ช่วงนี้วันหยุดยาวป้าขอลงหลาย EP หน่อย เดี๋ยววันจันทร์กลับไปทำงาน ป้าจะไม่มีเวลาเขียนแล้ว ค่อยๆ อ่านค่อยๆ ดูรูปกันไปนะคะ ไม่ต้องรีบ
.
หลังจากได้ชมแสงเหนือเมื่อคืนด้วยแรงบนบานศาลกล่าว วันนี้ป้าๆ ก็ตื่นสายหน่อย 7 โมงเช้านอร์เวย์ เช้านี้ มีสปาเก็ตตี้ผัดแซลมอน สปาเก็ตตี้เห็ดแชมปิญอง และของเหลืออื่นๆ เอามาจัดการ เพราะบ้านต่อไปคือบ้านสุดท้าย จวนได้เวลากลับแล้ว...เวลาแห่งความสนุกมักผ่านไปเร็วเสมอ
.
เช้านี้ฝนไม่ตก ได้ Morning Work แถวๆ บ้าน อากาศดีมาก หนาวแหละ แต่น่าจะเริ่มชิน บ้านหลังนี้อยู่ริมถนน ริมฟยอร์ด Kattfjord เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีบ้านหลายหลังเปิดให้นักท่องเที่ยวเช่า ป้าเจ้าของบ้านมีร้านอาหารอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่เราก็ไม่ได้ไปใช้บริการร้านเค้าเลย
Morning Walk กับวิวสวยๆ หน้าบ้าน
อาหารเช้า เก็บของเหลือๆ มากินให้หมด
ใครชอบมาที่นี่ซื้อเลยไม่ผิดหวัง ขนมปังโฮลวีท เนยถั่ว แยมสตอเบอรี่ โยเกิร์ต อร่อยมาก แยมผิวส้มหวานไปหน่อย
ออกจากบ้านพัก จุดแรกที่แวะคือซูเปอร์มาร์เก็ต เก็บตกของฝาก เมื่อคืนจัดกระเป๋าก็พอจะรู้ละว่าขาดของอะไรไปบ้าง ไปเหมาซะให้หมด และเข้าเมือง Tromso
.
แวะจุดชมวิว Folkeparken จุดชมวิวริมทะเล เป็นสวนสาธารณะ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ชาวนอร์เวย์พาน้องหมาออกมาเดินเล่นกันเยอะเลย หมาที่เลี้ยงส่วนใหญ่เป็นหมาเล็ก พวกชิสุห์ พูเดิ้ล มีหมาหลังอานด้วยนะ หมาเกรียนๆ แบบหมาไทยก็หลายตัว ทุกตัวมีสายจูง คุณภาพชีวิตหมาที่นี่ดูดี เพราะมีเจ้าของทุกตัว เดินทางมา 10 วันไม่เห็นหมาข้างถนนเลย
หมามีเจ้าของก็จะน่ารักประมาณนี้ ฉลาดด้วยนะ บอกให้นั่งก็นั่ง เจ้าของจะมีขนมคอยแจก
ประมาณเที่ยงป้าๆ ก็เข้าที่พักเอาของไปเก็บ เพราะ 4 โมงเย็นจะต้องคืนรถ คืนนี้เราพักที่ Enter Tromsø Exclusive 4Bedroom Villa จองผ่าน Booking.com เป็นบ้าน 3 ชั้น หรูหรามาก อยู่บนเนินด้วย เสียตรงที่เราอยู่ชั้น 2-3 ชั้น 1 เป็นของคนอื่น แต่ไม่มีคนอยู่หรอก และทางเข้าก็คนละทาง แต่เราต้องยกกระเป๋าหนักๆ ขึ้นไปวางบนชั้น 2 และ 3 บ้านหลังนี้มี 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำห้องหนึ่ง เหมือนกับทุกบ้านคือมีครัว ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ อุปกรณ์ในห้องน้ำ แจกเหมือนโรงแรม คือมีสบู่แชมพูขวดเล็กๆ คนละขวด หมวกอาบน้ำ ฯลฯ ซึ่งบ้านอื่นจะมาเป็นขวดปั๊มใหญ่ๆ ลักษณะการทำงานเหมือนเป็นบ้านที่มีเจ้าของแล้วปล่อยเช่าผ่านบริษัทนายหน้า เพราะเราต้องไปเอากุญแจที่บริษัท แล้วค่อยมาเปิดบ้าน
วิวจากหน้าต่างบ้าน
อย่าตกใจที่ไม่มีม่าน เดินทางมา 10 วัน เห็นว่าบ้านที่นี่เค้ามีแต่ม่านประดับ ไม่มีม่านจริงซักหลัง
เก็บข้าวของเสร็จ ก็ไปต่อที่โบสถ์ Arctic Cathedral แยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เดินเล่นที่โบสถ์ แล้วข้ามสะพาน Tromso ไปหาร้านอาหาร ส่วนกลุ่มที่ 2 เอารถไปคืนที่สนามบิน Tromso ป้าอยู่กลุ่มเดินเล่น
ที่นี่เราเจอคนไทยหลายกลุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเล็กๆ 2 – 6 คน แต่ละกลุ่มก็จะถามกันว่ามาจากไหน มาเมื่อไหร่ จะไปไหน และที่สำคัญเค้าถามป้าว่า “มาตั้งหลายวันเห็นแสงแบบสวยๆ บ้างมั๊ย” ป้าจะตอบว่าไงดี เพราะที่เห็นนะมันยังไม่เหมือนกับที่ดูในหนังสารคดี แต่ก็คงดีที่สุดเท่าที่สถานการณ์อำนวยแล้วหละ บางคนเค้ามาเป็นสิบวันไม่เห็นเลยก็มี ป้าก็คิดว่าคืนนี้ถ้าฟ้าใส ป้าจะโบกแท็กซี่ไปขึ้นรถกระเช้าอีกรอบ
วิวเมือง Tromso มองจากโบสถ์
หลังจากที่เพื่อนแยกไปคืนรถ ป้าๆ ก็เดินถ่ายรูปรอบโบสถ์
.
The Arctic Cathedral หรือรู้จักกันในนาม มหาวิหารอาร์กติก (Ishavskatedralen) เพราะตั้งอยู่ในเขตอาร์กติก เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง Tromso มองเห็นได้ชัดจากช่องแคบ Tromso Sound สะพาน Tromso และสนามบิน Tromso
มหาวิหารอาร์คติก
คนส่วนใหญ่ของนอร์เวย์นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิค จึงมีโบสถ์ใหญ่ๆ สวยๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศ โบสถ์แห่งนี้ อยู่บนเกาะหน้าเมือง Tromso สร้างขึ้นในปี 1965 โดยสถาปนิก Jan Inge Hovig ที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ มีรูปทรงสามเหลี่ยมได้แรงบันดาลใจจากภูเขาน้ำแข็งสีขาว ข้างในมีโมเสคแก้วเป็นภาพประดับกระจกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ผลงานของ Victor Sparre ม้านั่งในโบสถ์เป็นไม้โอ๊ค มีโคมระย้า และออแกนขนาดใหญ่ ทำจากไม้สนและหนังกวางเรนเดียร์ ด้านหน้าของมหาวิหาร มองเห็นสะพาน Tromso ตัวเมือง Tromso และเครื่องบินที่ขึ้นลง นักท่องเที่ยวนิยมมาดูพระอาทิตย์ตก ซึ่งป้าไม่เห็น เพราะฟ้ามัว
เดินต่อข้ามสะพาน Tromso ส่วนที่ไม่ใช่รถข้ามแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งนึงสำหรับจักรยาน อีกฝั่งสำหรับคนเดิน ไอเดียแบบนี้ดีนะ ไม่เกิดอันตรายกับคนเดิน ขอบสะพานเป็นลูกกรงสูง แบบว่าถ้าจะปีนเพื่อกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ก็คงหมดความคิดที่จะตายได้เลย
