ปลาเปรี้ยวหวาน อาหารมักหาทานได้ทั่วไปตามร้านอาหารจีน เนื้อปลาทอดกรอบนุ่มในราดซอสเปรี้ยวหวานรสกลมกล่อมกินแล้วรู้สึกอร่อยสดชื่น จากตำนานจีนโบราณเล่าว่า มีสองพี่น้องตระกูลซ่งทำอาชีพชาวประมง ชายผู้พี่นั้นมีภรรยาที่หน้าตาสะสวยเป็นที่เลื่องลือ จนต้องตาต้องใจของขุนนางผู้มีอำนาจในท้องถิ่น จึงลงเอยด้วยการนำมาซึ่งการตายอย่างมีเงื่อนงำของผู้เป็นสามี ชายผู้น้องและพี่สะใภ้ต่างพยายามถามหาความเป็นธรรมจากศาลยุติธรรม แต่ผลลัพธ์คือความนิ่งเงียบจากอำนาจมืดของผู้มีอิทธิพล
ครั้นแล้วชายผู้น้องและพี่สะใภ้หม่ายสามีจึงหนีออกจากเมืองๆนั้น แล้วไปทำอาชีพประมงอยู่ ณ แหล่งอื่น ชายผู้น้องได้พยายามศึกษาเล่าเรียน เพื่อสอบเข้ารับราชการและหวังว่าจะกลับไปทวงคืนความยุติธรรมให้พี่ชายผู้วายชนม์ เมื่อถึงวันสอบ พี่สะใภ้จึงได้นำปลาที่มีอยู่มาทำอาหารให้ชายผู้น้อยกิน แต่วันนี้กลับพิเศษกว่าวันอื่นๆ เพราะเนื้อปลามีรสเปรี้ยวหวาน ชายผู้น้องทานแล้วนอกจากอร่อยยังรู้สึกระชุ่มกระชวยสดชื่น พี่สะใภ้จึงตอบว่า เห็นว่าเป็นวันสอบจึงอยากให้ชายผู้น้องรู้สึกสดชื่นปลอดโปร่ง
หลังจากนั้น ชายผู้น้องก็สอบติดราชการ ได้เป็นขุนนางใหญ่โต จึงกลับไปว่าราชการที่บ้านเกิด และจัดการลงโทษขุนนางชั่วที่พรากชีวิตพี่ชายของตนไป ส่วนพี่สะใภ้ก็ได้เปิดร้านอาหาร มีเมนูเลื่องชื่อคือปลาเปรี้ยวหวานในตำนานนั่นเอง
เตรียมวัตถุดิบหลักกันก่อน วันนี้ก็จะเป็นเนื้อปลากะพงทอดโดยเอาเนื้อปลามาบั้งด้านเนื้อให้ถี่ๆ แล้วนำไปคลุกกับแป้งมันให้ทั่วๆแล้วเอาลงทอดน้ำมันให้เหลืองกรอบ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆจะเป็นสับปะรดหั่นชิ้นพอดีคำ มะเขือเทศหั่น และกระเจี๊ยบลวก
ตั้งกระทะผัดกระเทียม หอมแดง และโคนต้นหอม จนส่งกลิ่นหอม
เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และน้ำละลายแป้งมัน อย่างละช้อนโต๊ะ
เคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำซอสเริ่มงวดข้น
ใส่วัตถุดิบที่เตรียมไว้ลงไปผัดเร็วๆคลุกเคล้าให้เข้ากันสักนาทีก็ปิดไฟได้ทันที
จัดลงจานตกแต่งให้สวยงามตามชอบก็ถือเป็นอันเสร็จพิธี
เนื้อปลาทอดกรอบนอกนุ่มใน ฉ่ำไปด้วยน้ำซอสรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม กินแล้วทั้งอร่อยแถมยังรู้สึกสดชื่น คีบแล้วคีบอีก กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆได้ไม่มีเบื่อ
นี่แหละคือเมนูอาหารแห่งการทวงคืนความยุติธรรม ถ้าหากคนเราได้รับอาหารดีๆ ก็จะมีแรงก้าวไปให้บรรลุจุดหมายอย่างแน่นอน
facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี"
ทวงคืนความยุติธรรม ..... "ปลาเปรี้ยวหวาน"
ครั้นแล้วชายผู้น้องและพี่สะใภ้หม่ายสามีจึงหนีออกจากเมืองๆนั้น แล้วไปทำอาชีพประมงอยู่ ณ แหล่งอื่น ชายผู้น้องได้พยายามศึกษาเล่าเรียน เพื่อสอบเข้ารับราชการและหวังว่าจะกลับไปทวงคืนความยุติธรรมให้พี่ชายผู้วายชนม์ เมื่อถึงวันสอบ พี่สะใภ้จึงได้นำปลาที่มีอยู่มาทำอาหารให้ชายผู้น้อยกิน แต่วันนี้กลับพิเศษกว่าวันอื่นๆ เพราะเนื้อปลามีรสเปรี้ยวหวาน ชายผู้น้องทานแล้วนอกจากอร่อยยังรู้สึกระชุ่มกระชวยสดชื่น พี่สะใภ้จึงตอบว่า เห็นว่าเป็นวันสอบจึงอยากให้ชายผู้น้องรู้สึกสดชื่นปลอดโปร่ง
หลังจากนั้น ชายผู้น้องก็สอบติดราชการ ได้เป็นขุนนางใหญ่โต จึงกลับไปว่าราชการที่บ้านเกิด และจัดการลงโทษขุนนางชั่วที่พรากชีวิตพี่ชายของตนไป ส่วนพี่สะใภ้ก็ได้เปิดร้านอาหาร มีเมนูเลื่องชื่อคือปลาเปรี้ยวหวานในตำนานนั่นเอง
เตรียมวัตถุดิบหลักกันก่อน วันนี้ก็จะเป็นเนื้อปลากะพงทอดโดยเอาเนื้อปลามาบั้งด้านเนื้อให้ถี่ๆ แล้วนำไปคลุกกับแป้งมันให้ทั่วๆแล้วเอาลงทอดน้ำมันให้เหลืองกรอบ ส่วนวัตถุดิบอื่นๆจะเป็นสับปะรดหั่นชิ้นพอดีคำ มะเขือเทศหั่น และกระเจี๊ยบลวก
ตั้งกระทะผัดกระเทียม หอมแดง และโคนต้นหอม จนส่งกลิ่นหอม
เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และน้ำละลายแป้งมัน อย่างละช้อนโต๊ะ
เคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำซอสเริ่มงวดข้น
ใส่วัตถุดิบที่เตรียมไว้ลงไปผัดเร็วๆคลุกเคล้าให้เข้ากันสักนาทีก็ปิดไฟได้ทันที
จัดลงจานตกแต่งให้สวยงามตามชอบก็ถือเป็นอันเสร็จพิธี
เนื้อปลาทอดกรอบนอกนุ่มใน ฉ่ำไปด้วยน้ำซอสรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม กินแล้วทั้งอร่อยแถมยังรู้สึกสดชื่น คีบแล้วคีบอีก กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆได้ไม่มีเบื่อ
นี่แหละคือเมนูอาหารแห่งการทวงคืนความยุติธรรม ถ้าหากคนเราได้รับอาหารดีๆ ก็จะมีแรงก้าวไปให้บรรลุจุดหมายอย่างแน่นอน
facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี"