ส.ส.ก้าวไกล รับหนังสือผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้เช็ค
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_692894/
ส.ส.ก้าวไกล รับหนังสือผู้ได้รับผลกระทบกฏหมายจากการใช้เช็ค ขอเร่งผลักดันกฏหมาย “ณัฐวุฒิ” ยันเร่งส่งเรื่อง กมธ.พิจารณาช่วยเหลือ
นาย
ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นาย
ปรีติ เจริญศิลป์ และนาย
คุณากร มั่นนทีรัย โฆษกคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 พ.ศ. …. รับยื่นหนังสือจากนางสาว
ภวิษย์พร เอี่ยมหอม ตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากความผิดทางอาญาของพ.ร.บ.ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 และคณะ เรื่องขอให้เร่งรัดผลักดันให้การยกเลิก พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 ที่ได้รับมติเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.66
ซึ่งปัจจุบันอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกมธ.และล่วงเลยเวลามากกว่า 80 วันแล้ว ซึ่งความล่าช้าจะสร้างผลกระทบที่มากมายให้กับกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งทางด้านสิทธิเสรีภาพ สุขภาพจิต อันเป็นผลต่อการสูญเสียอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นเพียงผู้ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้เท่านั้น การใช้เช็คในการชำระหนี้ตามสัญญาและไม่สามารถชำระเงินได้ตามเช็คนั้นไม่ควรจะมีความผิดเป็นโทษทางอาญาเนื่องจากเป็นการผิดนัดชำระหนี้ในทางแพ่งเหมือนการไม่ชำระหนี้ตามตราสารอื่นๆ
จึงขอให้เร่งผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ เพื่อประโยชน์ของผู้ได้รับผลกระทบให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
นาย
ณัฐวุฒิ บัวประทุม กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ในฐานะของสส.พรรคก้าวไกล ขอรับเรื่องความเดือดร้อนดังกล่าว ไปส่งมอบให้คณะ กมธ.วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 พ.ศ. …. เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไปต่อไป
โดยนาย
ปรีติ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือน ก.พ.67 คณะ กมธ. ได้เข้าพบกับรองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งได้หารือเรื่องดังกล่าว โดยได้มีการเสนอแนะให้หามาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เช็คสามารถเป็นตราสารที่ใช้ได้ตามระบบได้ต่อไป
ด้านนาย
คุณากร กล่าวว่า คณะกมธ. ได้พิจารณาหลายครั้งแล้ว ที่ กมธ. เห็นตรงกันคือเช็คมีมูลหนี้ ควรได้รับการดำเนินทางแพ่ง แต่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ต้องใช้ความรอบคอบเพราะ การยกเลิกพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 ดังกล่าว มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ดังนั้น คณะ กมธ. จึงใช้ความรอบคอบเพื่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด และพร้อมผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
‘สส.ก้าวไกล’กังขาเบี้ยประชุมกระทรวงทรัพย์ ตกหัวละ 1 หมื่นต่อวัน-พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าฯแพงระยับตร.ม.ละ 8 หมื่น
https://www.dailynews.co.th/news/3276409/
