เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 1
https://ppantip.com/topic/40664092
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 2
https://ppantip.com/topic/40665034
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 3
https://ppantip.com/topic/40667049
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 4
https://ppantip.com/topic/40678456
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 5
https://ppantip.com/topic/40680266
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 6
https://ppantip.com/topic/40682283
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 7
https://ppantip.com/topic/40693498
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 8
https://ppantip.com/topic/40695663
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 9
https://ppantip.com/topic/40710032
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 10
https://ppantip.com/topic/40712032
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 11
https://ppantip.com/topic/40725377
ตอนที่ 6
กว่าที่เราทั้งสอง จะเสร็จกับการกินอาหารกลางวัน ที่คุณใหญ่จัดเลี้ยงให้เราทั้งสองได้ ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงเพราะอาหารกลางวันที่คุณใหญ่เลี้ยง ไม่ใช่แค่อาหารกลางวันธรรมดา ดูเหมือนว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลองอะไรสักอย่าง เพราะเชฟกันต์ได้จัดอาหารคาวหวานไว้มากมาย แต่แขกเหรื่อที่มาร่วมงานกลับเป็นพนักงานของรีสอร์ต ที่ให้ความเป็นกันเองกับฉันมาก
"จักร นายไปแล้วอย่าหายหัวไปนานๆ อีกล่ะ แวะมาทักทายกันบ้าง ฐานทัพเรือก็อยู่แค่นี้ แวะมาเยี่ยมกันบ่อยๆ นะ" เชฟกันต์ร่ำลาเพื่อนรัก
"พี่ใหญ่ดูนายกันต์ มันพูดเหมือนกับว่าจะไม่ได้พบกันอีกอย่างนั้นแหละ" เจ้าตัวฟ้องนายใหญ่
"คนที่นี่รักนายอย่างกับอะไรดี นายมาทีไร เคยมาอยู่เฉยๆ เป็นบ้างไหม เห็นแต่ไปช่วยเขา ตัดหญ้า จัดสวน ล้างสระว่ายน้ำ หรือไม่ก็คลุกอยู่ในครัวกับเชฟทั้งวัน พอถึงวันที่นายจะไปทีไร ไอ้พวกนี้มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทุกที" คุณเล็กกล่าว
"ถ้าว่างจากงานที่กองทัพ ผมก็มักจะมาที่นี่เสมอ เพราะมาแล้วรู้สึกว่าเหมือนมาบ้านตัวเอง"
"ที่นี่ก็คือบ้านของนาย นายจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้านายมาคลุกอยู่ที่นี่นานๆ คนทางโน้นจะว่าเอาได้" คุณใหญ่เตือน
"ผมทราบครับ"
"เอาล่ะ นายรีบพาคุณหมอกไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลา" คุณใหญ่บอกก่อนที่จะหันมาทางฉัน
"คุณหมอกครับ ผมดีใจที่คุณหมอกให้โอกาสนายจักร" คุณใหญ่ยิ้มกว้างให้ฉัน ดวงตาที่มองมามีแววของความสุขท่วมท้น ก่อนที่จะเอ่ยต่อไปว่า
"ถ้าว่างคุณหมอกมาที่นี่ได้ทุกเวลานะครับ เพราะตอนนี้คุณหมอกก็เป็นคนในครอบครัวของเราแล้ว ดังนั้นที่นี่ก็เป็นบ้านของคุณหมอกเหมือนกัน"
คุณใหญ่ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนที่นาวาโทนายแพทย์จักรินทร์ จะขับรถพาฉันมุ่งหน้าไปที่ว่าการอำเภอทันที
---------
ที่ว่าการอำเภอเป็นโรงเรือนไม้สองชั้น ซึ่งดูเผินๆ แล้วเหมือนกับ โรงเรียนประจำจังหวัดเสียมากกว่า สองข้างทางเข้าตัวอำเภอมีต้นไม้ใหญ่ออกดอกสะพรั่ง ปลูกเรียงแถวยาว จากถนนใหญ่เข้าสู่ตัวอาคาร ใต้ต้นไม้ใหญ่มีม้านั่งหินอ่อน ตั้งไว้เป็นระยะๆ ให้คนเดินทางได้นั่งพักร้อนใต้ร่มไม้ สารถีจัดการจอดรถที่ลานจอดรถอย่างเบามือ ก่อนที่จะหันมายิ้มกว้างให้ฉัน
"คุณพร้อมหรือยัง" เขาถาม
"ฉันว่ามันจะดีหรือคะ... ฉันว่า... เราน่าจะคุยกันก่อนดีไหมคะ" ฉันตอบหลังจากเงียบอยู่นาน
"ถ้าคุณหมอกอยากคุยก่อนก็ได้ เราลงไปคุยตรงโน้นดีไหม"
เขาพาฉันเดินไปที่สวนหน้าตัวอาคาร ที่จัดเป็นสวนหย่อมมีต้นไม้ใหญ่น้อย และน้ำพุเล็กๆ ที่ให้ความร่มรื่นในเวลายามบ่าย แบบนี้ ฉันทรุดตัวลงนั่งที่ม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้
"คุณว่ามันจะดีหรือคะ ที่เราสองคนจะจดทะเบียนสมรสกัน มันไม่เร็วไปหน่อยหรือคะ" ฉันถามหลังจากที่เขาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ
"ที่ผมทำเพราะผมสัญญากับคุณไว้ เมื่อคืนวันนั้น" เขาพูดเรียบๆ
"สัญญาอะไรคะ" ฉันถามเสียงหลง
"ก็คุณให้ผมสัญญาว่า จะต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณทันทีในวันรุ่งขึ้น แต่คุณเกิดไม่สบายนอนเป็นไข้อยู่หลายวัน"
"จริงหรือคะ คุณไม่ได้โกหกฉันนะคะ" ฉันลนลานถาม
"อ้าวผมจะไปโกหกคุณทำไม เพราะไม่ใช่แค่ผมที่รู้ ทุกคนที่รีสอร์ตเขาก็รู้กันทั้งนั้น ว่าผมจะพาคุณมาจดทะเบียนสมรส ไม่งั้นเมื่อกี้เขาจะจัดงานฉลองให้เราสองคนหรือครับ"
"โธ่ถัง.. ฉันนี่มันแย่จริงๆ .. ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย.. นี่นะฉันขอสาบานว่า ต่อไปนี้ฉันจะเลิกกินเหล้าแล้วจริงๆ " ฉันยกมือไหว้ฟ้า ไหว้ดิน ทำให้คนที่นั่งข้างๆ หัวเราะออกมา
"ดีครับ เพราะผมไม่อยากมีเมียขี้เมา"
"ใครเมียคุณ"
ฉันตวัดเสียงถาม จ้องหน้าคนที่ทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวนั้น
"ถ้างั้นคุณจะให้ผมเล่าเรื่องคืนวันนั้นให้ฟังไหม เพื่อเป็นการเตือนความจำ" ดวงตาแพรวพราวมองจ้องมา
"ไม่ต้อง! " ฉันทำตาค้อนปะหลับปะเหลือกให้กับทีท่าสนุกสุขสันต์ของเขา
"คุณไม่ต้องมาทำเป็นเล่นเลย ฉันพูดจริงๆ ว่าเราน่าจะรอไปก่อนดีไหม"
ฉันทำเสียงจริงจังทำให้คนที่ทำหน้าทะเล้น เปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที
"ถ้าคุณคิดอย่างนั้น ผมก็ไม่ว่าอะไร งั้นเรากลับกรุงเทพเลยนะ"
เขายืดตัวลุกขึ้นยืน ยื่นมือมาตรงหน้าฉัน แต่ก่อนที่ฉันจะเอื้อมมือไปจับมือแข็งแรงนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"สวัสดีจ้าม่านหมอก" เสียงใสผ่านทางโทรศัพท์ ทำเอาเส้นประสาทในสมองของฉัน ตึงขมวดขึ้นมาทันที
"ผกากรอง" ฉันกรอกเสียงลงไป ไม่แจ่มใสเหมือนเสียงปลายสายเท่าไหร่นัก
"ฉันขอโทษด้วยนะจ๊ะที่พลาดงานวันเกิดของเธอ เผอิญว่าคุณชิตเขาพาฉันไปฮันนี่มูนรอบที่สี่ที่ปารีส"
... โอ๊ยนังผักกาดดองเอ๋ย ไม่เห็นจำเป็นต้องมาสาธยายบอกฉันเลย ...
"แต่ที่ฉันรู้มา ก้อยเขาไม่ได้ส่งเทียบไปเชิญเธอมางานฉันนี่นา"
ฉันมองตามร่างสูงที่เดินเลี่ยงไปมองผลหมากรากไม้ ปล่อยให้ฉัน .. ฉะ .. กับยัยผักกาดดองได้อย่างเต็มที่
"ต๊ายพูดอะไรอย่างนั้น ก้อยเขาคงรู้ว่าฉันไม่ว่าง เลยไม่ได้ส่งการ์ดเชิญมาหรือเปล่า"
... ฉันรำคาญเสียงดัดๆ ของยัยผักกาดดองกระป๋องนี่เสียจริงๆ ...
"แล้วนี่โทรมาทำไม"
"อ้าวก็จะโทรมาบอก Happy Birthday ย้อนหลังสิจ๊ะ"
"ขอบใจ" ฉันบอกสั้นๆ
"แหมทำไมทำเสียงห้วนๆ อย่างนั้นล่ะจ๊ะ นี่เธอยังไม่หายโกรธเรื่องฉันกับคุณชิตอีกหรือไง"
... โอ๊ยนังผักกาดดองเอ๊ย เรื่องเธอกับนายพิชิตชัยนั้น มันนานแสนนาน เกินกว่าที่ฉันจะคิดอะไรแล้วล่ะ...
"หมอกจ๊ะ ฉันจะบอกว่า ฉันกับคุณชิตไป ฮันนี่มูนที่ปารีส และก็ซื้อของขวัญวันเกิดมาฝากเธอด้วยนะ" เสียงดัดๆ คุยจ้อ ของเจ้าหล่อนทำเอาฉันอยากตัดสายทิ้งเสียจริงๆ
"ที่จริงไม่น่าลำบาก"
"เปล่าไม่ได้ลำบากอะไร หรอกจ้ะ นี่หมอก ฉันได้ยินข่าวเรื่องเธอจะแต่งงานหรือจ๊ะ"
...นั่นแน่ ว่าแล้วว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไร ยัยผักกาดดองไม่โทรมาหาฉันหรอก...
"เธอรู้ได้ไง" ฉันถามห้วนๆ
"รู้ก็แล้วกันนะ นี่ถ้าเป็นเรื่องจริงฉันก็ดีใจด้วย เพราะฉันจะได้โล่งอกเสียที เธอจะได้ไม่โทษว่าฉันเอง ที่เป็นสาเหตุทำให้เธอขึ้นคาน! "
"นี่ผกา แค่นี้ก่อนนะพอดีมีอีกสายเข้ามา จากบอสของฉัน แค่นี้ก่อนนะ"
ฉันตัดสายยัยผักกาดดองทิ้ง อย่างไม่แยแส กับคนถือหูปลายสายเสียเท่าไหร่
"ว่าไงส้ม วันนี้ว่าง ที่ร้านไม่มีลูกค้า เหรอไง ถึงโทรมาหาฉันได้" ฉันรับสายของสมมิตา
"เปล่าพอดีให้เด็กดูให้ก่อน เพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยกับหมอก" เสียงของคนปลายสายลุกลี้ลุกลนชอบกล
"มีอะไรก็ว่ามา"
"ก็เมื่อกี้ยัยผักกาดดอง มาหาส้มที่ร้าน" เจ้าของร้านกาแฟสด Somita โพล่งออกมาเหมือนจะกลั้นไว้ไม่อยู่
"แกล้งเอาขนมจากฝรั่งเศสมาให้ แล้วเจ้าหล่อนมาพูดท่านั้นท่านี้ เลียบๆ เคียงถามเรื่องงานวันเกิดของหมอก ส้มล่ะเบื่อยัยนี้จริงๆ ที่สำคัญ หล่อนขุดเรื่องนายพิชิตชัย มาพูดอีกแล้ว เรื่องนี้นะมันนานมากแล้ว แต่หล่อนไม่เคยคิดจะให้มันจบ ส้มรำคาญ และทนไม่ได้ เลยเผลอบอกเรื่องหมอกกับคุณพี่หมอไป"
"มิน่า ยัยผักกาดดองถึงโทรหาหมอกเมื่อกี้นี้"
"จริงเหรอ ยัยนี่มันไวจริงๆ เปิดช่องให้มันไม่ได้จริงๆ มันมาแขวะหมอกเรื่องอะไรอีกล่ะ"
"ก็เรื่องเดิมๆ และก็มาคุยทับเรื่องนายชิตพาหล่อนไปปารีส"
"แล้วเรื่องคุณพี่หมอล่ะ"
น้ำเสียงของสมมิตาเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ
"ก็เห็นเปรยๆ อยู่นะ ว่าได้ยินเรื่องหมอกจะแต่งงาน นี่มันได้ยินมาจากเธอใช่ไหมส้ม"
