14 เม.ย. วันเนา (หรือวันเน่า เปิ้นห้ามอู้คำหยาบ หื้ออู้ม่วนๆบ่าอั้นปากจะเน่า) วันที่หมู่เฮาตระเตรียมของกิ๋นไปทำบุญถวายวัดวันพูก ว่าแล้วก่อเอากับเปิ้นหน้อย

หมูสันคอซื้อมาตะวาโลกับสองขีด แบ่งมาซอยชิ้นพอดีคำแบบโตๆประมาณโลนึง ใส่น้ำพริกแกง (แม่ว่าหมูโลนึงบ่าดีใส่พริกหมดซองมันจะเผ็ดล้ำ หยุดไว้เหียหน้อย) ผงฮังเลใส่ไปหมดซองเลยหอมดี ซีอิ้วขาวนิดหน่อย ซีอิ้วดำเพิ่มสีสันนิดหน่อย


เสร็จแล้วคลุกๆขยำๆหื้อเครื่องมันเข้าเนื้อดีแล้วหมักทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง


ระหว่างรอหมักหมูเอาขิงมาซอย เอากระเทียมมาปอก (จิ้นหมูโลเดียวใส่ขิงแง่งเดียวก่อปอ ใส่นักแม่ว่ามันจะซ่า ส่วนกระเทียมถ้าได้กระเทียมไทยกลีบเล็กจะดีกว่า อยู่นี่บ่ามีใช้กระเทียมฝรั่งกลีบใหญ่ๆก่อได้บ่าว่ากั๋น)


เสร็จแล้วเอาหม้อใหญ่มาตั้งไฟกลางค่อนอ่อน (เฮาบ่ามีสามชั้นเลยต้องใส่น้ำมันพืชลงไปก้นหม้อสักสองช้อนแกง) 


ใส่หมูที่หมักลงไป (บ่าครบครึ่งชั่วโมงจ้างมัน แป๋งเองกิ๋นเองบ่าเป๋นหยัง) คนๆๆๆๆหื้อถึงก้นหม้ออันนี้สำคัญจะไปหื้อมันไหม้


กะละมังที่หมักหมูเอานำสะอาดใส่ลงไปล้าง เก็บนำ้เตรียมไว้ใส่หม้อแกง


คนๆๆๆไปเรื่อยๆ แบบนี้จะเห็นว่าหมูสุกนิดหน่อย ยังใช้บ่าได้ ฟั่งใจ๋ฮ้อนใส่น้ำลงไปเตื้อ (เริ่มเมื่อยต้นแขนเมื่อใด เมื่อนั้นแหล่ะหมูจะเริ่มได้ที่)


คนๆๆๆต่อไปจนกว่าน้ำกับน้ำมันในหมูจะออกมาและหมูสุกประมาณนี้
(โชคดีมีทักษะคนฮังเลบ้านศพที่สะสมมาแต่หน้อย)


เอาน้ำในกะละมังที่เตรียมไว้ใส่ลงไปพอท่วมหมู เปิดไฟแรงปิดฝาทิ้งไว้


นำ้เดือดลดไฟเหลือไฟกลางค่อนอ่อน ตุ๋นไปเรื่อยๆจนกว่าหมูจะเปื่อย สักชั่วโมงกว่าๆได้ (แล้วแต่ปริมาณหมูและไฟของแต่ละบ้าน อันนี้แป๋งหน้อยชั่วโมงเดียวก่อเปื่อยละ) ไผมีหม้อความดันจะเริ่ดเลย


ระหว่างนั้นเตรียมเครื่องปรุงที่ต้องใส่ออกมาหื้อพร้อมหน้ากัน มีขิงซอยกับกระเทียมที่เฮาเตรียมไว้ นำ้บ่าขาม (บ่าเดี่ยวนี้บ่าต้องเอาส้มบ่าขามมาแช่นำละ เปิ้นมีขวดสำเร็จขาย สบาย) ละที่ขาดบ่าได้คือน้ำตาลน้ำอ้อย (เฮามีเหลือหน้อยเดียวเลยใช้น้ำตาลโตนดเพิ่มไปตวย ก่อได้อยู่สีอาจบ่าค่อยงามก่อเลยต้องเติมซีอิ้วดำเอาตอนหมักหมู แต่บ่าควรใช้น้ำตาลทรายเน่อ)


ตุ๋นจนหมูเปื่อยได้ที่ (เอาช้อนแกงหยักๆดู) ก่อเติมกระเทียมกับขิงซอยลงไป ปิดฝาต่อรอเดือดแหมรอบ


เติมน้ำตาลอ้อยลงไป ปรุงรสเพิ่มด้วยซีอิ้วขาวกับรสดีนิดหน่อย (รสชาดตอนนี้จะออก เค็ม หวาน และเผ็ดตาม)


สุดท้ายเมื่อทุกอย่างได้ที่ใส่นำ้บ่าขามลงไป นักหน้อยแล้วแต่ไผมักและรสชาติบ่าขามของแต่ละคนตวย ชิมหื้อได้รส เปรี้ยว เค็ม หวาน กลมกล่อมเข้ากัน และมีเผ็ดตามนิดๆเป็นอันใช้ได้ ปิดไฟจัดใส่ถ้วยเสิร์ฟ


ได้ละแก๋งฮังเลกินกับข้าวนึ่งฮ้อนๆถ้ามีแค่บหมูมาจิตวยจะเริ่ดมาก


ยืนยันคอนเฟิร์มความอร่อยโดยนักชิมลิ้นจระเข้ หื้อไป 5/5 แจ๊บ

แก๋งฮังเล คนล้านนาตะก่อนเปิ้นว่าเป๋นอาหารชั้นสูง มีไว้ถวายพระ พระเจ้าแผ่นดิน นิยมทำในงานบุญ ถ้าไผจะเตรียมไปตานขันข้าวแหมพูกก่อนกิ๋นหื้อตักแบ่งเก็บไว้หื้อพระก่อนเน้อ (คนเมืองเปิ้นว่าตานก่อนกิ๋น) ส่วนตางเพ้บ่ามีวัดหื้อไปตานก่อแป๋งคนเดียวกิ๋นสองคน ตุ้ยสองคนได้แหมหลายมื้อ สวัสดีปี๋ใหม่เมืองทุกผู้ทุกคนเจ้า

ปล. นานๆตั้งกระทู้ที รูปอาจจะใหญ่ไปลดขนาจะใดทำไม่เป็น ติดแท๊กถูกรึเปล่าบ่าหู้ ขอสุมาอภัยค่า