ปชน. จ่อชงญัตติด่วน ขยี้รบ.คดีตากใบหมดอายุ 25 ต.ค. – เผยมติวิปค้าน เห็นชอบรายงานนิรโทษฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4862750
ปชน. เตรียมชงญัตติด่วน ขยี้รบ.คดีตากใบหมดอายุ 25 ต.ค. ‘ปกรณ์วุฒิ’ เผยมติวิปค้าน เคาะเห็นชอบรายงานนิรโทษกรรม เชื่อ ‘พรรคประชาชน-เพื่อไทย’ จับมือผ่านส่งต่อรัฐบาล
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม ที่รัฐสภา นาย
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้าน ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับรายงานศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)นิรโทษกรรม ยืนยันว่ารายงานนี้ไม่ใช่การตรากฎหมาย แต่เป็นเพียงการศึกษาเพื่อการตรากฎหมายและไม่ใช่การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างไรก็ตามญัตตินี้เป็นญัตติที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอขอให้สภาฯเป็นผู้ตั้งขึ้นมา เพื่อหาทางออกร่วมกัน ในเรื่องต่างๆ ตนหวังว่าด้วยเสียงของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยรวมกันคงจะผ่านร่างนี้และส่งไปยังรัฐบาลได้
นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า สำหรับวันที่ 25 ต.ค.นี้ มีวาระพิจารณาญัตติที่ค้างอยู่ ซึ่งตามกำหนดการจะมีการขอให้สภาฯตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาเกี่ยวกับธุรกิจรังนก ซึ่งฝ่ายค้านไม่ได้คัดค้าน แต่เห็นว่ายังมีเรื่องเร่งด่วนอีก คือ พรรคประชาชน โดยนาย
รอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน จะเสนอญัตติด่วนเพื่อทางออกเรื่องคดีตากใบ คาดหวังว่าทางวิปรัฐบาลจะเห็นด้วย เพราะเป็นความขัดแย้งกันมานาน และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนไทยในภาคใต้ขัดแย้งกัน
“
เราคิดว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จำเป็นต้องใช้การเมืองในการแก้ไข ดังนั้นในฐานะ สส.ที่มาจากประชาชน ก็ต้องหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยอย่างจริงจัง เพื่อหาทางออก เมื่อคดีกำลังจะหมดอายุความ แต่ยังไม่สามารถตามตัวผู้ต้องหาได้แม้แต่คนเดียวจะต้องทำอย่างไร เพื่อสร้างความสันติสุขในชายแดนใต้ต่อไป หวังว่าฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคประชาชาติที่จะได้ร่วมพูดคุยในเรื่องนี้” นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า หากที่ประชุมสภาฯมีมติไม่เห็นชอบรายงานนิรโทษกรรม จะเกิดอะไรขึ้น นาย
ปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงน่าเสียดาย เพราะการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ เพื่อหาทางออกที่ทุกคนรับได้ ทั้งนี้หากร่างดังกล่าวได้รับการเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้ก็มีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ นาย
ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอจ่อพิจารณาอยู่แล้ว ดังนั้นตนคาดหวังว่าเมื่อได้ข้อสรุปแนวทางการนิรโทษกรรมแล้ว หน้าตาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไร.
‘ประเสริฐพงษ์’แนะ’จิราพร’สั่งย้าย’เทวดา สคบ.’ก่อนหวั่นทำลายหลักฐานสอบปม’ดิไอคอน’
https://www.dailynews.co.th/news/4005963/
'ประเสริฐพงษ์' แนะ 'จิราพร' สั่งย้าย'เทวดา สคบ.'ก่อน หวั่นทำลายหลักฐานการตรวจสอบ ย้ำไม่เชื่อมั่น 'ดีเอสไอ' ทำคดีใหญ่ เหตุเรื่องที่เคยร้องไปยังถูกดอง
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค นำโดย นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ แถลงถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งทราบว่าเมื่อวัน 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีการร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ที่ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์
โดยนายประเสริฐพงษ์ กล่าวถึงน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่า มีปรากฏข้อเท็จจริงที่อาจจะไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เพราะหากติดตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ หรือแม้กระทั่งในศาล กรณีที่เรื่องเหล่านี้ไปเกี่ยวโยงกับบุคลากรในสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งอยู่ภายใต้การสังกัดของสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น หากไปเกี่ยวข้องกับฝ่ายไหน บุคคลไหน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรับเรื่องร้องเรียน ฝ่ายจดทะเบียน หรือฝ่ายกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องใน สคบ. จะต้องมีการโยกย้าย เพราะถ้าท่านเคยได้ยินสำนวนว่า พยาน หรือบุคคลเหล่านี้ อาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้สูญเสียข้อมูลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนกังวลมากว่า ภายใน สคบ. เมื่อไม่มีการโยกย้ายฝ่ายที่รับผิดชอบดูแลข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจดทะเบียนของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป อยากมีการทำลายหลักฐานหรือไม่ หรือจะมีการโยกย้ายข้อมูลหลักฐาน ซึ่งไม่ได้ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้องต่อคณะกรรมการฯ หรือไม่ เนื่องจากในฐานะที่ตนเคยข้าราชการเก่า ตนรู้ว่ากระบวนการเหล่านี้ จะมีการทำลายข้อมูลหลักฐานภายใน สคบ.ได้ และที่สำคัญจากการที่คณะกรรมาธิการฯ ก็ได้มีการพูดถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเรากลัวว่า ถ้ามีการโอนคดีไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว เกรงว่าจะมีการบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง หรือให้การช่วยเหลือกับผู้กระทำผิดหรือไม่
“เรายังไม่มั่นใจว่า ถ้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมาดูแลงานของดิไอคอน เราเชื่อว่า ข้อมูลอาจจะไม่ถูกต้อง เพราะขนาดเรื่องเล็กๆ ที่ผมเคยร้องเรียนเรื่องวินัย มีข้อมูลหลักฐานชัดเจน ก็ยังถ่วงเรื่อง ก็ยังช่วยเหลือกัน องค์กรกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นองค์กรที่ประชาชนให้ความเชื่อถือเชื่อมั่น ณ วันนี้ ก็ยังไม่มีคำตอบไปที่ผมเลย” นายประเสริฐพงษ์กล่าว
“ถ้ารัฐบาลสนใจ เอาใจใส่เรื่องนี้ ควรทำตามสิ่งที่ผมแนะนำ ด้วยโยกย้าย หรือมีโอกาสที่จะ เปลี่ยนแปลงให้คนที่ดูแลข้อมูล ยืนยันว่า ไม่ใช่แทรกแซง แต่ผมมาบอกข้อมูลให้ท่านรัฐมนตรีทราบ และมาบอกข้อมูลให้ผู้ดูแลว่า ถ้าล่าช้าไปกว่านี้ อะไรจะเกิดขึ้น เพราะคนที่เสียหาย คือพี่น้องประชาชน”นายประเสริฐพงษ์กล่าว
ด้านนายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ กล่าวเสริมว่า ในวันนี้พรรคประชาชนจะมีญัตติด่วนด้วยวาจาที่เกี่ยวข้องกับการทำแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมีพระราชบัญญัติ และพระราชกำหนดอยู่แล้ว ซึ่งจะมีการคุยทั้งเรื่องของการทำแชร์ลูกโซ์ว่า มีผลประโยชน์ และใครที่อยู่เบื้องหลัง โดยเราทีมงานของพวกเราพร้อมที่จะอภิปราย
เปิดเทอมนี้ เนื้อหมู จ่อปรับขึ้นราคา-รับดีมานด์ เพิ่มกิโลละ 5-10 บาท สามชั้นพุ่งโล 180
https://www.matichon.co.th/region/news_4862562
เปิดเทอมนี้ เนื้อหมู จ่อปรับราคารับดีมานด์ เพิ่มกิโลละ 5-10 บาท สามชั้นพุ่งโล 180
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดภาษีซุง ในตัวเทศบาลเมืองชัยนาท สำรวจราคาสินค้ารายการหลักๆ อย่างเนื้อหมู ในช่วงใกล้เปิดเทอม ซึ่งพบว่าปัจจุบันราคาหมูสดเริ่มขยับขึ้นรับเปิดเทอมที่ตลาดจำมีความต้องการเพิ่มขึ้น จากโรงอาหารของโรงเรียนที่จะกลับมาปรุงอาหารให้นักเรียนอีกครั้ง
โดยปัจจุบันราคาหมูสดปรับขึ้นเฉลี่ย ก.ก.ละ 5 บาท จากช่วงต้นเดือนตุลาคม โดยหมูเนื้อสันขายอยู่ที่ ก.ก.ละ 140 บ. สามชั้น ขาย ก.ก.ละ 180 บ. เนื้อสะโพก ก.ก.ละ 140 บ. หมูบด ก.ก.ละ 100 บ. และกระดูกเล้ง ขาย ก.ก.ละ 60 บ.
โดย นาง
ยุพดี แปลพิมพา หรือเจ๊ก เจ้าของเขียงหมูรายใหญ่ของเมืองชัยนาทเปิดเผยว่า ในช่วงเปิดเทอมที่จะมาถึง 1 พ.ย. คาดว่าราคาหมูตัวหน้าฟาร์มน่าจะมีการปรับขึ้นรับความต้องการของตลาด ซึ่งแน่นอนว่าราคาหน้าเขียงจำเป็นต้องปรับขึ้นตามไปด้วย โดยคาดว่าจะมีการปรับราคาขึ้นอย่างน้อย ก.ก.ละ 5 บ. หรืออาจจะทะลุไปถึง 10 บ.ต่อ ก.ก.ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของตลาดราคาหมูที่เมื่อความต้องการเพิ่มราคาก็จะขยับขึ้นตามกลไกตลาด
JJNY : ปชน.ขยี้รบ.คดีตากใบ│‘ประเสริฐพงษ์’แนะสั่งย้าย’เทวดาสคบ.’│เนื้อหมูจ่อปรับขึ้นราคา│คลังวันสิ้นโลกรับฝากตัวอย่างใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4862750
ปชน. เตรียมชงญัตติด่วน ขยี้รบ.คดีตากใบหมดอายุ 25 ต.ค. ‘ปกรณ์วุฒิ’ เผยมติวิปค้าน เคาะเห็นชอบรายงานนิรโทษกรรม เชื่อ ‘พรรคประชาชน-เพื่อไทย’ จับมือผ่านส่งต่อรัฐบาล
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมวิปฝ่ายค้าน ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับรายงานศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)นิรโทษกรรม ยืนยันว่ารายงานนี้ไม่ใช่การตรากฎหมาย แต่เป็นเพียงการศึกษาเพื่อการตรากฎหมายและไม่ใช่การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างไรก็ตามญัตตินี้เป็นญัตติที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอขอให้สภาฯเป็นผู้ตั้งขึ้นมา เพื่อหาทางออกร่วมกัน ในเรื่องต่างๆ ตนหวังว่าด้วยเสียงของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยรวมกันคงจะผ่านร่างนี้และส่งไปยังรัฐบาลได้
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า สำหรับวันที่ 25 ต.ค.นี้ มีวาระพิจารณาญัตติที่ค้างอยู่ ซึ่งตามกำหนดการจะมีการขอให้สภาฯตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาเกี่ยวกับธุรกิจรังนก ซึ่งฝ่ายค้านไม่ได้คัดค้าน แต่เห็นว่ายังมีเรื่องเร่งด่วนอีก คือ พรรคประชาชน โดยนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน จะเสนอญัตติด่วนเพื่อทางออกเรื่องคดีตากใบ คาดหวังว่าทางวิปรัฐบาลจะเห็นด้วย เพราะเป็นความขัดแย้งกันมานาน และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนไทยในภาคใต้ขัดแย้งกัน
“เราคิดว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จำเป็นต้องใช้การเมืองในการแก้ไข ดังนั้นในฐานะ สส.ที่มาจากประชาชน ก็ต้องหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยอย่างจริงจัง เพื่อหาทางออก เมื่อคดีกำลังจะหมดอายุความ แต่ยังไม่สามารถตามตัวผู้ต้องหาได้แม้แต่คนเดียวจะต้องทำอย่างไร เพื่อสร้างความสันติสุขในชายแดนใต้ต่อไป หวังว่าฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคประชาชาติที่จะได้ร่วมพูดคุยในเรื่องนี้” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า หากที่ประชุมสภาฯมีมติไม่เห็นชอบรายงานนิรโทษกรรม จะเกิดอะไรขึ้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงน่าเสียดาย เพราะการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ เพื่อหาทางออกที่ทุกคนรับได้ ทั้งนี้หากร่างดังกล่าวได้รับการเห็นชอบ ซึ่งขณะนี้ก็มีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอจ่อพิจารณาอยู่แล้ว ดังนั้นตนคาดหวังว่าเมื่อได้ข้อสรุปแนวทางการนิรโทษกรรมแล้ว หน้าตาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไร.
‘ประเสริฐพงษ์’แนะ’จิราพร’สั่งย้าย’เทวดา สคบ.’ก่อนหวั่นทำลายหลักฐานสอบปม’ดิไอคอน’
https://www.dailynews.co.th/news/4005963/
'ประเสริฐพงษ์' แนะ 'จิราพร' สั่งย้าย'เทวดา สคบ.'ก่อน หวั่นทำลายหลักฐานการตรวจสอบ ย้ำไม่เชื่อมั่น 'ดีเอสไอ' ทำคดีใหญ่ เหตุเรื่องที่เคยร้องไปยังถูกดอง
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค นำโดย นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ แถลงถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งทราบว่าเมื่อวัน 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีการร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ที่ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์
โดยนายประเสริฐพงษ์ กล่าวถึงน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่า มีปรากฏข้อเท็จจริงที่อาจจะไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชน เพราะหากติดตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ หรือแม้กระทั่งในศาล กรณีที่เรื่องเหล่านี้ไปเกี่ยวโยงกับบุคลากรในสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งอยู่ภายใต้การสังกัดของสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น หากไปเกี่ยวข้องกับฝ่ายไหน บุคคลไหน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรับเรื่องร้องเรียน ฝ่ายจดทะเบียน หรือฝ่ายกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องใน สคบ. จะต้องมีการโยกย้าย เพราะถ้าท่านเคยได้ยินสำนวนว่า พยาน หรือบุคคลเหล่านี้ อาจจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้สูญเสียข้อมูลการสอบสวนหาข้อเท็จจริงได้
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนกังวลมากว่า ภายใน สคบ. เมื่อไม่มีการโยกย้ายฝ่ายที่รับผิดชอบดูแลข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจดทะเบียนของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป อยากมีการทำลายหลักฐานหรือไม่ หรือจะมีการโยกย้ายข้อมูลหลักฐาน ซึ่งไม่ได้ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้องต่อคณะกรรมการฯ หรือไม่ เนื่องจากในฐานะที่ตนเคยข้าราชการเก่า ตนรู้ว่ากระบวนการเหล่านี้ จะมีการทำลายข้อมูลหลักฐานภายใน สคบ.ได้ และที่สำคัญจากการที่คณะกรรมาธิการฯ ก็ได้มีการพูดถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเรากลัวว่า ถ้ามีการโอนคดีไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว เกรงว่าจะมีการบิดเบือนข้อมูลข้อเท็จจริง หรือให้การช่วยเหลือกับผู้กระทำผิดหรือไม่
