เพื่อไทย ยื่น สภาฯ ชง 3 ร่างแก้ รธน. ยืนกราน นายกฯ ต้องเป็น ส.ส.เท่านั้น
https://www.thairath.co.th/news/politic/2323706
 
 
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชง 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ย้ำ นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. คุ้มครองสิทธิประกันตัว-ชุมนุมสาธารณะ-สิ่งแวดล้อม แจงไม่ปิดสวิตช์ ส.ว. ขอลุ้นหนุนร่างภาคประชาชน
 
วันที่ 23 ก.พ.2565 ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 3 ฉบับ ต่อ นายชวน หลีกภัย  ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญเพื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ตามมาตรา 256 จำนวน 3 ฉบับคือ
 
1. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักการว่าด้วยที่มาของนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 ซึ่งแก้ไขให้มาจาก ส.ส.เท่านั้น และดำเนินการตามมาตรา 88 คือให้พรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯ ได้ แต่ผู้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ต้องเป็น ส.ส.เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขมาตรา 170(2) ว่าด้วยการสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งของนายกฯ เป็นการเฉพาะ ให้สิ้นสุดลงเพราะเหตุอันสิ้นสมาชิกภาพของ ส.ส.ด้วย
 
2. แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะเพิ่มบทบัญญัติในมาตรา 43 ว่าด้วยสิทธิของประชาชนเกี่ยวกับสิทธิบุคคลและชุมชน โดยเพิ่มเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ หลักประกันสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมให้ชัดเจนขึ้น ที่สำคัญได้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการใดๆ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ต้องผ่านการรับฟังความเห็นทุกภาคส่วน รวมถึงผ่านการประเมินคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังแก้ไขในมาตรา 47 เพิ่มเติมให้มีหลักประกันเรื่องสุขภาพ ให้เข้าถึงการบริการด้านสุขภาพมีคุณภาพ เท่าเทียมเสมอภาค และมีหลักประกันถ้วนหน้า และ 48 เรื่องสิทธิสวัสดิการประชาชน เพื่อเติมเต็มดูแลตั้งแต่ทารก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
 
3. การแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม ตามมาตรา 29 เรื่องสิทธิประกันตนตามกฎหมายอาญา ให้ครอบคลุมเข้าถึง รวมถึงสิทธิการแสดงความคิดเห็นต้องได้รับความคุ้มครอง ส่วนสิทธิการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ โดยเพิ่มเติมให้คำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ที่กำลังเป็นปัญหาในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเห็นความสำคัญกับ 3 ร่างฯ จึงเสนอเข้ามาในสมัยประชุมนี้ ส่วนจะได้รับการพิจารณา บรรจุในระเบียบวาระเมื่อใดนั้น ก็เป็นไปตามขั้นตอน
      
เมื่อถามถึงความคาดหวังร่างฯ ทั้ง 3 ฉบับในการพิจารณา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทั้ง 3 ร่างฯ จะผ่านกระบวนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เงื่อนไขที่จะเป็นปัญหาไม่ให้รับหลักการร่างฯ 3 ฉบับนี้แทบจะไม่มี เพราะไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมือง แต่ทำเพื่อประชาชน และระบอบประชาธิปไตย ให้ที่มาของนายกฯ ชัดเจน  ไม่มีใครได้รับผลกระทบ ส่วนที่ไม่ได้เสนอแก้ไขมาตรา 272 ว่าด้วยอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โหวตเลือกนายกฯ นั้น เดิมจะเสนอในนามพรรคการเมือง แต่เมื่อตรวจสอบร่างฯ ของภาคประชาชนแล้วมีความสมบูรณ์ ที่รัฐสภาจะรับได้ ถ้าพรรคการเมืองเสนอแก้ไขมาตรานี้ อาจจะทำให้เป็นประเด็น จึงตัดออก และสนับสนุนร่างฯภาคประชาชนอย่างเต็มที่
 

---

โวย M-Flow ทำเดือดร้อน-สับสน ชี้บางคนเข้าใจผิดโดนปรับ 10 เท่า
https://www.dailynews.co.th/news/792802/

“สมาพันธ์แท็กซี่” ร้อง กมธ.แรงงานฯ นึกว่าเข้าฟรีวันมาฆบูชา เจอค่าปรับ 10 เท่า จี้กรมทางหลวงเร่งแก้ไข

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. นายสุเทพ อู่อ้น ประธานคณะ กมธ.การแรงงาน รับยื่นหนังสือจากนายเกรียงไกร แก้วเกตุ ประธานสมาพันธ์แรงงานแท็กซี่ไทยและคณะ เรื่องการจัดเก็บเงินค่าทางด่วนระบบใหม่ (M-Flow) โดยนายเกรียงไกร กล่าวว่า สืบเนื่องจากการเปิดใช้บริการทางด่วนผ่านระบบ
 