‘สส.ก้าวไกล’ ขอหั่นงบกระทรวงทรัพยากรฯ 10 เปอร์เซ็นต์ กังขางบเบี้ยประชุม สผ.สูงลิ่ว 2,500-1 หมื่นบาท/คน/วัน ขณะที่โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าฯ งบ 4 พันล้าน แพงกว่าอาคารทั่วไป 4 เท่า ตกตร.ม.ละ 8 หมื่น กังขาจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใสหรือไม่ 7 ปียุค คสช. ผู้รับเหมาได้งานรัฐกว่า 1,500 โครงการ ซ้ำช่วงปี 62-63 ไม่ต้องซื้อซองประมูลแต่ได้งาน
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่รัฐสภา เวลา 09.30 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนาย
พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระที่สอง เรียงตามรายมาตรา จำนวน 41 มาตรา ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นวันที่ 2
ในการพิจารณามาตรา 17 งบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 15,025,964,400 บาท นาย
กฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี สส.นครสวรรค์ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ในฐานะอนุกรรมาธิการฯ ตนมีข้อสงสัยหน่วยงานในกระทรวงทรัพยากรฯ 2 หน่วยงาน คือ สำนักนโยบายแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งได้รับงบประมาณ 1,002.5 ล้านบาท เป็นงบดำเนินการ 152 ล้านบาท งบลงทุน 45 ล้านบาท งบอุดหนุน 760 ล้านบาท งบรายจ่าย 43 ล้านบาท โดยตั้งข้อสังเกตงบประมาณ 24.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบเบี้ยประชุม กรรมการ อนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม คณะกรรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นต้น เนื่องจากในรายงานไม่มีรายละเอียดจำนวนครั้งในการประชุมจึงเข้าไปดูในรายงานประจำปีของหน่วยงานนี้ในปี 65 พบว่ามีการประชุมเพื่อพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จำนวน 725 ครั้ง และมีการประชุมรวม 230 ครั้ง หมายความว่าใช้งบประมาณเฉลี่ยในการประชุมครั้งละ 1 แสนบาท/ครั้ง/วัน ตนถามผู้ที่มาชี้แจงได้ทราบว่ามีค่าเบี้ยประชุมสูงถึง 2,500-1 หมื่นบาท/คน/วัน ซึ่งในอนุกรรมการฯ ขณะที่เราประชุมกันเบี้ยประชุมเพียง 800 บาท/คน/วัน ตนคิดว่าน่าจะประหยัดงบประมาณนี้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ หากใช้งบอย่างเหมาะสมในการประชุม ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงสุดที่กำหนดไว้
นาย
กฤษฐ์หิรัญ กล่าวต่อว่า อีกหน่วยงานคือสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ หน่วยงานนี้ได้รับงบประมาณ 1,682 ล้านบาท เป็นงบดำเนินงาน 133 ล้านบาท งบลงทุน 592 ล้านบาท มีการปรับลดชั้นกรรมาธิการฯ เพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบระบบคอมพิวเตอร์ แต่มีโครงการหนึ่งซึ่งเป็นงบผูกพันปี 66-70 ใช้ชื่อแผนอย่างสวยหรูว่าแผนงานพื้นฐานด้านการจัดการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ความรู้เรื่องไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติอันเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยจากการชี้แจงอนุกรรมาธิการฯ แบ่งเป็น 2 โครงการ ในเฟสแรก เป็นงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ 1,230 ล้านบาท และเป็นงานก่อสร้างเฉพาะอาคาร ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 21 ล้านบาท ตนเห็นชื่อโครงการนี้จากข่าวเมื่อเดือน มิ.ย. 66 ว่ามีมูลค่าการก่อสร้าง 2,000 ล้านบาท ในพื้นที่ 2,550 ตร.ม. ตนประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ ตร.ม.ละ 8.1 หมื่นบาท แพงแค่ไหนนั้น ตนเปรียบเทียบกับโครงการที่ใกล้เคียงกัน เป็นอาคารห้างสรรพสินค้าที่มีค่าก่อสร้าง 2.1 หมื่นบาท/ตร.ม. ถือว่าแพงมากกว่าการก่อสร้างอาคารทั่วไปถึง 4 เท่า ซึ่งน่าจะปรับลดได้มากกว่านี้หากมีการจัดซื้อจัดจ้างที่เหมาะสม
นาย
กฤษฐ์หิรัญ อภิปรายต่อว่า โดยโครงการนี้อนุมัติตั้งแต่ปี 2557 ตั้งแต่หลังการรัฐประหารใหม่ๆ รัฐบาล คสช. ได้อนุมัติโครงการนี้และมีมติ ครม. 4 ม.ค. 65 ให้กระทรวงทรัพยากรฯ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ จากนั้น ครม.อนุมัติงบ 4,055 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้าง เป็นงบผูกพันปี 66-70 ทั้งนี้ตนมีความสงสัยว่าการประมูลก่อสร้างครั้งนี้โปร่งใสหรือไม่ เนื่องจากพบว่าผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารรายนี้รับงานก่อสร้างจากหน่วยงานรัฐจำนวนมากกว่า 1,529 โครงการ หรือ 1,460 ล้านบาทใน 7 ปี แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอาจจะเป็นเพราะความสามารถของผู้บริหารโครงการ แต่ข้อมูลที่เราได้รับเพิ่มเติม เฉพาะในกทม. มี 181 โครงการ จากทั้งหมด 888 โครงการ ที่บริษัทนี้ได้รับไป สังเกตว่ามีความปกติกว่า 1 ใน 5 จึงฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งพบว่าบริษัทนี้ไม่ได้ซื้อซองเข้าเสนองาน แต่ได้งานในช่วงปี 62-63 จำนวนมาก ดังนั้นตนจึงขอให้ทบทวนปรับค่าก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้ไม้มีค่าฯ นี้ ที่จะมีในเฟสที่ 2 เพราะเราไม่สามารถปรับลดในเฟสแรกได้ เฟสที่สองในเรื่องของการตกแต่งภายใน อยากให้ใช้งบประมาณที่เหมาะสมมากกว่านี้ สุดท้ายตนขอยืนยันให้ปรับลดงบ 67 มาตรา 17 ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯ ทั้งหมด 10 เปอร์เซ็นต์ของโครงการ.
ทหารเมียนมา แตกทัพ 48 ชีวิตหนีเข้าไทย โดนยึดอาวุธ หน่วยเหนือไม่ส่งเสบียง คาดยึดค่ายได้เร็วๆนี้
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8148949
ทหารเมียนมา แตกทัพ 48 ชีวิตหนีเข้าไทย โดนคุมตัว-ยึดอาวุธ เร่งสอบสวน ก่อนส่งตัวกลับ เผยหน่วยเหนือไม่ส่งเสบียง คาดฝ่ายต่อต้านยึดค่ายใหญ่ได้เร็วๆนี้
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา บรรยากาศชายแดนจังหวัดตาก ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบกันระหว่างทหารเมียนมา กับฝ่ายต่อต้าน มีทหารกองกำลังกอทูเล ของพลเอกเนอดา เมียะ ผู้บัญชาการกองกำลังกอทูเล ซึ่งเป็นลูกชายนายพลโบเมียะ อดีตประธานาธิบดีสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.)
ร่วมกับ ทหารเคเอ็นยู.กองพลน้อยที่ 7 และกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ.) เข้าโจมตีที่มั่นทางทหารบริเวณตรงข้ามบ้านหนองหลวง บ้านเปิงเคลิ่ง ตำบลแม่จัน อ.อุ้มผาง ทำให้ทหารเมียนมาแตกทัพออกมาจำนวน 48 นาย พร้อมอาวุธเข้ามาที่เขตไทย
ส่งผลให้ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ซึ่งตรึงกำลัง และรักษาความสงบบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เข้าไปควบคุมตัวและยึดอาวุธปืนไว้ ตามหลักปฏิบัติคือควบคุมตัว ยึดอาวุธ และสอบสวน จากนั้นจะติดต่อส่งกลับไปยังฝั่งเมียนมา ซึ่งจะเป็นการปฏิบัติกับทุกฝ่าย เพราะทางไทยไม่ได้เป็นศัตรูกับฝ่ายใด และเขตประเทศไทยถือว่าเป็นเขตปลอดภัย
ล่าสุด ทหารฝ่ายต่อต้านปิดล้อมค่ายใหญ่อีกแห่งหนึ่งของทหารเมียนมา คาดว่าน่าจะยึดได้ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากทหารเมียนมาขาดแคลนทั้งเสบียงอาหาร และอาวุธ ทางหน่วยเหนือไม่สามารถสนับสนุนกำลังทหาร และเสบียงอาหารทางภาคพื้นดินได้
JJNY : ก้าวไกลรับหนังสือผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้เช็ค│ก้าวไกลกังขาเบี้ยประชุม│ทหารเมียนมาหนีเข้าไทย│หมาล่าแห่ปิดกิจการ
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_692894/
ส.ส.ก้าวไกล รับหนังสือผู้ได้รับผลกระทบกฏหมายจากการใช้เช็ค ขอเร่งผลักดันกฏหมาย “ณัฐวุฒิ” ยันเร่งส่งเรื่อง กมธ.พิจารณาช่วยเหลือ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปรีติ เจริญศิลป์ และนายคุณากร มั่นนทีรัย โฆษกคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 พ.ศ. …. รับยื่นหนังสือจากนางสาวภวิษย์พร เอี่ยมหอม ตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากความผิดทางอาญาของพ.ร.บ.ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 และคณะ เรื่องขอให้เร่งรัดผลักดันให้การยกเลิก พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 ที่ได้รับมติเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.66
ซึ่งปัจจุบันอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกมธ.และล่วงเลยเวลามากกว่า 80 วันแล้ว ซึ่งความล่าช้าจะสร้างผลกระทบที่มากมายให้กับกลุ่มประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งทางด้านสิทธิเสรีภาพ สุขภาพจิต อันเป็นผลต่อการสูญเสียอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นเพียงผู้ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้เท่านั้น การใช้เช็คในการชำระหนี้ตามสัญญาและไม่สามารถชำระเงินได้ตามเช็คนั้นไม่ควรจะมีความผิดเป็นโทษทางอาญาเนื่องจากเป็นการผิดนัดชำระหนี้ในทางแพ่งเหมือนการไม่ชำระหนี้ตามตราสารอื่นๆ
จึงขอให้เร่งผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ เพื่อประโยชน์ของผู้ได้รับผลกระทบให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ในฐานะของสส.พรรคก้าวไกล ขอรับเรื่องความเดือดร้อนดังกล่าว ไปส่งมอบให้คณะ กมธ.วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 พ.ศ. …. เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไปต่อไป
โดยนายปรีติ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือน ก.พ.67 คณะ กมธ. ได้เข้าพบกับรองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งได้หารือเรื่องดังกล่าว โดยได้มีการเสนอแนะให้หามาตรการรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เช็คสามารถเป็นตราสารที่ใช้ได้ตามระบบได้ต่อไป
ด้านนายคุณากร กล่าวว่า คณะกมธ. ได้พิจารณาหลายครั้งแล้ว ที่ กมธ. เห็นตรงกันคือเช็คมีมูลหนี้ ควรได้รับการดำเนินทางแพ่ง แต่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว ต้องใช้ความรอบคอบเพราะ การยกเลิกพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 ดังกล่าว มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ดังนั้น คณะ กมธ. จึงใช้ความรอบคอบเพื่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด และพร้อมผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
‘สส.ก้าวไกล’กังขาเบี้ยประชุมกระทรวงทรัพย์ ตกหัวละ 1 หมื่นต่อวัน-พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าฯแพงระยับตร.ม.ละ 8 หมื่น
https://www.dailynews.co.th/news/3276409/
