ปชน. หวั่นร่าง พ.ร.ฎ. อุทยานฯ กระทบสิทธิประชาชนในป่า
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_794311/

 
พรรคประชาชน หวั่นร่าง พ.ร.ฎ. อุทยานฯ กระทบสิทธิประชาชนในพื้นที่ป่า เสนอรัฐบาลทบทวนให้รอบคอบ 
  
นายพูนศักดิ์ จันทร์จําปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงแสดงความกังวลต่อร่าง พ.ร.ฎ. กำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งเป็นกฎหมายลำดับรองออกตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 ที่ทำขึ้นในยุค คสช. โดยไม่ได้รับฟังเสียงของประชาชน เมื่อออกกฏหมายลูก จึงอาจทำให้ประชาชนเสียสิทธิ และตอนนี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการออกกกฎหมายแล้ว
  
โดยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ครม. มีวาระที่จะพิจารณาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ. ดังกล่าว ซึ่งเป็นร่างที่ถูกคัดค้านจากภาคประชาชนอย่างมากมาตลอด ซึ่งเส้นตายในการประกาศใช้ พ.ร.ฎ. นี้ คือวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 หรืออีกประมาณ 1 เดือน เป็นเหตุผลที่รัฐบาลต้องเร่งนำร่างเข้า ครม. ในช่วงนี้
  
พรรคประชาชนเห็นว่า ไม่ว่ารัฐบาลจะออก พ.ร.ฎ. ได้ทันหรือไม่ ก็ล้วนนำไปสู่ทางตันของการรักษาสิทธิของภาคประชาชนในที่ดินในเขตป่าอนุรักษ์ กล่าวคือ หากรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ฎ. ได้ทันจะมีปัญหาเพราะถูกโต้แย้งว่า ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างโปร่งใส ทั่วถึงและเป็นธรรม นอกจากนี้ เนื้อหามีลักษณะเป็นการจำกัดสิทธิของประชาชน ไม่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงที่สำคัญคือในชั้นกฤษฎีกามีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาจากร่างเดิมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบางกรณีกลับเป็นผลร้ายต่อประชาชนมากขึ้นไปอีก
 
ดังนั้น หากรัฐบาลออก พ.ร.ฎ. โดยไม่ทำตามเงื่อนไขให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ถือว่าเป็นพ.ร.ฎ. ที่ออกโดยขัดต่อกฎหมาย หากรัฐบาล ยังดึงดันที่จะประกาศก็อาจจะถูกฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนได้
 
นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนเห็นว่า แนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินที่ทับซ้อนกับเขตป่าอนุรักษ์นั้น มีปัญหาและกฎหมายนี้ ไม่สามารถดำเนินการได้จริง จึงขอเสนอให้ใช้กลไกของ กมธ.ที่ดินฯในการรวบรวมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อจัดทำข้อเสนอเป็นร่างกฎหมายในการแก้ไขปัญหา ตามมาตรา 64 และมาตรา 65 ของ พ.ร.บ.อุทยานฯ และมาตรา 121 ของ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯที่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริง มีความเป็นธรรม และเคารพต่อสิทธิชุมชนและกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นการแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าและการแก้ไขปัญหาระยะยาว ภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เพื่อสามารถเสนอ ครม. ได้ทันตามกำหนด

---

 
"เพชร กรุณพล" โพสต์ ขอบคุณทุกหลักฐานที่ส่งมาให้ ลั่น "ฟ้องดำเนินคดี ไม่ใช่ฟ้องปิดปาก”
https://siamrath.co.th/n/576305

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.67 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ทวีตข้อความผ่านแอฟพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) @petchy66 ระบุว่า...
 
ขอบคุณทุกหลักฐานที่ส่งเข้ามานะครับ จะนำส่งต่อฝ่ายกฎหมายทั้งหมดเพื่อใช้ประกอบสำนวนในการดำเนินคดี ถ้ามีอีกก็ส่งมาเพิ่มได้อีกเพื่อความรัดกุมของสำนวนนะครับ และจากคลิปที่คุยกันเองว่าแค่ขู่ไม่กล้าฟ้องหรอก ยืนยันอีกครั้ง

“ฟ้องดำเนินคดี” นะครับ
 
“นี่ไม่ใช่การฟ้องปิดปาก”
 
แต่เราเห็นว่าเป็นการใส่ร้ายแบบไม่มีที่มาที่ไป ที่สามารถเชื่อมโยงให้สังคมเห็นว่าการกระทำใดของพรรคเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กล่าวหา เราจึงขอใช้กฎหมายในการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพรรคครับ
 
และสำหรับท่านอื่นๆที่มีพฤติกรรมคล้ายกันผมก็ได้รวบรวมหลักฐานทั้งภาพนิ่งและคลิปอัดหน้าจอเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันการ กระทำผิดของท่านเผื่อต้องใช้ในการดำเนินคดีในอนาคต
 
จะตำหนินโยบาย การแสดงออกใดๆ ของพรรคหรือตัว สส.ยินดีรับฟังเสมอ แต่การใส่ร้ายและสร้างความเกลียดชังทางชนชาติและศาสนา เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ทั้งในไทยและนานาอารยประเทศครับ

https://x.com/petchy66/status/1849841975811604694

---

ราคาทองวันหยุด ขึ้นอีก 150 บาท - นักลงทุนจับตาตะวันออกกลาง ทำน้ำมันโลกปรับเพิ่มขึ้น
https://ch3plus.com/news/economy/weekend/422214

ราคาทองประเทศไทย วันที่ 26 ต.ค. 67 เปิดตลาด +150 บาท
 
ทองคำแท่ง : รับซื้อ 43,600.00 ขายออก 43,700
ทองรูปพรรณ : รับซื้อ 42,811.84 ขายออก 44,200
 
ขณะที่ราคาน้ำมัน ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ 0.30 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.67 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น เป็นดังนี้
 
เบนซิน 95 ลิตรละ 43.94 บาท
แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 35.75 บาท
แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 35.38 บาท
E20 ลิตรละ 33.64 บาท
E85 ลิตรละ 33.39 บาท
 
ส่วนดีเซลคงเดิม ลิตรละ 32.94 บาท

ด้านราคาน้ำมันโลกปิดตลาดเมื่อวานนี้ (25 ต.ค.2567) ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบล่วงหน้าเดือนธันวาคมพุ่งขึ้น 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.25% ปิดที่ 76.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
 
ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่ง1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.27% ปิดที่ 71.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ถ้าเทียบเป็นรายสัปดาห์เบรนท์พุ่งขึ้น 4 % ขณะที่เวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียทเพิ่มขึ้น 3.7 %
 
ปัจจัยเกิดจากนักลงทุนประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ในตะวันออกกลางว่า จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมถึงการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
 
ขณะที่ปัจจัยอื่นๆที่นักลงทุนเฝ้าติดตามคือ รอดูความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน รวมถึงการเลือกตั้งในญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ และการประชุมของธนาคารกลาง 3 แห่งเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการเปิดเผยงบประมาณฉบับใหม่ของรัฐบาลอังกฤษด้วย