JJNY : ‘โรม’เดินหน้าดันร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับก้าวไกล│‘สมชัย’แนะ‘ภูมิธรรม’│เงินบาทอ่อนค่านำอาเซีย│มนุษย์เหมือนเปิดประตูนรก

‘โรม’ เดินหน้าดัน ร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล ถาม ‘พท.’ ยังสนับสนุนเหมือนเดิมหรือไม่?
https://www.matichon.co.th/politics/news_4191393

 
‘โรม’ เดินหน้าดัน ร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล หวังคุมอำนาจรัฐบาล ถาม ‘พท.’ ยังสนับสนุนเหมือนเดิมหรือไม่หลังเป็นรัฐบาล
 
เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่รัฐสภา พรรคก้าวไกล นำโดย นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงข่าวกรณีที่พรรคก้าวไกล จะยื่นร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. … ซึ่งการยื่นร่างดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการตั้งกระทู้ถามสดต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน (กบฉ.) โดยร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเราเคยยื่นไปยังสภาฯ ชุดที่แล้ว ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราก็เกือบจะผ่านในวาระที่ 1 แต่เนื่องจากการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีมาอย่างยาวนาน ประกอบกับมีการนำพ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้มาประกาศใช้ในสถานการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง เราจึงพบว่ามีการประกาศใช้โดยปราศจากการถ่วงดุล ตรวจสอบ จากสภาฯ เช่น การออกพ.ร.ก.ในช่วงที่เกิดโควิด-19 แต่มีการนำพ.ร.ก.ดังกล่าว ไปใช้ในลักษณะการปราบปรามผู้ชุมนุมที่เห็นต่างทางการเมือง จนทำให้ประชาชนความสงสัย ว่า ประกาศใช้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร เช่นเดียวกับในพื้นที่ 3 จังหวัดภายแดนภาคใต้ เราก็เห็นมีการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาอย่างยาวนาน แต่ไม่ว่าสภาฯ จะส่งเสียงไปยังครม.เท่าไหร่ ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล
 
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราจึงเสนอร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉิน เพื่อให้มีกฎหมายที่ทำให้สภาฯ สามารถที่จะตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยมีรายละเอียด คือ 

1.การประกาศ พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังคงอำนาจของนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศ แต่การประกาศนั้น จะต้องมีการขออนุมัติจากครม.ใน 3 วัน และต้องขออนุมัติจากสภาฯ ภายใน 7 วัน เพื่อให้ตัวแทนของประชาชน สามารถอนุญาตให้รัฐบาลใช้กฎหมายที่จะไปจำกัดสิทธิเสรีภาพ ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย 
 
2. ในการเข้ามาขออนุมัติจากสภาฯ รัฐบาลจะต้องมีหน้าที่ทำแผนว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะแก้ด้วยวิธีใด 
 
และ 3. พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับปัจจุบันที่ยังใช้อยู่ศาลปกครองไม่มีอำนาจเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งในกฎหมายของพรรคก้าวไกลที่นำเสนอให้อำนาจกับประธานสภาฯ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในการที่จะร้องศาลปกครองว่าการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังมีเหตุที่จะต้องประกาศใช้หรือไม่ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุล
 
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่แทบจะไม่ต้องรับผิดอะไร ซึ่งพ.ร.บ.ที่เราเสนอ หากการใช้อำนาจนั้น เป็นการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องก่อให้เกิดความเสียหาย การดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้มีอำนาจผู้นั้น สามารถจะดำเนินการได้ ดังนั้นหลักการที่เรานำเสนอผ่านกฎหมายฉบับนี้ คือ หลักการสากลที่ประเทศไทยของเราควรจะมี ซึ่งจะนำไปสู่การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพควบคู่กับอำนาจพิเศษ ที่เราเข้าใจว่าบางครั้งก็จำเป็นต้องมี ซึ่งเราหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะได้รับการสนับสนุนจากส.ส. โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้เคยให้การสนับสนุน การที่จะได้ไปเป็นรัฐบาลจะไม่ทำให้จุดยืนของพรรคเพื่อไทยที่เคยมีต่อร่างกฎหมายฉบับนี้เปลี่ยนไป
 
นายรอมฎอน แถลงด้วยว่า ตนเห็นใจ นายสมศักดิ์ ที่ต้องตอบคำถามนี้หลังรับตำแหน่งได้เพียงไม่นาน ท่านยังไม่ชัดเจน ขอเวลา แต่ตนต้องการย้ำว่า คนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ อยู่ในเขตปกครองพิเศษไม่เคยรู้จักความชอบธรรม หลักนิติ สภาฯต้องทำให้ประชาชนชายแดนได้รับการปฎิบัติ เคารพสิทธิเสรีภาพ หวังว่า ส.ส.ชายแดนใต้ 12 คน จะทำให้เป็นฉันทามติร่วมกัน เปลี่ยนโฉมประเทศ
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้ ร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล เป็นการบังคับใช้หรือตามสถานการณ์ นายรังสิมันต์ เผยว่า ฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการอาศัยเครื่องมือเป็นของสภา เมื่อเห็นชอบประกาศใช้อำนาจ หากรัฐบาลต้องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ต้องมีแผนชัดเจนจะแก้อย่างไร ไม่ให้อำนาจพิเศษอยู่กับรัฐบาล ส่งเสริมให้รัฐบาลทำงานโปร่งใส ส่วนกรอบการขยายเวลาที่ลดจาก 60 วัน เหลือเพียง 30 วัน ยืนยันว่า ไม่สั้น หากมี ส.ส. ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล จะโดนสังคมตัดสินเอง อีกทั้งคนที่ทำหน้าที่รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา ไม่สามารถประวิงเวลาได้ เป็นการเปิดเผยให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาล เลิกสวดมนต์หาทางออกเอง ส่วนหากมีเหตุฉุกเฉินจึง สามารถผ่าน ครม. ได้ ไม่ต้องผ่านสภา
 
เมื่อถามว่า ได้คุยกับพรรคเพื่อไทยถึงการทำร่าง พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล หรือยัง นายรังสิมันต์ เผยว่า ไม่ได้คุยเป็นทางการ แต่ส่งสัญญาณถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกล “ร่างนี้คล้ายร่างเดิมที่พรรคเพื่อไทยเคยเห็นชอบตอนเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน สถานการณ์ต่างแค่ปัจจุบันเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
  
เมื่อถามว่า หวั่นจะมีความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายรอมฎอน ย้ำว่า ต้องลุ้นรัฐบาลจะเอายังไง มีแผนอะไร คิดอะไรอยู่ รัฐบาลพลเรือนมาจากเลือกตั้ง จะกล้าหาญแก้กฎหมายบริหารสถานการณ์ความมั่นคงหรือไม่ ตนอยากทำให้ดีขึ้น รวมทั้งกฎอัยการศึกต้องรื้อใหม่ ให้ทันสมัยมากขึ้น
 


‘สมชัย’ แนะ ‘ภูมิธรรม’ อ่าน พ.ร.บ.ประชามติ’64 ปมเงื่อนเวลา มั่นใจ 3 เดือนไม่เสร็จ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4191007

“สมชัย” แนะ “ภูมิธรรม” อ่าน พ.ร.บ.ประชามติ’64 ปมเงื่อนเวลา มั่นใจ 3 เดือนไม่เสร็จ พนันปาขี้กันได้เลย
 
จากกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะชงรายชื่อคณะกรรมการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 26 กันยายน เพื่อเคาะทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนั้น
 
ล่าสุด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ใจความว่า 

“พี่อ้วนต้องอ่าน พ.ร.บ.ประชามติ 2564 ด้วย”
 
มาตรา 10 เมื่อ ครม. มีมติให้ทำประชามติ ต้องไปหารือกับ กกต. เพื่อกำหนดวันลงประชามติ ไม่น้อยกว่า 90 วัน ไม่เกิน 120 วัน นับแต่วันที่ ครม. ลงมติ
 
ดังนั้น มีมติ ครม. ให้ทำประชามติวันนี้ วันทำประชามติ ก็อีก 3-4 เดือนข้างหน้าแล้ว
 
หากตั้งกรรมการศึกษา 3-4 เดือน เสร็จแล้ว เสนอ ครม. ครม.มีมติ ก็ต้องบวกอีก 3-4 เดือน รวมเป็น 7-8 เดือนนับจากปัจจุบัน
 
พนันปาขี้ ก็ได้ครับ

https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02g5mbNn9NTMDYPm5FQWN5PULvRyHgBKSzwuYAunLDzPTZyXNsKEkhefgqF6twYW2gl
 

 
เงินบาทอ่อนค่านำภูมิภาคเอเชีย แซงเงินหยวนของจีน
https://www.prachachat.net/finance/news-1398281

ห้องค้าเงินเผยเงินบาทอ่อนค่านำภูมิภาคเอเชีย “ไทยพาณิชย์” ชี้เดือน ก.ย. ร่วงแรงแซงจีน “กสิกรไทย” มองบาทมีโอกาสแตะ 36.60 บาท/ดอลลาร์
 
วันที่ 21 กันยายน 2566 นายแพททริก ปูเลีย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานตลาดการเงิน สายงานตลาดการเงิน กลุ่มธุรกิจ Wholesale Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินบาทอ่อนค่าเร็วถึงระดับ 3% ในเดือน ก.ย.นี้ จนทะลุ 36 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่ามากที่สุดในภูมิภาค แซงหน้าค่าเงินหยวนของจีน อย่างไรก็ดี ถ้าเทียบทั้งปีหยวนอ่อนค่ามากกว่าเงินบาทที่ระดับ 5.5% และเงินบาทอยู่ที่ 4.2%

นางสาวกฤติกา บุญสร้าง ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน อาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เดือน ก.ย. (ณ 20 ก.ย.) ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่า 3.18% มากที่สุดในกลุ่มเอเชีย
 
ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รอบนี้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่ส่งสัญญาณเปิดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยต่อและส่งสัญญาณเก็บดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาด
 
รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่ดูแข็งแกร่งกว่าที่คาด ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง กดดันเงินสกุลอื่น รวมถึงค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มผันผวนและมีโอกาสอ่อนค่ายาวนานกว่าคาดไว้เดิม
 
เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ระหว่างวัน ค่าเงินบาท ทำจุดอ่อนค่าที่สุดในรอบปีนี้ที่ 36.35 บาทต่อดอลลาร์ และยังมีโอกาสอยู่ในฝั่งอ่อนค่าต่อเนื่อง หากเฟดยังคงดอกเบี้ยในระดับสูง ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่ดูชะลอลงจากประมาณการเดิม ด้วยแรงกดดันจากการส่งออกที่ชะลอลง แม้มีแรงหนุนการท่องเที่ยว ห้องค้ากสิกรไทยมองแนวต้านค่าเงินบาทระยะสั้นที่ 36.30 บาท และ 36.60 บาท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่