ต้องขอบอกก่อนนะคะ พอดีพ่อของเราเป็นคนภาคกลาง ส่วนแม่เป็นคนภาคเหนือ แม้ตัวเราจะอยู่ภาคกลางเป็นหลัก แต่บางช่วงเราก็ต้องสลับขึ้นเหนือไปอยู่กับแม่เป็นระยะๆ มันเลยทำให้เราพอมีความรู้อยู่บ้าง ระหว่างอาหารเมนูภาคกลาง กับอาหารเมนูภาคเหนือ
อั่ว จริงๆแล้วคือคำกริยา ซึ่งหมายถึง
การยัด
เราสามารถนำอะไรมายัดก็ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ลำไส้ของสัตว์เสมอไป อย่างเช่น... พริกหยวก หน่อไม้ ดอกฟักทอง กบ ฯลฯ และเราก็จะเรียกเมนูนั้นๆตามวัตถุดิบที่เรานำมายัดไส้ หากเรานำพริกหยวกมายัด เราก็จะเรียกเมนูนั้นว่า... พริกอั่ว
สำหรับเมนูวันนี้ เราทำไส้อั่วแบบปกติค่ะ
.
.
.
.
ก่อนจะหมักหมูสับเพื่อนำไปอั่วได้ สิ่งที่สำคัญคือเครื่องแกง หรือน้ำพริกแกงค่ะ เราจะต้องมีก่อน ก็แล้วแต่สูตรของแต่ละบ้านนะคะ ส่วนสูตรที่บ้านเราทำเป็นประจำๆ
ส่วนประกอบก็จะมี...
พริกแห้ง หอมแดง ตะไคร้
กระเทียม ข่า ขมิ้น เม็ดผักชี และกะปิ
.
.
.
.
ปกติถ้าทำน้ำพริกแกงอะไรก็ตาม เราจะใช้การกะปริมาณด้วยสายตา หอมแดงกับตะไคร้จะต้องพอๆกัน แต่สำหรับการทำไส้อั่วนั้น เราจะเพิ่มตะไคร้ให้มากกว่าหอมแดงสักครึ่งนึงค่ะ (ในรูปมุมกล้องอาจจะดูเหมือนน้อยนะคะ)
แม่เราจะบอกกับเราเสมอ หากทำอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ต้องมีกะปิเป็นส่วนประกอบ เราจะต้องใช้กะปิให้ถึงๆ อย่า-งกกะปิแล้วใช้น้อยเกินไป แต่ก็อย่ามือเติบหนักกะปิ เพราะถ้ากะปิมากเกินไปไม่พอดีกับเครื่องแกง ก็จะกลบกลิ่นและเหม็นกะปิได้เช่นกัน
เพราะแบบนี้ เมนูพื้นบ้านของภาคเหนือจริงๆเลยจะไม่ปรุงอะไรเยอะ มีแค่เกลือกับน้ำปลาก็ใช้ทำกับข้าวได้แล้ว (พวกซอสถั่วเหลือง ซอสหอย ผงปรุงรส รวมถึงน้ำตาล จึงไม่จำเป็นต้องใช้) แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างเลยปรับเปลี่ยนไปตามผู้คน รวมถึงความชอบส่วนบุคคลด้วยค่ะ
วกกลับมาที่เครื่องแกงหรือน้ำพริกแกงของเราต่อ
ถ้าจะมาทำเมนูนี้ เราไม่ต้องตำให้ถึงขั้นละเอียดนะคะ
⭐ และหากไม่สะดวกตำเครื่องแกงเอง สามารถดัดแปลงซื้อน้ำพริกแกงสำเร็จที่เป็นน้ำพริกแกงเผ็ดมาใช้ก็ได้ค่ะ แล้วเพิ่มผงขมิ้น หรือหัวขมิ้นสดเข้าไปหน่อย
.
.
.
.
