ส.ส.ก้าวไกล ฉะ รัฐเร่งรีบขนย้ายกากแคดเมียม ไร้ความพร้อม โซ่ขาด จี้ทบทวนแผนด่วน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4552880
“คริษฐ์” ฉะรัฐเร่งรีบขนย้ายกากแคดเมียม ไร้ความพร้อม บอกทดสอบมาดีแต่สุดท้ายโซ่ขาด ชี้ ยิ่งทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ จี้ทบทวนแผนด่วน
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2567 นาย
คริษฐ์ ปานเนียม ส.ส.ตาก พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระบวนการขนย้ายกากแคดเมียมจากจังหวัดต่างๆ กลับไปที่ จ.ตาก ซึ่งเช้าวันนี้ขบวนรถบรรทุกพ่วงชุดแรกไปถึงที่หมายแล้ว แต่เพิ่งเกิดเหตุโซ่ขาดระหว่างการทดลองลำเลียงถุงบิ๊กแบ๊กว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่ากังวล สะท้อนว่าภาครัฐเร่งรีบขนย้ายทั้งที่ไม่มีความพร้อมอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นโรงพักคอยที่ไม่ได้มาตรฐาน การลำเลียงที่ไม่ได้คิดมาอย่างรอบคอบ แทนที่จะทดลองลำเลียงด้วยวิธีอื่น กลับทดลองด้วยกากแคดเมียมจริง
“
ก่อนหน้านี้รัฐรับปาก ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่ามีการทดสอบมาอย่างดี แต่พอถึงคราวทำจริง กลับเห็นแต่ความหละหลวม รัฐมนตรีสั่งการรีบเร่ง คณะทำงานก็เออออ ปราศจากการบีบบังคับให้โรงงานเตรียมความพร้อมด้วยมาตรการสูงสุด นี่คือการสุกเอาเผากินบนความเดือดร้อนของประชาชนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง” นาย
คริษฐ์กล่าว
นาย
คริษฐ์กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเคยเตือนแล้วให้เข้มงวดกับกระบวนการขนย้ายกลับและปรับปรุงโรงพักคอยให้สมบูรณ์ก่อนดำเนินการขนย้าย แต่รัฐไม่รับฟัง ในที่สุดความผิดพลาดก็เกิดขึ้นจริงๆ ดังนั้นหลังจากนี้ขอให้ภาครัฐเร่งทบทวนแผนการขนย้าย กวดขันเรื่องความปลอดภัย ปรับสภาพโรงพักคอยและบ่อฝังกลบให้ได้มาตรฐาน อย่าให้เรื่องเช่นนี้เกิดซ้ำ เพราะจะยิ่งทำให้ประชาชนหมดความไว้วางใจ หากเป็นเช่นนั้น การทำงานของรัฐที่ไม่ราบรื่นอยู่แล้ว จะยิ่งดำเนินการได้ยากกว่าเดิม
เซีย บี้พิพัฒน์ ชัดเจนขึ้นค่าแรง ในวันแรงงาน หยุดลมๆแล้งๆให้ความหวัง กระทบคนทำงาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4553203
“เซีย” หวัง “พิพัฒน์” ชัดเจนเรื่องขึ้นค่าแรงในวันแรงงาน หยุดให้ความหวังลมๆแล้งๆ กระทบคนทำงาน หลังพบบางโรงงานไม่เปิดให้ทำโอที พร้อมหวังหนุนร่างสหภาพแรงงาน รับรองสิทธิรวมตัวเจรจาต่อรอง
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 นาย
เซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความชัดเจนของรัฐบาลต่อการขับเคลื่อนนโยบายแรงงาน ก่อนถึงวันแรงงานสากลในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ว่า นายกฯเคยแถลงว่า จะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำโดยเร็วที่สุด และในปีนี้ นาย
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็รับลูกว่า จะพิจารณาปรับค่าแรงเป็น 400 บาทต่อวัน ตนในฐานะ ส.ส. กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ก็มีความหวังอย่างมากว่าจะมีการปรับตามที่นายกฯ แถลงไว้
นาย
