9 วันไร้เงารมต.เจรจา 'พีมูฟ' เขย่ารั้ว ปาไข่ ร่อนจ.ม.เข้าทำเนียบ วอนนายกฯอิ๊งค์มารับเรื่อง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4846710
ไข่กระจาย! ‘พีมูฟ’ เขย่ารั้ว-ปาไข่ ร่อนจดหมายเข้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องอยากเจอ ‘นายกฯ’ หลังปักหลักชุมนุม 9 วันไร้เงารัฐมนตรีเจรจา
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของ กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ซึ่งทำกิจกรรมมาตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งเวลา 11.00 น. ตัวแทนได้ประชิดรั้วทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนพิษณุโลก และเขย่าประตู เรียกร้องให้ น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมารับเรื่อง หรือส่งตัวแทนมาพูดคุย และกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังดูแลความเรียบร้อยให้เปิดประตูเข้าไปพบ น.ส.
แพทองธาร แต่ไม่สำเร็จ
ขณะที่แกนนำได้ปราศรัยบนรถขยายเสียงว่า รู้สึกผิดหวังกับการทำงานของรัฐบาล เพราะตลอด 9 วันที่ปักหลักเรียกร้องเรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย แต่ทำเนียบรัฐบาลไม่มีตัวแทนระดับรัฐมนตรีมาพบเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงขอให้คะแนนการทำงานของรัฐบาลเป็นศูนย์
ก่อนจะนำ “
ไข่ไก่” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนคะแนน 0 ปาเข้ามาในทำเนียบรัฐบาลจนหมดแผง และพับจดหมายปาร่อนตามเข้ามา หวังส่งถึงนายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ เพื่อแจ้งข้อเรียกร้องขอให้แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งรวมถึงกรณีชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล และชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย จังหวัดเพชรบุรีด้วย หลังปักหลัก 9 วัน แต่ไม่มีตัวแทนของรัฐบาลที่เป็นรัฐมนตรีมาพบ
ทั้งนี้ หากไม่ดำเนินการตามที่ร้องขอก็ยังจะปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล และจะตามไปเมื่อมีการประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่ เพื่อทวงถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ณัฐวุฒิ ชี้ พล.อ.พิศาล ยื่นลาออก เหตุคดีตากใบ พรรคต้นสังกัด ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4846782
ณัฐวุฒิ จี้ รัฐบาล แสดงความจริงใจตามตัวผู้ต้องหาคดีตากใบกลับมาดำเนินคดี บอก พล.อ.พิศาล ยื่นลาออกสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นความรับผิดชอบเบื้องต้น แต่ไม่รู้ต้องการแก้ไขสถานการณ์การเมือง หรือปัญหาบ้านเมือง ชี้ ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล พรรคการเมืองต้นสังกัดปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 15 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึง กรณี พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยื่นลาออกจาก สมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า แม้จะไม่ใช่เรื่องของสภาโดยตรงแต่เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เรื่องนี้เป็นการวัดความจริงใจของรัฐบาล สืบเนื่องกันมาตลอด 20 ปี ในการนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนมากน้อยแค่ไหน
“
การลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินคดี และการลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการทำหน้าที่ของรัฐ ไม่ได้ส่งผลในการทำหน้าที่ประสานขอตัวมาลงโทษ ซึ่งการประชุมคณะกรรมาธิการ การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนจะสภาผู้แทนราษฎร ทราบว่าผู้ต้องหา 2 ใน 6 คน หนีออกนอกประเทศ ไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับไทย และ มีกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จึงอยากเห็นความพยายามมากที่สุด ของรัฐไทยในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาลงโทษ” นาย
ณัฐวุฒิ กล่าว
นาย
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าการลาออกของ พลเอกพิศาล เป็นความรับผิดชอบเบื้องต้น ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากความจริงใจที่อยากจะแก้ไขปัญหานี้ หรือดำเนินการตามคำแนะนำของใคร ดังนั้นข้อเรียกร้องในฐานะวิปฝ่ายค้าน ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจ เพราะคดีตากใบไม่ใช่เรื่องของผู้เสียหายหรือผู้สูญเสียแต่คือความเชื่อมั่นของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ และความเชื่อมั่นของประเทศไทยทั้งหมด ว่าอาชญากรรมโดยรัฐที่รัฐต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ดังนั้นการลาออกถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นาย
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แน่นอนว่าความรับผิดชอบส่วนบุคคลเกิดขึ้นด้วยการลาออก แต่ไม่รู้ว่าต้องการที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมือง มากกว่าที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทยอยากเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่มากกว่านี้ ในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยเพื่อส่งสารถึงคนจังหวัดชายแดนใต้ว่าได้พยายามถึงที่สุด แต่ในความเป็นพรรคการเมืองสำหรับพรรคเพื่อไทย คงมีคำตอบต่อคนที่เลือกท่านต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