‘สส.ก้าวไกล’ ขอหั่นงบกระทรวงทรัพยากรฯ 10 เปอร์เซ็นต์ กังขางบเบี้ยประชุม สผ.สูงลิ่ว 2,500-1 หมื่นบาท/คน/วัน ขณะที่โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าฯ งบ 4 พันล้าน แพงกว่าอาคารทั่วไป 4 เท่า ตกตร.ม.ละ 8 หมื่น กังขาจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใสหรือไม่ 7 ปียุค คสช. ผู้รับเหมาได้งานรัฐกว่า 1,500 โครงการ ซ้ำช่วงปี 62-63 ไม่ต้องซื้อซองประมูลแต่ได้งาน
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่รัฐสภา เวลา 09.30 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระที่สอง เรียงตามรายมาตรา จำนวน 41 มาตรา ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นวันที่ 2
ในการพิจารณามาตรา 17 งบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 15,025,964,400 บาท นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี สส.นครสวรรค์ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ในฐานะอนุกรรมาธิการฯ ตนมีข้อสงสัยหน่วยงานในกระทรวงทรัพยากรฯ 2 หน่วยงาน คือ สำนักนโยบายแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งได้รับงบประมาณ 1,002.5 ล้านบาท เป็นงบดำเนินการ 152 ล้านบาท งบลงทุน 45 ล้านบาท งบอุดหนุน 760 ล้านบาท งบรายจ่าย 43 ล้านบาท โดยตั้งข้อสังเกตงบประมาณ 24.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบเบี้ยประชุม กรรมการ อนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม คณะกรรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นต้น เนื่องจากในรายงานไม่มีรายละเอียดจำนวนครั้งในการประชุมจึงเข้าไปดูในรายงานประจำปีของหน่วยงานนี้ในปี 65 พบว่ามีการประชุมเพื่อพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จำนวน 725 ครั้ง และมีการประชุมรวม 230 ครั้ง หมายความว่าใช้งบประมาณเฉลี่ยในการประชุมครั้งละ 1 แสนบาท/ครั้ง/วัน ตนถามผู้ที่มาชี้แจงได้ทราบว่ามีค่าเบี้ยประชุมสูงถึง 2,500-1 หมื่นบาท/คน/วัน ซึ่งในอนุกรรมการฯ ขณะที่เราประชุมกันเบี้ยประชุมเพียง 800 บาท/คน/วัน ตนคิดว่าน่าจะประหยัดงบประมาณนี้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ หากใช้งบอย่างเหมาะสมในการประชุม ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงสุดที่กำหนดไว้
นายกฤษฐ์หิรัญ กล่าวต่อว่า อีกหน่วยงานคือสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ หน่วยงานนี้ได้รับงบประมาณ 1,682 ล้านบาท เป็นงบดำเนินงาน 133 ล้านบาท งบลงทุน 592 ล้านบาท มีการปรับลดชั้นกรรมาธิการฯ เพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบระบบคอมพิวเตอร์ แต่มีโครงการหนึ่งซึ่งเป็นงบผูกพันปี 66-70 ใช้ชื่อแผนอย่างสวยหรูว่าแผนงานพื้นฐานด้านการจัดการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ความรู้เรื่องไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติอันเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยจากการชี้แจงอนุกรรมาธิการฯ แบ่งเป็น 2 โครงการ ในเฟสแรก เป็นงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ 1,230 ล้านบาท และเป็นงานก่อสร้างเฉพาะอาคาร ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 21 ล้านบาท ตนเห็นชื่อโครงการนี้จากข่าวเมื่อเดือน มิ.ย. 66 ว่ามีมูลค่าการก่อสร้าง 2,000 ล้านบาท ในพื้นที่ 2,550 ตร.ม. ตนประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ ตร.ม.ละ 8.1 หมื่นบาท แพงแค่ไหนนั้น ตนเปรียบเทียบกับโครงการที่ใกล้เคียงกัน เป็นอาคารห้างสรรพสินค้าที่มีค่าก่อสร้าง 2.1 หมื่นบาท/ตร.ม. ถือว่าแพงมากกว่าการก่อสร้างอาคารทั่วไปถึง 4 เท่า ซึ่งน่าจะปรับลดได้มากกว่านี้หากมีการจัดซื้อจัดจ้างที่เหมาะสม
นายกฤษฐ์หิรัญ อภิปรายต่อว่า โดยโครงการนี้อนุมัติตั้งแต่ปี 2557 ตั้งแต่หลังการรัฐประหารใหม่ๆ รัฐบาล คสช. ได้อนุมัติโครงการนี้และมีมติ ครม. 4 ม.ค. 65 ให้กระทรวงทรัพยากรฯ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ จากนั้น ครม.อนุมัติงบ 4,055 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้าง เป็นงบผูกพันปี 66-70 ทั้งนี้ตนมีความสงสัยว่าการประมูลก่อสร้างครั้งนี้โปร่งใสหรือไม่ เนื่องจากพบว่าผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารรายนี้รับงานก่อสร้างจากหน่วยงานรัฐจำนวนมากกว่า 1,529 โครงการ หรือ 1,460 ล้านบาทใน 7 ปี แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอาจจะเป็นเพราะความสามารถของผู้บริหารโครงการ แต่ข้อมูลที่เราได้รับเพิ่มเติม เฉพาะในกทม. มี 181 โครงการ จากทั้งหมด 888 โครงการ ที่บริษัทนี้ได้รับไป สังเกตว่ามีความปกติกว่า 1 ใน 5 จึงฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งพบว่าบริษัทนี้ไม่ได้ซื้อซองเข้าเสนองาน แต่ได้งานในช่วงปี 62-63 จำนวนมาก ดังนั้นตนจึงขอให้ทบทวนปรับค่าก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้ไม้มีค่าฯ นี้ ที่จะมีในเฟสที่ 2 เพราะเราไม่สามารถปรับลดในเฟสแรกได้ เฟสที่สองในเรื่องของการตกแต่งภายใน อยากให้ใช้งบประมาณที่เหมาะสมมากกว่านี้ สุดท้ายตนขอยืนยันให้ปรับลดงบ 67 มาตรา 17 ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯ ทั้งหมด 10 เปอร์เซ็นต์ของโครงการ.
ทหารเมียนมา แตกทัพ 48 ชีวิตหนีเข้าไทย โดนยึดอาวุธ หน่วยเหนือไม่ส่งเสบียง คาดยึดค่ายได้เร็วๆนี้
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_8148949
ทหารเมียนมา แตกทัพ 48 ชีวิตหนีเข้าไทย โดนคุมตัว-ยึดอาวุธ เร่งสอบสวน ก่อนส่งตัวกลับ เผยหน่วยเหนือไม่ส่งเสบียง คาดฝ่ายต่อต้านยึดค่ายใหญ่ได้เร็วๆนี้
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา บรรยากาศชายแดนจังหวัดตาก ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบกันระหว่างทหารเมียนมา กับฝ่ายต่อต้าน มีทหารกองกำลังกอทูเล ของพลเอกเนอดา เมียะ ผู้บัญชาการกองกำลังกอทูเล ซึ่งเป็นลูกชายนายพลโบเมียะ อดีตประธานาธิบดีสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.)
ร่วมกับ ทหารเคเอ็นยู.กองพลน้อยที่ 7 และกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ.) เข้าโจมตีที่มั่นทางทหารบริเวณตรงข้ามบ้านหนองหลวง บ้านเปิงเคลิ่ง ตำบลแม่จัน อ.อุ้มผาง ทำให้ทหารเมียนมาแตกทัพออกมาจำนวน 48 นาย พร้อมอาวุธเข้ามาที่เขตไทย
ส่งผลให้ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ซึ่งตรึงกำลัง และรักษาความสงบบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา เข้าไปควบคุมตัวและยึดอาวุธปืนไว้ ตามหลักปฏิบัติคือควบคุมตัว ยึดอาวุธ และสอบสวน จากนั้นจะติดต่อส่งกลับไปยังฝั่งเมียนมา ซึ่งจะเป็นการปฏิบัติกับทุกฝ่าย เพราะทางไทยไม่ได้เป็นศัตรูกับฝ่ายใด และเขตประเทศไทยถือว่าเป็นเขตปลอดภัย
ล่าสุด ทหารฝ่ายต่อต้านปิดล้อมค่ายใหญ่อีกแห่งหนึ่งของทหารเมียนมา คาดว่าน่าจะยึดได้ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากทหารเมียนมาขาดแคลนทั้งเสบียงอาหาร และอาวุธ ทางหน่วยเหนือไม่สามารถสนับสนุนกำลังทหาร และเสบียงอาหารทางภาคพื้นดินได้