหตุฆาตกรรมเกี่ยวกับพนันกาสิโนในเมืองนี้อย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่กาสิโนในภูมิภาคนี้มักเป็นแหล่งซ่องสุมของอาชญากร คนติดยาเสพติด คนเมา จึงมีการก่อเหตุข่มขืน รวมถึงข่มขืนแล้วฆ่าพนักงานหญิงที่เลิกงานดึกบ่อยครั้ง รวมถึงปัญหาการค้ามนุษย์ 
เช่น เมษายนปีนี้ พนักงานชาวเวียดนามที่ทำงานในกาสิโน ได้ถูกสังหารแล้วทิ้งศพในคลอง ไม่นับรวมการหลอกลวงหญิงต่างชาติมาค้าประเวณี
 
รศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าวต่อว่า จะเห็นว่า สถานการณ์การฆาตกรรมและการข่มขืน ระหว่างการอนุญาตให้เปิด กับไม่เปิดกาสิโนมีความแตกต่างกัน ดังนั้น รัฐบาลไทยควรทบทวนนโยบายเปิดสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีกาสิโนถูกกฎหมายเป็นหลัก เพราะมีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนว่า กาสิโนและพื้นที่โดยรอบมีการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก โดยเฉพาะในกาสิโนมักมีการ offer free drink เพื่อให้นักพนันอยู่ในกาสิโนนานขึ้น รวมถึงลดความยับยั้งชั่งใจในขณะที่เล่นพนัน โดยความเมาจะทำให้นักพนันกล้าเดิมพันมากขึ้น ดังนั้น ปัญหาสังคมจึงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทั้งฆาตกรรม ข่มขืน อุบัติเหตุทางถนน รวมถึงปัญหาการฆ่าตัวตาย โดยงานวิจัยในสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ปี 2567 พบว่า การฆ่าตัวตายที่เกี่ยวข้องกับการพนันก็มีความเกี่ยวข้องกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มากกว่ากรณีที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่ม นอกจากนี้ การมีกาสิโนในชุมชนทำให้การตายบนท้องถนน ที่มีสาเหตุจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นเช่นกัน.


 
รบ.ทหารระส่ำ! กบฏยะไข่ ลั่นยึดกองบัญชาการภูมิภาคตต. ของกองทัพเมียนมาได้แล้ว โชว์รูปจับรองผบ.
https://www.matichon.co.th/foreign/news_4965206

รบ.ทหารระส่ำ! กบฏยะไข่ ลั่นยึดกองบัญชาการภูมิภาคตต. ของกองทัพเมียนมาได้แล้ว โชว์รูปจับรองผบ.
 
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองทัพยะไข่ หรือกองทัพอาระกัน (เอเอ) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ติดอาวุธในรัฐยะไข่ ประกาศว่าสามารถยึดกองบัญชาการภูมิภาคของกองทัพเมียนมาในจังหวัดอ้าน รัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศไว้ได้แล้ว นับเป็นการสั่นคลอนอำนาจของรัฐบาลทหารเมียนมาครั้งใหญ่อีกครั้ง
 
กองทัพยะไข่ประกาศผ่านทางเทเลแกรมในวันศุกร์ (20 ธ.ค.) ว่า กลุ่มตนได้ยึดกองบัญชาการภูมิภาคตะวันตกในจังหวัดอ้านไว้ได้เบ็ดเสร็จแล้วหลังจากการสู้รบมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์
 
กองทัพยะไข่ยังได้โพสต์ภาพถ่ายชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นรองผู้บัญชาการกองบัญชาการภูมิภาคตะวันตกของกองทัพเมียนมา ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ อย่างไรก็ดี เอเอฟพีระบุว่าไม่สามารถยืนยันข้อมูลดังกล่าวได้
 
กองบัญชาการในจังหวัดอ้าน นับเป็นกองบัญชาการระดับภูมิภาคแห่งที่ 2 ที่ถูกตีจนตกอยู่ในมือกองกำลังชาติพันธุ์ติดอาวุธในเมียนมาภายในเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสั่นสะเทือนอำนาจปกครองของรัฐบาลทหารครั้งใหญ่
 
ทั้งนี้ กองทัพเมียนมามีหน่วยบัญชาการระดับภูมิภาคตั้งอยู่ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 14 แห่ง โดยหลายหน่วยยังคงต่อสู้กับกองกำลังชาติพันธุ์กลุ่มต่างๆ หรือ กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (พีดีเอฟ) ที่กำเนิดขึ้นหลังเกิดเหตุรัฐประหารล้มรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซูจี ในปี 2564
 
การสู้รบในรัฐยะไข่ปะทุขึ้นนับจากกองทัพยะไข่ได้โจมตีกองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นการยุติการหยุดยิงที่มีขึ้นก่อนหน้านั้น โดยนักรบกองทัพยะไข่ได้ยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ในรัฐยะไข่ไว้ได้ ซึ่งยังเป็นพื้นที่ตั้งของโครงการท่าเรือที่มีจีนและอินเดียให้การสนับสนุนอยู่ด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่