“
พรรคประชาชนในฐานะวิปฝ่ายค้านจะใช้กลไกในการติดตามเรื่องนี้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน ทั้งการสนับสนุนการดำเนินคดี ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส กลไกผ่านคณะกรรมาธิการคณะต่างๆของสภา และการตั้งกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่เนื่องจากรัฐบาลรัฐบาลนี้เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียงไม่นาน ฝ่ายค้านจะไม่มีการยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป และอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสมัยการประชุมนี้ แต่จะมีการยื่นขอเปิดอภิปรายในสมัยประชุมหน้า ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่จะอภิปรายรัฐบาล” นาย
ณัฐวุฒิ กล่าว
นาย
ณัฐวุฒิ ยอมรับว่า ฝ่ายค้านได้มีการประเมินสถานการณ์ ถึงกรณีที่คดีหมดอายุความใน วันที่ 25 ตุลาคม และจำเลยทุกคนกลับมาโดยไม่ถูกดำเนินคดี แต่อยากส่งสารว่าอย่าปล่อยให้ไปถึงวันนั้น แต่เราก็ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอให้ขยายอายุความ เพราะในกระบวนการวิธีพิจารณาความ อาญาไม่สามารถทำได้ และจะทำให้ประเด็นหลักเสียหายไป ซึ่งหากไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ทันเวลาก็จะทำให้พ้นความรับผิดชอบ ในทางอาญา แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองคงยังไม่จบลง ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้สถานการณ์เพิ่มความรุนแรงไปมากกว่านี้
“
จึงเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งดำเนินการ เช่น การเจรจาของชุดสันติภาพชายแดนใต้ ไม่มีการประชุมมาแล้วหลายเดือน ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งสารที่คณะรัฐมนตรีจะส่งไปถึงประชาชนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม ถือเป็นความสำคัญต่อทิศทางและสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่ง แม้ว่าพลเอกพิศาลจะลาออก และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่พรรคการเมืองต้นสังกัดก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ในสถานะพรรคการเมืองเองอาจมีข้อจำกัดในการแสดงความรับผิดชอบ หรือเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องส่งไปยังนายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ในนามของรัฐไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ เพราะเป็นเรื่องที่มากกว่าตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง” นาย
ณัฐวุฒิ กล่าว
นาย
ณัฐวุฒิ ยังกล่าวว่า ต้องไม่ลืมว่าคดีตากใบไม่ได้เริ่มต้นขึ้นโดยรัฐ แต่เป็นประชาชนที่ยื่นฟ้องต่อศาลเอง จึงต้องย้อนไปดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้ต้องการความรับผิดชอบสูงสุดในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ทั้งฝ่ายความมั่นคงฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ส่วนความรับผิดชอบที่จะตามมา คงจะมีรายละเอียดของผู้ที่กระทำความผิดอีก แต่สิ่งสำคัญ เหตุการณ์นี้สะท้อนไปถึงความคิดของรัฐบาลในขณะนั้น และรัฐไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ที่ใหญ่ไปกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบติดตามตัวผู้กระทำความผิด ในกรณีหมดอายุความ จะต้องมีความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คงต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อน แต่ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม ก็ยังอยากเห็นความพยายามให้มากที่สุด
โคราชน้ำมูลเพิ่มสูง ล้นฝาย ท่วมนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 70 ไร่
https://www.matichon.co.th/region/news_4846510
โคราชน้ำมูลเพิ่มสูง ไหลล้นฝาย ท่วมนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 70 ไร่
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมายมีปริมาณน้ำเกินความจุ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่จัดสรรน้ำโครงการศูนย์ส่งน้ำ และบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ยังคงเปิดประตูเขื่อนเพื่อเร่งระบายน้ำภายในเขื่อนพิมายลงสู่ลำน้ำมูลอย่างต่อเนื่อง
หลังจากปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมาย มีความจุ 4,028,000 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 111.59% ของความจุ จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำออก เพื่อเตรียมรับมวลน้ำก้อนใหม่ที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมแหล่งเศรษฐกิจในพื้นที่อำเภอพิมายรวมถึงโบราณสถาน
การเร่งระบายน้ำนี้เองทำให้ปริมาณน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นฝายเก็บน้ำบ้านจารย์ตำรา ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่บ้านจารย์ตำราและพื้นที่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบแล้วกว่า 70 ไร่ ระดับน้ำท่วมสูง 50-60 เซนติเมตร
คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมายยังคงเพิ่มสูงขึ้นและทางเจ้าหน้าที่สำนักชลประทานพิมายยังคงเปิดประตูเขื่อนเพื่อเร่งระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ประชาชนและเกษตรกร ที่มีพื้นที่การเกษตรติดกับลำน้ำมูลได้รับผลกระทบอย่างหนัก