เซีย กล่าวว่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพูดในหลายเวทีและให้ความหวังว่าจะปรับขึ้นค่าแรงในวันที่ 1 มกราคม 2567 แต่เมื่อเสนอเรื่องดังกล่าวเข้า ครม. นายกฯ กลับให้มาทบทวนใหม่ และมีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการไตรภาคียืนยันว่าจะปรับขึ้นค่าแรง 2-16 บาท นายกฯ ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกฯ เคยให้สัมภาษณ์ว่าขึ้นเพียงเท่านี้ ไม่พอซื้อไข่ไก่ด้วยซ้ำ
จากนั้นก็มีกระแสข่าวอีกครั้ง โดยปรับขึ้น 400 บาท ใน 10 จังหวัด เงื่อนไขคือปรับขึ้นในโรงแรมระดับ 4 ดาวและมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ใน 10 จังหวัดนั้นก็มีเพียงภูเก็ตที่ปรับขึ้นเต็มทุกพื้นที่ ขณะที่กรุงเทพฯ ปรับขึ้นเพียง 3 เขต หรือจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ก็ปรับขึ้นเฉพาะเกาะสมุยเท่านั้น การปรับขึ้นเป็นจุดๆ แบบนี้ ทำให้การตรวจสอบทำได้ยากกว่าการปรับขึ้นทั้งจังหวัด
นาย
เซีย กล่าวว่า ตนจึงต้องการเห็นความชัดเจนของรัฐบาล และกระทรวงแรงงาน ว่าจะมีมาตรการหรือวิธีการอย่างไรในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำตามที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหาเสียงไว้ที่ 600 บาทต่อวันภายในปี 2570 โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ รมว.แรงงาน กล่าวว่าจะพิจารณาปรับค่าแรงในวันที่ 1 พฤษภาคม ตนก็รอดูและหวังว่าจะไม่ใช่การให้ความหวังลมๆ แล้งๆ แบบที่ผ่านมาอีก อย่างไรก็ตาม ตนสงสัยว่าหากทำได้รัฐบาลจะอ้างเป็นผลงานของตน แต่หากทำไม่ได้ จะโยนบาปให้คณะกรรมการไตรภาคีอีกหรือไม่
นาย
เซียกล่าวว่า ขณะนี้ผลกระทบจากความไม่ชัดเจนไม่แน่นอนทำให้สถานประกอบการหลายแห่งเกิดความกังวล ตนได้พูดคุยกับแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมในสมุทรปราการบางแห่ง ทราบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่เปิดให้ทำโอที เนื่องจากความไม่แน่นอนในการปรับขึ้นค่าแรง ดังนั้นรัฐบาลควรชัดเจนเสียที ทั้งการขึ้นค่าแรงและการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่ม SME ซึ่งที่ผ่านมาตนและพรรคก้าวไกลเสนอมาตลอดว่าการขึ้นค่าแรงต้องมาพร้อมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ
นอกจากนี้รัฐบาลและกระทรวงแรงงานต้องทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะประเด็นคุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงานในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมในบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งซึ่งรับงานประมูลจากรัฐ เช่น อิตาเลียนไทย ปัจจุบันยังค้างจ่ายค่าจ้างแรงงาน รวมถึงเรื่องขยะอุตสาหกรรม เช่นกรณีกากแคดเมียม ไฟไหม้โรงงานวินโพรเสส ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของคุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงานที่รัฐบาลต้องดำเนินการโดยด่วน
นาย
เซีย กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมทำกิจกรรมวันแรงงานสากลในวันพรุ่งนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและ สส. จะร่วมเดินขบวนรณรงค์ เน้นที่กฎหมาย 2 ฉบับของพรรค คือร่างกฎหมายลาคลอด 180 วัน ที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการ และร่างกฎหมายสหภาพแรงงาน ที่คาดว่าสภาฯ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นเร็ว ๆ นี้ พรรคก้าวไกลเชื่อว่าหากกฎหมายเหล่านี้มีผลบังคับใช้ จะส่งผลดีต่อประชาชนอย่างมาก ทำให้ประเทศไทยอยู่ภายใต้อนุสัญญา ILO แรงงานมีสิทธิรวมตัวและเจรจาต่อรอง จึงฝากไปถึงพรรครัฐบาลที่เคยให้คำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงว่าจะส่งเสริมสิทธิของพี่น้องแรงงาน วันนี้เป็นรัฐบาลแล้ว ขอให้ร่วมผลักดันเรื่องดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริง
สมชัย ซัดระเบียบ กกต. เลือก สว.ออกได้เฮงซวยสุด ทำรู้จักผู้สมัครน้อย หวั่นเป็นการเลือกในที่มืด
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_8209825
สมชัย ซัดระเบียบ กกต. เลือก สว.ออกได้เฮงซวยสุด ทำรู้จักผู้สมัครน้อย หวั่นเป็นการเลือกในที่มืด เตือนผู้สมัคร-สื่อ ถ้ากฤษฎีกาออกแล้วห้ามให้สัมภาษณ์
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.67 ที่อาคารข่าวสด นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวในงานเปิดตัวแคมเปญ “
มติชน : สว.ชุดใหม่ Thailand-Select” ถึงระเบียบของการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ว่า
สิ่งต่างๆ ที่เราอึดอัดกับ กกต.เกี่ยวกับกติกาการเลือก สว.นั้น ต้องขอแก้ตัวแทนกกต.ว่า ไม่ใช่ เพราะกกต.เองก็ทำงานภายใต้กฎหมายต่างๆ ทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ต่างๆ รวมไปถึงระเบียบต่างๆ ถ้าพูดถึงแบบฟอร์ม สว.3 จะเป็นตัวที่มีความสำคัญ เพราะจะเป็นการแนะนำตัวเราเอง เพราะแบบฟอร์มนี้จะถูกนำเอาไปใช้เผยแพร่ให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน ดังนั้นจำเป็นต้องเรียบเรียงให้ดีเพื่อให้ผู้สมัคร สว.อื่นได้ทำความเข้าใจในการตัดสินใจเลือกเรา
นาย
สมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนการออกระเบียบแนะนำตัวนั้น ขอบอกว่าเป็นการออกระเบียบได้เฮงซวยมาก ทั้งที่มีเวลานานในการออกก็ตาม แต่ออกมาเพียงแค่ 3 หน้าเอง ซึ่งวันเปิดรับสมัครนั้นคาดว่าเป็นปลายเดือนพ.ค.67 แล้วใช้เวลา 5-7 วัน โดยระหว่างการเปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่ กกต.จะเปิดเผยผู้สมัครหรือรายชื่อผู้สมัครในแต่ละวันไม่ได้ และอยากให้ดูระเบียบให้ดีในข้อ 11 ที่ต้องระวัง
ถ้าวันที่ 11 หรือ 12 พ.ค.ที่จะออกกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. ผู้สมัครนั้นต้องศึกษาให้ดี อย่างใครทำอาชีพสื่อเป็นพิธีกรก็จะไปออกหน้าสื่อไม่ได้แล้ว คือไม่สามารถใช้อาชีพตัวเอง เพื่อเป็นการแนะนำตัว และห้ามผู้สมัครให้สัมภาษณ์สื่อ และสื่อห้ามไปสัมภาษณ์ผู้สมัคร
ฉะนั้นแล้วตนมองว่าระเบียบนี้เป็นระเบียบที่ออกได้แย่มาก ทำให้ผู้สมัคร สว.ไม่มีโอกาสได้รู้จักกันเลย แล้วจะเป็นการรู้จักกันและเลือกสว.ในที่มืด ดังนั้นแล้วเราจะได้ สว.อย่างไรนั่นลองไปคิดกันเอง
โตโยต้า ชี้กำลังซื้อเปราะบาง-แบงก์เข้มสินเชื่อ ฉุดยอดขายรถร่วง 29.8%
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/397896
โตโยต้า เผยกำลังซื้อเปราะบาง แบงก์เข้มสินเชื่อ ฉุดยอดขายรถในประเทศร่วง 29.8%
นาย
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม มีปริมาณการขาย 56,099 คัน ลดลงถึง 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้กำลังซื้อยังคงจำกัด และควบคู่ไปกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน
โดยตลาดรถยนต์นั่ง เติบโตลดลง 25.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เติบโตลดลง 32.6% ขณะที่รถ HEV มียอดขาย 12,689 คัน เพิ่มขึ้น 68.9% ดันตลาดรถ xEV โตขึ้น 19.5% ส่วนรถ BEV มียอดขายอยู่ที่ 5,167 คัน เติบโตลดลง 25.6% และ PHEV ยอดขาย 897 คันเติบโตลดลง 27.1% ส่วนในเดือนเมษายน มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว และการเริ่มส่งมอบรถยนต์ใหม่ ที่จองในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์
ขณะที่วันนี้ (30 เม.ย.) คณะศิษย์หลวงตาพระ
มหาบัว ญาณสัมปันโน ได้มอบทองคำเข้าสู่คลังหลวงอีกครั้ง จำนวน 1 แท่ง น้ำหนักประมาณ 12 กิโลกรัม โดยผู้ว่าการแบงก์ชาติได้เดินทางไปรับด้วยตัวเอง ที่ สวนแสงธรรม พุทธมงคลสาย 3 เพื่อนำเข้าเก็บไว้ในบัญชีสำรองพิเศษของทุนสำรองเงินตรา ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 คณะศิษย์หลวงตาพระ
มหาบัว ได้มอบทองคำเข้าคลังหลวงต่อเนื่องทุกปี รวมแล้วกว่า 13.11 ตัน
ขณะเดียวกันวันนี้ แบงก์ชาติ ได้ออกมาเตือนการขายบิลค่าน้ำ-ค่าไฟ แลกวงเงินสินเชื่อในแแอปฯ ช้อปปิ้ง เสี่ยงถูกเบี้ยว อาจไม่ได้รับเงินสดจริงตามที่ตกลง ย้ำไม่สนับสนุน และไม่ควรทำ ล่าสุดแบงก์ชาติได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงหารือกับ Shopee เพื่อให้ดูแลลูกค้าแล้ว
JJNY : 6in1 ก้าวไกลฉะรัฐ│เซียบี้พิพัฒน์│สมชัยซัดระเบียบกกต.│ยอดขายรถร่วง 29.8%│ฝนถล่มหนักฉางซา│เมียนมาเจอเมษาร้อนสุด56ปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_4552880
“คริษฐ์” ฉะรัฐเร่งรีบขนย้ายกากแคดเมียม ไร้ความพร้อม บอกทดสอบมาดีแต่สุดท้ายโซ่ขาด ชี้ ยิ่งทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ จี้ทบทวนแผนด่วน
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2567 นายคริษฐ์ ปานเนียม ส.ส.ตาก พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระบวนการขนย้ายกากแคดเมียมจากจังหวัดต่างๆ กลับไปที่ จ.ตาก ซึ่งเช้าวันนี้ขบวนรถบรรทุกพ่วงชุดแรกไปถึงที่หมายแล้ว แต่เพิ่งเกิดเหตุโซ่ขาดระหว่างการทดลองลำเลียงถุงบิ๊กแบ๊กว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่ากังวล สะท้อนว่าภาครัฐเร่งรีบขนย้ายทั้งที่ไม่มีความพร้อมอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นโรงพักคอยที่ไม่ได้มาตรฐาน การลำเลียงที่ไม่ได้คิดมาอย่างรอบคอบ แทนที่จะทดลองลำเลียงด้วยวิธีอื่น กลับทดลองด้วยกากแคดเมียมจริง
“ก่อนหน้านี้รัฐรับปาก ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่ามีการทดสอบมาอย่างดี แต่พอถึงคราวทำจริง กลับเห็นแต่ความหละหลวม รัฐมนตรีสั่งการรีบเร่ง คณะทำงานก็เออออ ปราศจากการบีบบังคับให้โรงงานเตรียมความพร้อมด้วยมาตรการสูงสุด นี่คือการสุกเอาเผากินบนความเดือดร้อนของประชาชนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง” นายคริษฐ์กล่าว
