JJNY : โรมลุยสอบปมร้อน│พริษฐ์ แก้รธน.ไม่กระทบไทม์ไลน์│ปาท่องโก๋โอด! น้ำมันปาล์มขึ้นราคา│ผู้ดีผงะ! พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง

โรม เมินเสรีพิศุทธ์ ไม่ให้ข้อมูลกมธ. ลุยสอบปมร้อน ทักษิณ อยู่ชั้น 14 จ่อตั้ง 2 ประเด็นซักยิบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4886321
 
 
“โรม” ยัน กมธ.ความมั่นคงฯ มีอำนาจตรวจสอบ ปม “ทักษิณ”รักษาตัวชั้น 14 ชี้ เชื่อ “แม้ว”ทำคนเดียวไม่ได้ เตรียมถามป่วยจริงหรือไม่ -พบใครบ้าง ชี้หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ทำอะไรผิดถือเป็นประโยชน์ที่ได้ชี้แจง เมิน”เสรีพิศุทธ์”ไม่ให้ข้อมูล บอก เชิญในสถานะบุคคลธรรมดา ขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” โผล่เข้าแจง
 
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกมธ. ถึงการพิจารณาวาระกรณีกรมราชทัณฑ์ ให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ว่า เบื้องต้นบุคคลที่ได้มีการเชิญไปแล้วไม่มา อย่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ แต่ไม่ว่าจะมาหรือไม่มา เรื่องนี้คงไม่สามารถหยุดให้ กมธ.ทำการแสวงหาข้อเท็จจริงได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรม ในกรณีของนายทักษิณที่มีฝ่ายต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งนายทักษิณทำทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ ดังนั้น ทางกมธ.มีความชอบธรรมในการแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป
 
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้กมธ.ไม่ได้วางกรอบการแสวงหาข้อเท็จจริงไว้แต่อยู่ที่ข้อมูลที่ได้รับมา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 ซึ่งกมธ.มีหน้าที่มีอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริง ดังนั้น ยืนยันที่จะทำต่อถ้าทุกฝ่ายมาให้ข้อชี้แจงกับกมธ.ฯ ก็จะเป็นประโยชน์กับหน่วยงานเอง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง
 
ยืนยันว่าอยากให้บรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหลายทำหน้าที่ในการชี้แจงและตอบคำถามกรรมาธิการ ผมคิดว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะปกป้องตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อครหา หรือความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในข้อกฎหมายด้วย” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่กมธ.จะสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง มี 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ป่วยจริงหรือไม่ และการป่วยเข้าข้อกฎหมายอะไรได้บ้างที่ทำให้นายทักษิณต้องไปอยู่ที่ชั้น14 และ2. เรื่องการพบปะบุคคลต่างๆ ตกลงแล้วการอยู่ชั้น 14 คือการถูกควบคุมตัว เสมอเหมือนอยู่ในราชทัณฑ์หรือเรือนจำใช่หรือไม่ แต่ที่มีการพบปะกันราวกับว่าเหมือนนอนอยู่บ้านก็ต้องพิจารณาว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไร เพราะการที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ไปเจอนายทักษิณ และยังไม่เห็นข้อโต้แย้งที่มีความชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้กมธ.ก็ต้องเอาข้อเท็จจริงออกมา โดยการสอบถามเจ้าหน้าที่ ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ยืนยันว่า จะเดินทางมาชี้แจง ก็ต้องได้สอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ เพราะช่วงเวลานั้นถือว่ามีบทบาทหน้าที่ที่หลากหลาย
 
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า การรักษาตัวที่ชั้น 14 ของนายทักษิณเป็นการคุมขังไม่เคยปล่อยสักวินาที นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากจะโต้แย้งแบบนั้นก็ต้องบอกว่า สิ่งที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกมาไม่เป็นความจริง หรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีความสามารถพิเศษที่จะฝ่าความปลอดภัยเพื่อเข้าพบนายทักษิณได้ ดังนั้นสิ่งที่พ.ต.อ.ทวี พูดออกมาก็ต้องดูพยานหลักฐานต่างๆว่าใครจะโกหก หรือใครจะพูดความจริงไม่เป็นความจริง วันนี้เราจะได้มาค้นหาข้อเท็จจริงกันว่าตกลงแล้วที่ฝ่ายต่างๆได้พูด ในเรื่องเกี่ยวกับชั้น 14 นั้นเป็นอย่างไร
 