สะพาน Tromso
อากาศหนาว ลมแรงมาก แต่ฝรั่งเดินกันชิว
ข้ามมาอีกฝั่งเป็นฝั่งเมือง ที่พักของป้าๆ อยู่ในเขตช้อปปิ้ง นัดเจอกับเพื่อนที่ไปคืนรถที่ร้านอาหาร ตอนแรกจะกินพิซซ่า ปรากฏว่าต้องจองคิว ก็เลยไปหาร้านตามข้างทางถนนช้อปปิ้ง กินเสร็จก็เดินสำรวจตลาดสินค้าที่ระลึกกัน ยังมีเวลาพรุ่งนี้อีกคืนที่เราจะมาเก็บของที่จะซื้อไปฝากเมืองไทย
แหล่งช้อปปิ้งและร้านขายของที่ระลึก อยู่ห่างจากที่พักแค่ 500 เมตร
Tromso Cathedral กำลังปิดซ่อม
กลับถึงบ้านดูค่า KP ไปถึง 5 เห็นฟ้าเปิด วันนี้เห็นพระจันทร์เป็นวันแรกของทริป (วันนี้ขึ้น 10 ค่ำ) เพราะก่อนหน้านั้นพระจันทร์ไปเที่ยวอยู่ซีกโลกใต้ ป้าก็เพิ่งนึกได้ ว่าอยู่ที่นี่ไม่เห็นพระจันทร์ทั้งๆ ที่เป็นวัน 15 ค่ำ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะที่นี่คือขั้วโลกเหนือ ขนาดพระอาทิตย์ยังอยู่ 24 ชั่วโมง หรือไม่เห็นตลอด 24 ชั่วโมงได้เลย (ใครงง กลับไปทบทวนวิชาภูมิศาสตร์ใหม่นะ ป้าขี้เกียจอธิบาย)
ท้องฟ้ามองจากดาดฟ้าของบ้าน โล่งนะ แต่แสงไม่มา ไม่รู้เพราะแสงรบกวนเยอะหรือเปล่า แต่แค่ชั่วโมงเดียว เมฆก็มาเต็ม ขยันทำงานกันจริงๆ
พระจันทร์แรกของทริป
บ้านที่เราพักมีดาดฟ้าให้ดูแสงเหนือด้วย ตั้งกล้องสิคะ รออะไร แล้วเมฆก็มา รอไปชั่วโมงนึง หนาวก็หนาว สรุปไม่ได้เห็นแสงเหนือ พรุ่งนี้ถ้าฟ้าใสป้าจะโบกรถขึ้นไปบนยอดเขาให้รู้แล้วรู้รอด...สุดท้ายก็ได้แค่คิด
.
เข้าบ้านนอนดีกว่า ฮีดเตอร์ในบ้านร้อนปรับลดก็ไม่ได้ จะปิดก็กลัวแข็งตาย นอนเปิดหน้าต่างก็ได้
.
.
ติดตามรีวิววันอื่นๆ ได้ตาม Link
ล่าแสงเหนือ Day 1 - 2 : กรุงเทพฯ - Lofoten :
https://ppantip.com/topic/43157801
ล่าแสงเหนือ Day 3 : Lofoten :
https://ppantip.com/topic/43161435
ล่าแสงเหนือ Day 4 : Lofoten :
https://ppantip.com/topic/43163258
ล่าแสงเหนือ Day 5 : Lofoten - Gratangen :
https://ppantip.com/topic/43166778
ล่าแสงเหนือ Day 6 : Gratangen - Senja :
https://ppantip.com/topic/43174947
ล่าแสงเหนือ Day 7 : Senja Island :
https://ppantip.com/topic/43175240
ล่าแสงเหนือ Day 8 : Senja - Sommaroy :
https://ppantip.com/topic/43178972
ล่าแสงเหนือ Day 9 : Sommaroy :
https://ppantip.com/topic/43180888
ล่าแสงเหนือ Day 11 : Tromso :
https://ppantip.com/topic/43183087
ล่าแสงเหนือ Day 12 : Oslo :
https://ppantip.com/topic/43186297?sc=0Z1e71r
.
