โป๊ะแตก! ภาพเสี่ยบอยส่งมอบล็อตใหญ่ให้จีน ชาวเน็ตข้องใจไหนว่าไม่มีหน้ากาก แฉต่อมี ส.ส.อีกรายเอี่ยวขบวนการ
https://www.matichon.co.th/social/news_2041125
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนาย
ศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ
เสี่ยบอย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.
มนตรี แย้มยิ้ม ผบช.ภ.2 พร้อมปฏิเสธข่าวกักตุนหน้ากากอนามัย ภายหลังการโพสต์คลิปขายหน้ากากอนามัย โดยอ้างว่ามีหน้ากาก 200 ล้านชิ้น รวมทั้งปฏิเสธข่าวความใกล้ชิดกับคนสนิทของรัฐมนตรีบางราย พร้อมยืนยันว่าไม่มีหน้ากากอนามัย แต่เป็นแค่นายหน้าที่แคปภาพหน้ากากอนามัยจากเพจอื่น ส่วนคลิปวิดีโอที่โพสต์ไป เป็นเพียงโรงงานเล็กๆ ที่ไม่ได้มีของมากมายนั้น
ล่าสุด เพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “
มีแหล่งข่าว ส่งหลักฐานว่า ส.ส.ท่านหนึ่งเกี่ยวข้อง กับขบวนการค้าหน้ากากอีกคนแล้ว ล็อตนี้หลายล้านชิ้น มีภาพลังและคนมาขอซื้อในพรรคด้วย แหม่ พี่จะอ้างว่าเตรียมไปบริจาคให้กูกลั้นขำอีกไหม”
นอกจากนี้ มีการโพสต์ภาพที่นาย
ศรสุวีร์ เคยโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก่อนปิดเฟซบุ๊กไป เป็นภาพนาย
ศรสุวีร์ทำพิธีส่งมอบหน้ากากอนามัยจำนวนมากให้ตัวแทนรัฐบาล และ บริษัทเอกชนประเทศจีน ในงานหนึ่ง ปรากฏว่ามีผู้ติดตามเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ว่าเป็นภาพที่ขัดแย้งกับคำให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในวันนี้ที่ระบุว่า
ไม่มีหน้ากากอนามัย
'เสรีรวมไทย' เตือน 'ประยุทธ์' ระวังฟางเส้นสุดท้าย 'สิระ' บี้สอบปมซุกหน้ากาก
https://voicetv.co.th/read/dkFDfuwKX
'นภาพร' พรรคเสรีรวมไทย ชี้สถานการณ์รัฐบาลขณะนี้อยู่ในภาวะ "ไม่ไหวจะเคลียร์" หลังปรากฏหลักฐานมีคนใกล้ชิดรัฐบาลส่อร่วมขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย 'สิระ' บี้ นายกฯ สอบคณะทำงานธรรมนัส มีเอี่ยวหรือไม่
น.ส.
นภาพร เพ็ชร์จินดา รองเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า หลังจากสังคมสงสัยกันมานานแล้วทำไมหน้ากากอนามัยจึงหายไปจากท้องตลาดหรือต้องซื้อหาด้วยราคาที่แสนแพง ทั้งที่รัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าไทยมีโรงงานผลิตได้เดือนละกว่า 30 ล้านชิ้น วันนี้ได้ปรากฎหลักฐานชัดเจนแล้วว่า มีคนที่ทำงานใกล้ชิดกับคนในรัฐบาลไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำหน้ากากอนามัยไปกักตุนเอาไว้ ก่อนนำไปขายต่อทั้งในและต่างประเทศด้วยราคาที่แพงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว
"
แน่นอนว่า บุคคลเหล่านี้ ย่อมไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง ต้องมีกระบวนการที่มีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคนมีอำนาจในการอนุมัติโควตา รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพราะแม้รัฐบาลจะมีนโยบาย ห้ามส่งออกไปนอกประเทศแต่ในที่สุดก็ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ามีการซิกแซกเอาหน้ากากอนามัยไปสต็อกเอาไว้กว่า 200 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นการกระทำในลักษณะหากใครมีเส้นมีสาย หรือสนิทสนมกับคนในรัฐบาล ก็สามารถร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการนำสินค้าไปกักตุนได้"
"
ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจคนไทยด้วยกันเป็นอย่างมาก เพราะในขณะที่ทุกคนกำลังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับภัยไวรัสโควิด-19 ที่กำลังขยายพื้นที่แพร่ระบาดมากขึ้น เพราะไม่มีหน้ากากให้ประชาชนซื้อหามาใส่ โดยที่รัฐบาลก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่กลับปรากฎว่า มีขบวนการของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคนใกล้ชิดรัฐมนตรี สามารถนำหน้ากากมากักตุนและนำไปจำหน่ายต่อได้จนสร้างผลกำไรมหาศาล จึงถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีการแสวงหาผลประโยชน์บนสถานการณ์ความเป็นความตายของประชาชน" น.ส.
นภาพรกล่าว
น.ส.