ส่วนที่มีคนสงสัยว่า เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับกมธ.ความมั่นคงฯ ผมยืนยันว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่สำคัญต่อประเทศชาติมาก เป็นกระดูกสันหลังสำหรับเรื่องต่างๆ และเราก็มีภารกิจในเรื่องการปฏิรูปประเทศด้วย กระบวนการยุติธรรมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เราพยายามแสวงหาข้อเท็จจริง” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้เห็นข้อมูลรายละเอียดจากโรงพยาบาลตำรวจ แต่วันนี้เราจะได้สอบถาม ซึ่งมีคำถามอยู่ประมาณ 20-30 คำถาม ที่กมธ.เตรียมกันไว้ หากข้อมูลยังไม่เพียงพอก็จะต้องแสวงหาเพิ่มเติม หรือเรียกเอกสารจากหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก แต่หน่วยงานจะให้หรือไม่ให้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า ถ้ามั่นใจว่าการทำหน้าที่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ควรให้ฝ่ายตรวจสอบเข้าถึงพยานหลักฐานต่างๆได้อย่างเต็มที่และเป็นประโยชน์ที่สุด
 
เมื่อถามว่า มีการอ้างกฎหมาย PDPA ในการเข้าถึงข้อมูล นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงไม่สามารถทำได้เพราะกมธ.ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุด ซึ่งเราสามารถเข้าถึงเอกสารหลักฐานต่างๆได้อยู่แล้ว กฎหมาย PDPA ไม่ได้มีข้อยกเว้นในการทำหน้าที่ของสภาฯหรือกมธ.
 
ต่อข้อถามว่า กรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ไม่เข้าให้ข้อมูล ทางกมธ.จะมีการทำเป็นหนังสือชี้แจงเข้ามาทีหลังหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องดูสถานะปัจจุบัน เพราะพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เป็นบุคคลธรรมดา น้ำหนักจะต่างกับการเชิญเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 129 ถ้าเชิญเจ้าหน้าที่รัฐเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีที่ต้องดำเนินการให้มา ถ้าไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญจะมีความผิดอะไรหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่กมธ.ต้องตรวจสอบว่าที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือจากรัฐบาลมีความผิดทางกฎหมายอะไรอีกบ้าง
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้มาชี้แจงต่อกมธ.ฯ ประกอบด้วย นายวัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ , พล.ต.ต.สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ



พริษฐ์ ย้ำประชามติ 2 ครั้ง แก้รัฐธรรมนูญ ไม่กระทบไทม์ไลน์การจัดทำรธน.ฉบับใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_4886131

พริษฐ์ ย้ำประชามติ 2 ครั้ง แก้รัฐธรรมนูญ ไม่กระทบไทม์ไลน์การจัดทำรธน.ฉบับใหม่
 
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.) และกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ..รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ว่า ในการพิจารณารายละเอียดที่เห็นต่างในกรณีการใช้เกณฑ์ผ่านประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญด้วยเสียงข้างมาก 2 ชั้น ที่ส.ว.แก้ไขจากส.ส.ว่า ไม่ควรใช้เวลาพิจารณานาน
อย่างไรก็ตามในทิศทางการพิจารณาที่คาดว่าอาจลงเอยด้วยการลงมติตัดสินที่อาจนำไปสู่การพักร่างกฎหมายไว้ 180 วันนั้น มองว่าจะไม่กระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทำให้ล่าช้า หากใช้แนวทางการทำประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ 2 ครั้งดำเนินการ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อไทม์ไลน์การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
 
นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า ในฐานะประธานกมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ ทำหนังสือเพื่อขอเข้าพบ ผู้นำ3 องค์กร เพื่อหารือต่อประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ที่มีหน้าที่บรรจุวาระแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งประธานรัฐสภาตอบรับให้เข้าพบในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ต่อด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหวังให้โน้นน้าวต่อการสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และขอเข้าพบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่เคยมีคำวินิจฉัยต่อการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ที่พบรายละเอียดไม่ชัดเจนต่อประเด็นการทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ
 
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีความเห็นต่างระหว่างส.ส. กับ ทีมกฎหมายของประธานรัฐสภาต่อการไม่บรรจุวาระแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพราะยังเห็นต่างเรื่องทำประชามติ จนต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ซึ่งคำวินิจฉัยนั้นไม่ได้บอกว่าต้องบรรจุวาระหรือไม่ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจและทบทวนคำวินิจฉัยของประธานรัฐสภาในการบรรจุวาระแก้รัฐธรรมนูญ จึงต้องเข้าไปพบประธานรัฐสภา เพราะแกนนำพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านมีฉันทามติร่วมกัน เมื่อถามว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญดูเหมือนน.ส.แพทองธาร กังวลเรื่องถูกฟ้อง นายพริษฐ์ กล่าวว่า การขอเข้าพบ ประธานรัฐสภา นายกฯ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะปิดช่องโหว่ และทำให้นายกฯ คลายกังวลได้



ปาท่องโก๋โอด! น้ำมันปาล์มขึ้นราคา คนขายวอนรัฐบาลช่วยตรึง หวั่นแบกรับต้นทุนไม่ไหว
https://ch3plus.com/news/economy/ch3onlinenews/423749

น้ำมันปาล์มไทยขึ้นราคา ส่งผลกระทบพ่อค้าขายปาท่องโก๋เดือดร้อน เพราะยังขายราคาเดิมตัวละ 2 บาท วอนรัฐบาลช่วยดูแลเรื่องราคาน้ำมันปาล์มอย่าให้ขึ้นราคาไปมากกว่านี้พ่อค้าจะอยู่ไม่ได้
 
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05.00 น. นายสนั่น - นางสุมาลี พวงแก้ว อายุ 63 ปี สองสามีภรรยาที่ยึดอาชีพทอดปาท่องโก๋ขายมานานกว่า 12 ปี บริเวณถนนเตาอิฐ เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา มีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งลูกค้าเจ้าประจำที่มาซื้อไปขายที่ร้านขายกาแฟในช่วงเช้า ปรกติจะออกมาทอดปาท่องโก๋ขายตั้งแต่เวลา 03.30 น.ทุกวัน
 
โดยปาท่องโก๋ทอด สองสามีภรรยาช่วยกันทำ นายสนั่น จะเป็นคนปั้นแป้งและบิดเป็นเกลียวลงกระทะทอด ส่วนนางสุมาลีก็ทำหน้าที่ทอด คอยใช้ตะเกียบพลิกกลับปาท่องโก๋ในกระทะเพื่อให้สุกทั่วตัวและกรอบนอกนุ่มใน มีความอร่อยในตัวอยู่แล้วเนื่องจากทำขายมานานกว่า 12 ปี ทั้งแบบเป็นเกลียวและเป็นแบบซาลาเปา จนเป็นที่รู้จักของชาวเมืองสงขลาเป็นอย่างดี
 
หากจะกินปาท่องโก๋ทอดร้อน ๆ ในตอนเช้าก็ต้องมาซื้อตรงนี้เท่านั้น โดยขายตัวละ 2 บาท ทั้งแบบเป็นเกลียวและแบบซาลาเปา ลูกค้าเจ้าประจำและขาจรแวะเวียนมาอุดหนุนตั้งแต่ยังไม่สว่าง จนทำแทบไม่ทัน รวมทั้งต้องทอดปาท่องโก๋เตรียมส่งให้ลูกค้าเจ้าประจำที่มาซื้อไปขายที่ร้านกาแฟในช่วงเช้าอีกด้วย
 
นายสนั่น พวงแก้ว กล่าวว่า น้ำมันปาล์มขึ้นราคามีผลกระทบมากเลย ฝากถึงรัฐบาลช่วยดูแลเรื่องราคาน้ำมันปาล์มให้หน่อย อย่าให้ราคาน้ำมันปาล์มขึ้นเยอะ มันเดือดร้อนอยู่ไม่ได้อีก เพราะน้ำมันปาล์มจะขึ้นเท่าไหร่ แต่เราก็ยังขายปาท่องโก๋ราคาเดิม ตัวละ 2 บาทเหมือนเดิม
 
ตอนนี้ที่ใช้น้ำมันปาล์มอยู่วันละประมาณกว่า 10 กิโลกรัม ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 56-58 บาทเมื่อก่อน 50 บาทต้น ๆ ประมาณนั้น อันนี้เป็นน้ำมันปาล์มแท้ ๆ ของไทยเรา ถามว่าทำไมไม่ใช้น้ำมันปาล์มมาเลเซียซึ่งราคาถูกกว่า ดูแล้วน้ำมันปาล์มมาเลเซียมันไม่บริสุทธิ์ ของไทยเราดีกว่า รัฐบาลช่วยดูแลเรื่องราคาน้ำมันปาล์มให้หน่อย อย่าให้มันขึ้นเยอะไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่