เราไม่ใช่คนใต้   แต่เป็นคนที่ชอบกินอาหารใต้มากๆ (แต่ก็ไม่ได้กินเมนูหลากหลายเท่าไหร่นะคะ อะไรอร่อยเราก็จะกินซ้ำๆอยู่แบบนั้น) ที่เราชอบกิน ก็เพราะอาหารใต้นั้นรสชาติจัดจ้านดี และชอบมากสุด ก็ตรงที่มีผักสดให้กินแกล้มเยอะๆนี่แหละค่ะ

ครั้งที่รสชาติแย่ และฝังใจที่สุด คือตอนที่เราหัดทำแกงไตปลาเป็นครั้งแรก

ด้วยปกติที่บ้านจะชอบตำน้ำพริกแกงเองอยู่แล้ว ถ้าเป็นเมนู ที่วัตถุดิบง่ายๆ  (ยกเว้นน้ำพริกแกงมัสมั่น กับน้ำพริกแกงเขียวหวาน เราจะซื้อเอาค่ะ) 

หากเป็นเมนูที่ไม่เคยทำและไม่คุ้นเคยมาก่อน แต่ดูแล้วหากวัตถุดิบไม่ยาก สามารถทำตามได้ง่าย  เราก็อาศัยค้นหา และคัดลอกดูสูตรจากกูเกิ้ลนี่ล่ะค่ะ  แต่ผลสุดท้าย แกงไตปลาที่เราทำครั้งแรกในชีวิต  ออกมากลายเป็นแกงพริกไทยไปเฉยเลย รสชาติใช่ได้ แต่เพราะมีกลิ่นพริกไทยที่นำโด่งไปมากๆเลย ทำให้กินไม่อร่อย จึงไม่ถูกปากตัวเองและคนในบ้านค่ะ 😅

จริงๆก็เป็นเมนูนึงที่ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ ถือว่านานๆจะทำสักครั้ง เพราะตั้งแต่เราทำอาหารเป็น    ถ้านับจริงๆเราว่า เราทำแกงไตปลามาไม่น่าจะเกิน 5ครั้งนะคะ

ด้วยความที่ชอบกินอาหารใต้อยู่แล้ว เลยพอรู้รสชาติของเมนูนี้อยู่บ้าง พอได้ทำครั้งที่2 รวมถึงครั้งต่อๆมา รสชาติเลยเข้าที่เข้าทาง และถูกปากตัวเองและคนในบ้านมากขึ้นค่ะ 😊

วันนี้ได้ปลาโอตัวใหญ่จากตลาดเช้า กก.ละ 70บาท เลยซื้อมาตัวนึง ขนาด 1.3 กก. ได้มาปุ๊บก็ทำความสะอาด แล้วก็เอาเข้าหม้ออบลมร้อนค่ะ 

พอสุก และเนื้อปลาดูแห้งดีแล้ว รอให้คลายร้อน แล้วแกะเอาแต่เนื้อปลารอไว้ค่ะ

⭐ หากใครสะดวกจะก่อเตาย่าง ก็ย่างด้วยเตาถ่านได้นะคะ เราว่าแบบนั้นจะมีกลิ่นหอมกว่า แต่พอดีเราเอาสะดวก ก็เลยเลือกเอาใส่หม้ออบลมร้อนไปเลย

ในระหว่างที่รอปลาสุก เราก็มาทำขั้นตอนการเตรียมน้ำไตปลา และโขลกน้ำพริกแกงกันค่ะ

จากนั้นรอให้น้ำเดือด และมีกลิ่นหอมสมุนไพรตีขึ้นมา ก็ทำการใส่ไตปลาลงไป 

⭐ อย่าคนนะคะ รอให้เขากระจายตัวเอง แล้วต้มทิ้งไว้สักพักหนึ่งก่อน หลังจากนั้นค่อยคนได้ เมื่อได้ที่แล้วก็ทำกรอง และเอาแต่น้ำไว้ค่ะ (ส่วนตัวใช้ตะแกรงตาถี่ มาช้อนๆเอาค่ะ)

นำทุกอย่างมาโขลกให้เข้ากัน 

⭐ ควรโขลกของแห้งๆที่ตำยากๆ และไม่มีน้ำก่อนนะคะ  
เพื่อจะได้ละเอียดง่ายๆ และไม่แฉะจนกระเด็น ไล่ตั้งแต่... พริกไทยเม็ด พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ กระเทียม และก็ไล่ตำไปเรื่อยๆค่ะ จนทุกอย่างเข้ากันดี ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันค่ะ

นำน้ำไตปลาที่เราต้มเตรียมไว้ใส่กระทะ จากนั้นเติมน้ำเปล่าเพิ่มลงไป แล้วเมื่อน้ำเดือดแล้ว ทำการใส่น้ำพริกแกงลงไป แล้วค่อยๆคนให้ละลายค่ะ

เมื่อน้ำกลับมาเดือดปุดๆอีกครั้ง ใส่เนื้อปลาโอและหน่อไม่ลงไป จากนั้นลดไฟลง และต้มไว้สักพัก (ของเราใช้เวลาตรงส่วนนี้อยู่ประมาณ 15-20นาทีค่ะ)

จากนั้นทำการปรุงรสชาติ ด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาลมะพร้าว และลองชิมดูค่ะ 

เมื่อได้รสชาติที่พอใจแล้ว ทำการใส่มะเขือเปรอะลงไป รีบกดๆให้จมน้ำ เพราะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้มะเขือไม่ดำได้ค่ะ

จากนั้นใส่ถั่วฝักยาวตามลงไป แล้วกดให้จมน้ำเหมือนกัน แล้วรอสักพักค่ะ

เมื่อไส้ของมะเขือเริ่มใสๆ และถั่วฝักยาวก็เริ่มสีเขียวเข้มแล้ว ทำการใส่ใบมะกรูดลงไป คนให้กระจายตัวดีในน้ำแกง จากนั้นทำการปิดไฟได้เลยนะคะเดี๋ยวเขาจะระอุสุกต่อเองได้อีกค่ะ