วิป 3 ฝ่าย เคาะเปิดสภาสมัยวิสามัญ 18-21 มิ.ย. ถกกม.ประชามติ-งบ 68
https://www.matichon.co.th/politics/news_4580627
วิป 3 ฝ่าย เคาะเปิดสภาสมัยวิสามัญ 18-21 มิ.ย. ถกกม.ประชามติ-งบ 68
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม และมีตัวแทนจาก 3 เข้าร่วมประชุม อาทิ นาง
มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ว่าที่ ร.ต.ต.
อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภา เป็นต้น เพื่อกำหนดกรอบระยะวันและเวลาเปิดประชุมสภาวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และร่าง พ.ร.บ.ประชามติ แก้ไขเพิ่มเติม โดยที่ประชุมใช้เวลาประมาณ 40 นาที
จากนั้นเวลา 10.10 น. นาย
วิสุทธิ์เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าในวันที่ 18 มิ.ย. จะมีประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งเชื่อว่าฉบับของรัฐบาลจะเสนอทันในการประชุมวันดังกล่าว แต่ถ้าร่างของรัฐบาลไม่เสร็จเราจะพิจารณาร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาจบในเวลา 16.00 น. ส่วนระหว่างวันที่ 19-21 มิ.ย. จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบปี 68 โดยเริ่มประชุมเวลา 09.00-22.00 น. สำหรับวันที่ 21 มิ.ย. เป็นวันสุดท้ายอาจประชุมถึงเวลา 24.00 น.
นาย
วิสุทธิ์กล่าวอีกว่า ที่ประชุมแบ่งเวลาการอภิปรายให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝ่ายละ 20 ชั่วโมง และให้เวลาประธาน 1 ชั่วโมง เพื่อที่ประชาชนจะได้ติดตามการอภิปรายงบปี 68 ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับพรรคเพื่อไทยเตรียมการมาอย่างดี เรามีทีมวิชาการสนับสนุนข้อมูลให้แก่ ส.ส. และในส่วนรัฐบาลก็มีการเตรียมความพร้อมที่ดีมากเช่นกัน
ขณะที่นาย
ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เกือบเดือนแล้วที่พรรคก้าวไกลได้เตรียมการอภิปรายงบปี 68 ขณะนี้อยู่ระหว่างแต่ละกลุ่มประเด็น ช่วยกันจับประเด็นในการอภิปราย ซึ่งจะแตกต่างจากการอภิปรายในปีก่อนๆ ครั้งนี้มีนาย
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามงบประมาณ สภา ได้ขอข้อมูลงบประมาณทั้งหมดจากทุกหน่วยงาน โดยครั้งนี้พรรคจะพยายามทำในลักษณะว่าถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลจะจัดงบแบบใด ซึ่งเราจะเห็นว่าแต่ละหน่วยงานยื่นคำขออย่างไรบ้าง และสุดท้ายเมื่อได้ร่างงบปี 68 ตัวจริงมา เราจะเห็นว่าสำนักงบประมาณและฝ่ายบริหารได้อนุมัติงบประมาณใดมาบ้าง
“
สิ่งที่อยากทำคือ มีรายการใดหรือไม่ที่หน่วยงานขอไปแล้วมีประโยชน์แต่สำนักงบกลับไม่อนุมัติ หรือมีอะไรในร่างงบปี 68 ที่มีประโยชน์น้อย ไม่มีประสิทธิภาพ แต่สำนักงบอาจจะอนุมัติ หรือมีโครงการใดที่มองว่าความจริงแล้วน่าจะเกิดโครงการนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่กลับไม่มีคำของบจากทั้งหน่วยงานมาตั้งแต่ต้น ดังนั้น พรรคจะพยายามสวมบทบาทว่าถ้าเราเป็นรัฐบาลจริง จะเข้าไปขุดลึกทั้งระบบของงบประมาณประเทศ ว่าส่วนใดควรปรับปรุง และถ้าเราเป็นรัฐบาลแล้วเห็นคำขอเช่นนี้จะจัดงบประมาณแบบใด” ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าว