นายคริษฐ์กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเคยเตือนแล้วให้เข้มงวดกับกระบวนการขนย้ายกลับและปรับปรุงโรงพักคอยให้สมบูรณ์ก่อนดำเนินการขนย้าย แต่รัฐไม่รับฟัง ในที่สุดความผิดพลาดก็เกิดขึ้นจริงๆ ดังนั้นหลังจากนี้ขอให้ภาครัฐเร่งทบทวนแผนการขนย้าย กวดขันเรื่องความปลอดภัย ปรับสภาพโรงพักคอยและบ่อฝังกลบให้ได้มาตรฐาน อย่าให้เรื่องเช่นนี้เกิดซ้ำ เพราะจะยิ่งทำให้ประชาชนหมดความไว้วางใจ หากเป็นเช่นนั้น การทำงานของรัฐที่ไม่ราบรื่นอยู่แล้ว จะยิ่งดำเนินการได้ยากกว่าเดิม
เซีย บี้พิพัฒน์ ชัดเจนขึ้นค่าแรง ในวันแรงงาน หยุดลมๆแล้งๆให้ความหวัง กระทบคนทำงาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4553203
“เซีย” หวัง “พิพัฒน์” ชัดเจนเรื่องขึ้นค่าแรงในวันแรงงาน หยุดให้ความหวังลมๆแล้งๆ กระทบคนทำงาน หลังพบบางโรงงานไม่เปิดให้ทำโอที พร้อมหวังหนุนร่างสหภาพแรงงาน รับรองสิทธิรวมตัวเจรจาต่อรอง
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความชัดเจนของรัฐบาลต่อการขับเคลื่อนนโยบายแรงงาน ก่อนถึงวันแรงงานสากลในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ว่า นายกฯเคยแถลงว่า จะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำโดยเร็วที่สุด และในปีนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ก็รับลูกว่า จะพิจารณาปรับค่าแรงเป็น 400 บาทต่อวัน ตนในฐานะ ส.ส. กลุ่มผู้ใช้แรงงาน ก็มีความหวังอย่างมากว่าจะมีการปรับตามที่นายกฯ แถลงไว้
นายเซีย กล่าวว่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานพูดในหลายเวทีและให้ความหวังว่าจะปรับขึ้นค่าแรงในวันที่ 1 มกราคม 2567 แต่เมื่อเสนอเรื่องดังกล่าวเข้า ครม. นายกฯ กลับให้มาทบทวนใหม่ และมีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการไตรภาคียืนยันว่าจะปรับขึ้นค่าแรง 2-16 บาท นายกฯ ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกฯ เคยให้สัมภาษณ์ว่าขึ้นเพียงเท่านี้ ไม่พอซื้อไข่ไก่ด้วยซ้ำ
จากนั้นก็มีกระแสข่าวอีกครั้ง โดยปรับขึ้น 400 บาท ใน 10 จังหวัด เงื่อนไขคือปรับขึ้นในโรงแรมระดับ 4 ดาวและมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ใน 10 จังหวัดนั้นก็มีเพียงภูเก็ตที่ปรับขึ้นเต็มทุกพื้นที่ ขณะที่กรุงเทพฯ ปรับขึ้นเพียง 3 เขต หรือจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ก็ปรับขึ้นเฉพาะเกาะสมุยเท่านั้น การปรับขึ้นเป็นจุดๆ แบบนี้ ทำให้การตรวจสอบทำได้ยากกว่าการปรับขึ้นทั้งจังหวัด
นายเซีย กล่าวว่า ตนจึงต้องการเห็นความชัดเจนของรัฐบาล และกระทรวงแรงงาน ว่าจะมีมาตรการหรือวิธีการอย่างไรในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำตามที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหาเสียงไว้ที่ 600 บาทต่อวันภายในปี 2570 โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ รมว.แรงงาน กล่าวว่าจะพิจารณาปรับค่าแรงในวันที่ 1 พฤษภาคม ตนก็รอดูและหวังว่าจะไม่ใช่การให้ความหวังลมๆ แล้งๆ แบบที่ผ่านมาอีก อย่างไรก็ตาม ตนสงสัยว่าหากทำได้รัฐบาลจะอ้างเป็นผลงานของตน แต่หากทำไม่ได้ จะโยนบาปให้คณะกรรมการไตรภาคีอีกหรือไม่
นายเซียกล่าวว่า ขณะนี้ผลกระทบจากความไม่ชัดเจนไม่แน่นอนทำให้สถานประกอบการหลายแห่งเกิดความกังวล ตนได้พูดคุยกับแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมในสมุทรปราการบางแห่ง ทราบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่เปิดให้ทำโอที เนื่องจากความไม่แน่นอนในการปรับขึ้นค่าแรง ดังนั้นรัฐบาลควรชัดเจนเสียที ทั้งการขึ้นค่าแรงและการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่ม SME ซึ่งที่ผ่านมาตนและพรรคก้าวไกลเสนอมาตลอดว่าการขึ้นค่าแรงต้องมาพร้อมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ
นอกจากนี้รัฐบาลและกระทรวงแรงงานต้องทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะประเด็นคุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงานในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมในบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งซึ่งรับงานประมูลจากรัฐ เช่น อิตาเลียนไทย ปัจจุบันยังค้างจ่ายค่าจ้างแรงงาน รวมถึงเรื่องขยะอุตสาหกรรม เช่นกรณีกากแคดเมียม ไฟไหม้โรงงานวินโพรเสส ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของคุณภาพชีวิตพี่น้องแรงงานที่รัฐบาลต้องดำเนินการโดยด่วน
นายเซีย กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมทำกิจกรรมวันแรงงานสากลในวันพรุ่งนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและ สส. จะร่วมเดินขบวนรณรงค์ เน้นที่กฎหมาย 2 ฉบับของพรรค คือร่างกฎหมายลาคลอด 180 วัน ที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการ และร่างกฎหมายสหภาพแรงงาน ที่คาดว่าสภาฯ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นเร็ว ๆ นี้ พรรคก้าวไกลเชื่อว่าหากกฎหมายเหล่านี้มีผลบังคับใช้ จะส่งผลดีต่อประชาชนอย่างมาก ทำให้ประเทศไทยอยู่ภายใต้อนุสัญญา ILO แรงงานมีสิทธิรวมตัวและเจรจาต่อรอง จึงฝากไปถึงพรรครัฐบาลที่เคยให้คำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงว่าจะส่งเสริมสิทธิของพี่น้องแรงงาน วันนี้เป็นรัฐบาลแล้ว ขอให้ร่วมผลักดันเรื่องดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริง
สมชัย ซัดระเบียบ กกต. เลือก สว.ออกได้เฮงซวยสุด ทำรู้จักผู้สมัครน้อย หวั่นเป็นการเลือกในที่มืด
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_8209825
สมชัย ซัดระเบียบ กกต. เลือก สว.ออกได้เฮงซวยสุด ทำรู้จักผู้สมัครน้อย หวั่นเป็นการเลือกในที่มืด เตือนผู้สมัคร-สื่อ ถ้ากฤษฎีกาออกแล้วห้ามให้สัมภาษณ์
เมื่อวันที่ 30 เม.ย.67 ที่อาคารข่าวสด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวในงานเปิดตัวแคมเปญ “มติชน : สว.ชุดใหม่ Thailand-Select” ถึงระเบียบของการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ว่า
สิ่งต่างๆ ที่เราอึดอัดกับ กกต.เกี่ยวกับกติกาการเลือก สว.นั้น ต้องขอแก้ตัวแทนกกต.ว่า ไม่ใช่ เพราะกกต.เองก็ทำงานภายใต้กฎหมายต่างๆ ทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ต่างๆ รวมไปถึงระเบียบต่างๆ ถ้าพูดถึงแบบฟอร์ม สว.3 จะเป็นตัวที่มีความสำคัญ เพราะจะเป็นการแนะนำตัวเราเอง เพราะแบบฟอร์มนี้จะถูกนำเอาไปใช้เผยแพร่ให้ผู้สมัคร สว.ด้วยกัน ดังนั้นจำเป็นต้องเรียบเรียงให้ดีเพื่อให้ผู้สมัคร สว.อื่นได้ทำความเข้าใจในการตัดสินใจเลือกเรา
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนการออกระเบียบแนะนำตัวนั้น ขอบอกว่าเป็นการออกระเบียบได้เฮงซวยมาก ทั้งที่มีเวลานานในการออกก็ตาม แต่ออกมาเพียงแค่ 3 หน้าเอง ซึ่งวันเปิดรับสมัครนั้นคาดว่าเป็นปลายเดือนพ.ค.67 แล้วใช้เวลา 5-7 วัน โดยระหว่างการเปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่ กกต.จะเปิดเผยผู้สมัครหรือรายชื่อผู้สมัครในแต่ละวันไม่ได้ และอยากให้ดูระเบียบให้ดีในข้อ 11 ที่ต้องระวัง
ถ้าวันที่ 11 หรือ 12 พ.ค.ที่จะออกกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. ผู้สมัครนั้นต้องศึกษาให้ดี อย่างใครทำอาชีพสื่อเป็นพิธีกรก็จะไปออกหน้าสื่อไม่ได้แล้ว คือไม่สามารถใช้อาชีพตัวเอง เพื่อเป็นการแนะนำตัว และห้ามผู้สมัครให้สัมภาษณ์สื่อ และสื่อห้ามไปสัมภาษณ์ผู้สมัคร
ฉะนั้นแล้วตนมองว่าระเบียบนี้เป็นระเบียบที่ออกได้แย่มาก ทำให้ผู้สมัคร สว.ไม่มีโอกาสได้รู้จักกันเลย แล้วจะเป็นการรู้จักกันและเลือกสว.ในที่มืด ดังนั้นแล้วเราจะได้ สว.อย่างไรนั่นลองไปคิดกันเอง
โตโยต้า ชี้กำลังซื้อเปราะบาง-แบงก์เข้มสินเชื่อ ฉุดยอดขายรถร่วง 29.8%
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/397896
โตโยต้า เผยกำลังซื้อเปราะบาง แบงก์เข้มสินเชื่อ ฉุดยอดขายรถในประเทศร่วง 29.8%
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม มีปริมาณการขาย 56,099 คัน ลดลงถึง 29.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้กำลังซื้อยังคงจำกัด และควบคู่ไปกับความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน
โดยตลาดรถยนต์นั่ง เติบโตลดลง 25.1% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เติบโตลดลง 32.6% ขณะที่รถ HEV มียอดขาย 12,689 คัน เพิ่มขึ้น 68.9% ดันตลาดรถ xEV โตขึ้น 19.5% ส่วนรถ BEV มียอดขายอยู่ที่ 5,167 คัน เติบโตลดลง 25.6% และ PHEV ยอดขาย 897 คันเติบโตลดลง 27.1% ส่วนในเดือนเมษายน มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว และการเริ่มส่งมอบรถยนต์ใหม่ ที่จองในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์
ขณะที่วันนี้ (30 เม.ย.) คณะศิษย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ได้มอบทองคำเข้าสู่คลังหลวงอีกครั้ง จำนวน 1 แท่ง น้ำหนักประมาณ 12 กิโลกรัม โดยผู้ว่าการแบงก์ชาติได้เดินทางไปรับด้วยตัวเอง ที่ สวนแสงธรรม พุทธมงคลสาย 3 เพื่อนำเข้าเก็บไว้ในบัญชีสำรองพิเศษของทุนสำรองเงินตรา ซึ่งตั้งแต่ปี 2561 คณะศิษย์หลวงตาพระมหาบัว ได้มอบทองคำเข้าคลังหลวงต่อเนื่องทุกปี รวมแล้วกว่า 13.11 ตัน
ขณะเดียวกันวันนี้ แบงก์ชาติ ได้ออกมาเตือนการขายบิลค่าน้ำ-ค่าไฟ แลกวงเงินสินเชื่อในแแอปฯ ช้อปปิ้ง เสี่ยงถูกเบี้ยว อาจไม่ได้รับเงินสดจริงตามที่ตกลง ย้ำไม่สนับสนุน และไม่ควรทำ ล่าสุดแบงก์ชาติได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงหารือกับ Shopee เพื่อให้ดูแลลูกค้าแล้ว