"ส้มขอโทษนะ ทั้งๆ ที่ตอนก้อยส่งพวกเราขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพ เมื่อวันก่อน ก็กำชับบอกว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใคร แถมกำชับอีกว่าถ้าใครมีคลิป หรือรูปถ่ายตอนที่คุณพี่หมอขอหมอกแต่งงาน ก็ไม่ให้ลงโซเชียล หรือลงในอินเตอร์เน็ต พวกเราก็สัญญาอย่างดี เป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ยัยผกานี่มันร้ายจริงๆ มันทำให้ส้มตบะแตก"
เสียงปลายสายอ่อยไป เหมือนรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดอย่างแรง
"แต่หมอกก็คงไม่ต้องห่วงเรื่องยัยผกา ที่มันจะเอาเรื่องนายพิชิตชัยมาแขวะหมอก อีกต่อไป แล้วใช่ไหม เพราะคุณพี่หมอ ทั้งหล่อ ทั้งดี ทั้งรูปร่างหน้าตา และการงาน ดีกว่านายพิชิตชัยตั้งเยอะ"
"เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นอย่างนั้น ก็คืนวันนั้นเธอเมาตั้งแต่หัววัน" เสียงปลายสายหัวเราะลั่น
"ก็เพื่อนๆ เขาพูดกันในรถตู้ไง แถมยังให้ดูรูปถ่ายและคลิป ช๊อตเด็ด ไฮไลท์ของงานด้วยนะ แต่เพื่อนเราบางคนก็ไม่เชื่อนะว่ามันจะเป็นเรื่องจริง เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ คืนวันนั้น ส้มก็เมา หมอกก็เมา และอีกหลายๆ คนก็เมา มันเลยคิดกันว่าอาจจะเป็นการล้อเล่น ก็เลยกลายเป็นเรื่องเดิมพันกันขึ้นมาว่าตกลง หมอกจะแต่งงานกับพี่หมอ หรือว่าจะมุ่งหน้าเดิน ย้ายข้าวของเข้าไปอยู่ที่ คานทองวิลล่าเหมือนเดิม"
ยัยส้มวางหูไปนานแล้ว แต่คำพูดประโยคสุดท้ายของหล่อน ยังวนเวียนอยู่ในหัวสมองของฉัน ฉันมองไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อน ที่มองดูฉันเดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบ ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเดินตรงไปหาเขา
"คุณจักร ฉันถามอะไรคุณหน่อยสิ แต่คุณต้องให้สัญญาว่าจะตอบคำถามทุกข้อ ด้วยความสัตย์ซื่อ ไม่โกหกหลอกลวง ด้วยเกียรติของนายทหารเรือ"
"ครับผม" เขาผุดลุกขึ้นยืน ยืดตัวตรง เสียงรับเข้มแข็งพร้อมกับทำวันทยหัตถ์
"ดีมาก งั้นเริ่มเลยก็แล้วกัน" ฉันเอามือไข้วหลัง ทำท่าเอาจริงเอาจัง
"นาวาโทนายแพทย์จักรินทร์ คุณมีแฟน มีกิ๊ก หรือมีเมีย ซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง"
"ไม่มีครับผม" เขาหัวเราะในคอก่อนที่จะตอบเสียงจริงจัง
"คุณเป็นเกย์ แอบ เก้ง กวาง หรือเปล่า.. ไม่ใช่ว่าฉันมีปัญหาอะไรนะ เพราะถ้าคุณเป็น.."
ฉันทำตาดุจ้องมองใบหน้าคม ที่มีรอยยิ้มระบายไปทั่วใบหน้า เขาหัวเราะคิกคัก ก่อนที่จะเปลี่ยนมาทำหน้าเคร่งขรึม
"ไม่เป็นครับผม" เขาเอ่ยตัดบทฉันเสียก่อน
"คุณเป็นพวกวิปลิต วิปลาส ในเรื่องบนเตียงหรือไม่ แบบโซ่ แส้ กุญแจมือ เทียนไข.."