เมื่อถามว่าขณะนี้พรรคก้าวไกลมีผู้แสดงความจำนงในการอภิปรายงบปี 68 ประมาณ 20-30 คนหรือไม่ นาย
ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ยังบอกไม่ได้ เพราะคนที่สนใจจริงๆ มีประมาณ 50-60 คน เหมือนการอภิปรายงบปี 67 โดยเราจะใช้วิธีการทำงานร่วมกันมากกว่า เพราะต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมโดยไม่จำเป็นต้องอภิปราย
เมื่อถามต่อว่าประมาณต้นเดือน มิ.ย.ศาลจะตัดสินคดียุบพรรคของพรรคก้าวไกล ตอนนี้กำลังใจยังดีอยู่หรือไม่ นาย
ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่กระทบกำลังใจ แต่จะมีเรื่องทรัพยากรบุคคลในการทำงานบ้าง ซึ่งต้องเข้าใจว่าต้องมีฝ่ายที่ต้องเตรียมการเรื่องนี้ จึงอาจจะมีการสูญเสียบุคลากรบางส่วนไปทำเรื่องคดี มั่นใจกำลังใจเต็มเปี่ยม เต็มร้อย
ไล่โทนี่ไม่เอาสีส้ม จัดฉากสร้างสถานการณ์รัฐประหารไม่ง่าย ทุนใหญ่วิ่งเข้าจันทร์ส่องหล้า
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4579994
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ รศ.ดร.
ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ย้ำมีกลิ่นรัฐประหารจริง แต่ต้องเริ่มมาจากการสร้างสถานการณ์ แต่ใครจะกล้าจ่าย 1,400 ล้านบาท เพื่อยึดอำนาจ ยุคนี้ชั่วโมงนี้มองไม่เห็นว่าใครจะเป็นเจ้าภาพ วันนี้นายทุนใหญ่รายงานตัวบ้านจันทร์ส่องหล้าหมดแล้ว เพราะนายทุนต้องเกาะคนที่มีอำนาจ สีส้มสู้ทุกสนาม เล่นตามกติกา ไม่เรียกทหารออกมา ชื่นชมจุดยืนชัดเจน
ไทยสมายล์บัส โอดเส้นทางเดินรถทับซ้อน สูญเดือนละ 60 ล้าน ชง 4 ข้อวอนรัฐแก้ปัญหา
https://www.matichon.co.th/economy/news_4580739
ไทยสมายล์บัส โอดเส้นทางเดินรถทับซ้อน สูญเดือนละ 60 ล้าน ชง 4 ข้อวอนรัฐแก้ปัญหา
น.ส.
กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าอีวี เปิดเผยว่า ไทยสมายส์บัส กำลังได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของภาครัฐที่เป็นผู้กำกับดูแลขนส่งสาธารณะ พบว่าผู้ประกอบการเดินรถรายเดิมยังคงวิ่งให้บริการทับซ้อน แย่งลูกค้า รวมกว่า 70 เส้นทาง ส่งผลให้รายได้ของ บริษัทฯลดลงกว่า 60 ล้านบาทต่อเดือน
จึงขอเสนอแนวทาง 4 ข้อเพื่อหวังปฏิรูปวงการขนส่งสาธารณะและไทยแก้ไขปัญหาทั้งระบบ คือ
1. แก้ไขกฎระเบียบที่ยังไม่เอื้อต่อการเดินรถ
2. เร่งแก้ไขปัญหาเส้นทางทับซ้อนและรถเถื่อน
3. ขอให้เร่งสรุปความชัดเจนเลขสายใหม่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
และ 4. ขอให้ร่วมบูรณาการยกระดับรถเมล์ทั้งระบบ โดยเฉพาะด้านบุคลากร
“
ไทยสมายส์บัส คาดหวังที่จะเปิดเส้นทางวิ่งรถเมล์ไฟฟ้าในกรุงเทพฯเชื่อมต่อกับทางเขตปริมณฑลมากขึ้นและมีแผนที่จะเพิ่มเส้นทางในเขตต่างจังหวัด โดยทีมผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะยกระดับ ไทยสมายส์บัส ให้เป็นขนส่งสาธารณะอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่นำเทรนรถเมล์พลังงานสะอาด”น.ส.
กุลพรภัสร์กล่าว
JJNY : เคาะเปิดสภาสมัยวิสามัญ│จัดฉากสถานการณ์รัฐประหารไม่ง่าย│โอดเส้นทางเดินรถทับซ้อน│น้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือปฎิเสธข่าว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4580627
วิป 3 ฝ่าย เคาะเปิดสภาสมัยวิสามัญ 18-21 มิ.ย. ถกกม.ประชามติ-งบ 68
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม และมีตัวแทนจาก 3 เข้าร่วมประชุม อาทิ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภา เป็นต้น เพื่อกำหนดกรอบระยะวันและเวลาเปิดประชุมสภาวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 และร่าง พ.ร.บ.ประชามติ แก้ไขเพิ่มเติม โดยที่ประชุมใช้เวลาประมาณ 40 นาที
จากนั้นเวลา 10.10 น. นายวิสุทธิ์เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าในวันที่ 18 มิ.ย. จะมีประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งเชื่อว่าฉบับของรัฐบาลจะเสนอทันในการประชุมวันดังกล่าว แต่ถ้าร่างของรัฐบาลไม่เสร็จเราจะพิจารณาร่างของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาจบในเวลา 16.00 น. ส่วนระหว่างวันที่ 19-21 มิ.ย. จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบปี 68 โดยเริ่มประชุมเวลา 09.00-22.00 น. สำหรับวันที่ 21 มิ.ย. เป็นวันสุดท้ายอาจประชุมถึงเวลา 24.00 น.
นายวิสุทธิ์กล่าวอีกว่า ที่ประชุมแบ่งเวลาการอภิปรายให้ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ฝ่ายละ 20 ชั่วโมง และให้เวลาประธาน 1 ชั่วโมง เพื่อที่ประชาชนจะได้ติดตามการอภิปรายงบปี 68 ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับพรรคเพื่อไทยเตรียมการมาอย่างดี เรามีทีมวิชาการสนับสนุนข้อมูลให้แก่ ส.ส. และในส่วนรัฐบาลก็มีการเตรียมความพร้อมที่ดีมากเช่นกัน
ขณะที่นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เกือบเดือนแล้วที่พรรคก้าวไกลได้เตรียมการอภิปรายงบปี 68 ขณะนี้อยู่ระหว่างแต่ละกลุ่มประเด็น ช่วยกันจับประเด็นในการอภิปราย ซึ่งจะแตกต่างจากการอภิปรายในปีก่อนๆ ครั้งนี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามงบประมาณ สภา ได้ขอข้อมูลงบประมาณทั้งหมดจากทุกหน่วยงาน โดยครั้งนี้พรรคจะพยายามทำในลักษณะว่าถ้าพรรคได้เป็นรัฐบาลจะจัดงบแบบใด ซึ่งเราจะเห็นว่าแต่ละหน่วยงานยื่นคำขออย่างไรบ้าง และสุดท้ายเมื่อได้ร่างงบปี 68 ตัวจริงมา เราจะเห็นว่าสำนักงบประมาณและฝ่ายบริหารได้อนุมัติงบประมาณใดมาบ้าง
“สิ่งที่อยากทำคือ มีรายการใดหรือไม่ที่หน่วยงานขอไปแล้วมีประโยชน์แต่สำนักงบกลับไม่อนุมัติ หรือมีอะไรในร่างงบปี 68 ที่มีประโยชน์น้อย ไม่มีประสิทธิภาพ แต่สำนักงบอาจจะอนุมัติ หรือมีโครงการใดที่มองว่าความจริงแล้วน่าจะเกิดโครงการนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่กลับไม่มีคำของบจากทั้งหน่วยงานมาตั้งแต่ต้น ดังนั้น พรรคจะพยายามสวมบทบาทว่าถ้าเราเป็นรัฐบาลจริง จะเข้าไปขุดลึกทั้งระบบของงบประมาณประเทศ ว่าส่วนใดควรปรับปรุง และถ้าเราเป็นรัฐบาลแล้วเห็นคำขอเช่นนี้จะจัดงบประมาณแบบใด” ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าว
เมื่อถามว่าขณะนี้พรรคก้าวไกลมีผู้แสดงความจำนงในการอภิปรายงบปี 68 ประมาณ 20-30 คนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ยังบอกไม่ได้ เพราะคนที่สนใจจริงๆ มีประมาณ 50-60 คน เหมือนการอภิปรายงบปี 67 โดยเราจะใช้วิธีการทำงานร่วมกันมากกว่า เพราะต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมโดยไม่จำเป็นต้องอภิปราย
เมื่อถามต่อว่าประมาณต้นเดือน มิ.ย.ศาลจะตัดสินคดียุบพรรคของพรรคก้าวไกล ตอนนี้กำลังใจยังดีอยู่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่กระทบกำลังใจ แต่จะมีเรื่องทรัพยากรบุคคลในการทำงานบ้าง ซึ่งต้องเข้าใจว่าต้องมีฝ่ายที่ต้องเตรียมการเรื่องนี้ จึงอาจจะมีการสูญเสียบุคลากรบางส่วนไปทำเรื่องคดี มั่นใจกำลังใจเต็มเปี่ยม เต็มร้อย
ไล่โทนี่ไม่เอาสีส้ม จัดฉากสร้างสถานการณ์รัฐประหารไม่ง่าย ทุนใหญ่วิ่งเข้าจันทร์ส่องหล้า
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4579994
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ย้ำมีกลิ่นรัฐประหารจริง แต่ต้องเริ่มมาจากการสร้างสถานการณ์ แต่ใครจะกล้าจ่าย 1,400 ล้านบาท เพื่อยึดอำนาจ ยุคนี้ชั่วโมงนี้มองไม่เห็นว่าใครจะเป็นเจ้าภาพ วันนี้นายทุนใหญ่รายงานตัวบ้านจันทร์ส่องหล้าหมดแล้ว เพราะนายทุนต้องเกาะคนที่มีอำนาจ สีส้มสู้ทุกสนาม เล่นตามกติกา ไม่เรียกทหารออกมา ชื่นชมจุดยืนชัดเจน
ไทยสมายล์บัส โอดเส้นทางเดินรถทับซ้อน สูญเดือนละ 60 ล้าน ชง 4 ข้อวอนรัฐแก้ปัญหา
https://www.matichon.co.th/economy/news_4580739
ไทยสมายล์บัส โอดเส้นทางเดินรถทับซ้อน สูญเดือนละ 60 ล้าน ชง 4 ข้อวอนรัฐแก้ปัญหา
น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าอีวี เปิดเผยว่า ไทยสมายส์บัส กำลังได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของภาครัฐที่เป็นผู้กำกับดูแลขนส่งสาธารณะ พบว่าผู้ประกอบการเดินรถรายเดิมยังคงวิ่งให้บริการทับซ้อน แย่งลูกค้า รวมกว่า 70 เส้นทาง ส่งผลให้รายได้ของ บริษัทฯลดลงกว่า 60 ล้านบาทต่อเดือน
จึงขอเสนอแนวทาง 4 ข้อเพื่อหวังปฏิรูปวงการขนส่งสาธารณะและไทยแก้ไขปัญหาทั้งระบบ คือ
1. แก้ไขกฎระเบียบที่ยังไม่เอื้อต่อการเดินรถ
2. เร่งแก้ไขปัญหาเส้นทางทับซ้อนและรถเถื่อน
3. ขอให้เร่งสรุปความชัดเจนเลขสายใหม่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
และ 4. ขอให้ร่วมบูรณาการยกระดับรถเมล์ทั้งระบบ โดยเฉพาะด้านบุคลากร
“ไทยสมายส์บัส คาดหวังที่จะเปิดเส้นทางวิ่งรถเมล์ไฟฟ้าในกรุงเทพฯเชื่อมต่อกับทางเขตปริมณฑลมากขึ้นและมีแผนที่จะเพิ่มเส้นทางในเขตต่างจังหวัด โดยทีมผู้บริหารมุ่งมั่นที่จะยกระดับ ไทยสมายส์บัส ให้เป็นขนส่งสาธารณะอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่นำเทรนรถเมล์พลังงานสะอาด”น.ส.กุลพรภัสร์กล่าว