ทริปเที่ยวมณฑลหูเป่ย 10 วัน 9 คืน (Day 6)

Day 1: Wuhan => https://ppantip.com/topic/42412219
Day 2 (Part 1/2): Xiangyang Gulongzhong Scenic Area => https://ppantip.com/topic/42419256
Day 2 (Part 2/2): Xiangyang Gulongzhong Scenic Area => https://ppantip.com/topic/42420886
Day 3 (Part 1/3): Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan => https://ppantip.com/topic/42427545
Day 3 (Part 2/3): Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan => https://ppantip.com/topic/42429563
Day 3 (Part 3/3): Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan => https://ppantip.com/topic/42431317
Day 4: Wudang Shan ทิวเขาบู๊ตึ๊ง เมือง Shiyan => https://ppantip.com/topic/42437930
Day 5: สุสานท่านกวนอู เมือง Dangyang และเขื่อนซันเสียต้าป้า เมือง Yichang => https://ppantip.com/topic/42447690
Day 7: Qingjiang Butterfly Cliff Scenic Area และ Enshi Suobuya Stone Forest Scenic Area เมืองเอินซือ => https://ppantip.com/topic/42623820
 
วันพฤหัสที่ 16 พฤศจิกายน 2566 (Day 6) ٩(๑❛ᴗ❛๑)۶

วันที่ 6 ของการเดินทาง (๐^^)๐ วันนี้จะเป็นวันที่เที่ยวธรรมชาติล้วนๆ และต้องมีการเดินที่หนักหน่วง ช่วงเช้าเราจะเดินชม 雲龍地縫 Yunlongdifeng หยุนหลงตี้เฟิง หรือรอยแยกหยุนหลง ทานข้าวเที่ยงแล้วตอนบ่ายจะเป็นการเดินข้ามเขาที่ 七星寨景區 Qīxīng zhài jǐngqū ชีซิงจ้าย Sceneic Area หรือบางคนเรียกว่า Grand canyon เมืองจีน วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมาก และช่วงบ่ายสูงวัยขอนั่งรอ 4 คน ไม่สามารถร่วมเดินด้วยได้ 

เริ่มทานข้าวเช้ากันตั้งแต่ยังไม่ 7 โมงเช้า บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเป็นแบบง่ายๆมีของนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวและอื่นๆอีกนิดหน่อย พร้อมผลไม้ชากาแฟ

เมื่อท้องอิ่มก็ออกเดินทาง พร้อมหลับ ถ้าหลับก็แย่หละสิเพราะวิวระหว่างทางสวยมาก ประมาณ 9 โมงครึ่งเราก็เดินทางถึงจุดแวะเข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นที่ขายชาด้วย พอดีไม่สันทัดเรื่องชา เลยถ่ายรูปวิวเก็บบรรยากาศดีกว่า 

ประมาณสิบโมงเราก็ถึงที่จอดรถของจุดท่องเที่ยว จากจุดจอดรถต้องเดินกันมาไกลเลยทีเดียว แล้วก็ยังไม่ถึงต้องนั่งรถไฟเล็กต่อไปอีก 3-4 นาที แวะถ่ายรูปกันหน่อย

จากนั้นเราต้องเดินต่อไปเพื่อข้ามสะพานที่มีหลังคาทรงจีนข้ามไปถึงจะเริ่มเดินเส้นทางของรอยแยกหยุนหลง 


รอยแยกนี้ยาว 3.6 กิโลเมตร และมีรูปร่างคล้ายตัวยู เวลาเดินเราจะเหมือนเดินอยู่ในโตรกหินที่มีธารน้ำไหลอยู่ด้านล่าง สองข้างเป็นผาหินบางส่วนมีน้ำตกไหลลงมาก บางส่วนที่น้ำไม่มากพอจะเป็นเพียงม่านน้ำบางๆไหลลงมา เมื่อกระทบแสงแดดจะเห็นเป็นรุ้งขึ้นมา บ้างก็เล็กบ้างก็ใหญ่ สวยงามมากทีเดียว ระหว่างเดินมีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษาพอดี ตะโกนเรียกเพื่อนดู 彩虹 ไช่หง กันใหญ่ซึ่งแปลว่ารุ้งกินน้ำนั่นเอง เดินไปบางส่วนมีทั้งม่านน้ำบางๆพร้อมใบไม้สีเหลืองเล็กๆหลุดจากกิ่งร่วงลงมาตามแรงลม เสริมให้บรรยากาศดียิ่งขึ้นไปอีก บวกกับว่าเป็นวันที่อากาศไม่ร้อน เดินเล่นแบบนี้เยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจจริงๆ ระหว่างเดินเจอน้ำตก ได้โอกาสหยุดพักและถ่ายรูป


วิวสองข้างทางระหว่างเดิน

สายรุ้งที่เดียวกันแต่ เมื่อมองต่างมุม ก็ขนาดต่างกัน แสงและละอองน้ำแต่ละมุมคงไม่เท่ากัน

ฝั่งหนึ่งเป็นน้ำตก อีกฝั่งเป็นม่านน้ำบางๆ เป็นจุดที่ทุกคนต้องถ่ายรูป

เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆจะเห็นวิวเหมือนซอกเขา โดยหน้าผาฝั่งซ้ายมือมีรูปคล้ายหน้าคนอยู่ด้วย (มีป้ายบอกไว้ให้จินตนาการไม่ได้เห็นแล้วรู้เองว่าเป็นหน้าคน อิอิ)


และต้องมีการใช้จินตนาการอีกครั้งเมื่อมีป้ายบอกให้สังเกตหินย้อย ว่าคล้ายมังกรฝูงหนึ่งกำลังโฉบลงมาเพื่อจะไปกินน้ำที่ลำธารด้านล่าง รูปด้านล้างจะฝั่งซ้ายมือจะเห็นหินลักษณะยาวห้อยๆลงมา นั้นแหละค่ะมังกร

เมื่อเดินต่อไปจนสุดทางเราจะพบกับน้ำตกอีกน้ำตกหนึ่ง นักเรียนยืนถ่ายรูปกันเยอะมาก จังหวะดีทีเดียวเก็บภาพน้ำตกได้พร้อมสายรุ้ง

ผ่านมาแล้ว 3.6 กิโล มีทั้งขึ้นและลงบันได พื้นเปียกน้ำ แต่สูงวัยคณะเราก็ค่อยๆเดินผ่านกันมาได้ค่า เป็นสูงวัยที่แข็งแรงมากคณะนี้ จากน้ำตกสุดท้ายที่เห็น เราเดินกันต่อไปเพื่อขึ้นลิฟต์ สูงวัยดูมีกำลังใจมุ่งหน้าสู่ลิฟต์กันแข็งขัน ลิฟต์สูงอยู่ ช่วยทุ่นแรงได้เยอะ

ออกจากลิฟต์ นั่งพักกันถ้วนหน้าค่ะ

จากจุดนี้เดินต่อไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้กินข้าวเที่ยงกัน เที่ยงนี้เรากินกันง่ายๆ เป็นร้านอาหารที่ชาวบ้านทำขาย อยู่บนป่าบนเขาอาหารก็จะมีความอร่อยลดลงค่ะ

หลังท้องอิ่ม สูงวัย 4 คนบอกขอไปรอที่รถ 6 คนที่เหลือในคณะทั้งสูงวัยและผู้ใหญ่วัยกลางคนก็พากันไปต่อ โดยไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้ามันทำเข่าสึกได้ 555 เราเริ่มต้นที่การนั่งกระเช้าขึ้นไปก่อน ซึ่งถือเป็นการข้ามเขาไปประมาณ 1 ลูกประหยัดเวลาเดินไป 1 ชม. จากนั้นเราจะเดินขึ้นเดินลงเพื่อข้ามเขาทั้งหมด 3 ลูก จุดสิ้นสุดของการเดินเป็นบันไดเลื่อนยาวเหยียดใช้ลงเขารอเราอยู่ แต่ระหว่างทางเรียกได้ว่าวิวมันอลังค่ะ เหนื่อยก็เหนื่อยแต่วิวอลังการมาก 

ขึ้นกระเช้ากันตอน 14:20 น. ถาพถ่ายตอนอยู่บนกระเช้า จะเห็นภูเขาทรงแปลก เป็นแท่งๆ ซึ่งคล้ายที่จางเจียเจี้ย อันนี้เนื่องจากเป็นแนวเทือกเขาเดียวกัน