หรือติดตามสาระอื่นๆ ได้ที่เพจ "หลากหลาย by Artima"
https://www.facebook.com/profile.php?id=100064724916964
[CR] ล่าแสงเหนือ Day 10 : Sommaroy - Tromso
.
หลังจากได้ชมแสงเหนือเมื่อคืนด้วยแรงบนบานศาลกล่าว วันนี้ป้าๆ ก็ตื่นสายหน่อย 7 โมงเช้านอร์เวย์ เช้านี้ มีสปาเก็ตตี้ผัดแซลมอน สปาเก็ตตี้เห็ดแชมปิญอง และของเหลืออื่นๆ เอามาจัดการ เพราะบ้านต่อไปคือบ้านสุดท้าย จวนได้เวลากลับแล้ว...เวลาแห่งความสนุกมักผ่านไปเร็วเสมอ
.
เช้านี้ฝนไม่ตก ได้ Morning Work แถวๆ บ้าน อากาศดีมาก หนาวแหละ แต่น่าจะเริ่มชิน บ้านหลังนี้อยู่ริมถนน ริมฟยอร์ด Kattfjord เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีบ้านหลายหลังเปิดให้นักท่องเที่ยวเช่า ป้าเจ้าของบ้านมีร้านอาหารอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่เราก็ไม่ได้ไปใช้บริการร้านเค้าเลย
Morning Walk กับวิวสวยๆ หน้าบ้าน
อาหารเช้า เก็บของเหลือๆ มากินให้หมด
ใครชอบมาที่นี่ซื้อเลยไม่ผิดหวัง ขนมปังโฮลวีท เนยถั่ว แยมสตอเบอรี่ โยเกิร์ต อร่อยมาก แยมผิวส้มหวานไปหน่อย
ออกจากบ้านพัก จุดแรกที่แวะคือซูเปอร์มาร์เก็ต เก็บตกของฝาก เมื่อคืนจัดกระเป๋าก็พอจะรู้ละว่าขาดของอะไรไปบ้าง ไปเหมาซะให้หมด และเข้าเมือง Tromso
.
แวะจุดชมวิว Folkeparken จุดชมวิวริมทะเล เป็นสวนสาธารณะ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ชาวนอร์เวย์พาน้องหมาออกมาเดินเล่นกันเยอะเลย หมาที่เลี้ยงส่วนใหญ่เป็นหมาเล็ก พวกชิสุห์ พูเดิ้ล มีหมาหลังอานด้วยนะ หมาเกรียนๆ แบบหมาไทยก็หลายตัว ทุกตัวมีสายจูง คุณภาพชีวิตหมาที่นี่ดูดี เพราะมีเจ้าของทุกตัว เดินทางมา 10 วันไม่เห็นหมาข้างถนนเลย
หมามีเจ้าของก็จะน่ารักประมาณนี้ ฉลาดด้วยนะ บอกให้นั่งก็นั่ง เจ้าของจะมีขนมคอยแจก
ประมาณเที่ยงป้าๆ ก็เข้าที่พักเอาของไปเก็บ เพราะ 4 โมงเย็นจะต้องคืนรถ คืนนี้เราพักที่ Enter Tromsø Exclusive 4Bedroom Villa จองผ่าน Booking.com เป็นบ้าน 3 ชั้น หรูหรามาก อยู่บนเนินด้วย เสียตรงที่เราอยู่ชั้น 2-3 ชั้น 1 เป็นของคนอื่น แต่ไม่มีคนอยู่หรอก และทางเข้าก็คนละทาง แต่เราต้องยกกระเป๋าหนักๆ ขึ้นไปวางบนชั้น 2 และ 3 บ้านหลังนี้มี 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำห้องหนึ่ง เหมือนกับทุกบ้านคือมีครัว ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ อุปกรณ์ในห้องน้ำ แจกเหมือนโรงแรม คือมีสบู่แชมพูขวดเล็กๆ คนละขวด หมวกอาบน้ำ ฯลฯ ซึ่งบ้านอื่นจะมาเป็นขวดปั๊มใหญ่ๆ ลักษณะการทำงานเหมือนเป็นบ้านที่มีเจ้าของแล้วปล่อยเช่าผ่านบริษัทนายหน้า เพราะเราต้องไปเอากุญแจที่บริษัท แล้วค่อยมาเปิดบ้าน
วิวจากหน้าต่างบ้าน
อย่าตกใจที่ไม่มีม่าน เดินทางมา 10 วัน เห็นว่าบ้านที่นี่เค้ามีแต่ม่านประดับ ไม่มีม่านจริงซักหลัง
เก็บข้าวของเสร็จ ก็ไปต่อที่โบสถ์ Arctic Cathedral แยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เดินเล่นที่โบสถ์ แล้วข้ามสะพาน Tromso ไปหาร้านอาหาร ส่วนกลุ่มที่ 2 เอารถไปคืนที่สนามบิน Tromso ป้าอยู่กลุ่มเดินเล่น
ที่นี่เราเจอคนไทยหลายกลุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเล็กๆ 2 – 6 คน แต่ละกลุ่มก็จะถามกันว่ามาจากไหน มาเมื่อไหร่ จะไปไหน และที่สำคัญเค้าถามป้าว่า “มาตั้งหลายวันเห็นแสงแบบสวยๆ บ้างมั๊ย” ป้าจะตอบว่าไงดี เพราะที่เห็นนะมันยังไม่เหมือนกับที่ดูในหนังสารคดี แต่ก็คงดีที่สุดเท่าที่สถานการณ์อำนวยแล้วหละ บางคนเค้ามาเป็นสิบวันไม่เห็นเลยก็มี ป้าก็คิดว่าคืนนี้ถ้าฟ้าใส ป้าจะโบกแท็กซี่ไปขึ้นรถกระเช้าอีกรอบ
วิวเมือง Tromso มองจากโบสถ์
หลังจากที่เพื่อนแยกไปคืนรถ ป้าๆ ก็เดินถ่ายรูปรอบโบสถ์
.
The Arctic Cathedral หรือรู้จักกันในนาม มหาวิหารอาร์กติก (Ishavskatedralen) เพราะตั้งอยู่ในเขตอาร์กติก เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมือง Tromso มองเห็นได้ชัดจากช่องแคบ Tromso Sound สะพาน Tromso และสนามบิน Tromso
มหาวิหารอาร์คติก
คนส่วนใหญ่ของนอร์เวย์นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิค จึงมีโบสถ์ใหญ่ๆ สวยๆ กระจายอยู่ทั่วประเทศ โบสถ์แห่งนี้ อยู่บนเกาะหน้าเมือง Tromso สร้างขึ้นในปี 1965 โดยสถาปนิก Jan Inge Hovig ที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ มีรูปทรงสามเหลี่ยมได้แรงบันดาลใจจากภูเขาน้ำแข็งสีขาว ข้างในมีโมเสคแก้วเป็นภาพประดับกระจกขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ผลงานของ Victor Sparre ม้านั่งในโบสถ์เป็นไม้โอ๊ค มีโคมระย้า และออแกนขนาดใหญ่ ทำจากไม้สนและหนังกวางเรนเดียร์ ด้านหน้าของมหาวิหาร มองเห็นสะพาน Tromso ตัวเมือง Tromso และเครื่องบินที่ขึ้นลง นักท่องเที่ยวนิยมมาดูพระอาทิตย์ตก ซึ่งป้าไม่เห็น เพราะฟ้ามัว
เดินต่อข้ามสะพาน Tromso ส่วนที่ไม่ใช่รถข้ามแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งนึงสำหรับจักรยาน อีกฝั่งสำหรับคนเดิน ไอเดียแบบนี้ดีนะ ไม่เกิดอันตรายกับคนเดิน ขอบสะพานเป็นลูกกรงสูง แบบว่าถ้าจะปีนเพื่อกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ก็คงหมดความคิดที่จะตายได้เลย
สะพาน Tromso
อากาศหนาว ลมแรงมาก แต่ฝรั่งเดินกันชิว
ข้ามมาอีกฝั่งเป็นฝั่งเมือง ที่พักของป้าๆ อยู่ในเขตช้อปปิ้ง นัดเจอกับเพื่อนที่ไปคืนรถที่ร้านอาหาร ตอนแรกจะกินพิซซ่า ปรากฏว่าต้องจองคิว ก็เลยไปหาร้านตามข้างทางถนนช้อปปิ้ง กินเสร็จก็เดินสำรวจตลาดสินค้าที่ระลึกกัน ยังมีเวลาพรุ่งนี้อีกคืนที่เราจะมาเก็บของที่จะซื้อไปฝากเมืองไทย
แหล่งช้อปปิ้งและร้านขายของที่ระลึก อยู่ห่างจากที่พักแค่ 500 เมตร
Tromso Cathedral กำลังปิดซ่อม
กลับถึงบ้านดูค่า KP ไปถึง 5 เห็นฟ้าเปิด วันนี้เห็นพระจันทร์เป็นวันแรกของทริป (วันนี้ขึ้น 10 ค่ำ) เพราะก่อนหน้านั้นพระจันทร์ไปเที่ยวอยู่ซีกโลกใต้ ป้าก็เพิ่งนึกได้ ว่าอยู่ที่นี่ไม่เห็นพระจันทร์ทั้งๆ ที่เป็นวัน 15 ค่ำ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะที่นี่คือขั้วโลกเหนือ ขนาดพระอาทิตย์ยังอยู่ 24 ชั่วโมง หรือไม่เห็นตลอด 24 ชั่วโมงได้เลย (ใครงง กลับไปทบทวนวิชาภูมิศาสตร์ใหม่นะ ป้าขี้เกียจอธิบาย)
ท้องฟ้ามองจากดาดฟ้าของบ้าน โล่งนะ แต่แสงไม่มา ไม่รู้เพราะแสงรบกวนเยอะหรือเปล่า แต่แค่ชั่วโมงเดียว เมฆก็มาเต็ม ขยันทำงานกันจริงๆ
พระจันทร์แรกของทริป
บ้านที่เราพักมีดาดฟ้าให้ดูแสงเหนือด้วย ตั้งกล้องสิคะ รออะไร แล้วเมฆก็มา รอไปชั่วโมงนึง หนาวก็หนาว สรุปไม่ได้เห็นแสงเหนือ พรุ่งนี้ถ้าฟ้าใสป้าจะโบกรถขึ้นไปบนยอดเขาให้รู้แล้วรู้รอด...สุดท้ายก็ได้แค่คิด
.
เข้าบ้านนอนดีกว่า ฮีดเตอร์ในบ้านร้อนปรับลดก็ไม่ได้ จะปิดก็กลัวแข็งตาย นอนเปิดหน้าต่างก็ได้
.
.
ติดตามรีวิววันอื่นๆ ได้ตาม Link
ล่าแสงเหนือ Day 1 - 2 : กรุงเทพฯ - Lofoten : https://ppantip.com/topic/43157801
ล่าแสงเหนือ Day 3 : Lofoten : https://ppantip.com/topic/43161435
ล่าแสงเหนือ Day 4 : Lofoten : https://ppantip.com/topic/43163258
ล่าแสงเหนือ Day 5 : Lofoten - Gratangen : https://ppantip.com/topic/43166778
ล่าแสงเหนือ Day 6 : Gratangen - Senja : https://ppantip.com/topic/43174947
ล่าแสงเหนือ Day 7 : Senja Island : https://ppantip.com/topic/43175240
ล่าแสงเหนือ Day 8 : Senja - Sommaroy : https://ppantip.com/topic/43178972
ล่าแสงเหนือ Day 9 : Sommaroy : https://ppantip.com/topic/43180888
ล่าแสงเหนือ Day 11 : Tromso : https://ppantip.com/topic/43183087
ล่าแสงเหนือ Day 12 : Oslo : https://ppantip.com/topic/43186297?sc=0Z1e71r
.
หรือติดตามสาระอื่นๆ ได้ที่เพจ "หลากหลาย by Artima"
https://www.facebook.com/profile.php?id=100064724916964
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้