ใหม่ (M-Flow) ทางด่วนจ่ายอัตโนมัติ นำร่องใน 4 ด่าน ได้แก่ ธัญบุรี 1, ธัญบุรี 2, ทับช้าง 1 และทับช้าง 2 ภายใต้โมเดล วิ่งก่อน จ่ายทีหลัง เพื่อลดปัญหารถติดหน้าด่านเก็บเงินเมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา กรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ หรืออธิบายในรายละเอียดวิธีการใช้งานแก่ผู้ใช้บริการทางด่วนให้เกิดความเข้าใจอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดความสับสนในการขับขี่ บางรายถูกเจ้าหน้าที่ทางด่วนโบกให้สามารถผ่านไปได้ และคิดว่าให้ใช้บริการฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในช่วงวันสำคัญคือวันมาฆบูชา ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางสมาคมฯ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่ใช้บริการให้ทั่วถึงและชัดเจน
 
นายเกรียงไกรกล่าวต่อว่า เมื่อผู้ใช้บริการบางรายเกิดความเข้าใจผิด ส่งผลให้ถูกเก็บค่าปรับทันทีเป็น 10 เท่า ของค่าบริการ บางรายถูกปรับ 600-900 บาท โดยให้ชำระผ่านทางธนาคาร หากไม่ไปเสียค่าปรับก็จะต้องถูกชดเชยค่าปรับต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของผู้ใช้บริการเพียงผู้เดียว แต่เป็นความบกพร่องของผู้ที่รับผิดชอบ จากการขาดการประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจน ถือว่าไม่มีความเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการ จึงขอความอนุเคราะห์มายังคณะ กมธ.การแรงงาน นำเรื่องร้องเรียนนี้เข้าสู่การพิจารณาและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมประชุมเพื่อชี้แจงในรายละเอียดและหาแนวทางแก้ไขโดยเร็ว
 
ทางด้านนายสุเทพ กล่าวว่าความเดือดร้อนดังกล่าวของประชาชนเกิดจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม แต่ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขให้ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน ทั้งที่ปัญหาดังกล่าวเกิดจากนโยบายของรัฐบาลที่ไม่มีการวางแผน และโยนภาระมาให้กับประชาชน ดังนั้นจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะ กมธ.ต่อไป.

---

กลุ่มรถบรรทุก เตรียมแถลงทวงคืนภาษีสรรพสามิต 1 บาท 25 ก.พ.นี้
https://ch3plus.com/news/category/280340
 
กลุ่มรถบรรทุก เตรียมแถลงทวงคืนภาษีสรรพสามิต 1 บาท 25 ก.พ.นี้
   
กลุ่มรถบรรทุกเตรียมแถลงทวงคืนภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาท คืนจากกองทุนน้ำมัน 25 ก.พ.นี้ ระบุ เมื่อรัฐลดภาษี 3 บาทเพื่อลดราคาน้ำมันก็ควรใช้ในการลดราคาน้ำมันทั้ง 3 บาท ไม่ควรหักเข้ากองทุนน้ำมัน
 
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสหพันธ์ฯ เตรียมจัดเสวนาและแถลงข่าว ทวงคืนภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลคืนจากกองทุนน้ำมัน ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมเวลล์ จ.นครปฐม โดยระบุว่า รัฐบาลยอมปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 3 บาทเป็นเวลา 3 เดือน ก็เพื่อนำมาใช้ลดราคาน้ำมันให้ประชาชน

ดังนั้นก็ควรนำมาลดราคาทั้ง 3 บาท ไม่ใช่หักเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 1 บาท ซึ่งเป็นเรื่องไม่สมควร พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการดูแลราคาน้ำมันทั้งกลุ่มดีเซล และเบนซิน (แก๊สโซฮอล์) ด้วยการปรับสูตร ถอดส่วนผสมที่มีราคาแพง เช่น น้ำมันปาล์ม หรือ เอทานอล ออกไปก่อน ซึ่งจะช่วยให้ราคาน้ำมันลดลงมาได้ทันที่ 2.50 บาท ต่อลิตร เมื่อรวมกับการที่รัฐบาลปรับลดภาษีน้ำมันอีก 2.50 บาทต่อลิตร ก็จะทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้ทันทีลิตรละ 5 บาท
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ ทางสหพันธ์ฯ ได้เตรียมการแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ แต่มีการเลื่อนกำหนดการออกไปเป็นวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยประธานสหพันธ์ฯ ให้เหตุผลว่าต้องการพิจารณารายละเอียดหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง และการแถลงข่าวและจัดเสวนาครั้งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านการเมือง แต่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกเอง
 
สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/OHLjyyMGJG4