“เรายังไม่มั่นใจว่า ถ้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ จะมาดูแลงานของดิไอคอน เราเชื่อว่า ข้อมูลอาจจะไม่ถูกต้อง เพราะขนาดเรื่องเล็กๆ ที่ผมเคยร้องเรียนเรื่องวินัย มีข้อมูลหลักฐานชัดเจน ก็ยังถ่วงเรื่อง ก็ยังช่วยเหลือกัน องค์กรกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นองค์กรที่ประชาชนให้ความเชื่อถือเชื่อมั่น ณ วันนี้ ก็ยังไม่มีคำตอบไปที่ผมเลย” นายประเสริฐพงษ์กล่าว
“ถ้ารัฐบาลสนใจ เอาใจใส่เรื่องนี้ ควรทำตามสิ่งที่ผมแนะนำ ด้วยโยกย้าย หรือมีโอกาสที่จะ เปลี่ยนแปลงให้คนที่ดูแลข้อมูล ยืนยันว่า ไม่ใช่แทรกแซง แต่ผมมาบอกข้อมูลให้ท่านรัฐมนตรีทราบ และมาบอกข้อมูลให้ผู้ดูแลว่า ถ้าล่าช้าไปกว่านี้ อะไรจะเกิดขึ้น เพราะคนที่เสียหาย คือพี่น้องประชาชน”นายประเสริฐพงษ์กล่าว
ด้านนายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ กล่าวเสริมว่า ในวันนี้พรรคประชาชนจะมีญัตติด่วนด้วยวาจาที่เกี่ยวข้องกับการทำแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมีพระราชบัญญัติ และพระราชกำหนดอยู่แล้ว ซึ่งจะมีการคุยทั้งเรื่องของการทำแชร์ลูกโซ์ว่า มีผลประโยชน์ และใครที่อยู่เบื้องหลัง โดยเราทีมงานของพวกเราพร้อมที่จะอภิปราย
เปิดเทอมนี้ เนื้อหมู จ่อปรับขึ้นราคา-รับดีมานด์ เพิ่มกิโลละ 5-10 บาท สามชั้นพุ่งโล 180
https://www.matichon.co.th/region/news_4862562
เปิดเทอมนี้ เนื้อหมู จ่อปรับราคารับดีมานด์ เพิ่มกิโลละ 5-10 บาท สามชั้นพุ่งโล 180
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดภาษีซุง ในตัวเทศบาลเมืองชัยนาท สำรวจราคาสินค้ารายการหลักๆ อย่างเนื้อหมู ในช่วงใกล้เปิดเทอม ซึ่งพบว่าปัจจุบันราคาหมูสดเริ่มขยับขึ้นรับเปิดเทอมที่ตลาดจำมีความต้องการเพิ่มขึ้น จากโรงอาหารของโรงเรียนที่จะกลับมาปรุงอาหารให้นักเรียนอีกครั้ง
โดยปัจจุบันราคาหมูสดปรับขึ้นเฉลี่ย ก.ก.ละ 5 บาท จากช่วงต้นเดือนตุลาคม โดยหมูเนื้อสันขายอยู่ที่ ก.ก.ละ 140 บ. สามชั้น ขาย ก.ก.ละ 180 บ. เนื้อสะโพก ก.ก.ละ 140 บ. หมูบด ก.ก.ละ 100 บ. และกระดูกเล้ง ขาย ก.ก.ละ 60 บ.
โดย นางยุพดี แปลพิมพา หรือเจ๊ก เจ้าของเขียงหมูรายใหญ่ของเมืองชัยนาทเปิดเผยว่า ในช่วงเปิดเทอมที่จะมาถึง 1 พ.ย. คาดว่าราคาหมูตัวหน้าฟาร์มน่าจะมีการปรับขึ้นรับความต้องการของตลาด ซึ่งแน่นอนว่าราคาหน้าเขียงจำเป็นต้องปรับขึ้นตามไปด้วย โดยคาดว่าจะมีการปรับราคาขึ้นอย่างน้อย ก.ก.ละ 5 บ. หรืออาจจะทะลุไปถึง 10 บ.ต่อ ก.ก.ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของตลาดราคาหมูที่เมื่อความต้องการเพิ่มราคาก็จะขยับขึ้นตามกลไกตลาด