ลงจากกระเช้ามาจะเจอวิวแบบนี้ค่ะ ภูเขาเรียงกันสุดลูกหูลูกตา

เมื่อมาถึงด้านบนจะมีให้บริการเสลี่ยง ซึ่งจริงๆก็จะมีคนมาถามตลอดทางที่เดินว่าจะใช้บริการไหม ถ้าใครไม่ได้ขึ้นตั้งแต่แรก เดินไปแล้วไม่ไหวก็มีให้ใช้บริการได้เรื่อยๆตลอดทางนะค่ะ แต่ก็มีบางเส้นทางนะค่ะ ที่คนแบกเค้าจะบอกว่าต้องให้ลงมาเดิน เพราะการใช้เสลี่ยงในเส้นทางนั้นๆอาจจะเกิดอันตรายได้ง่ายค่ะ สำหรับคณะเราใช้บริการเสลี่ยง 1 คันให้สูงวัยสามคนสลับกันนั่งสลับกันเดิน วัยกลางคนอีก 3 คนเดินกันเองโลด

จากจุดลงกระเช้าเราเดินมาเรื่อยๆจนเจอกับซอกหินซอกหนึ่งซึ่งเราจะต้องเดินผ่านซอกหินนี้ค่ะ

เมื่อเดินเข้ามาจะเจอบันไดลงแบบลงลึกมากๆ
 
เมื่อออกมาจากซอกเขาเราจะต้องเดินตรงทางเดินที่ทำยื่นออกมาจากหน้าผาแบบรูปด้านล่างตอนเดินคือเสียวขามากๆเลยเพราะเป็นคนกลัวความสูงนิดๆ ถ้าเป็นคนอื่นก็จะสนุกเดินชิลมากค่ะ

จริงๆทางเดินอันนี้จะเห็นตั้งแต่ตอนนั่งกระเช้าขึ้นมาแล้วค่ะ ระยะทางเดินสำหรับทางเดินแบบนี้คือประมาณ 20 นาทีแบบค่อยๆเดินเรื่อยๆไม่รีบ อีกซักรูปสองรูปกับทางเดินอันหวาดเสียว (สำหรับจขกท.)

ระหว่างเดินเราก็จะเห็นวิวประมาณนี้ค่ะ
 
ฟ้าใสๆพร้อมทิวเขาสลับหลายชั้น เวลาเดินลงบันไดก็จะน่ากลัวนิดหนึ่ง เพราะใต้พื้นที่เราเดินอยู่มันไม่มีอะไรแล้ว เป็นผาเลย แต่วิวก็ดีมาก ลดความกลัวลงได้นิดหนึ่ง

เดินต่อไปเรื่อยๆจะเห็นเขาลูกน้อยๆที่งอกออกขึ้นมาตั้งตรง ดูแปลกตาดี

เห็นคนจีนเข้าไปยืนถ่ายรูปทำท่ายื่นมือออกไป เลยไปทำตามบ้าง คุณไกด์บอกว่าเขานี้ดูคล้ายคบเพลิง คนเลยไปทำไม้ทำมือเหมือนถือคบเพลิงตอนถ่ายรูป

จากนั้นเดินต่อไปเรื่อยๆจนเจออีกจุดถ่ายรูปค่ะ มองไปเป็นหุบเขา เห็นสายน้ำและบ้านเรือนด้านล่าง สวยทีเดียว

เดินต่อไปอีกจะเจอกับ Bowing Pine หรือต้นสนที่งอกยื่นออกมาจากเขาแล้วมีลักษณะโค้งเหมือนคำนับอยู่ บางคนเรียก Greeting Pine เหมือนต้นสนกำลังโค้งมาเพื่อทักทายเราอยู่

เมื่อเดินต่อไปเราจะเจอกับ Highlight สำคัญของที่นี่คือเขาธูป 1 ดอก (Stone Incense) คือเดินมาไกลมากๆในที่สุดก็ถึง ตอนนี้ประมาณ 16:30 น. นี่ก็คือเดินมาประมาณ 2 ชั่วโมงแล้ว

จากจุดนี้เราก็เดินลงเขาไปเรื่อยๆ โดยมีจุดหมายคือบันไดเลื่อน ระหว่างเดินเห็นหน้าผาหนึ่งกำลังสร้างทางเดินริมผาเหมือนที่เราได้เดินผ่านมาแล้วช่วงแรกๆ คนที่ขึ้นไปสร้างเก่งมากๆ ต้องไม่กลัวความสูงเลยนะเนี่ย  

ไปต่อกันที่ comment นะค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่