นภาพร ยังเรียกร้องให้ พล.อ.
ประยุทธ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างเปิดเผย โปร่งใส ไม่ลูบหน้าปะจมูก เพราะต้องไม่ลืมว่า นี่คือฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะไม่ยอมทนให้รัฐบาลที่ไร้ความสามารถอยู่บริหารงานอีกต่อไป เพราะเท่ากับว่า นอกจากจะไม่สามารถบริหารจัดการให้ประชาชนมีหน้ากากอนามัยได้สวมใส่อย่างเพียงพอแล้ว ยังกลับมีข่าวว่ามีคนใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับการกักตุนเสียเอง หากผู้นำรัฐบาลไม่กล้าจัดการขั้นเด็ดขาด ก็เชื่อว่าตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง จะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้แม้กระทั่งกองเชียร์ที่เคยเชียร์รัฐบาลนี้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ก็ประกาศเลิกเชียร์กันหมด เพราะสถานการณ์รัฐบาลขณะนี้อยู่ในภาวะ “
ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ”
'สิระ' หวั่น ไม่รีบจัดการคนโกง เรือเหล็กล่มยกลำ
นาย
สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้พลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าไปตรวจสอบ กรณีมีคณะทำงานของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปพัวพันกับการกักตุนหน้ากากอนามัย ในขณะที่ ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส โดยจะปล่อยให้เรื่องนี้จบเพียงแค่ ร้อยเอกธรรมนัสแถลงต่อสื่อมวลชน และให้คณะทำงานของตัวเองไปแจ้งความดำเนินคดีเท่านั้นไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบใจประชาชนทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความเด็ดขาด จัดการกับคนทุจริตอย่างจริงจัง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากสังคมกลับม
"
ต้องกระชากหน้ากาก สาวให้ถึงตัวบงการ ว่าขบวนการทุจริตครั้งนี้ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพราะการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ลำพังแค่เป็นนักธุรกิจมีเงิน มีสายสัมพันธ์อยู่กับคณะทำงานรัฐมนตรี ไม่น่าจะทำงานใหญ่ได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเรื่องนี้พัวพันไปถึงนักการเมืองไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ต้องลากคอมาติดคุกให้หมด ถ้านายกฯ ไม่ทำความจริงเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะกลายเป็นปมปัญหา ที่ทำให้เรือเหล็กของรัฐบาลล่มยกลำ" นายสิระ กล่าว
นาย
สิระ กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ เชื่อในความสุจริต ของนายกรัฐมนตรี และกำลังคาดหวังให้นายกรัฐมนตรี จัดการปัญหาทุจริต ด้วยความเด็ดขาด ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่านาย
พิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานีของพรรคด้วยว่า เข้าไปพัวพันในเรื่องนี้จริงหรือไม่ หากพบมีการทำความผิดต้องจัดการขั้นเด็ดขาด ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทันที
JJNY : โป๊ะแตก!ภาพเสี่ยบอยมอบล็อตใหญ่ให้จีน/เสรีรวมไทยเตือนระวังฟางเส้นสุดท้าย/เจริญย้ำปชป.ควรถอนตัว/โควิดคร่าพุ่ง4,000
https://www.matichon.co.th/social/news_2041125
ล่าสุด เพจแหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “มีแหล่งข่าว ส่งหลักฐานว่า ส.ส.ท่านหนึ่งเกี่ยวข้อง กับขบวนการค้าหน้ากากอีกคนแล้ว ล็อตนี้หลายล้านชิ้น มีภาพลังและคนมาขอซื้อในพรรคด้วย แหม่ พี่จะอ้างว่าเตรียมไปบริจาคให้กูกลั้นขำอีกไหม”
นอกจากนี้ มีการโพสต์ภาพที่นายศรสุวีร์ เคยโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาก่อนปิดเฟซบุ๊กไป เป็นภาพนายศรสุวีร์ทำพิธีส่งมอบหน้ากากอนามัยจำนวนมากให้ตัวแทนรัฐบาล และ บริษัทเอกชนประเทศจีน ในงานหนึ่ง ปรากฏว่ามีผู้ติดตามเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ว่าเป็นภาพที่ขัดแย้งกับคำให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในวันนี้ที่ระบุว่า ไม่มีหน้ากากอนามัย
'เสรีรวมไทย' เตือน 'ประยุทธ์' ระวังฟางเส้นสุดท้าย 'สิระ' บี้สอบปมซุกหน้ากาก
https://voicetv.co.th/read/dkFDfuwKX
'นภาพร' พรรคเสรีรวมไทย ชี้สถานการณ์รัฐบาลขณะนี้อยู่ในภาวะ "ไม่ไหวจะเคลียร์" หลังปรากฏหลักฐานมีคนใกล้ชิดรัฐบาลส่อร่วมขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย 'สิระ' บี้ นายกฯ สอบคณะทำงานธรรมนัส มีเอี่ยวหรือไม่
น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา รองเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า หลังจากสังคมสงสัยกันมานานแล้วทำไมหน้ากากอนามัยจึงหายไปจากท้องตลาดหรือต้องซื้อหาด้วยราคาที่แสนแพง ทั้งที่รัฐบาลยืนยันมาตลอดว่าไทยมีโรงงานผลิตได้เดือนละกว่า 30 ล้านชิ้น วันนี้ได้ปรากฎหลักฐานชัดเจนแล้วว่า มีคนที่ทำงานใกล้ชิดกับคนในรัฐบาลไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำหน้ากากอนามัยไปกักตุนเอาไว้ ก่อนนำไปขายต่อทั้งในและต่างประเทศด้วยราคาที่แพงกว่าท้องตลาดหลายเท่าตัว
"แน่นอนว่า บุคคลเหล่านี้ ย่อมไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง ต้องมีกระบวนการที่มีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคนมีอำนาจในการอนุมัติโควตา รวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพราะแม้รัฐบาลจะมีนโยบาย ห้ามส่งออกไปนอกประเทศแต่ในที่สุดก็ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่ามีการซิกแซกเอาหน้ากากอนามัยไปสต็อกเอาไว้กว่า 200 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นการกระทำในลักษณะหากใครมีเส้นมีสาย หรือสนิทสนมกับคนในรัฐบาล ก็สามารถร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการนำสินค้าไปกักตุนได้"
"ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำร้ายจิตใจคนไทยด้วยกันเป็นอย่างมาก เพราะในขณะที่ทุกคนกำลังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับภัยไวรัสโควิด-19 ที่กำลังขยายพื้นที่แพร่ระบาดมากขึ้น เพราะไม่มีหน้ากากให้ประชาชนซื้อหามาใส่ โดยที่รัฐบาลก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่กลับปรากฎว่า มีขบวนการของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงคนใกล้ชิดรัฐมนตรี สามารถนำหน้ากากมากักตุนและนำไปจำหน่ายต่อได้จนสร้างผลกำไรมหาศาล จึงถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีการแสวงหาผลประโยชน์บนสถานการณ์ความเป็นความตายของประชาชน" น.ส.นภาพรกล่าว
น.ส.นภาพร ยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างเปิดเผย โปร่งใส ไม่ลูบหน้าปะจมูก เพราะต้องไม่ลืมว่า นี่คือฟางเส้นสุดท้ายที่ประชาชนจะไม่ยอมทนให้รัฐบาลที่ไร้ความสามารถอยู่บริหารงานอีกต่อไป เพราะเท่ากับว่า นอกจากจะไม่สามารถบริหารจัดการให้ประชาชนมีหน้ากากอนามัยได้สวมใส่อย่างเพียงพอแล้ว ยังกลับมีข่าวว่ามีคนใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับการกักตุนเสียเอง หากผู้นำรัฐบาลไม่กล้าจัดการขั้นเด็ดขาด ก็เชื่อว่าตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง จะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป เพราะตอนนี้แม้กระทั่งกองเชียร์ที่เคยเชียร์รัฐบาลนี้อย่างไม่ลืมหูลืมตา ก็ประกาศเลิกเชียร์กันหมด เพราะสถานการณ์รัฐบาลขณะนี้อยู่ในภาวะ “ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ”
'สิระ' หวั่น ไม่รีบจัดการคนโกง เรือเหล็กล่มยกลำ
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าไปตรวจสอบ กรณีมีคณะทำงานของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปพัวพันกับการกักตุนหน้ากากอนามัย ในขณะที่ ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส โดยจะปล่อยให้เรื่องนี้จบเพียงแค่ ร้อยเอกธรรมนัสแถลงต่อสื่อมวลชน และให้คณะทำงานของตัวเองไปแจ้งความดำเนินคดีเท่านั้นไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบใจประชาชนทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความเด็ดขาด จัดการกับคนทุจริตอย่างจริงจัง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากสังคมกลับม
"ต้องกระชากหน้ากาก สาวให้ถึงตัวบงการ ว่าขบวนการทุจริตครั้งนี้ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพราะการกักตุนหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ลำพังแค่เป็นนักธุรกิจมีเงิน มีสายสัมพันธ์อยู่กับคณะทำงานรัฐมนตรี ไม่น่าจะทำงานใหญ่ได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเรื่องนี้พัวพันไปถึงนักการเมืองไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ต้องลากคอมาติดคุกให้หมด ถ้านายกฯ ไม่ทำความจริงเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะกลายเป็นปมปัญหา ที่ทำให้เรือเหล็กของรัฐบาลล่มยกลำ" นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ เชื่อในความสุจริต ของนายกรัฐมนตรี และกำลังคาดหวังให้นายกรัฐมนตรี จัดการปัญหาทุจริต ด้วยความเด็ดขาด ในขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่านายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานีของพรรคด้วยว่า เข้าไปพัวพันในเรื่องนี้จริงหรือไม่ หากพบมีการทำความผิดต้องจัดการขั้นเด็ดขาด ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทันที