ปชน. ลงภาคใต้ รับฟังปัญหาหลังน้ำลด ลิซ่า จี้ รบ.เยียวยา 9,000 บาทถ้วนหน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966444
พรรคประชาชน ลงพื้นที่ภาคใต้ ฟังปัญหาหลังน้ำลด ลิซ่า จี้ รบ.จ่ายเยียวยา 9,000 บาทถ้วนหน้า ลั่น แม้บางบ้านน้ำไม่เข้า แต่เขามีต้นทุนต้องจ่าย เผยชาวบ้านท้อแท้ ซ้ำร้าย โครงการผันน้ำที่สร้างไม่เสร็จขวางทางระบายอีก ประกาศไม่ทิ้งคนใต้แน่นอน ขอนำกลับหารือสภา
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พรรคประชาชน นำโดย น.ส.
ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรค พร้อมด้วยนาย
เจษฎา ทำนองเสนาะ
ส.ส.ปทุมธานี นาย
ปกรณ์ อารีย์กุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช นาย
วิจักษณ์ พฤกษ์สุริยา รองเลขาธิการภาคใต้ ลงพื้นที่หลายตำบล
ใน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้าน หลังจากประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา
โดย น.ส.
ภคมนกล่าวว่า ตนและทีมงานพรรคประชาชนภาคใต้ ลงพื้นที่หลายจุด ซึ่งพี่น้องประชาชนทุกตำบล มีอัตราการเยียวยาไม่สอดคล้องกับความเสียหายจริง ซึ่งเราได้เสนอให้ประเมินและเยียวยาตามความเป็นจริงแก่ประชาชน รวมถึงในพื้นที่ที่ประกาศเป็นภัยพิบัติต้องได้รับเงินเยียว 9,000 บาทถ้วนหน้า แม้น้ำจะไม่เข้าบ้าน แต่เขามีต้นทุนอื่นที่ต้องจ่ายเช่นกัน โดยทางเราจะใช้ กมธ.ปภ. ผลักดันเรื่องนี้ต่อไป นอกจากทรัพย์สินเสียหายแล้วสภาพจิตใจของประชาชนก็ควรได้รับการเยียวยา หลายหมู่บ้านต้องระแวดระวังน้ำท่วมปีละ 6 ครั้ง หลายคนท้อแท้บ้านพังเสียหาย เพราะโครงการผันน้ำที่ก่อสร้างไม่เสร็จ ขวางทางระบายน้ำในชุมชน เช่น ทำให้ตำบลไชยมนตรี ท่วม 100% อีกปัญหาที่พบคือประตูระบายน้ำที่สำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดช้าและขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นคอขวด ไม่มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำถาวรเอาไว้ทำให้เมื่อต้องการระบายน้ำต้องรอขนย้ายเครื่องจักรมาติดตั้ง ล่าช้า รวมถึงความไม่แม่นยำในการแจ้งเตือน
น.ส.
ภคมนกล่าวอีกว่า ซึ่งเราเองได้เสนอว่าภายใน 6 เดือนนี้สิ่งที่รัฐต้องผลักดันให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ คือ
1. การจัดทำแผนจำลองประเมินสถานการณ์เพื่อวางแผนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมในอนาคตอย่างแม่นยำ
2. เตรียมพื้นที่ระบายน้ำล่วงหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่ม และปรับปรุงถนนที่สร้างขวางทางน้ำ
3. จัดทำข้อมูลพยากรณ์ระดับตำบล ระดับอำเภอ เพื่อแจ้งข้อมูลอย่างละเอียดล่วงหน้าแก่ประชาชน
4. เตรียมความพร้อมข้อมูลและอบรมบุคลากรในระดับท้องถิ่น เจ้าหน้าที่หน้างานให้กล้าตัดสินใจว่า น้ำถึงปริมาณเท่าไรจึงต้องอพยพ และจะอพยพไปไหน และอพยพอย่างไร สร้างองค์ความรู้นี้ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ ตนรับปากว่าทุกความทุกข์ร้อนของพี่น้องนครศรีธรรมราช ที่รับมาจะเอาไปขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ปัญหา หรืออย่างน้อยที่สุดปัญหาต่างๆ ที่นับมาต้องเห็นแนวทางแก้ไขไม่ฟังแล้วทิ้งแน่นอน
“พริษฐ์” แย้มนัดถกทำประชามติ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ชี้ชะตากรรม แก้รธน.ฉบับใหม่พรุ่งนี้
https://siamrath.co.th/n/589277
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.67 นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชึรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน X ทวิตเตอร์
[ ประชามติ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง - พรุ่งนี้มีนัดประชุมสำคัญ ]
.
พรุ่งนี้เช้า ผมขออภัยที่ผมไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมรับสมัครนายก อบจ. ที่พรรคประชาชนมีการส่งผู้สมัครเกือบ 20 จังหวัดทั่วประเทศ เพราะผมมีติดนัดประชุมสำคัญที่จะส่งผลต่อชะตากรรมของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
พรุ่งนี้ 10.30 น. ที่ห้อง CA408 อาคารรัฐสภา ทางคณะกรรมการของประธานรัฐสภาได้เชิญให้ผมไปชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการเสนอความเห็นให้ประธานรัฐสภาวินิจฉัยว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องทำประชามติ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อความเป็นไปได้ในการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันก่อนการเลือกตั้งครั้งถัดไป
.
ทั้งนี้ ผมได้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานทั้งหมด 5 ชุดที่ผมเห็นว่าเป็นการยืนยันว่าการทำประชามติ 2 ครั้งนั้นเพียงพอและสอดคล้องกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ดังต่อไปนี้
.
1. คำวินิจฉัยกลาง ศาล รธน. 4/2564
2. คำวินิจฉัยส่วนตน ของตุลาการ ศาล รธน. 9 คน 4/2564
3. แผนผังสรุปคำวินิจฉัยศาล รธน. 4/2564 ที่จัดทำโดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
4. ความเห็นอย่างเป็นทางการของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ (เช่น ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ / รศ.ดร.ณรงค์เดช สรุโฆษิต)
5. ผลการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง กมธ. พัฒนาการเมืองฯ กับประธาน ศาล รธน. เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2567
.
แม้ทางคณะกรรมการชุดนี้เคยวินิจฉัยเมื่อตอนต้นปีว่าต้องทำประชามติ 3 ครั้ง
- แต่ ณ วันนั้น ทางคณะกรรมการได้วินิจฉัยจากการวิเคราะห์ข้อมูลในเอกสาร #1 เพียงอย่างเดียว
- ในขณะที่วันนี้ ทางคณะกรรมการจะได้เข้าถึงข้อมูลในเอกสาร #2 - #5 เพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม
.
นอกจากนั้น ผมต้องขอขอบคุณบุคคลสำคัญอีก 3 ท่าน ที่จะมาร่วมชี้แจงและยืนยันเรื่องแนวทางการทำประชามติ 2 ครั้งในที่ประชุมกับคณะกรรมการในวันพรุ่งนี้
.
1. ชูศักดิ์ ศิรินิล (รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี)
2. พงศ์เทพ เทพกาญจนา (ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี)
3. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล (คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ← เข้าร่วมออนไลน์
.
มารอลุ้นผลการประชุมกันครับ
https://x.com/paritw92/status/1870790560778526855
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ชวาล ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966443
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ‘ชวาล’ ส.ส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา นาย
ชวาล พลเมืองดี ส.ส.พรรคประชาชน เขต 3 จ.ชลบุรี กรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 นาย
ชวาลกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 67 และมาตรา 155 คือจงใจยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง
ทั้งนี้ คำวินิจฉัยระบุว่า จากการตรวจสอบบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของนายชวาล พบว่านายชวาลได้แจ้งต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรีระบุค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งระหว่างวันที่ 20 มี.ค.66-15 พ.ค.66 ผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ
ชวาล พลเมืองดี จำนวน 6,000 บาทในหมวด “
ค่าโฆษณาในสื่อต่างๆ” แต่จากการไต่สวนได้ความว่า นาย
ชวาลมีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซึ่งเป็นค่าโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 9,347.51 บาท โดยพยานคนที่ 1 และคนที่ 2 ของนาย
ชวาล ซึ่งเป็นอาสาสมัครและผู้ช่วยหาเสียงทำการโฆษณาหาเสียงผ่านทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวให้ถ้อยคำถึงสาเหตุที่ไม่ได้แจ้งค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่นายชวาลว่าเกิดจากความหลงลืม และไม่ปรากฏว่านาย
ชวาลได้ติดตามทวงถามถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จากพยานทั้ง 2 คน
ประกอบกับเมื่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดชลบุรี ติดต่อให้นาย
ชวาลดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขจำนวนค่าใช้จ่ายในรายการอื่นๆ ก็ไม่พบว่านาย
ชวาลได้แจ้งค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเพิ่มเติม กระทั่งถูกแจ้งข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ จากการไต่สวนยังรับฟังได้ว่า วันที่ 4 เม.ย.66 นาย
ชวาลได้แจ้งการหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ พรรคก้าวไกล ชลบุรี – Move Forward Party Chonburi ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี โดยโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทั้งสิ้น 5 แคมเปญ มีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเป็นเงิน จำนวน 5,512.46 บาท แต่นาย
ชวาลไม่ได้นำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มารวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง อ้างว่าไม่ทราบถึงค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งดังกล่าว
โดยพยานคนที่ 1 ของนาย
ชวาล ซึ่งเป็นผู้ดูแลการโพสต์และเผยแพร่นโยบายของผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดชลบุรีของพรรคให้ถ้อยคำว่า สาเหตุที่ไม่ได้แจ้งค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่นาย
ชวาล เพราะหลงลืม และไม่ปรากฏว่านาย
ชวาลและติดตามทวงถาม
ทั้งสองกรณี กกต.จึงเห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านาย
ชวาลจงใจยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง ตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 67 กำหนดให้ภายใน 90 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ผู้สมัครแต่ละคนและหัวหน้าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อ กกต. ตามแบบที่ กกต.กำหนด หากฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 155 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี.
เปิดเส้นทาง พายุดีเปรสชัน กรมอุตุฯเตือน ฉบับ1 เหนือตอนล่าง-อีสาน-กทม. เตรียมรับมือ ภาคใต้ มีฝนเพิ่ม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9559116
เปิดเส้นทาง พายุดีเปรสชัน กรมอุตุฯเตือน ฉบับ1 เหนือตอนล่าง-อีสาน-กทม. เตรียมรับมือ ภาคใต้ มีฝนเพิ่ม หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
วันที่ 22 ธ.ค.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ฉบับที่ 1 (343/2567) โดยระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 10.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 24–25 ธ.ค. 67 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ
ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 25–26 ธ.ค. 67 มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 23.00 น.
JJNY : 5in1 ปชน.ลงใต้│“พริษฐ์”แย้มนัดถกพรุ่งนี้│กกต.สั่งดำเนินคดีอาญาชวาล│เปิดเส้นทางดีเปรสชัน│ทุจริตขวางปรับปรุงทัพจีน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966444
พรรคประชาชน ลงพื้นที่ภาคใต้ ฟังปัญหาหลังน้ำลด ลิซ่า จี้ รบ.จ่ายเยียวยา 9,000 บาทถ้วนหน้า ลั่น แม้บางบ้านน้ำไม่เข้า แต่เขามีต้นทุนต้องจ่าย เผยชาวบ้านท้อแท้ ซ้ำร้าย โครงการผันน้ำที่สร้างไม่เสร็จขวางทางระบายอีก ประกาศไม่ทิ้งคนใต้แน่นอน ขอนำกลับหารือสภา
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พรรคประชาชน นำโดย น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรค พร้อมด้วยนายเจษฎา ทำนองเสนาะ
ส.ส.ปทุมธานี นายปกรณ์ อารีย์กุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช นายวิจักษณ์ พฤกษ์สุริยา รองเลขาธิการภาคใต้ ลงพื้นที่หลายตำบล
ใน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังปัญหาชาวบ้าน หลังจากประสบปัญหาอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา
โดย น.ส.ภคมนกล่าวว่า ตนและทีมงานพรรคประชาชนภาคใต้ ลงพื้นที่หลายจุด ซึ่งพี่น้องประชาชนทุกตำบล มีอัตราการเยียวยาไม่สอดคล้องกับความเสียหายจริง ซึ่งเราได้เสนอให้ประเมินและเยียวยาตามความเป็นจริงแก่ประชาชน รวมถึงในพื้นที่ที่ประกาศเป็นภัยพิบัติต้องได้รับเงินเยียว 9,000 บาทถ้วนหน้า แม้น้ำจะไม่เข้าบ้าน แต่เขามีต้นทุนอื่นที่ต้องจ่ายเช่นกัน โดยทางเราจะใช้ กมธ.ปภ. ผลักดันเรื่องนี้ต่อไป นอกจากทรัพย์สินเสียหายแล้วสภาพจิตใจของประชาชนก็ควรได้รับการเยียวยา หลายหมู่บ้านต้องระแวดระวังน้ำท่วมปีละ 6 ครั้ง หลายคนท้อแท้บ้านพังเสียหาย เพราะโครงการผันน้ำที่ก่อสร้างไม่เสร็จ ขวางทางระบายน้ำในชุมชน เช่น ทำให้ตำบลไชยมนตรี ท่วม 100% อีกปัญหาที่พบคือประตูระบายน้ำที่สำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดช้าและขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นคอขวด ไม่มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำถาวรเอาไว้ทำให้เมื่อต้องการระบายน้ำต้องรอขนย้ายเครื่องจักรมาติดตั้ง ล่าช้า รวมถึงความไม่แม่นยำในการแจ้งเตือน
น.ส.ภคมนกล่าวอีกว่า ซึ่งเราเองได้เสนอว่าภายใน 6 เดือนนี้สิ่งที่รัฐต้องผลักดันให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ คือ
1. การจัดทำแผนจำลองประเมินสถานการณ์เพื่อวางแผนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมในอนาคตอย่างแม่นยำ
2. เตรียมพื้นที่ระบายน้ำล่วงหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่ม และปรับปรุงถนนที่สร้างขวางทางน้ำ
3. จัดทำข้อมูลพยากรณ์ระดับตำบล ระดับอำเภอ เพื่อแจ้งข้อมูลอย่างละเอียดล่วงหน้าแก่ประชาชน
4. เตรียมความพร้อมข้อมูลและอบรมบุคลากรในระดับท้องถิ่น เจ้าหน้าที่หน้างานให้กล้าตัดสินใจว่า น้ำถึงปริมาณเท่าไรจึงต้องอพยพ และจะอพยพไปไหน และอพยพอย่างไร สร้างองค์ความรู้นี้ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ ตนรับปากว่าทุกความทุกข์ร้อนของพี่น้องนครศรีธรรมราช ที่รับมาจะเอาไปขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ปัญหา หรืออย่างน้อยที่สุดปัญหาต่างๆ ที่นับมาต้องเห็นแนวทางแก้ไขไม่ฟังแล้วทิ้งแน่นอน
“พริษฐ์” แย้มนัดถกทำประชามติ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ชี้ชะตากรรม แก้รธน.ฉบับใหม่พรุ่งนี้
https://siamrath.co.th/n/589277
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.67 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชึรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน X ทวิตเตอร์
[ ประชามติ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง - พรุ่งนี้มีนัดประชุมสำคัญ ]
.
พรุ่งนี้เช้า ผมขออภัยที่ผมไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมรับสมัครนายก อบจ. ที่พรรคประชาชนมีการส่งผู้สมัครเกือบ 20 จังหวัดทั่วประเทศ เพราะผมมีติดนัดประชุมสำคัญที่จะส่งผลต่อชะตากรรมของการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
พรุ่งนี้ 10.30 น. ที่ห้อง CA408 อาคารรัฐสภา ทางคณะกรรมการของประธานรัฐสภาได้เชิญให้ผมไปชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการเสนอความเห็นให้ประธานรัฐสภาวินิจฉัยว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องทำประชามติ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อความเป็นไปได้ในการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันก่อนการเลือกตั้งครั้งถัดไป
.
ทั้งนี้ ผมได้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานทั้งหมด 5 ชุดที่ผมเห็นว่าเป็นการยืนยันว่าการทำประชามติ 2 ครั้งนั้นเพียงพอและสอดคล้องกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ดังต่อไปนี้
.
1. คำวินิจฉัยกลาง ศาล รธน. 4/2564
2. คำวินิจฉัยส่วนตน ของตุลาการ ศาล รธน. 9 คน 4/2564
3. แผนผังสรุปคำวินิจฉัยศาล รธน. 4/2564 ที่จัดทำโดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ
4. ความเห็นอย่างเป็นทางการของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ (เช่น ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ / รศ.ดร.ณรงค์เดช สรุโฆษิต)
5. ผลการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่าง กมธ. พัฒนาการเมืองฯ กับประธาน ศาล รธน. เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2567
.
แม้ทางคณะกรรมการชุดนี้เคยวินิจฉัยเมื่อตอนต้นปีว่าต้องทำประชามติ 3 ครั้ง
- แต่ ณ วันนั้น ทางคณะกรรมการได้วินิจฉัยจากการวิเคราะห์ข้อมูลในเอกสาร #1 เพียงอย่างเดียว
- ในขณะที่วันนี้ ทางคณะกรรมการจะได้เข้าถึงข้อมูลในเอกสาร #2 - #5 เพื่อประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม
.
นอกจากนั้น ผมต้องขอขอบคุณบุคคลสำคัญอีก 3 ท่าน ที่จะมาร่วมชี้แจงและยืนยันเรื่องแนวทางการทำประชามติ 2 ครั้งในที่ประชุมกับคณะกรรมการในวันพรุ่งนี้
.
1. ชูศักดิ์ ศิรินิล (รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี)
2. พงศ์เทพ เทพกาญจนา (ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี)
3. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล (คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ← เข้าร่วมออนไลน์
.
มารอลุ้นผลการประชุมกันครับ
https://x.com/paritw92/status/1870790560778526855
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ชวาล ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4966443
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา ‘ชวาล’ ส.ส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา นายชวาล พลเมืองดี ส.ส.พรรคประชาชน เขต 3 จ.ชลบุรี กรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 นายชวาลกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 67 และมาตรา 155 คือจงใจยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง
ทั้งนี้ คำวินิจฉัยระบุว่า จากการตรวจสอบบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของนายชวาล พบว่านายชวาลได้แจ้งต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรีระบุค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งระหว่างวันที่ 20 มี.ค.66-15 พ.ค.66 ผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ชวาล พลเมืองดี จำนวน 6,000 บาทในหมวด “ค่าโฆษณาในสื่อต่างๆ” แต่จากการไต่สวนได้ความว่า นายชวาลมีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซึ่งเป็นค่าโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 9,347.51 บาท โดยพยานคนที่ 1 และคนที่ 2 ของนายชวาล ซึ่งเป็นอาสาสมัครและผู้ช่วยหาเสียงทำการโฆษณาหาเสียงผ่านทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวให้ถ้อยคำถึงสาเหตุที่ไม่ได้แจ้งค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่นายชวาลว่าเกิดจากความหลงลืม และไม่ปรากฏว่านายชวาลได้ติดตามทวงถามถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จากพยานทั้ง 2 คน
ประกอบกับเมื่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดชลบุรี ติดต่อให้นายชวาลดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขจำนวนค่าใช้จ่ายในรายการอื่นๆ ก็ไม่พบว่านายชวาลได้แจ้งค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเพิ่มเติม กระทั่งถูกแจ้งข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ จากการไต่สวนยังรับฟังได้ว่า วันที่ 4 เม.ย.66 นายชวาลได้แจ้งการหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ พรรคก้าวไกล ชลบุรี – Move Forward Party Chonburi ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี โดยโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทั้งสิ้น 5 แคมเปญ มีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเป็นเงิน จำนวน 5,512.46 บาท แต่นายชวาลไม่ได้นำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มารวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง อ้างว่าไม่ทราบถึงค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งดังกล่าว
โดยพยานคนที่ 1 ของนายชวาล ซึ่งเป็นผู้ดูแลการโพสต์และเผยแพร่นโยบายของผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดชลบุรีของพรรคให้ถ้อยคำว่า สาเหตุที่ไม่ได้แจ้งค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่นายชวาล เพราะหลงลืม และไม่ปรากฏว่านายชวาลและติดตามทวงถาม
ทั้งสองกรณี กกต.จึงเห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านายชวาลจงใจยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง ตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 67 กำหนดให้ภายใน 90 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ผู้สมัครแต่ละคนและหัวหน้าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อ กกต. ตามแบบที่ กกต.กำหนด หากฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 155 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี.
เปิดเส้นทาง พายุดีเปรสชัน กรมอุตุฯเตือน ฉบับ1 เหนือตอนล่าง-อีสาน-กทม. เตรียมรับมือ ภาคใต้ มีฝนเพิ่ม
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9559116
เปิดเส้นทาง พายุดีเปรสชัน กรมอุตุฯเตือน ฉบับ1 เหนือตอนล่าง-อีสาน-กทม. เตรียมรับมือ ภาคใต้ มีฝนเพิ่ม หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
วันที่ 22 ธ.ค.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ฉบับที่ 1 (343/2567) โดยระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 10.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 24–25 ธ.ค. 67 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ
ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 25–26 ธ.ค. 67 มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีฝนเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 23.00 น.