เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 1
https://ppantip.com/topic/40664092
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 2
https://ppantip.com/topic/40665034
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 3
https://ppantip.com/topic/40667049
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 4
https://ppantip.com/topic/40678456
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 5
https://ppantip.com/topic/40680266
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 6
https://ppantip.com/topic/40682283
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 7
https://ppantip.com/topic/40693498
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 8
https://ppantip.com/topic/40695663
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 9
https://ppantip.com/topic/40710032
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 10
https://ppantip.com/topic/40712032
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 11
https://ppantip.com/topic/40725377
ตอนที่ 4
แสงแดดยามสายสาดส่องกระทบผิวน้ำทะเลใส ทำให้เกิดแสงระยิบระยับราวกับทะเลแห่งเพชรนิลจินดา ฉันมองนักประดาน้ำทั้งสี่ที่พากันลอยคออยู่กลางทะเล ในชุดนักประดาน้ำครบชุด โดยมีนายกะลาสีเรือจำเป็น ที่ควบตำแหน่งที่สอง คือผู้ควบคุมการดำน้ำลึกในครั้งนี้
เมื่อเขาให้สัญญาณในการเริ่มการดำน้ำ นักประดาน้ำทั้งสี่ที่มี คุณใหญ่ คุณเล็ก คุณเพชร และก้อย ก็ค่อยๆ ดำน้ำลึกลงไปเรื่อยๆ จนหายไปในน้ำทะเลสีคราม กะลาสีเรือจำเป็นก็คอยดูอยู่สักพักเพื่อให้แน่ใจว่านักประดาน้ำดำน้ำได้อย่างปลอดภัย และไม่มีอันตรายใดๆ แล้วเขาจึงค่อยๆ หยิบผ้าผืนใหญ่บรรจงคลุมที่ไหล่ของฉัน ก่อนที่จะพาฉันเดินมานั่งลงที่หัวเรือ
"คุณหนาวไหม" เสียงทุ้มถาม ก่อนที่เจ้าตัวจะนอนราบไปกับหัวเรือ โดยมีท่อนแขนสีแทนรองหัวไว้ง่ายๆ แว่นกันแดดสีดำที่สวมใส่ไว้บดบังดวงตาสวย
"นิดหน่อยค่ะ แต่ถ้าคุณไม่คิดว่าไข้ฉันจะกลับ ฉันก็อยากลองดำน้ำดูบ้างค่ะ น่าสนุกดีนะคะ" ฉันชวนคุย
"คุณเป็นทหารเรือ คุณน่าจะชอบดำน้ำ"
"ผมชอบทะเล ดังนั้นดำน้ำ ว่ายน้ำ อะไรที่เกี่ยวกับน้ำ ผมชอบทั้งนั้นครับ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นหมอ แต่ผมก็ฝึกวิชาการทหาร ไม่แพ้ทหารเรือคนอื่นๆ "
นอกจากทะเลแล้ว สงสัยว่าเขาก็ชอบแสงแดดด้วย เพราะร่างที่นอนราบไปกับหัวเรือ อาบแดดอย่างผ่อนคลาย สบายอารมณ์ไปกับแสงแดดยามนี้ยิ่งนัก
"แล้วคุณชอบอะไรมากกว่ากันระหว่าง เป็นทหารเรือกับเป็นหมอ"
"ผมชอบเป็นหมอมากกว่า แต่คุณพ่อผมรับราชการทหารเรือ ก็อยากให้ผม เป็นทหารเรือเหมือนกับท่าน" ใบหน้าที่สวมแว่นดำ เงยหน้ามองฟ้าใส
"หลังจากที่ผมเรียนจบจากอเมริกา ท่านก็ส่งผมไปเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า แต่เสียดายทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของผม เสียชีวิตก่อนที่ผมจะเรียนจบ และได้ติดยศนาวาตรี"
"ฉันเสียใจเรื่องของคุณพ่อกับคุณแม่คุณด้วยนะคะ"
"เรื่องมันนานมาแล้วครับ ผมทำใจได้แล้ว อย่างน้อยการเป็นทหารเรือเหมือนพ่อผม ก็ทำให้เรามีอะไรที่คล้ายกันบ้าง"
เขากลับตัวมานอนด้านข้าง ดวงหน้าจ้องหน้าของฉัน ริมฝีปากสวยยิ้มกว้าง ก่อนที่จะเอ่ยถามว่า
"ว่าแต่ว่าคุณจะสอบประวัติผมทำไม หรืออยากจะรู้ว่าผม มีคุณสมบัติพอที่จะแต่งงานกับคุณได้ไหม"
"บ้า ฉันก็ชวนคุยไปอย่างนั้น"
ฉันตีผลัวะเข้าที่ท่อนแขนสีแทนนั้นอย่างเก้อเขิน คนร่างยักษ์ลูบคลำท่อนแขนตัวเอง ไปมาด้วยความเจ็บ ราวกับเด็กน้อย ก่อนที่จะพลิกตัวไปนอนราบเช่นเดิม
"นี่คุณจักร ฉันถามอะไรหน่อยสิ"
ฉันรวบรวมความกล้าอยู่นานก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากถาม ผู้พันหมอที่นอนเอกเขนกอยู่ไม่รู้ร้อน เขาลดแว่นดำลงก่อนที่จะจ้องมองฉัน
"ก้อยบอกว่าเมื่อคืนวันก่อน ฉันต่างหากที่ขอคุณแต่งงาน จริงหรือเปล่าคะ" คนที่นอนอยู่ผุดลุกขึ้นนั่งข้างตัวฉัน ท่าทางเอาจริงเอาจังขึ้นมา
"มันก็จริงอย่างที่คุณก้อยว่า แต่.."
"ตายล่ะหว่า ฉันนี้มันไม่ได้เรื่อง แล้วอย่างนี้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ฉันก็โวยวาย ตีอกชกหัวตัวเองด้วยความโมโห
"อย่าโมโห โทษตัวเองเลยครับ" จักรินทร์รวบมือของฉัน
"เรื่องอะไรที่มันจะเกิด มันต้องเกิด เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องหาทางแก้ไข ไม่ใช่มานั่งโทษตัวเองอย่างนี้"
"คุณจักรช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
ร่างกำยำในเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว และกางเกงขาสั้นสีดำแค่เข่า นอนราบลงไปกับหัวเรืออีกครั้ง ฉันเอนตัวนอนราบลงข้างร่างกำยำนั้น จ้องมองฟ้าใส ไกลออกไป
----------
"สวัสดีค่ะคุณหมอ"
ในคืนวันงาน หลังจากที่แก้วสุดาแนะนำเราทั้งสองให้รู้จักกันแล้ว ฉันก็ยังต้องรวบรวมความกล้าอยู่นานที่จะเดินไปหา ชายหนุ่มที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กับกางเกงแสลคสีเทา ที่ยืนคุยอยู่กับ ชายร่างท้วมในชุดเชฟสีขาว ที่ยืนคุมลูกน้อย อยู่หน้าเตาไฟ
"สวัสดีครับคุณหมอก" เขาหันมาทัก ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างเป็นกันเอง
"หัวคุณหายดีหรือยัง"
"ยังโนอยู่เลยค่ะ หมอกนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ" ท่าทางลูบคลำหัวป้อยๆ ของฉัน ทำให้เขาหัวเราะเบาๆ อยู่ในคอ
"ทีหลังต้องระวังนะครับ อย่าไปยืนใต้ต้นมะพร้าว หรือต้นตาล เพราะแค่กิ่ง แม้อาจจะไม่ทำให้ถึงกับสลบ แต่ก็ทำให้หัวปูด หรือหัวโนได้"
"คุณหมอกครับ อีกสักครู่คงจะถึงเวลาอาหารแล้ว คุณหมอกว่ากุ้ง หอย ปู ปลา ที่ย่างเสร็จแล้วนี่จะพอไหมครับ ถ้าไม่พอ ผมจะจัดการย่างเพิ่มทันที" เชฟกันต์ยื่นหน้ามายิ้มให้ฉัน
"แค่นี้คงพอก่อนค่ะ เพราะเพื่อนๆ ของหมอกก็มากันไม่มาก ส่วนใหญ่จะชอบดื่มมากกว่าชอบกินค่ะ"
"แล้วคุณหมอกชอบดื่มหรือชอบกินครับ" เชฟชวนคุย
"ก็แล้วแต่อารมณ์ค่ะ ถ้ามีเพื่อนคุยสนุกๆ ก็ดื่มเยอะหน่อย"
"งั้นดีเลยจักร นายพาคุณหมอกไปที่บาร์มรกตนะ นายอัศวินจะได้ทำเครื่องดื่มค็อกเทลอร่อยๆ ให้คุณหมอกดื่ม" เชฟกันต์พยักหน้าให้เพื่อน ก่อนที่จะหันมาคุยกับฉันต่อว่า
"อัศวินเป็นบาร์เทนเดอร์มือหนึ่งของที่นี่ครับ รายนั้นชอบคิดสูตรเครื่องดื่มอร่อยๆ มาให้แขกดื่มอยู่เสมอ ผมเลยเลือกให้เขามาทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ของงานนี้"
เราทั้งสอง พากันเดินไปที่บาร์มรกต ตั้งอยู่ที่สระว่ายน้ำของรีสอร์ต ที่ในยามค่ำคืนอย่างคืนนี้ เปิดไฟสีสวย ไล่สีในจากสีฟ้าอ่อนจนถึงสีเขียวแก่ ทำให้สระว่ายน้ำยามค่ำคืนดูเหมือนบึงมรกต ส่วนของบาร์อีกด้านหนึ่ง อยู่ในสระว่ายน้ำ ที่มีที่นั่งเล็กๆ อยู่ใต้น้ำ ที่สะดวกแก่ลูกค้าที่ว่ายน้ำอยู่ในสระ ไม่ต้องขึ้นจากน้ำก็สามารถดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ได้
และอีกด้านหนึ่งที่ติดขอบสระ ซึ่งตอนนี้บรรดาเพื่อนๆ ของฉันห้อมล้อม จนทำให้เกือบมองไม่เห็นเด็กหนุ่มหุ่นล่ำสัน บาร์เทนเดอร์คนเก่ง ที่ทำการโชว์ฝีมือ โยนที่ผสมเหล้า สลับสับเปลี่ยนกับ ผลส้ม ผลมะนาว โชว์ลีลาเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าด จากบรรดาสาววัยสามสิบขึ้น ทั้งโสดและไม่โสด อย่างต่อเนื่อง
"หมอกมาพอดีเลย ดูเด็กหนุ่มบาร์เทนเดอร์สิหมอก น่ากินจริงๆ เอ๊ย ทำเครื่องดื่มได้น่ากินจริงๆ "
เสียงของยัยส้ม ลูกสอง ที่นานๆ จะมีโอกาสฉายเดี่ยว ที่เอางานวันเกิดของฉัน มาอ้างเพื่อที่จะหาโอกาส หาเวลาให้ตัวเอง ทิ้งลูกและสามีไว้ที่กรุงเทพชั่วคราว ยัยส้มเดินหน้าแดง เสียงอ้อแอ้เพราะดื่มไปหลายแก้ว เดินมาทัก
"งานเพิ่งจะเริ่มนะส้ม เธอเมาซะแล้ว"
ฉันมองหน้ายัยส้ม ที่นานๆ จะเห็นเธอมีความสุข และยิ้มร่าได้อย่างนี้
"นิดหน่อยนะหมอก วันนี้ส้มโสดจ้า ขอเมาสักวันนะตัวเอง" เธอพูดได้แค่นั้น แล้วก็ส่งเสียงกรี๊ดสนั่น
"เฮ้ย เพลงนี้ฉันชอบ ไปพวกเราไปเต้นกัน หมอกมันไม่เต้นเปิดฟลอร์ ฉันเปิดฟลอร์ให้เอง"
จากนั้นสาวๆ ก็คว้าแก้วเครื่องดื่มของตัวเอง กรี๊ดกร๊าด วีดว้ายออกไปเต้น
"เพื่อนคุณหมอกน่ารักดีนะครับ"
คุณหมอชวนคุย หลังจากที่ทักทายนายอัศวิน แล้วสั่งเครื่องดื่มให้เราทั้งสอง
"คนไหนคะ ถ้าคุณหมอสนใจ เดี๋ยวหมอกติดต่อให้"
ใบหน้ายิ้มแย้ม ของเขานั้นช่างมีเสน่ห์เสียจริงๆ
"ผมหมายถึงทุกคนครับ น่ารักและเป็นกันเอง" เขาส่งเครื่องดื่มสีสวยมาให้ฉัน
"แหม คิดว่าเพื่อนคนไหนของหมอก จะโชคดี ได้ลงจากคานซะแล้ว" เขาหัวเราะในลำคอ
"สามสิบนี่นะครับ ขึ้นคาน"
"ไม่ได้ล้อเล่นนะคะคุณหมอ ถ้าสามสิบแล้วยังหาแฟนไม่ได้ ก็มีโอกาสขึ้นคานสูงนะคะ" ฉันสาดน้ำสีสวยในแก้วลงคอ จนหมดแก้ว ก่อนที่จะพูดต่อว่า
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 4
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/40665034
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/40667049
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 4 https://ppantip.com/topic/40678456
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 5 https://ppantip.com/topic/40680266
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 6 https://ppantip.com/topic/40682283
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 7 https://ppantip.com/topic/40693498
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 8 https://ppantip.com/topic/40695663
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 9 https://ppantip.com/topic/40710032
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 10 https://ppantip.com/topic/40712032
เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 11 https://ppantip.com/topic/40725377
ตอนที่ 4
แสงแดดยามสายสาดส่องกระทบผิวน้ำทะเลใส ทำให้เกิดแสงระยิบระยับราวกับทะเลแห่งเพชรนิลจินดา ฉันมองนักประดาน้ำทั้งสี่ที่พากันลอยคออยู่กลางทะเล ในชุดนักประดาน้ำครบชุด โดยมีนายกะลาสีเรือจำเป็น ที่ควบตำแหน่งที่สอง คือผู้ควบคุมการดำน้ำลึกในครั้งนี้
เมื่อเขาให้สัญญาณในการเริ่มการดำน้ำ นักประดาน้ำทั้งสี่ที่มี คุณใหญ่ คุณเล็ก คุณเพชร และก้อย ก็ค่อยๆ ดำน้ำลึกลงไปเรื่อยๆ จนหายไปในน้ำทะเลสีคราม กะลาสีเรือจำเป็นก็คอยดูอยู่สักพักเพื่อให้แน่ใจว่านักประดาน้ำดำน้ำได้อย่างปลอดภัย และไม่มีอันตรายใดๆ แล้วเขาจึงค่อยๆ หยิบผ้าผืนใหญ่บรรจงคลุมที่ไหล่ของฉัน ก่อนที่จะพาฉันเดินมานั่งลงที่หัวเรือ
"คุณหนาวไหม" เสียงทุ้มถาม ก่อนที่เจ้าตัวจะนอนราบไปกับหัวเรือ โดยมีท่อนแขนสีแทนรองหัวไว้ง่ายๆ แว่นกันแดดสีดำที่สวมใส่ไว้บดบังดวงตาสวย
"นิดหน่อยค่ะ แต่ถ้าคุณไม่คิดว่าไข้ฉันจะกลับ ฉันก็อยากลองดำน้ำดูบ้างค่ะ น่าสนุกดีนะคะ" ฉันชวนคุย
"คุณเป็นทหารเรือ คุณน่าจะชอบดำน้ำ"
"ผมชอบทะเล ดังนั้นดำน้ำ ว่ายน้ำ อะไรที่เกี่ยวกับน้ำ ผมชอบทั้งนั้นครับ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นหมอ แต่ผมก็ฝึกวิชาการทหาร ไม่แพ้ทหารเรือคนอื่นๆ "
นอกจากทะเลแล้ว สงสัยว่าเขาก็ชอบแสงแดดด้วย เพราะร่างที่นอนราบไปกับหัวเรือ อาบแดดอย่างผ่อนคลาย สบายอารมณ์ไปกับแสงแดดยามนี้ยิ่งนัก
"แล้วคุณชอบอะไรมากกว่ากันระหว่าง เป็นทหารเรือกับเป็นหมอ"
"ผมชอบเป็นหมอมากกว่า แต่คุณพ่อผมรับราชการทหารเรือ ก็อยากให้ผม เป็นทหารเรือเหมือนกับท่าน" ใบหน้าที่สวมแว่นดำ เงยหน้ามองฟ้าใส
"หลังจากที่ผมเรียนจบจากอเมริกา ท่านก็ส่งผมไปเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า แต่เสียดายทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของผม เสียชีวิตก่อนที่ผมจะเรียนจบ และได้ติดยศนาวาตรี"
"ฉันเสียใจเรื่องของคุณพ่อกับคุณแม่คุณด้วยนะคะ"
"เรื่องมันนานมาแล้วครับ ผมทำใจได้แล้ว อย่างน้อยการเป็นทหารเรือเหมือนพ่อผม ก็ทำให้เรามีอะไรที่คล้ายกันบ้าง"
เขากลับตัวมานอนด้านข้าง ดวงหน้าจ้องหน้าของฉัน ริมฝีปากสวยยิ้มกว้าง ก่อนที่จะเอ่ยถามว่า
"ว่าแต่ว่าคุณจะสอบประวัติผมทำไม หรืออยากจะรู้ว่าผม มีคุณสมบัติพอที่จะแต่งงานกับคุณได้ไหม"
"บ้า ฉันก็ชวนคุยไปอย่างนั้น"
ฉันตีผลัวะเข้าที่ท่อนแขนสีแทนนั้นอย่างเก้อเขิน คนร่างยักษ์ลูบคลำท่อนแขนตัวเอง ไปมาด้วยความเจ็บ ราวกับเด็กน้อย ก่อนที่จะพลิกตัวไปนอนราบเช่นเดิม
"นี่คุณจักร ฉันถามอะไรหน่อยสิ"
ฉันรวบรวมความกล้าอยู่นานก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากถาม ผู้พันหมอที่นอนเอกเขนกอยู่ไม่รู้ร้อน เขาลดแว่นดำลงก่อนที่จะจ้องมองฉัน
"ก้อยบอกว่าเมื่อคืนวันก่อน ฉันต่างหากที่ขอคุณแต่งงาน จริงหรือเปล่าคะ" คนที่นอนอยู่ผุดลุกขึ้นนั่งข้างตัวฉัน ท่าทางเอาจริงเอาจังขึ้นมา
"มันก็จริงอย่างที่คุณก้อยว่า แต่.."
"ตายล่ะหว่า ฉันนี้มันไม่ได้เรื่อง แล้วอย่างนี้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ฉันก็โวยวาย ตีอกชกหัวตัวเองด้วยความโมโห
"อย่าโมโห โทษตัวเองเลยครับ" จักรินทร์รวบมือของฉัน
"เรื่องอะไรที่มันจะเกิด มันต้องเกิด เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องหาทางแก้ไข ไม่ใช่มานั่งโทษตัวเองอย่างนี้"
"คุณจักรช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
ร่างกำยำในเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว และกางเกงขาสั้นสีดำแค่เข่า นอนราบลงไปกับหัวเรืออีกครั้ง ฉันเอนตัวนอนราบลงข้างร่างกำยำนั้น จ้องมองฟ้าใส ไกลออกไป
----------
"สวัสดีค่ะคุณหมอ"
ในคืนวันงาน หลังจากที่แก้วสุดาแนะนำเราทั้งสองให้รู้จักกันแล้ว ฉันก็ยังต้องรวบรวมความกล้าอยู่นานที่จะเดินไปหา ชายหนุ่มที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กับกางเกงแสลคสีเทา ที่ยืนคุยอยู่กับ ชายร่างท้วมในชุดเชฟสีขาว ที่ยืนคุมลูกน้อย อยู่หน้าเตาไฟ
"สวัสดีครับคุณหมอก" เขาหันมาทัก ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่างเป็นกันเอง
"หัวคุณหายดีหรือยัง"
"ยังโนอยู่เลยค่ะ หมอกนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ" ท่าทางลูบคลำหัวป้อยๆ ของฉัน ทำให้เขาหัวเราะเบาๆ อยู่ในคอ
"ทีหลังต้องระวังนะครับ อย่าไปยืนใต้ต้นมะพร้าว หรือต้นตาล เพราะแค่กิ่ง แม้อาจจะไม่ทำให้ถึงกับสลบ แต่ก็ทำให้หัวปูด หรือหัวโนได้"
"คุณหมอกครับ อีกสักครู่คงจะถึงเวลาอาหารแล้ว คุณหมอกว่ากุ้ง หอย ปู ปลา ที่ย่างเสร็จแล้วนี่จะพอไหมครับ ถ้าไม่พอ ผมจะจัดการย่างเพิ่มทันที" เชฟกันต์ยื่นหน้ามายิ้มให้ฉัน
"แค่นี้คงพอก่อนค่ะ เพราะเพื่อนๆ ของหมอกก็มากันไม่มาก ส่วนใหญ่จะชอบดื่มมากกว่าชอบกินค่ะ"
"แล้วคุณหมอกชอบดื่มหรือชอบกินครับ" เชฟชวนคุย
"ก็แล้วแต่อารมณ์ค่ะ ถ้ามีเพื่อนคุยสนุกๆ ก็ดื่มเยอะหน่อย"
"งั้นดีเลยจักร นายพาคุณหมอกไปที่บาร์มรกตนะ นายอัศวินจะได้ทำเครื่องดื่มค็อกเทลอร่อยๆ ให้คุณหมอกดื่ม" เชฟกันต์พยักหน้าให้เพื่อน ก่อนที่จะหันมาคุยกับฉันต่อว่า
"อัศวินเป็นบาร์เทนเดอร์มือหนึ่งของที่นี่ครับ รายนั้นชอบคิดสูตรเครื่องดื่มอร่อยๆ มาให้แขกดื่มอยู่เสมอ ผมเลยเลือกให้เขามาทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ของงานนี้"
เราทั้งสอง พากันเดินไปที่บาร์มรกต ตั้งอยู่ที่สระว่ายน้ำของรีสอร์ต ที่ในยามค่ำคืนอย่างคืนนี้ เปิดไฟสีสวย ไล่สีในจากสีฟ้าอ่อนจนถึงสีเขียวแก่ ทำให้สระว่ายน้ำยามค่ำคืนดูเหมือนบึงมรกต ส่วนของบาร์อีกด้านหนึ่ง อยู่ในสระว่ายน้ำ ที่มีที่นั่งเล็กๆ อยู่ใต้น้ำ ที่สะดวกแก่ลูกค้าที่ว่ายน้ำอยู่ในสระ ไม่ต้องขึ้นจากน้ำก็สามารถดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ได้
และอีกด้านหนึ่งที่ติดขอบสระ ซึ่งตอนนี้บรรดาเพื่อนๆ ของฉันห้อมล้อม จนทำให้เกือบมองไม่เห็นเด็กหนุ่มหุ่นล่ำสัน บาร์เทนเดอร์คนเก่ง ที่ทำการโชว์ฝีมือ โยนที่ผสมเหล้า สลับสับเปลี่ยนกับ ผลส้ม ผลมะนาว โชว์ลีลาเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าด จากบรรดาสาววัยสามสิบขึ้น ทั้งโสดและไม่โสด อย่างต่อเนื่อง
"หมอกมาพอดีเลย ดูเด็กหนุ่มบาร์เทนเดอร์สิหมอก น่ากินจริงๆ เอ๊ย ทำเครื่องดื่มได้น่ากินจริงๆ "
เสียงของยัยส้ม ลูกสอง ที่นานๆ จะมีโอกาสฉายเดี่ยว ที่เอางานวันเกิดของฉัน มาอ้างเพื่อที่จะหาโอกาส หาเวลาให้ตัวเอง ทิ้งลูกและสามีไว้ที่กรุงเทพชั่วคราว ยัยส้มเดินหน้าแดง เสียงอ้อแอ้เพราะดื่มไปหลายแก้ว เดินมาทัก
"งานเพิ่งจะเริ่มนะส้ม เธอเมาซะแล้ว"
ฉันมองหน้ายัยส้ม ที่นานๆ จะเห็นเธอมีความสุข และยิ้มร่าได้อย่างนี้
"นิดหน่อยนะหมอก วันนี้ส้มโสดจ้า ขอเมาสักวันนะตัวเอง" เธอพูดได้แค่นั้น แล้วก็ส่งเสียงกรี๊ดสนั่น
"เฮ้ย เพลงนี้ฉันชอบ ไปพวกเราไปเต้นกัน หมอกมันไม่เต้นเปิดฟลอร์ ฉันเปิดฟลอร์ให้เอง"
จากนั้นสาวๆ ก็คว้าแก้วเครื่องดื่มของตัวเอง กรี๊ดกร๊าด วีดว้ายออกไปเต้น
"เพื่อนคุณหมอกน่ารักดีนะครับ"
คุณหมอชวนคุย หลังจากที่ทักทายนายอัศวิน แล้วสั่งเครื่องดื่มให้เราทั้งสอง
"คนไหนคะ ถ้าคุณหมอสนใจ เดี๋ยวหมอกติดต่อให้"
ใบหน้ายิ้มแย้ม ของเขานั้นช่างมีเสน่ห์เสียจริงๆ
"ผมหมายถึงทุกคนครับ น่ารักและเป็นกันเอง" เขาส่งเครื่องดื่มสีสวยมาให้ฉัน
"แหม คิดว่าเพื่อนคนไหนของหมอก จะโชคดี ได้ลงจากคานซะแล้ว" เขาหัวเราะในลำคอ
"สามสิบนี่นะครับ ขึ้นคาน"
"ไม่ได้ล้อเล่นนะคะคุณหมอ ถ้าสามสิบแล้วยังหาแฟนไม่ได้ ก็มีโอกาสขึ้นคานสูงนะคะ" ฉันสาดน้ำสีสวยในแก้วลงคอ จนหมดแก้ว ก่อนที่จะพูดต่อว่า