สัมภาษณ์พิเศษ: ดร.ธนพร ฟันธง “ศักดิ์สยาม-นิพนธ์”ตอบไม่เคลียร์ ฝ่ายค้านได้เกรด B+
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3466008
สัมภาษณ์พิเศษ: ดร.
ธนพร ศรียากูล เช็คอาการศึกซักฟอก
ศักดิ์สยาม-นิพนธ์ ตอบไม่เคลียร์
อนุทิน กร่างเกินไป ตัดเกรดให้ฝ่ายค้าน B+ ปมส่วนตัว
ชัยวุฒิ ต้องแตะต้องได้ ฟันธง
จุรินทร์-นิพนธ์-จุติ รัฐมนตรีปชป. น่าเป็นห่วง คะแนนหาย ติดตามรายละเอียดบทสัมภาษณ์จากคลิปด้านล่างนี้
เก็บตกซักฟอก วันที่ 2 รัฐมนตรีแจงวุ่น ย้อนไฟล์เก่าจำนำข้าว แก้ต่าง พูดผิดพูดถูก
เก็บตกบรรยากาศบางส่วนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 2 โดยหลักเป็นคิวของรัฐมนตรีจากประชาธิปัตย์ เริ่มด้วย “จุรินทร์” ถูกกล่าวหาเรื่องถุงมือยาง ขณะที่เจ้าตัวโต้กลับพร้อมย้อนถึงการใช้หนี้จำนนำข้าว ด้าน “นิพนธ์” เจออภิปรายเรื่องการออกโฉนดที่ดิน เจ้าตัวแจงวุ่น พูดผิดพูดถูก ขณะที่ “ศักดิ์สยาม” ใช้สิทธิ์แจงข้ามวันโต้ปมซุกหุ้น ติดตมรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
ADB หั่น GDP ไทยปี 65 เหลือโต 2.9% เงินเฟ้อพุ่ง 6.3%
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/302049
ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ 2.9% จากคาดการณ์เดิมที่ 3% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 66 ลงมาอยู่ที่ 4.2% จาก 4.5% ซึ่งถึงแม้จะมีสัญญาณไปในทางบวก แต่เนื่องจากราคาพลังงานและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จะเป็นปัจจัยส่งผลต่อความต้องการส่งออกที่ลดลง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ลดลง
ADB ยังคาดว่าเงินเฟ้อของไทยในปีนี้ จะปรับตัวสูงขึ้น เป็น 6.3% จากเดิมคาด 3.3% เนื่องจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในวงกว้าง
ADB ยังหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปีนี้เหลือ 4.6% และปีหน้าเหลือ 5.2% แต่ปรับขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจอาเซียน สู่ระดับ 5% อานิสงส์จากการเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยว
โพลหอการค้าห่วงเยาวชนเข้าถึงกัญชาง่าย
https://www.innnews.co.th/news/news_377651/
หอการค้าไทย เผย ทัศนะของประชาชนต่อนโยบายกัญชาเสรี ห่วงเยาวชนเข้าถึงง่าย แม้เป็นพืชหนุนรายได้ทางเศรษฐกิจ
นาย
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผย ผลของการสำรวจ ทัศนะของประชาชนต่อนโยบายกัญชาเสรี ว่า จากผลสำรวจยืนยันว่าการปลูกกัญชาจะหนุนด้านเศรษฐกิจถือเป็นพืชทำรายได้ 200,000 บาทต่อไร่ต่อปี และช่วยหนุนระบบเศรษฐกิจของประเทศ 3-5 หมื่นล้านบาทต่อปี ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าจะเติบโตได้ร้อยละ 15 แต่ประชาชนยังมีความห่วงใยเกี่ยวกับการใช้ผิดประเภท โดยเฉพาะการเข้าถึงกัญชาที่ง่ายเกินไปสำหรับเด็กและเยาวชนที่ผลสำรวจมีความเป็นห่วงมากที่สุด ซึ่งมากกว่าผลกระทบต่อสังคมในภาพรวม
อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจประชาชนเห็นว่ากัญชามีผลดีต่อทางการแพทย์ ต่อผู้ป่วย ต่อการพัฒนาวิจัย และเศรษฐกิจประเทศ
สหภาพ กปภ.ฯ ขอบคุณ เพื่อไทย ทวงคืนทรัพย์สินการประปา 3 หมื่นล้าน
https://www.nationtv.tv/news/378880536
สหภาพ กปภ.ฯ ขอบคุณ พรรคเพื่อไทยอภิปรายฯ "บิ๊กป๊อก" ทวงคืนทรัพย์สินการประปา 3 หมื่นล้าน ไม่ให้ตกเป็นของเอกชนรายใดรายหนึ่ง
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่รัฐสภา ตัวแทนสหภาพรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เข้ามอบช่อดอกไม้แสดงความขอบคุณ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนาย
เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย ในฐานะผู้อภิปราย พล.อ.
อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กรณีแก้ไขต่อสัญญาโครงการร่วมลงทุนน้ำประปาปทุมธานี - รังสิต ต่อไปอีก 20 ปี โดยไม่มีการเปิดประมูล ซึ่งจะทำให้รัฐเสียหายกว่า 3 หมื่นล้านบาท
นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณชาว จ.เลย ที่ส่งนาย
เลิศศักดิ์เข้าสภา ซึ่งนาย
เลิศศักดิ์ไม่ได้เก่งเฉพาะเรื่องนำเสนอปัญหาลอตเตอรี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้คนเมืองเลยอย่างเดียวเท่านั้น แต่เคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่นมาก่อน จึงเข้าใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องน้ำประปาเป็นอย่างดี และพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าติดตามแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อไป
ทางด้านนาย
เลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจที่จะหยุดยั้งการต่อสัญญาโครงการดังกล่าว เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนรายใดรายหนึ่งทำให้เกิดผลเสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติที่ต้องจ่ายต้นทุนค่าน้ำด้วยราคาแพง หากจะดำเนินการต้องให้เป็นไปตามกฎหมายและให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด และจากนี้อีก 1 ปีต้องจับตาว่าจะมีการต่อสัญญาให้เอกชนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พล.อ.
อนุพงษ์ ได้รับปากกลางที่ประชุมสภาแล้วว่า จะไม่มีการต่อสัญญาโครงการ โดยจะให้การประปาฯ ดำเนินการต่อ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป
‘วิโรจน์’ แฉผลงานผู้ว่าฯ คนก่อน งบสำนักระบายน้ำ กทม. 7,700 ล้าน แต่เบิกจ่ายช้า หาผู้รับเหมาไม่ได้
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/302002
‘วิโรจน์’ แฉงบสำนักระบายน้ำ กทม. 7,700 ล้าน ผู้ว่าคนก่อนทำทิ้งไว้มีแต่โครงการใหญ่ จ้างแต่ที่ปรึกษา แต่งานด้อยคุณภาพ เบิกจ่ายช้า ทำให้สร้างไม่เสร็จ หาผู้รับเหมาไม่ได้ ย้ำ ส.ก. ก้าวไกลพร้อมเข้าไปผ่าตัดงบประมาณช่วยผู้ว่า
นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ข้อสังเกตถึงงบ กทม. ปี 66 ว่ามีปัญหาจำนวนมากที่ต้องเข้าไปจัดการแก้ไขเพื่อให้ผู้ว่า
ชัชชาติแก้ปัญหาเส้นเลือดฝอยได้
นาย
วิโรจน์ กล่าวว่า หนี่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพในช่วงเวลานี้ คือการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศโลกมีความแปรปรวนเป็นพิเศษ และปัญหาน้ำท่วมแบบที่เกิดในวันนี้อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของปีนี้ เพราะอย่าลืมว่าเราเพิ่งผ่านวันเข้าพรรษามาแค่ไม่กี่วัน
หัวใจของปัญหาน้ำท่วมที่ต้องเร่งแก้ไข นอกจากเส้นเลือดใหญ่ หรือเส้นเลือดฝอยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่เปรียบประหนึ่งกระดูกสันหลัง ก็คือ การจัดสรรงบประมาณของ กทม. ว่าถูกจัดสรร และนำไปใช้ได้อย่างตรงจุดหรือไม่
พรรคก้าวไกลมีข้อสังเกตงบประมาณสำนักระบายน้ำ ปี 66 จำนวน 7,704.48 ล้านบาท ที่ผู้ว่าคนก่อนทำทิ้งไว้ ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วพบได้ว่า
1. มีโครงการการก่อสร้างจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นโครงการอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ โครงการสร้างพื้นรับน้ำ หรือโครงการสร้างอาคารรับน้ำสำหรับการระบาย ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนที่ตั้งไว้ ทำให้เกิดการก่อสร้างล่าช้า ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก หลายโครงการที่เลยกำหนด ผู้รับเหมาก็ทิ้งงาน งบประมาณก็ขาดแคลนไม่ต่อเนื่อง ทำให้โครงการถูกลากยาว สร้างไม่จบไม่สิ้น
2. มีการตั้งโครงการก่อสร้างยักษ์ใหญ่จำนวนมาก แต่ไม่สามารถหาผู้รับจ้างได้ แต่ก็ตั้งงบประมาณในส่วนนี้คาเอาไว้เสมอ เหมือนกับจะล็อคสเป็ครอผู้รับเหมารายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ ทำให้แผนการระบายน้ำไม่ถูกดำเนินการให้แล้วเสร็จ ปัญหาเดิมก็ค้างอยู่อย่างนั้น
3. โครงการก่อสร้างของสำนักระบายน้ำคิดแต่การทำการใหญ่ที่มีผลกระทบสูง แต่ไม่มีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่อย่างการทำประชาพิจารณ์
4. สำนักระบายน้ำเสียเงินจำนวนมากไปกับการจ้างที่ปรึกษาในการก่อสร้าง แถมที่ผ่านมาการตรวจรับงาน ก็มีปัญหางานด้อยคุณภาพหลุดออกมาเต็มไปหมด แต่ที่ปรึกษารายเดิมๆ ก็ยังถูกจ้างอยู่วันยังค่ำ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยน
แน่นอนครับว่างบประมาณเหล่านี้จะต้องถูกตัด และปรับปรุงเพื่อให้เอาไปแก้ปัญหา "เส้นเลือดฝอย" ได้อย่างตรงจุด
ในขณะที่ผู้ว่า
ชัชชาติลงไปลุยสั่งการปัญหาน้ำท่วมที่ศูนย์บัญชาการต่างๆ ณ ขณะนี้ ส.ก. ก้าวไกลทุกคน ต่างก็ลงไปสำรวจความเดือดร้อนของประชาชน และเร่งประสานการระบายน้ำในทุกพื้นที่ เช่นกัน และในวันพรุ่งนี้ ส.ก. ก้าวไกลทั้ง 13 เขต จะเข้าไปประสานงานกับสำนักงานเขตเพิ่มเติม เพื่อวางแผน และซักซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติงานในการระบายน้ำให้ทันต่อเหตุการณ์ และฉับไวมากขึ้น
ขณะนี้ กทม. กำลังพิจารณาข้อบัญญัติงบประมาณ 66 ส.ก. ก้าวไกลทุกคน เราทำการบ้านกับงบที่เกี่ยวข้องกับงานระบายทั้งในส่วนของเขต และสำนักการระบายน้ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่า กทม. จะมีงบประมาณที่เพียงพอ สำหรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพ ให้ทุเลาลงให้ได้
https://www.facebook.com/wirojlak/posts/pfbid0ga2wnXKjufbq6497TBYMAn2sdA2s2Ct5XHFPEPjcfuiRd2LTQcaiGvan4bj5KkAfl
JJNY : 6in1 ดร.ธนพรฟันธง│เก็บตกซักฟอกวันที่2│ADBหั่น GDPไทย│โพลหอการค้าห่วงเยาวชน│สหภาพกปภ.ฯขอบคุณพท.│‘วิโรจน์’แฉผู้ว่า
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3466008
สัมภาษณ์พิเศษ: ดร.ธนพร ศรียากูล เช็คอาการศึกซักฟอก ศักดิ์สยาม-นิพนธ์ ตอบไม่เคลียร์ อนุทิน กร่างเกินไป ตัดเกรดให้ฝ่ายค้าน B+ ปมส่วนตัว ชัยวุฒิ ต้องแตะต้องได้ ฟันธง จุรินทร์-นิพนธ์-จุติ รัฐมนตรีปชป. น่าเป็นห่วง คะแนนหาย ติดตามรายละเอียดบทสัมภาษณ์จากคลิปด้านล่างนี้
ADB หั่น GDP ไทยปี 65 เหลือโต 2.9% เงินเฟ้อพุ่ง 6.3%
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/302049
ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ 2.9% จากคาดการณ์เดิมที่ 3% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 66 ลงมาอยู่ที่ 4.2% จาก 4.5% ซึ่งถึงแม้จะมีสัญญาณไปในทางบวก แต่เนื่องจากราคาพลังงานและราคาสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จะเป็นปัจจัยส่งผลต่อความต้องการส่งออกที่ลดลง ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ลดลง
ADB ยังคาดว่าเงินเฟ้อของไทยในปีนี้ จะปรับตัวสูงขึ้น เป็น 6.3% จากเดิมคาด 3.3% เนื่องจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในวงกว้าง
ADB ยังหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปีนี้เหลือ 4.6% และปีหน้าเหลือ 5.2% แต่ปรับขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจอาเซียน สู่ระดับ 5% อานิสงส์จากการเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยว
โพลหอการค้าห่วงเยาวชนเข้าถึงกัญชาง่าย
https://www.innnews.co.th/news/news_377651/
หอการค้าไทย เผย ทัศนะของประชาชนต่อนโยบายกัญชาเสรี ห่วงเยาวชนเข้าถึงง่าย แม้เป็นพืชหนุนรายได้ทางเศรษฐกิจ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผย ผลของการสำรวจ ทัศนะของประชาชนต่อนโยบายกัญชาเสรี ว่า จากผลสำรวจยืนยันว่าการปลูกกัญชาจะหนุนด้านเศรษฐกิจถือเป็นพืชทำรายได้ 200,000 บาทต่อไร่ต่อปี และช่วยหนุนระบบเศรษฐกิจของประเทศ 3-5 หมื่นล้านบาทต่อปี ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าจะเติบโตได้ร้อยละ 15 แต่ประชาชนยังมีความห่วงใยเกี่ยวกับการใช้ผิดประเภท โดยเฉพาะการเข้าถึงกัญชาที่ง่ายเกินไปสำหรับเด็กและเยาวชนที่ผลสำรวจมีความเป็นห่วงมากที่สุด ซึ่งมากกว่าผลกระทบต่อสังคมในภาพรวม
อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจประชาชนเห็นว่ากัญชามีผลดีต่อทางการแพทย์ ต่อผู้ป่วย ต่อการพัฒนาวิจัย และเศรษฐกิจประเทศ
สหภาพ กปภ.ฯ ขอบคุณ เพื่อไทย ทวงคืนทรัพย์สินการประปา 3 หมื่นล้าน
https://www.nationtv.tv/news/378880536
สหภาพ กปภ.ฯ ขอบคุณ พรรคเพื่อไทยอภิปรายฯ "บิ๊กป๊อก" ทวงคืนทรัพย์สินการประปา 3 หมื่นล้าน ไม่ให้ตกเป็นของเอกชนรายใดรายหนึ่ง
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่รัฐสภา ตัวแทนสหภาพรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เข้ามอบช่อดอกไม้แสดงความขอบคุณ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย ในฐานะผู้อภิปราย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กรณีแก้ไขต่อสัญญาโครงการร่วมลงทุนน้ำประปาปทุมธานี - รังสิต ต่อไปอีก 20 ปี โดยไม่มีการเปิดประมูล ซึ่งจะทำให้รัฐเสียหายกว่า 3 หมื่นล้านบาท
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณชาว จ.เลย ที่ส่งนายเลิศศักดิ์เข้าสภา ซึ่งนายเลิศศักดิ์ไม่ได้เก่งเฉพาะเรื่องนำเสนอปัญหาลอตเตอรี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้คนเมืองเลยอย่างเดียวเท่านั้น แต่เคยเป็นผู้บริหารท้องถิ่นมาก่อน จึงเข้าใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องน้ำประปาเป็นอย่างดี และพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าติดตามแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อไป
ทางด้านนายเลิศศักดิ์ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจที่จะหยุดยั้งการต่อสัญญาโครงการดังกล่าว เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนรายใดรายหนึ่งทำให้เกิดผลเสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติที่ต้องจ่ายต้นทุนค่าน้ำด้วยราคาแพง หากจะดำเนินการต้องให้เป็นไปตามกฎหมายและให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด และจากนี้อีก 1 ปีต้องจับตาว่าจะมีการต่อสัญญาให้เอกชนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พล.อ.อนุพงษ์ ได้รับปากกลางที่ประชุมสภาแล้วว่า จะไม่มีการต่อสัญญาโครงการ โดยจะให้การประปาฯ ดำเนินการต่อ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป
‘วิโรจน์’ แฉผลงานผู้ว่าฯ คนก่อน งบสำนักระบายน้ำ กทม. 7,700 ล้าน แต่เบิกจ่ายช้า หาผู้รับเหมาไม่ได้
https://ch3plus.com/news/political/ch3onlinenews/302002
‘วิโรจน์’ แฉงบสำนักระบายน้ำ กทม. 7,700 ล้าน ผู้ว่าคนก่อนทำทิ้งไว้มีแต่โครงการใหญ่ จ้างแต่ที่ปรึกษา แต่งานด้อยคุณภาพ เบิกจ่ายช้า ทำให้สร้างไม่เสร็จ หาผู้รับเหมาไม่ได้ ย้ำ ส.ก. ก้าวไกลพร้อมเข้าไปผ่าตัดงบประมาณช่วยผู้ว่า
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีต ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ข้อสังเกตถึงงบ กทม. ปี 66 ว่ามีปัญหาจำนวนมากที่ต้องเข้าไปจัดการแก้ไขเพื่อให้ผู้ว่าชัชชาติแก้ปัญหาเส้นเลือดฝอยได้
นายวิโรจน์ กล่าวว่า หนี่งในปัญหาที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพในช่วงเวลานี้ คือการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากปีนี้สภาพอากาศโลกมีความแปรปรวนเป็นพิเศษ และปัญหาน้ำท่วมแบบที่เกิดในวันนี้อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของปีนี้ เพราะอย่าลืมว่าเราเพิ่งผ่านวันเข้าพรรษามาแค่ไม่กี่วัน
หัวใจของปัญหาน้ำท่วมที่ต้องเร่งแก้ไข นอกจากเส้นเลือดใหญ่ หรือเส้นเลือดฝอยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่เปรียบประหนึ่งกระดูกสันหลัง ก็คือ การจัดสรรงบประมาณของ กทม. ว่าถูกจัดสรร และนำไปใช้ได้อย่างตรงจุดหรือไม่
พรรคก้าวไกลมีข้อสังเกตงบประมาณสำนักระบายน้ำ ปี 66 จำนวน 7,704.48 ล้านบาท ที่ผู้ว่าคนก่อนทำทิ้งไว้ ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วพบได้ว่า
1. มีโครงการการก่อสร้างจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นโครงการอุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ โครงการสร้างพื้นรับน้ำ หรือโครงการสร้างอาคารรับน้ำสำหรับการระบาย ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผนที่ตั้งไว้ ทำให้เกิดการก่อสร้างล่าช้า ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก หลายโครงการที่เลยกำหนด ผู้รับเหมาก็ทิ้งงาน งบประมาณก็ขาดแคลนไม่ต่อเนื่อง ทำให้โครงการถูกลากยาว สร้างไม่จบไม่สิ้น
2. มีการตั้งโครงการก่อสร้างยักษ์ใหญ่จำนวนมาก แต่ไม่สามารถหาผู้รับจ้างได้ แต่ก็ตั้งงบประมาณในส่วนนี้คาเอาไว้เสมอ เหมือนกับจะล็อคสเป็ครอผู้รับเหมารายใดรายหนึ่งเป็นการเฉพาะ ทำให้แผนการระบายน้ำไม่ถูกดำเนินการให้แล้วเสร็จ ปัญหาเดิมก็ค้างอยู่อย่างนั้น
3. โครงการก่อสร้างของสำนักระบายน้ำคิดแต่การทำการใหญ่ที่มีผลกระทบสูง แต่ไม่มีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่อย่างการทำประชาพิจารณ์
4. สำนักระบายน้ำเสียเงินจำนวนมากไปกับการจ้างที่ปรึกษาในการก่อสร้าง แถมที่ผ่านมาการตรวจรับงาน ก็มีปัญหางานด้อยคุณภาพหลุดออกมาเต็มไปหมด แต่ที่ปรึกษารายเดิมๆ ก็ยังถูกจ้างอยู่วันยังค่ำ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยน
แน่นอนครับว่างบประมาณเหล่านี้จะต้องถูกตัด และปรับปรุงเพื่อให้เอาไปแก้ปัญหา "เส้นเลือดฝอย" ได้อย่างตรงจุด
ในขณะที่ผู้ว่าชัชชาติลงไปลุยสั่งการปัญหาน้ำท่วมที่ศูนย์บัญชาการต่างๆ ณ ขณะนี้ ส.ก. ก้าวไกลทุกคน ต่างก็ลงไปสำรวจความเดือดร้อนของประชาชน และเร่งประสานการระบายน้ำในทุกพื้นที่ เช่นกัน และในวันพรุ่งนี้ ส.ก. ก้าวไกลทั้ง 13 เขต จะเข้าไปประสานงานกับสำนักงานเขตเพิ่มเติม เพื่อวางแผน และซักซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติงานในการระบายน้ำให้ทันต่อเหตุการณ์ และฉับไวมากขึ้น
ขณะนี้ กทม. กำลังพิจารณาข้อบัญญัติงบประมาณ 66 ส.ก. ก้าวไกลทุกคน เราทำการบ้านกับงบที่เกี่ยวข้องกับงานระบายทั้งในส่วนของเขต และสำนักการระบายน้ำอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่า กทม. จะมีงบประมาณที่เพียงพอ สำหรับการแก้ปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพ ให้ทุเลาลงให้ได้
https://www.facebook.com/wirojlak/posts/pfbid0ga2wnXKjufbq6497TBYMAn2sdA2s2Ct5XHFPEPjcfuiRd2LTQcaiGvan4bj5KkAfl