"นิพพาน" เป็นคำที่มีประเด็นชวนทะเลาะอยู่บ่อยครั้ง
- นิพพานเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุดหรือไม่?
- นิพพานเป็นสุขหรือไม่? (สุขเวทนาหรือสุขในความหมายใด?)
- นิพพานเป็นอัตตา หรืออนัตตา หรือไม่ใช่ทั้งคู่?
- นิพพานเป็นจิตเดิมแท้ หรือนิพพานเป็นลักษณะหนึ่งของจิตเดิมแท้ หรือไม่ใช่ทั้งคู่?
เกิดสงสัยขึ้นมา ชาวพุทธจำเป็นต้องรู้จักนิพพาน หรือสนทนาเรื่องนิพพานหรือไม่?
>> นิพพานน่าจะเป็น "อจินไตย" ไม่ใช่เหรอ? <<
ฌานวิสัยเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะผู้ได้ฌาน ผู้ไม่ได้ฌานไม่มีทางเข้าใจ ไม่สามารถนึกคิดเองได้
นิพพานเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะอรหันต์ ผู้ไม่ใช่อรหันต์ไม่มีทางเข้าใจ ไม่สามารถนึกคิดเองได้
ส่วนตัวคิดว่า นิพพานไม่ควรถูกตั้งเป็นเป้าหมาย เพราะไม่มีทางเข้าใจด้วยการนึกคิด
สับสนว่าฉันกำลังปฏิบัติไปเพื่อเป้าหมายอะไรอยู่ เหมือนตามหาผีที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
พร่ำสอนกันอยู่นั่นล่ะ ปฏิบัติเพื่อนิพพาน แต่นิพพานคืออะไรยังไม่รู้เลย เป็นคนตาบอดเดินทางน่ะเหรอ
สิ่งที่ควรตั้งเป็นเป้าหมายคือ "การไม่มีกิเลส"
ผู้ปฏิบัติสามารถเทียบเคียงได้ว่า เมื่อก่อนฉันมีกิเลส 100% หลังปฏิบัติระยะหนึ่งกิเลสเหลือ 90%
ราคะ โทสะ โมหะน้อยลง แบบนี้น่าจะเข้าใจง่ายกว่า เห็นผลชัดกว่า feedback เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ปฏิบัติ
เป็นกำลังใจให้นักปฏิบัติทั้งหลายได้ดีกว่าการไล่ตามผีที่ไม่รู้คืออะไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ส่วนตัวคิดว่านิพพานคืออจินไตย สนทนาได้ แต่ควรอยู่ในวงผู้รู้นิพพานเท่านั้น
เปรียบเหมือนเรื่องฌานที่สนทนาได้ แต่ควรสนทนาในวงผู้ได้ฌานแล้วเท่านั้น
แต่ละท่านคิดเห็นอย่างไร มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
นิพพาน เป็นเรื่องที่ควรนำมาสอนและสนทนาในวงกว้างหรือไม่?
- นิพพานเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุดหรือไม่?
- นิพพานเป็นสุขหรือไม่? (สุขเวทนาหรือสุขในความหมายใด?)
- นิพพานเป็นอัตตา หรืออนัตตา หรือไม่ใช่ทั้งคู่?
- นิพพานเป็นจิตเดิมแท้ หรือนิพพานเป็นลักษณะหนึ่งของจิตเดิมแท้ หรือไม่ใช่ทั้งคู่?
เกิดสงสัยขึ้นมา ชาวพุทธจำเป็นต้องรู้จักนิพพาน หรือสนทนาเรื่องนิพพานหรือไม่?
>> นิพพานน่าจะเป็น "อจินไตย" ไม่ใช่เหรอ? <<
ฌานวิสัยเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะผู้ได้ฌาน ผู้ไม่ได้ฌานไม่มีทางเข้าใจ ไม่สามารถนึกคิดเองได้
นิพพานเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะอรหันต์ ผู้ไม่ใช่อรหันต์ไม่มีทางเข้าใจ ไม่สามารถนึกคิดเองได้
ส่วนตัวคิดว่า นิพพานไม่ควรถูกตั้งเป็นเป้าหมาย เพราะไม่มีทางเข้าใจด้วยการนึกคิด
สับสนว่าฉันกำลังปฏิบัติไปเพื่อเป้าหมายอะไรอยู่ เหมือนตามหาผีที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
พร่ำสอนกันอยู่นั่นล่ะ ปฏิบัติเพื่อนิพพาน แต่นิพพานคืออะไรยังไม่รู้เลย เป็นคนตาบอดเดินทางน่ะเหรอ
สิ่งที่ควรตั้งเป็นเป้าหมายคือ "การไม่มีกิเลส"
ผู้ปฏิบัติสามารถเทียบเคียงได้ว่า เมื่อก่อนฉันมีกิเลส 100% หลังปฏิบัติระยะหนึ่งกิเลสเหลือ 90%
ราคะ โทสะ โมหะน้อยลง แบบนี้น่าจะเข้าใจง่ายกว่า เห็นผลชัดกว่า feedback เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ปฏิบัติ
เป็นกำลังใจให้นักปฏิบัติทั้งหลายได้ดีกว่าการไล่ตามผีที่ไม่รู้คืออะไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ละท่านคิดเห็นอย่างไร มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน