ประวัติอาจจะยาวนิดหน่อย เพื่อที่จะช่วยในการวิเคราะห์มากขึ้นนะครับ 

ประมาณ 6 ปี ก่อน ผมหนัก 99 กิโลกรัมครับ ช่วงนั้นพึ่งจบ ม.6 และกำลังรอที่จะเข้า มหาวิทยาลัย ประมาณ 4 เดือน ผมลดน้ำหนัก มาจนอยู่ที่ 77-79 กก. โดยใช้วิธี ไดเอทแบบผิดๆ กับ คาดิโอ้แบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย คือ ตื่นมาเที่ยงกิน 1 มื้อ ตกเย็นกิน 1 มื้อแล้วพอ (รวมๆต่อวันทานไม่เกิน 1200 cal)
ซึ่งแต่ละมื้อผมทานน้อยมากๆ และพึ่งมารู้ที่หลังว่าผมได้ทำ IF แบบไม่ได้ตั้งใจ และ ปั่นจักรยาน ประมาณ 30-40 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ครับ

จนกระทั่งมหาวิทยาลัยเปิด ผมได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเก่า สนุกกับการกินอาหาร ไม่คุม ไม่ออกกำลังกาย ประมาณ 1ปี น้ำหนักผมก็เด้งกลับมาที่ 90 อีกครั้ง
จนผมต้องกลับไปควบคุมอาหารอีกครั้ง โดยวิธีผิดๆแบบเดิม ลดมาจนเหลือ 84-86 แล้วก็ไปต่อไม่ไหว แล้วก็ดีดกลับมาที่ 90-93 จนจบมหาลัยครับ

มาสู่ปัจจุบัน น้ำหนักผมเพิ่มขึ้นเรื่อยจนไปแตะที่ 99 อีกครั้ง แล้วครั้งนี้ผมกลับมา ออกกำลังกายปั่นจักรยาน สัปดาห์ละ 5ครั้ง ครั้งละ 60นาที ตลอด ควบคุม HR อยู่โซน 2-3 ควบคู่กับทำ IF 16/8 ทุกวัน ศึกษาการกินมากขึ้น พยายามกินโปรตีนให้เยอะขึ้น(แต่ลองคำนวน cal ดูแล้ว ไม่เกิน BMR เลยครับ มีน้อยมากที่จะเกิน BMR) ได้ประมาณ 3สัปดาห์ น้ำหนัก ลงไปค้างอยู่ที่ 95 กิโลกรัม ค้างมาประมาณ 2สัปดาห์แล้วครับ 2 สัปดาห์หลังผมได้ลองเล่น body weight ประมาณ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ด้วยครับ 

แบบนี้เขาเรียกว่า ระบบเผาพลาญพังรึป่าวครับ ผมมาผิดทางรึป่าว หรือว่า มาถูกทางแล้วแค่มันกำลังค่อยๆลดอยู่ครับ ถ้าหาระบบเผาพลาญพัง ผมควรแก้ไขยังไง และ รู้สึกว่าผมมีกล้ามเนื้อตรงท้องและแขนน้อยมากๆครับ ไม่มีแรง sit up เลย และ ไม่สามารถ push up ได้เลยสักครั้งครับ

ปล.ผมเป็นคนรูปร่าง ทรงกรวย ขาผมจะเล็ก และรู้สึกมีกล้ามเนื้ออยู่ ไม่ย้วยครับ