ถึงตอนนี้คนยืนตัวตรง ใบหน้าเคร่งขรึม หัวเราะลั่นแบบอดกลั้นไว้ไม่อยู่ แต่ก็รีบเปลี่ยนมาทำหน้าจริงจังเหมือนเดิม เมื่อฉันถลึงตาใส่เขา
"ไม่ครับผม" เขาตอบเสียงดัง ชิงตัดบทฉันเสียก่อน
"นาวาโทนายแพทย์จักรินทร์ ราชสีหะกรมม์ คุณพร้อมจะจดทะเบียนสมรสกับนางสาวม่านหมอก รักษ์สัตย์ซื่อหรือไม่"
"ตอนนี้นะหรือครับ" เขายื่นหน้ามาถาม เพื่อความแน่ใจ ก่อนที่จะ กลับไปยืดตัวตรง
"ใช่" ฉันตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"กระผม นาวาโทนายแพทย์จักรินทร์ ราชสีหะกรมม์ พร้อมที่จะรับนางสาวม่านหมอก รักซื่อสัตย์ เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ครับผม" เสียงตอบกลับมานั้นหนักแน่นไม่แพ้กัน
___________
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 6
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/40665034
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/40667049
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/40678456
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 5 https://ppantip.com/topic/40680266
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 6 https://ppantip.com/topic/40682283
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 7 https://ppantip.com/topic/40693498
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 8 https://ppantip.com/topic/40695663
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 9 https://ppantip.com/topic/40710032
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 10 https://ppantip.com/topic/40712032
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 11 https://ppantip.com/topic/40725377
ตอนที่ 6
กว่าที่เราทั้งสอง จะเสร็จกับการกินอาหารกลางวัน ที่คุณใหญ่จัดเลี้ยงให้เราทั้งสองได้ ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมงเพราะอาหารกลางวันที่คุณใหญ่เลี้ยง ไม่ใช่แค่อาหารกลางวันธรรมดา ดูเหมือนว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลองอะไรสักอย่าง เพราะเชฟกันต์ได้จัดอาหารคาวหวานไว้มากมาย แต่แขกเหรื่อที่มาร่วมงานกลับเป็นพนักงานของรีสอร์ต ที่ให้ความเป็นกันเองกับฉันมาก
"จักร นายไปแล้วอย่าหายหัวไปนานๆ อีกล่ะ แวะมาทักทายกันบ้าง ฐานทัพเรือก็อยู่แค่นี้ แวะมาเยี่ยมกันบ่อยๆ นะ" เชฟกันต์ร่ำลาเพื่อนรัก
"พี่ใหญ่ดูนายกันต์ มันพูดเหมือนกับว่าจะไม่ได้พบกันอีกอย่างนั้นแหละ" เจ้าตัวฟ้องนายใหญ่
"คนที่นี่รักนายอย่างกับอะไรดี นายมาทีไร เคยมาอยู่เฉยๆ เป็นบ้างไหม เห็นแต่ไปช่วยเขา ตัดหญ้า จัดสวน ล้างสระว่ายน้ำ หรือไม่ก็คลุกอยู่ในครัวกับเชฟทั้งวัน พอถึงวันที่นายจะไปทีไร ไอ้พวกนี้มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทุกที" คุณเล็กกล่าว
"ถ้าว่างจากงานที่กองทัพ ผมก็มักจะมาที่นี่เสมอ เพราะมาแล้วรู้สึกว่าเหมือนมาบ้านตัวเอง"
"ที่นี่ก็คือบ้านของนาย นายจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้านายมาคลุกอยู่ที่นี่นานๆ คนทางโน้นจะว่าเอาได้" คุณใหญ่เตือน
"ผมทราบครับ"
"เอาล่ะ นายรีบพาคุณหมอกไปเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเวลา" คุณใหญ่บอกก่อนที่จะหันมาทางฉัน
"คุณหมอกครับ ผมดีใจที่คุณหมอกให้โอกาสนายจักร" คุณใหญ่ยิ้มกว้างให้ฉัน ดวงตาที่มองมามีแววของความสุขท่วมท้น ก่อนที่จะเอ่ยต่อไปว่า
"ถ้าว่างคุณหมอกมาที่นี่ได้ทุกเวลานะครับ เพราะตอนนี้คุณหมอกก็เป็นคนในครอบครัวของเราแล้ว ดังนั้นที่นี่ก็เป็นบ้านของคุณหมอกเหมือนกัน"
คุณใหญ่ทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนที่นาวาโทนายแพทย์จักรินทร์ จะขับรถพาฉันมุ่งหน้าไปที่ว่าการอำเภอทันที
---------
ที่ว่าการอำเภอเป็นโรงเรือนไม้สองชั้น ซึ่งดูเผินๆ แล้วเหมือนกับ โรงเรียนประจำจังหวัดเสียมากกว่า สองข้างทางเข้าตัวอำเภอมีต้นไม้ใหญ่ออกดอกสะพรั่ง ปลูกเรียงแถวยาว จากถนนใหญ่เข้าสู่ตัวอาคาร ใต้ต้นไม้ใหญ่มีม้านั่งหินอ่อน ตั้งไว้เป็นระยะๆ ให้คนเดินทางได้นั่งพักร้อนใต้ร่มไม้ สารถีจัดการจอดรถที่ลานจอดรถอย่างเบามือ ก่อนที่จะหันมายิ้มกว้างให้ฉัน
"คุณพร้อมหรือยัง" เขาถาม
"ฉันว่ามันจะดีหรือคะ... ฉันว่า... เราน่าจะคุยกันก่อนดีไหมคะ" ฉันตอบหลังจากเงียบอยู่นาน
"ถ้าคุณหมอกอยากคุยก่อนก็ได้ เราลงไปคุยตรงโน้นดีไหม"
เขาพาฉันเดินไปที่สวนหน้าตัวอาคาร ที่จัดเป็นสวนหย่อมมีต้นไม้ใหญ่น้อย และน้ำพุเล็กๆ ที่ให้ความร่มรื่นในเวลายามบ่าย แบบนี้ ฉันทรุดตัวลงนั่งที่ม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้
"คุณว่ามันจะดีหรือคะ ที่เราสองคนจะจดทะเบียนสมรสกัน มันไม่เร็วไปหน่อยหรือคะ" ฉันถามหลังจากที่เขาทรุดตัวนั่งลงข้างๆ
"ที่ผมทำเพราะผมสัญญากับคุณไว้ เมื่อคืนวันนั้น" เขาพูดเรียบๆ
"สัญญาอะไรคะ" ฉันถามเสียงหลง
"ก็คุณให้ผมสัญญาว่า จะต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณทันทีในวันรุ่งขึ้น แต่คุณเกิดไม่สบายนอนเป็นไข้อยู่หลายวัน"
"จริงหรือคะ คุณไม่ได้โกหกฉันนะคะ" ฉันลนลานถาม
"อ้าวผมจะไปโกหกคุณทำไม เพราะไม่ใช่แค่ผมที่รู้ ทุกคนที่รีสอร์ตเขาก็รู้กันทั้งนั้น ว่าผมจะพาคุณมาจดทะเบียนสมรส ไม่งั้นเมื่อกี้เขาจะจัดงานฉลองให้เราสองคนหรือครับ"
"โธ่ถัง.. ฉันนี่มันแย่จริงๆ .. ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย.. นี่นะฉันขอสาบานว่า ต่อไปนี้ฉันจะเลิกกินเหล้าแล้วจริงๆ " ฉันยกมือไหว้ฟ้า ไหว้ดิน ทำให้คนที่นั่งข้างๆ หัวเราะออกมา
"ดีครับ เพราะผมไม่อยากมีเมียขี้เมา"
"ใครเมียคุณ"
ฉันตวัดเสียงถาม จ้องหน้าคนที่ทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวนั้น
"ถ้างั้นคุณจะให้ผมเล่าเรื่องคืนวันนั้นให้ฟังไหม เพื่อเป็นการเตือนความจำ" ดวงตาแพรวพราวมองจ้องมา
"ไม่ต้อง! " ฉันทำตาค้อนปะหลับปะเหลือกให้กับทีท่าสนุกสุขสันต์ของเขา
"คุณไม่ต้องมาทำเป็นเล่นเลย ฉันพูดจริงๆ ว่าเราน่าจะรอไปก่อนดีไหม"
ฉันทำเสียงจริงจังทำให้คนที่ทำหน้าทะเล้น เปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที
"ถ้าคุณคิดอย่างนั้น ผมก็ไม่ว่าอะไร งั้นเรากลับกรุงเทพเลยนะ"
เขายืดตัวลุกขึ้นยืน ยื่นมือมาตรงหน้าฉัน แต่ก่อนที่ฉันจะเอื้อมมือไปจับมือแข็งแรงนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"สวัสดีจ้าม่านหมอก" เสียงใสผ่านทางโทรศัพท์ ทำเอาเส้นประสาทในสมองของฉัน ตึงขมวดขึ้นมาทันที
"ผกากรอง" ฉันกรอกเสียงลงไป ไม่แจ่มใสเหมือนเสียงปลายสายเท่าไหร่นัก
"ฉันขอโทษด้วยนะจ๊ะที่พลาดงานวันเกิดของเธอ เผอิญว่าคุณชิตเขาพาฉันไปฮันนี่มูนรอบที่สี่ที่ปารีส"
... โอ๊ยนังผักกาดดองเอ๋ย ไม่เห็นจำเป็นต้องมาสาธยายบอกฉันเลย ...
"แต่ที่ฉันรู้มา ก้อยเขาไม่ได้ส่งเทียบไปเชิญเธอมางานฉันนี่นา"
ฉันมองตามร่างสูงที่เดินเลี่ยงไปมองผลหมากรากไม้ ปล่อยให้ฉัน .. ฉะ .. กับยัยผักกาดดองได้อย่างเต็มที่
"ต๊ายพูดอะไรอย่างนั้น ก้อยเขาคงรู้ว่าฉันไม่ว่าง เลยไม่ได้ส่งการ์ดเชิญมาหรือเปล่า"
... ฉันรำคาญเสียงดัดๆ ของยัยผักกาดดองกระป๋องนี่เสียจริงๆ ...
"แล้วนี่โทรมาทำไม"
"อ้าวก็จะโทรมาบอก Happy Birthday ย้อนหลังสิจ๊ะ"
"ขอบใจ" ฉันบอกสั้นๆ
"แหมทำไมทำเสียงห้วนๆ อย่างนั้นล่ะจ๊ะ นี่เธอยังไม่หายโกรธเรื่องฉันกับคุณชิตอีกหรือไง"
... โอ๊ยนังผักกาดดองเอ๊ย เรื่องเธอกับนายพิชิตชัยนั้น มันนานแสนนาน เกินกว่าที่ฉันจะคิดอะไรแล้วล่ะ...
"หมอกจ๊ะ ฉันจะบอกว่า ฉันกับคุณชิตไป ฮันนี่มูนที่ปารีส และก็ซื้อของขวัญวันเกิดมาฝากเธอด้วยนะ" เสียงดัดๆ คุยจ้อ ของเจ้าหล่อนทำเอาฉันอยากตัดสายทิ้งเสียจริงๆ
"ที่จริงไม่น่าลำบาก"
"เปล่าไม่ได้ลำบากอะไร หรอกจ้ะ นี่หมอก ฉันได้ยินข่าวเรื่องเธอจะแต่งงานหรือจ๊ะ"
...นั่นแน่ ว่าแล้วว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไร ยัยผักกาดดองไม่โทรมาหาฉันหรอก...
"เธอรู้ได้ไง" ฉันถามห้วนๆ
"รู้ก็แล้วกันนะ นี่ถ้าเป็นเรื่องจริงฉันก็ดีใจด้วย เพราะฉันจะได้โล่งอกเสียที เธอจะได้ไม่โทษว่าฉันเอง ที่เป็นสาเหตุทำให้เธอขึ้นคาน! "
"นี่ผกา แค่นี้ก่อนนะพอดีมีอีกสายเข้ามา จากบอสของฉัน แค่นี้ก่อนนะ"
ฉันตัดสายยัยผักกาดดองทิ้ง อย่างไม่แยแส กับคนถือหูปลายสายเสียเท่าไหร่
"ว่าไงส้ม วันนี้ว่าง ที่ร้านไม่มีลูกค้า เหรอไง ถึงโทรมาหาฉันได้" ฉันรับสายของสมมิตา
"เปล่าพอดีให้เด็กดูให้ก่อน เพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยกับหมอก" เสียงของคนปลายสายลุกลี้ลุกลนชอบกล
"มีอะไรก็ว่ามา"
"ก็เมื่อกี้ยัยผักกาดดอง มาหาส้มที่ร้าน" เจ้าของร้านกาแฟสด Somita โพล่งออกมาเหมือนจะกลั้นไว้ไม่อยู่
"แกล้งเอาขนมจากฝรั่งเศสมาให้ แล้วเจ้าหล่อนมาพูดท่านั้นท่านี้ เลียบๆ เคียงถามเรื่องงานวันเกิดของหมอก ส้มล่ะเบื่อยัยนี้จริงๆ ที่สำคัญ หล่อนขุดเรื่องนายพิชิตชัย มาพูดอีกแล้ว เรื่องนี้นะมันนานมากแล้ว แต่หล่อนไม่เคยคิดจะให้มันจบ ส้มรำคาญ และทนไม่ได้ เลยเผลอบอกเรื่องหมอกกับคุณพี่หมอไป"
"มิน่า ยัยผักกาดดองถึงโทรหาหมอกเมื่อกี้นี้"
"จริงเหรอ ยัยนี่มันไวจริงๆ เปิดช่องให้มันไม่ได้จริงๆ มันมาแขวะหมอกเรื่องอะไรอีกล่ะ"
"ก็เรื่องเดิมๆ และก็มาคุยทับเรื่องนายชิตพาหล่อนไปปารีส"
"แล้วเรื่องคุณพี่หมอล่ะ"
น้ำเสียงของสมมิตาเอ่ยถามด้วยความร้อนใจ
"ก็เห็นเปรยๆ อยู่นะ ว่าได้ยินเรื่องหมอกจะแต่งงาน นี่มันได้ยินมาจากเธอใช่ไหมส้ม"
"ส้มขอโทษนะ ทั้งๆ ที่ตอนก้อยส่งพวกเราขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพ เมื่อวันก่อน ก็กำชับบอกว่าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใคร แถมกำชับอีกว่าถ้าใครมีคลิป หรือรูปถ่ายตอนที่คุณพี่หมอขอหมอกแต่งงาน ก็ไม่ให้ลงโซเชียล หรือลงในอินเตอร์เน็ต พวกเราก็สัญญาอย่างดี เป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ยัยผกานี่มันร้ายจริงๆ มันทำให้ส้มตบะแตก"
เสียงปลายสายอ่อยไป เหมือนรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดอย่างแรง
"แต่หมอกก็คงไม่ต้องห่วงเรื่องยัยผกา ที่มันจะเอาเรื่องนายพิชิตชัยมาแขวะหมอก อีกต่อไป แล้วใช่ไหม เพราะคุณพี่หมอ ทั้งหล่อ ทั้งดี ทั้งรูปร่างหน้าตา และการงาน ดีกว่านายพิชิตชัยตั้งเยอะ"
"เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นอย่างนั้น ก็คืนวันนั้นเธอเมาตั้งแต่หัววัน" เสียงปลายสายหัวเราะลั่น
"ก็เพื่อนๆ เขาพูดกันในรถตู้ไง แถมยังให้ดูรูปถ่ายและคลิป ช๊อตเด็ด ไฮไลท์ของงานด้วยนะ แต่เพื่อนเราบางคนก็ไม่เชื่อนะว่ามันจะเป็นเรื่องจริง เพราะอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ คืนวันนั้น ส้มก็เมา หมอกก็เมา และอีกหลายๆ คนก็เมา มันเลยคิดกันว่าอาจจะเป็นการล้อเล่น ก็เลยกลายเป็นเรื่องเดิมพันกันขึ้นมาว่าตกลง หมอกจะแต่งงานกับพี่หมอ หรือว่าจะมุ่งหน้าเดิน ย้ายข้าวของเข้าไปอยู่ที่ คานทองวิลล่าเหมือนเดิม"
ยัยส้มวางหูไปนานแล้ว แต่คำพูดประโยคสุดท้ายของหล่อน ยังวนเวียนอยู่ในหัวสมองของฉัน ฉันมองไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อน ที่มองดูฉันเดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบ ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเดินตรงไปหาเขา
"คุณจักร ฉันถามอะไรคุณหน่อยสิ แต่คุณต้องให้สัญญาว่าจะตอบคำถามทุกข้อ ด้วยความสัตย์ซื่อ ไม่โกหกหลอกลวง ด้วยเกียรติของนายทหารเรือ"
"ครับผม" เขาผุดลุกขึ้นยืน ยืดตัวตรง เสียงรับเข้มแข็งพร้อมกับทำวันทยหัตถ์
"ดีมาก งั้นเริ่มเลยก็แล้วกัน" ฉันเอามือไข้วหลัง ทำท่าเอาจริงเอาจัง
"นาวาโทนายแพทย์จักรินทร์ คุณมีแฟน มีกิ๊ก หรือมีเมีย ซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง"
"ไม่มีครับผม" เขาหัวเราะในคอก่อนที่จะตอบเสียงจริงจัง
"คุณเป็นเกย์ แอบ เก้ง กวาง หรือเปล่า.. ไม่ใช่ว่าฉันมีปัญหาอะไรนะ เพราะถ้าคุณเป็น.."
ฉันทำตาดุจ้องมองใบหน้าคม ที่มีรอยยิ้มระบายไปทั่วใบหน้า เขาหัวเราะคิกคัก ก่อนที่จะเปลี่ยนมาทำหน้าเคร่งขรึม
"ไม่เป็นครับผม" เขาเอ่ยตัดบทฉันเสียก่อน
"คุณเป็นพวกวิปลิต วิปลาส ในเรื่องบนเตียงหรือไม่ แบบโซ่ แส้ กุญแจมือ เทียนไข.."
ถึงตอนนี้คนยืนตัวตรง ใบหน้าเคร่งขรึม หัวเราะลั่นแบบอดกลั้นไว้ไม่อยู่ แต่ก็รีบเปลี่ยนมาทำหน้าจริงจังเหมือนเดิม เมื่อฉันถลึงตาใส่เขา
"ไม่ครับผม" เขาตอบเสียงดัง ชิงตัดบทฉันเสียก่อน
"นาวาโทนายแพทย์จักรินทร์ ราชสีหะกรมม์ คุณพร้อมจะจดทะเบียนสมรสกับนางสาวม่านหมอก รักษ์สัตย์ซื่อหรือไม่"
"ตอนนี้นะหรือครับ" เขายื่นหน้ามาถาม เพื่อความแน่ใจ ก่อนที่จะ กลับไปยืดตัวตรง
"ใช่" ฉันตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"กระผม นาวาโทนายแพทย์จักรินทร์ ราชสีหะกรมม์ พร้อมที่จะรับนางสาวม่านหมอก รักซื่อสัตย์ เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ครับผม" เสียงตอบกลับมานั้นหนักแน่นไม่แพ้กัน
___________