‘แพทองธาร’ เล็งขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้ง ชู ‘แลนด์สไลด์’ คว้าชัยเลือกตั้ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3769308
‘แพทองธาร’ เล็งขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้ง ชูแลนด์สไลด์คว้าชัยเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงถึงการเตรียมจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย : อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น ที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 15 มกราคมนี้ ว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี นำโดย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค นาย
อดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร น.ส.
จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด
จะเป็นครั้งแรกที่ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้ง ในบรรยากาศของการเตรียมการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทยที่จะนำเสนอนโยบายและเป้าหมายไปสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคต
เป็นการยืนยันว่าปี 2566 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ทวงคืนอนาคตจากรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่ไร้ความสามารถ หลังจากนี้ ครอบครัวเพื่อไทยจะจัดกิจกรรมไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคกลาง อีสานใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จนกว่าจะมีการยุบสภา เมื่อมีการยุบสภาแล้ว พรรค พท.จะจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อประกาศคิกออฟนโยบายชุดใหญ่ เป็นนโยบายในโค้งสุดท้ายเพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยเป้าหมายของพรรค พท.คือการมุ่งเป้าชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเอาชนะกติกาที่ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วางเอาไว้ให้ได้
นาย
ณัฐวุฒิกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์เปิดตัวเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า นึกว่า พล.อ.
ประยุทธ์จะแสดงแสนยานุภาพทางการเมืองอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ หลังจากยึดครองอำนาจต่อเนื่องมา 8 ปี แต่พบว่าไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่เป็นเหล้าเก่าในขวดแตก คือ การรวมเอาคนที่แตกออกจากพรรคต่างๆ มาอยู่ด้วยกันและพบว่าไม่มีบุคคลที่เป็นที่รู้จัก หรือเป็นที่ยอมรับในสังคม เป็นคนใหม่ทางการเมือง ปรากฏตัวร่วมงานกับ พล.อ.
ประยุทธ์ แต่อย่างใด จึงมองไม่เห็นอนาคต เห็นแต่อดีต เพราะเต็มไปด้วยอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี
จึงเชื่อว่าจะส่งผลให้ พล.อ.
ประยุทธ์กลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีในไม่ช้า ดังนั้น การตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเต็มตัวของ พล.อ.
ประยุทธ์ แท้จริงไม่ใช่เป้าหมายแค่การเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปี แต่อีกฟากฝั่งหนึ่ง มี ส.ว.กลุ่มหนึ่งได้เคลื่อนไหว สับไพ่รอหรือไม่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 โดยระบุว่ามีปัญหาที่น่าสนใจในบทบัญญัติในมาตรา 158 ว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี โดย ส.ว.กลุ่มนี้ชี้ว่าบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเรื่องที่ควรจะพิจารณาแก้ไข
ปธ.กกต.โชว์ความพร้อมกลางเวทีทูตอียู ลั่นพร้อมจัดเลือกตั้งโปร่งใส-เที่ยงธรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3768976
ปธ.กกต.โชว์ความพร้อมกลางเวทีทูตอียู ลั่นพร้อมจัดเลือกตั้งโปร่งใส-เที่ยงธรรม
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นาย
อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมกับนายเดวิด เดลี (H.E. Mr. David Daly) เอกอัครราชทูตคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ร่วมกับคณะเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ณ อาคาร Athenee Tower เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
โดยนายอิ
ทธิพร ได้นำเสนอภาพรวมของกระบวนการเตรียมการจัดการเลือกตั้ง และได้ตอบข้อซักถามต่าง ๆ รวมทั้งให้ความเชื่อมั่นกับคณะผู้แทนสหภาพยุโรปว่าการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะมีขึ้น จะเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงโอกาสความเป็นไปได้ในการสังเกตการณ์การเลือกตั้งอีกด้วย
สภาฯ เห็นชอบรายงาน กาสิโนถูกกฎหมาย ส.ส.รุมค้าน ชี้ไม่ใช่ไฟเขียวเปิดบ่อน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7456580
สภาฯ เห็นชอบรายงาน กาสิโนฯ หลังเจอ ส.ส.รุมค้าน ชี้ไม่ใช่รายงาน เพื่อไฟเขียวให้เปิดบ่อนในประเทศ ‘ชวน’ แฉ กมธ.ใช้เบี้ยประชุม 2.3 ล้านบาท
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 12 ม.ค. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม เพื่อรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาการสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ที่จะมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย เพื่อหารายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19
ตามที่สภาฯ ได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร
โดยก่อนเข้าสู่เนื้อหา นาย
ชวน ได้กล่าวระหว่าางรอ กมธ.ประจำที่ ว่า กมธ.คณะดังกล่าวมีการตั้งอนุกมธ. จำนวนหลายชุด และใช้เบี้ยประชุมไปทั้งสิ้น 2.3 ล้านบาท ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าหากไม่มีปัญหาอะไรการพิจารณาจะแล้วเสร็จ และขณะนี้มีรายงานของกมธ.ที่รอพิจารณา 3 ฉบับ เป็นกมธ.สามัญ 1 ฉบับ และกมธ.วิสามัญ 2 ฉบับ
ขณะที่นาย
สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะกมธ. ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า กมธ.ได้ใช้เวลาศึกษานาน 240 วัน โดยได้ศึกษาครอบคลุมทุกมิติ และมีการวิจัยรองรับ ขณะที่การอภิปรายของสภาฯ นั้น พบว่ามี ส.ส.ที่คัดค้านรายงานดังกล่าว อาทิ พ.ต.อ.
ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายตั้งข้อสังเกต พร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยที่รายงานของกมธ. จะตั้งกาสิโนในพื้นที่ที่ไม่สมควร
จากนั้น ได้เปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับการที่ประเทศไทยจะมีสถานบันเทิงแบบครบวงจร แต่มีข้อท้วงติง และข้อกังวลที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่น นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ. ได้อภิปรายคัดค้านว่า การนำเสนอรายงานดังกล่าว ตนขอให้กมธ.ย้ำว่าไม่ใช่การสนับสนุนให้ตั้งบ่อนกาสิโนในประเทศ แต่เป็นเพียงการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการสร้างรายได้เขาประเทศ หากจะทำกาสิโน ควรมีปัจจัยในการพิจารณาเรื่องใดบ้าง สำคัญคือ การคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน รวมถึงปัญหาการฟอกเงิน และเชื่อว่าหากรัฐบาลจะทำ น่าจะเป็นรัฐบาลหน้า
นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรายได้จากธุรกิจกาสิโนลดลง ถึงแม้จะมีการศึกษาบอกว่า ธุรกิจกาสิโนอาจจะฟื้นตัวกลับมาได้ภายในปี พ.ศ.2570 แต่หลังโควิด-19 จบ เราไม่รู้ว่าพฤติกรรมของคนจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ตนจึงคิดว่าในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า อาจจะเสี่ยงเกินไปที่จะบอกว่าควรจะต้องมีกาสิโนในประเทศไทย หากวันหนึ่งมองว่าคุ้มค่าที่จะทำ เราต้องมองปัจจัยอื่นด้วย เช่น การป้องกันผลกระทบในเชิงลบ การจำกัดคนไทยที่เข้าไปเล่น ต้องมีสถานะทางเศรษฐิจที่มั่นคงมากพอ และได้รับการอนุญาตจากคนในครอบครัว ไม่มีประวัติอาชญากรรม ทั้งอาชญกรรมทั่วไป และฟอกเงิน
นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนเรื่องออนไลน์ เลิกคิดไปได้เลย เพราะตราบใดที่ระบบดิจิทัลไอดี หรือการยืนยันตัวตนทางออนไลน์ของคนไทยยังไม่สมบูรณ์ การเปิดพนันออนไลน์ถูกกฎหมายให้คนไทย ไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นเจ้าของเองหรือไม่ อาจจะยังเสี่ยงเกินไป เพราะจะเกิดการปลอมแปลงตัวตนเข้าไปได้ และต้องหาว่าจะชูจุดขายของสถานบันเทิงแบบครบวงจรนี้อย่างไร รวมถึงการคัดเลือกเอกชนที่จะเข้ามาร่วมลงทุน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน ส่วนปัจจัยสุดท้ายเราต้องฟังเสียงประชาชน ทั้งการทำประชาพิจารณ์ และการทำประชามติของประชาชนในพื้นที่ที่จะเปิดกาสิโนถูกฎหมาย
ด้านนาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เห็นตรงกันว่าในรายงานนี้ดีแต่ยังไม่รอบคอบ เพราะไม่มีข้อควรระวังหรือข้อเสีย ถ้าระบบการจัดการไม่ดีก็เป็นฝันร้ายได้ อยากให้กมธ.ไปดูที่สีหนุวิว ตอนปี 51 ใช้พื้นที่ 3,300 ไร่ ทำเป็นเมืองใหม่สำหรับการลงทุนต่างประเทศ ตอนแรกมีหลายธุรกิจ แต่รัฐบาลกัมพูชาเปิดให้มีกาสิโนด้วย
ตอนนี้ปี 65 ปรากฏว่ากลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว เพราะเมื่อทำกาสิโนเสร็จ คนกัมพูชาก็เข้าไปเป็นลูกจ้าง จีนเข้ามาเป็นเจ้าของ ปรากฏว่าเมืองสีหนุวิวค่าครองชีพสูงขึ้น ที่ดินสูงขึ้น 100 เท่า คนรุ่นใหม่กลายเป็นเด็กแจกไพ่ คนแก่กลายเป็นคนทำความสะอาด และบริหารมาเฟียจีน
นาย
ปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า ฉะนั้น ไม่ใช่ฝันดีว่า บ้านเรามีบ่อนเกิดขึ้นแล้วบ้านเมืองจะดีไปหมด ถ้าระบบการจัดการของประเทศไม่ดี มีคอร์รัปชั่น ความไม่โปร่งใส และไม่มีการบริหารจัดการของรัฐบาล สภาพแบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอ และสภาพของคนไทยอาจเป็นได้แค่เด็กเสิร์ฟ เพราะทุนใหญ่คือทุนต่างชาติ โดยมีคนไทยรับเคราะห์ของอาชญากรรมและผลเสียที่เกิดขึ้น โดยปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งตนเห็นด้วยกับรายงานฉบับนี้ แต่ถ้าเกิดขึ้นในรัฐบาลเผด็จการทหาร ตนคิดว่าชะตากรรมของประเทศไม่ต่างอะไรกับสีหนุวิว
ทั้งนี้ เมื่อสมาชิกอภิปรายจนครบแล้ว และกมธ.สรุปเสร็จสิ้นแล้ว นาย
สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งว่ามีสมาชิกคนใดไม่เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ถือว่าสมาชิกเห็นด้วยกับรายงานและข้อสังเกต.ของกมธ.ฯ ซึ่งจะต้องส่งรายงานและข้อสังเกตให้รัฐบาลปฏิบัติต่อไป
JJNY : ‘แพทองธาร’ เล็งขึ้นปราศรัยใหญ่│ปธ.กกต.โชว์ความพร้อมกลางเวทีทูตอียู│สภาฯ เห็นชอบรายงาน กาสิโน│สงขลามะนาวแพงหูฉี่
https://www.matichon.co.th/politics/news_3769308
‘แพทองธาร’ เล็งขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้ง ชูแลนด์สไลด์คว้าชัยเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย แถลงถึงการเตรียมจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย : อีสานยามใด๋ เพื่อไทยทอนั่น ที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 15 มกราคมนี้ ว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ทุ่งศรีเมือง อ.เมือง จ.อุดรธานี นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรค นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด
จะเป็นครั้งแรกที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยใหญ่เวทีกลางแจ้ง ในบรรยากาศของการเตรียมการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทยที่จะนำเสนอนโยบายและเป้าหมายไปสู่การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคต
เป็นการยืนยันว่าปี 2566 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ทวงคืนอนาคตจากรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการ ที่ไร้ความสามารถ หลังจากนี้ ครอบครัวเพื่อไทยจะจัดกิจกรรมไปยังภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคกลาง อีสานใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ จนกว่าจะมีการยุบสภา เมื่อมีการยุบสภาแล้ว พรรค พท.จะจัดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อประกาศคิกออฟนโยบายชุดใหญ่ เป็นนโยบายในโค้งสุดท้ายเพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยเป้าหมายของพรรค พท.คือการมุ่งเป้าชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อเอาชนะกติกาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม วางเอาไว้ให้ได้
นายณัฐวุฒิกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์เปิดตัวเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า นึกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะแสดงแสนยานุภาพทางการเมืองอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ หลังจากยึดครองอำนาจต่อเนื่องมา 8 ปี แต่พบว่าไม่ใช่เหล้าเก่าในขวดใหม่ แต่เป็นเหล้าเก่าในขวดแตก คือ การรวมเอาคนที่แตกออกจากพรรคต่างๆ มาอยู่ด้วยกันและพบว่าไม่มีบุคคลที่เป็นที่รู้จัก หรือเป็นที่ยอมรับในสังคม เป็นคนใหม่ทางการเมือง ปรากฏตัวร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อย่างใด จึงมองไม่เห็นอนาคต เห็นแต่อดีต เพราะเต็มไปด้วยอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี
จึงเชื่อว่าจะส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีในไม่ช้า ดังนั้น การตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเต็มตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ แท้จริงไม่ใช่เป้าหมายแค่การเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีก 2 ปี แต่อีกฟากฝั่งหนึ่ง มี ส.ว.กลุ่มหนึ่งได้เคลื่อนไหว สับไพ่รอหรือไม่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 โดยระบุว่ามีปัญหาที่น่าสนใจในบทบัญญัติในมาตรา 158 ว่าด้วยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี โดย ส.ว.กลุ่มนี้ชี้ว่าบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเรื่องที่ควรจะพิจารณาแก้ไข
ปธ.กกต.โชว์ความพร้อมกลางเวทีทูตอียู ลั่นพร้อมจัดเลือกตั้งโปร่งใส-เที่ยงธรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3768976
ปธ.กกต.โชว์ความพร้อมกลางเวทีทูตอียู ลั่นพร้อมจัดเลือกตั้งโปร่งใส-เที่ยงธรรม
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมกับนายเดวิด เดลี (H.E. Mr. David Daly) เอกอัครราชทูตคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับการเตรียมการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ร่วมกับคณะเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ณ อาคาร Athenee Tower เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
โดยนายอิทธิพร ได้นำเสนอภาพรวมของกระบวนการเตรียมการจัดการเลือกตั้ง และได้ตอบข้อซักถามต่าง ๆ รวมทั้งให้ความเชื่อมั่นกับคณะผู้แทนสหภาพยุโรปว่าการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะมีขึ้น จะเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงโอกาสความเป็นไปได้ในการสังเกตการณ์การเลือกตั้งอีกด้วย
สภาฯ เห็นชอบรายงาน กาสิโนถูกกฎหมาย ส.ส.รุมค้าน ชี้ไม่ใช่ไฟเขียวเปิดบ่อน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7456580
สภาฯ เห็นชอบรายงาน กาสิโนฯ หลังเจอ ส.ส.รุมค้าน ชี้ไม่ใช่รายงาน เพื่อไฟเขียวให้เปิดบ่อนในประเทศ ‘ชวน’ แฉ กมธ.ใช้เบี้ยประชุม 2.3 ล้านบาท
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 12 ม.ค. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม เพื่อรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาการสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) ที่จะมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย เพื่อหารายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19
ตามที่สภาฯ ได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร
โดยก่อนเข้าสู่เนื้อหา นายชวน ได้กล่าวระหว่าางรอ กมธ.ประจำที่ ว่า กมธ.คณะดังกล่าวมีการตั้งอนุกมธ. จำนวนหลายชุด และใช้เบี้ยประชุมไปทั้งสิ้น 2.3 ล้านบาท ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าหากไม่มีปัญหาอะไรการพิจารณาจะแล้วเสร็จ และขณะนี้มีรายงานของกมธ.ที่รอพิจารณา 3 ฉบับ เป็นกมธ.สามัญ 1 ฉบับ และกมธ.วิสามัญ 2 ฉบับ
ขณะที่นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะกมธ. ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า กมธ.ได้ใช้เวลาศึกษานาน 240 วัน โดยได้ศึกษาครอบคลุมทุกมิติ และมีการวิจัยรองรับ ขณะที่การอภิปรายของสภาฯ นั้น พบว่ามี ส.ส.ที่คัดค้านรายงานดังกล่าว อาทิ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายตั้งข้อสังเกต พร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยที่รายงานของกมธ. จะตั้งกาสิโนในพื้นที่ที่ไม่สมควร
จากนั้น ได้เปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับการที่ประเทศไทยจะมีสถานบันเทิงแบบครบวงจร แต่มีข้อท้วงติง และข้อกังวลที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่น นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ. ได้อภิปรายคัดค้านว่า การนำเสนอรายงานดังกล่าว ตนขอให้กมธ.ย้ำว่าไม่ใช่การสนับสนุนให้ตั้งบ่อนกาสิโนในประเทศ แต่เป็นเพียงการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการสร้างรายได้เขาประเทศ หากจะทำกาสิโน ควรมีปัจจัยในการพิจารณาเรื่องใดบ้าง สำคัญคือ การคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน รวมถึงปัญหาการฟอกเงิน และเชื่อว่าหากรัฐบาลจะทำ น่าจะเป็นรัฐบาลหน้า
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันรายได้จากธุรกิจกาสิโนลดลง ถึงแม้จะมีการศึกษาบอกว่า ธุรกิจกาสิโนอาจจะฟื้นตัวกลับมาได้ภายในปี พ.ศ.2570 แต่หลังโควิด-19 จบ เราไม่รู้ว่าพฤติกรรมของคนจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ตนจึงคิดว่าในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า อาจจะเสี่ยงเกินไปที่จะบอกว่าควรจะต้องมีกาสิโนในประเทศไทย หากวันหนึ่งมองว่าคุ้มค่าที่จะทำ เราต้องมองปัจจัยอื่นด้วย เช่น การป้องกันผลกระทบในเชิงลบ การจำกัดคนไทยที่เข้าไปเล่น ต้องมีสถานะทางเศรษฐิจที่มั่นคงมากพอ และได้รับการอนุญาตจากคนในครอบครัว ไม่มีประวัติอาชญากรรม ทั้งอาชญกรรมทั่วไป และฟอกเงิน
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ส่วนเรื่องออนไลน์ เลิกคิดไปได้เลย เพราะตราบใดที่ระบบดิจิทัลไอดี หรือการยืนยันตัวตนทางออนไลน์ของคนไทยยังไม่สมบูรณ์ การเปิดพนันออนไลน์ถูกกฎหมายให้คนไทย ไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นเจ้าของเองหรือไม่ อาจจะยังเสี่ยงเกินไป เพราะจะเกิดการปลอมแปลงตัวตนเข้าไปได้ และต้องหาว่าจะชูจุดขายของสถานบันเทิงแบบครบวงจรนี้อย่างไร รวมถึงการคัดเลือกเอกชนที่จะเข้ามาร่วมลงทุน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน ส่วนปัจจัยสุดท้ายเราต้องฟังเสียงประชาชน ทั้งการทำประชาพิจารณ์ และการทำประชามติของประชาชนในพื้นที่ที่จะเปิดกาสิโนถูกฎหมาย
ด้านนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เห็นตรงกันว่าในรายงานนี้ดีแต่ยังไม่รอบคอบ เพราะไม่มีข้อควรระวังหรือข้อเสีย ถ้าระบบการจัดการไม่ดีก็เป็นฝันร้ายได้ อยากให้กมธ.ไปดูที่สีหนุวิว ตอนปี 51 ใช้พื้นที่ 3,300 ไร่ ทำเป็นเมืองใหม่สำหรับการลงทุนต่างประเทศ ตอนแรกมีหลายธุรกิจ แต่รัฐบาลกัมพูชาเปิดให้มีกาสิโนด้วย
ตอนนี้ปี 65 ปรากฏว่ากลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว เพราะเมื่อทำกาสิโนเสร็จ คนกัมพูชาก็เข้าไปเป็นลูกจ้าง จีนเข้ามาเป็นเจ้าของ ปรากฏว่าเมืองสีหนุวิวค่าครองชีพสูงขึ้น ที่ดินสูงขึ้น 100 เท่า คนรุ่นใหม่กลายเป็นเด็กแจกไพ่ คนแก่กลายเป็นคนทำความสะอาด และบริหารมาเฟียจีน
นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า ฉะนั้น ไม่ใช่ฝันดีว่า บ้านเรามีบ่อนเกิดขึ้นแล้วบ้านเมืองจะดีไปหมด ถ้าระบบการจัดการของประเทศไม่ดี มีคอร์รัปชั่น ความไม่โปร่งใส และไม่มีการบริหารจัดการของรัฐบาล สภาพแบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอ และสภาพของคนไทยอาจเป็นได้แค่เด็กเสิร์ฟ เพราะทุนใหญ่คือทุนต่างชาติ โดยมีคนไทยรับเคราะห์ของอาชญากรรมและผลเสียที่เกิดขึ้น โดยปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งตนเห็นด้วยกับรายงานฉบับนี้ แต่ถ้าเกิดขึ้นในรัฐบาลเผด็จการทหาร ตนคิดว่าชะตากรรมของประเทศไม่ต่างอะไรกับสีหนุวิว
ทั้งนี้ เมื่อสมาชิกอภิปรายจนครบแล้ว และกมธ.สรุปเสร็จสิ้นแล้ว นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งว่ามีสมาชิกคนใดไม่เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ถือว่าสมาชิกเห็นด้วยกับรายงานและข้อสังเกต.ของกมธ.ฯ ซึ่งจะต้องส่งรายงานและข้อสังเกตให้รัฐบาลปฏิบัติต่อไป