ด้วยความที่เราไม่ค่อยถูกกับเครื่องใน และไม่ถนัดการทำอาหารที่ต้องใช้เครื่องใน และด้วยความสะดวกไม่ต้องมีขั้นตอนเตรียมอะไรเยอะ เราจึงเลือกใช้ไส้เทียมคอลลาเจนแทนการใช้ใส่จริงค่ะ (พอดีที่บ้านมีเหลือในตู้เย็นอยู่แล้วด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม)
วัตถุดิบและเครื่องปรุงไส้อั่ว
- หมูสับ
- น้ำพริกแกง
- น้ำปลา
- ผงปรุงรส
- ไส้เทียมคอลลาเจน
- ใบมะกรูดซอยหยาบๆ
(จะละเอียดก็ได้แล้วแต่ชอบค่ะ)
⭐ หากมีต้นหอมและผักชี จะเอามาซอยใส่เพิ่มก็ได้นะคะ พอดีเราไม่กิน ก็เลยไม่ใส่ค่ะ
เราไม่ชอบไส้อั้วที่มีไขมันเยอะ เพราะเวลากินมันรู้สึกเลี่ยนค่ะ เราชอบแบบเนื้อแน่นๆ การได้ทำเองเลยอาจจะดีตรงนี้ที่เราสามารถเลือกซื้อหมูสับเองได้
.
.
.
.
วิธีทำ
นำหมูสับ มานวดผสมกับน้ำพริกแกง
จากนั้นปรุงรสชาติ
ด้วยน้ำปลาและผงปรุงรส
และต่อด้วยใบมะกรูดซอย
นวดคลุกเคล้าจนทุกอย่างเข้ากันดี
.
.
.
.
ส่วนวิธีการเตรียมไส้เทียมนั้น
เราใช้วิธีเดียวกันกับครั้งที่เราทำไส้กรอกอีสานเลยค่ะ
.
.
.
.
เราไม่ได้ทำไส้อั่วแบบยาวนะคะ เราทำแบบเป็นลูกๆ จะได้ง่ายกับการจัดเก็บด้วย
อีกอย่าง เราใช้ไส้เทียมคอลลาเจน ความยืดหยุ่นเขาจะไม่มีเหมือนไส้จริงค่ะ เลยไม่สามารถขดตัวหรือม้วนเป็นวงกลมขดเล็กๆได้
และเมื่อยัดเสร็จแล้ว เราจะนำไปนึ่งให้สุกก่อน (แต่ใครจะไม่นึ่งก็ได้นะคะ)
ซึ่งที่เรานึ่ง ก็เพราะว่า...
เวลาเอาไปทอดหรือย่าง จะได้ไม่ต้องใช้เวลานาน ทอดหรือย่างแค่ข้างนอกเปลี่ยนสีและพอมีกลิ่นหอมก็สามารถใช้ได้แล้ว (โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าด้านในจะไม่สุกค่ะ)
.
.
.
.
ก่อนจะกิน เราเอาเข้าหม้อทอดไร้น้ำมัน 10นาที
🧡❤️ เมื่อเสร็จแล้วจะได้ประมาณนี้ค่ะ 🧡❤️
.
.
.
.
มีไส้อั่วแล้ว สำหรับเราต้องมีข้าวเหนียวด้วย ก็ได้ทำการหุง/นึ่งข้าวเหนียวไว้เหมือนกันค่ะ แถมตำน้ำพริกหนุ่มด้วยอีกหน่อย ทุกอย่างเพอร์เฟคท์เลย
ปล.จริงๆถ้าเราไม่อยากยัดกรอกใส่ไส้ ก็สามารถนำตัวหมูสับที่เราหมักไว้นั้น มาทอดเป็นแบบทอดมัน หรือห่อใบตองแล้วปิ้งก็ได้นะคะ
เป็นเมนูที่เป็นได้ทั้งกับข้าว ของกินเล่นหรือกับแกล้มสำหรับคอเก๊กฮวยได้เหมือนกันค่ะ
💛🧡 สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์นะคะ 💛🧡
.
.
... ไส้อั่วโฮมเมด เมนูที่เหมือนยาก แต่จริงๆทำง่าย ถ้าหมักหมูทอดได้ เมนูนี้ก็จิ๊บๆค่ะ ❤️🧡💛
อั่ว จริงๆแล้วคือคำกริยา ซึ่งหมายถึง การยัด
เราสามารถนำอะไรมายัดก็ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ลำไส้ของสัตว์เสมอไป อย่างเช่น... พริกหยวก หน่อไม้ ดอกฟักทอง กบ ฯลฯ และเราก็จะเรียกเมนูนั้นๆตามวัตถุดิบที่เรานำมายัดไส้ หากเรานำพริกหยวกมายัด เราก็จะเรียกเมนูนั้นว่า... พริกอั่ว
แม่เราจะบอกกับเราเสมอ หากทำอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ต้องมีกะปิเป็นส่วนประกอบ เราจะต้องใช้กะปิให้ถึงๆ อย่า-งกกะปิแล้วใช้น้อยเกินไป แต่ก็อย่ามือเติบหนักกะปิ เพราะถ้ากะปิมากเกินไปไม่พอดีกับเครื่องแกง ก็จะกลบกลิ่นและเหม็นกะปิได้เช่นกัน
เพราะแบบนี้ เมนูพื้นบ้านของภาคเหนือจริงๆเลยจะไม่ปรุงอะไรเยอะ มีแค่เกลือกับน้ำปลาก็ใช้ทำกับข้าวได้แล้ว (พวกซอสถั่วเหลือง ซอสหอย ผงปรุงรส รวมถึงน้ำตาล จึงไม่จำเป็นต้องใช้) แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างเลยปรับเปลี่ยนไปตามผู้คน รวมถึงความชอบส่วนบุคคลด้วยค่ะ
วกกลับมาที่เครื่องแกงหรือน้ำพริกแกงของเราต่อ
ถ้าจะมาทำเมนูนี้ เราไม่ต้องตำให้ถึงขั้นละเอียดนะคะ
⭐ และหากไม่สะดวกตำเครื่องแกงเอง สามารถดัดแปลงซื้อน้ำพริกแกงสำเร็จที่เป็นน้ำพริกแกงเผ็ดมาใช้ก็ได้ค่ะ แล้วเพิ่มผงขมิ้น หรือหัวขมิ้นสดเข้าไปหน่อย
เราไม่ชอบไส้อั้วที่มีไขมันเยอะ เพราะเวลากินมันรู้สึกเลี่ยนค่ะ เราชอบแบบเนื้อแน่นๆ การได้ทำเองเลยอาจจะดีตรงนี้ที่เราสามารถเลือกซื้อหมูสับเองได้
อีกอย่าง เราใช้ไส้เทียมคอลลาเจน ความยืดหยุ่นเขาจะไม่มีเหมือนไส้จริงค่ะ เลยไม่สามารถขดตัวหรือม้วนเป็นวงกลมขดเล็กๆได้
และเมื่อยัดเสร็จแล้ว เราจะนำไปนึ่งให้สุกก่อน (แต่ใครจะไม่นึ่งก็ได้นะคะ)
ซึ่งที่เรานึ่ง ก็เพราะว่า...
เวลาเอาไปทอดหรือย่าง จะได้ไม่ต้องใช้เวลานาน ทอดหรือย่างแค่ข้างนอกเปลี่ยนสีและพอมีกลิ่นหอมก็สามารถใช้ได้แล้ว (โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าด้านในจะไม่สุกค่ะ)
ปล.จริงๆถ้าเราไม่อยากยัดกรอกใส่ไส้ ก็สามารถนำตัวหมูสับที่เราหมักไว้นั้น มาทอดเป็นแบบทอดมัน หรือห่อใบตองแล้วปิ้งก็ได้นะคะ
เป็นเมนูที่เป็นได้ทั้งกับข้าว ของกินเล่นหรือกับแกล้มสำหรับคอเก๊กฮวยได้เหมือนกันค่ะ