JJNY : 9 วันไร้เงารมต.│ณัฐวุฒิชี้พรรคปฏิเสธไม่ได้│โคราชน้ำมูลสูงท่วมนา│ไต้หวันเผยจีนใช้เครื่องบินมากเป็นประวัติการณ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4846710
ไข่กระจาย! ‘พีมูฟ’ เขย่ารั้ว-ปาไข่ ร่อนจดหมายเข้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องอยากเจอ ‘นายกฯ’ หลังปักหลักชุมนุม 9 วันไร้เงารัฐมนตรีเจรจา
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศของ กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ซึ่งทำกิจกรรมมาตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งเวลา 11.00 น. ตัวแทนได้ประชิดรั้วทำเนียบรัฐบาล ฝั่งถนนพิษณุโลก และเขย่าประตู เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมารับเรื่อง หรือส่งตัวแทนมาพูดคุย และกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังดูแลความเรียบร้อยให้เปิดประตูเข้าไปพบ น.ส.แพทองธาร แต่ไม่สำเร็จ
ขณะที่แกนนำได้ปราศรัยบนรถขยายเสียงว่า รู้สึกผิดหวังกับการทำงานของรัฐบาล เพราะตลอด 9 วันที่ปักหลักเรียกร้องเรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย แต่ทำเนียบรัฐบาลไม่มีตัวแทนระดับรัฐมนตรีมาพบเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จึงขอให้คะแนนการทำงานของรัฐบาลเป็นศูนย์
ก่อนจะนำ “ไข่ไก่” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนคะแนน 0 ปาเข้ามาในทำเนียบรัฐบาลจนหมดแผง และพับจดหมายปาร่อนตามเข้ามา หวังส่งถึงนายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ เพื่อแจ้งข้อเรียกร้องขอให้แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ซึ่งรวมถึงกรณีชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล และชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย จังหวัดเพชรบุรีด้วย หลังปักหลัก 9 วัน แต่ไม่มีตัวแทนของรัฐบาลที่เป็นรัฐมนตรีมาพบ
ทั้งนี้ หากไม่ดำเนินการตามที่ร้องขอก็ยังจะปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล และจะตามไปเมื่อมีการประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่ เพื่อทวงถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
ณัฐวุฒิ ชี้ พล.อ.พิศาล ยื่นลาออก เหตุคดีตากใบ พรรคต้นสังกัด ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4846782
ณัฐวุฒิ จี้ รัฐบาล แสดงความจริงใจตามตัวผู้ต้องหาคดีตากใบกลับมาดำเนินคดี บอก พล.อ.พิศาล ยื่นลาออกสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นความรับผิดชอบเบื้องต้น แต่ไม่รู้ต้องการแก้ไขสถานการณ์การเมือง หรือปัญหาบ้านเมือง ชี้ ไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคล พรรคการเมืองต้นสังกัดปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 15 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึง กรณี พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยื่นลาออกจาก สมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า แม้จะไม่ใช่เรื่องของสภาโดยตรงแต่เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เรื่องนี้เป็นการวัดความจริงใจของรัฐบาล สืบเนื่องกันมาตลอด 20 ปี ในการนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนมากน้อยแค่ไหน
“การลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินคดี และการลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการทำหน้าที่ของรัฐ ไม่ได้ส่งผลในการทำหน้าที่ประสานขอตัวมาลงโทษ ซึ่งการประชุมคณะกรรมาธิการ การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนจะสภาผู้แทนราษฎร ทราบว่าผู้ต้องหา 2 ใน 6 คน หนีออกนอกประเทศ ไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับไทย และ มีกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จึงอยากเห็นความพยายามมากที่สุด ของรัฐไทยในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาลงโทษ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าการลาออกของ พลเอกพิศาล เป็นความรับผิดชอบเบื้องต้น ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากความจริงใจที่อยากจะแก้ไขปัญหานี้ หรือดำเนินการตามคำแนะนำของใคร ดังนั้นข้อเรียกร้องในฐานะวิปฝ่ายค้าน ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจ เพราะคดีตากใบไม่ใช่เรื่องของผู้เสียหายหรือผู้สูญเสียแต่คือความเชื่อมั่นของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ และความเชื่อมั่นของประเทศไทยทั้งหมด ว่าอาชญากรรมโดยรัฐที่รัฐต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ดังนั้นการลาออกถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แน่นอนว่าความรับผิดชอบส่วนบุคคลเกิดขึ้นด้วยการลาออก แต่ไม่รู้ว่าต้องการที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมือง มากกว่าที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทยอยากเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่มากกว่านี้ ในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยเพื่อส่งสารถึงคนจังหวัดชายแดนใต้ว่าได้พยายามถึงที่สุด แต่ในความเป็นพรรคการเมืองสำหรับพรรคเพื่อไทย คงมีคำตอบต่อคนที่เลือกท่านต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
“พรรคประชาชนในฐานะวิปฝ่ายค้านจะใช้กลไกในการติดตามเรื่องนี้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน ทั้งการสนับสนุนการดำเนินคดี ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส กลไกผ่านคณะกรรมาธิการคณะต่างๆของสภา และการตั้งกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่เนื่องจากรัฐบาลรัฐบาลนี้เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียงไม่นาน ฝ่ายค้านจะไม่มีการยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป และอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสมัยการประชุมนี้ แต่จะมีการยื่นขอเปิดอภิปรายในสมัยประชุมหน้า ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่จะอภิปรายรัฐบาล” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ยอมรับว่า ฝ่ายค้านได้มีการประเมินสถานการณ์ ถึงกรณีที่คดีหมดอายุความใน วันที่ 25 ตุลาคม และจำเลยทุกคนกลับมาโดยไม่ถูกดำเนินคดี แต่อยากส่งสารว่าอย่าปล่อยให้ไปถึงวันนั้น แต่เราก็ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอให้ขยายอายุความ เพราะในกระบวนการวิธีพิจารณาความ อาญาไม่สามารถทำได้ และจะทำให้ประเด็นหลักเสียหายไป ซึ่งหากไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ทันเวลาก็จะทำให้พ้นความรับผิดชอบ ในทางอาญา แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองคงยังไม่จบลง ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้สถานการณ์เพิ่มความรุนแรงไปมากกว่านี้
“จึงเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งดำเนินการ เช่น การเจรจาของชุดสันติภาพชายแดนใต้ ไม่มีการประชุมมาแล้วหลายเดือน ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งสารที่คณะรัฐมนตรีจะส่งไปถึงประชาชนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม ถือเป็นความสำคัญต่อทิศทางและสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่ง แม้ว่าพลเอกพิศาลจะลาออก และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่พรรคการเมืองต้นสังกัดก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ในสถานะพรรคการเมืองเองอาจมีข้อจำกัดในการแสดงความรับผิดชอบ หรือเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องส่งไปยังนายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ในนามของรัฐไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ เพราะเป็นเรื่องที่มากกว่าตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวว่า ต้องไม่ลืมว่าคดีตากใบไม่ได้เริ่มต้นขึ้นโดยรัฐ แต่เป็นประชาชนที่ยื่นฟ้องต่อศาลเอง จึงต้องย้อนไปดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้ต้องการความรับผิดชอบสูงสุดในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ทั้งฝ่ายความมั่นคงฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ส่วนความรับผิดชอบที่จะตามมา คงจะมีรายละเอียดของผู้ที่กระทำความผิดอีก แต่สิ่งสำคัญ เหตุการณ์นี้สะท้อนไปถึงความคิดของรัฐบาลในขณะนั้น และรัฐไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ที่ใหญ่ไปกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบติดตามตัวผู้กระทำความผิด ในกรณีหมดอายุความ จะต้องมีความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า คงต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อน แต่ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม ก็ยังอยากเห็นความพยายามให้มากที่สุด
โคราชน้ำมูลเพิ่มสูง ล้นฝาย ท่วมนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 70 ไร่
https://www.matichon.co.th/region/news_4846510
โคราชน้ำมูลเพิ่มสูง ไหลล้นฝาย ท่วมนาข้าวเสียหายแล้วกว่า 70 ไร่
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมายมีปริมาณน้ำเกินความจุ ทำให้ทางเจ้าหน้าที่จัดสรรน้ำโครงการศูนย์ส่งน้ำ และบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ยังคงเปิดประตูเขื่อนเพื่อเร่งระบายน้ำภายในเขื่อนพิมายลงสู่ลำน้ำมูลอย่างต่อเนื่อง
หลังจากปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมาย มีความจุ 4,028,000 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 111.59% ของความจุ จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำออก เพื่อเตรียมรับมวลน้ำก้อนใหม่ที่จะไหลเข้ามาในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมแหล่งเศรษฐกิจในพื้นที่อำเภอพิมายรวมถึงโบราณสถาน
การเร่งระบายน้ำนี้เองทำให้ปริมาณน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นฝายเก็บน้ำบ้านจารย์ตำรา ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่บ้านจารย์ตำราและพื้นที่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบแล้วกว่า 70 ไร่ ระดับน้ำท่วมสูง 50-60 เซนติเมตร
คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังปริมาณน้ำเหนือเขื่อนพิมายยังคงเพิ่มสูงขึ้นและทางเจ้าหน้าที่สำนักชลประทานพิมายยังคงเปิดประตูเขื่อนเพื่อเร่งระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ประชาชนและเกษตรกร ที่มีพื้นที่การเกษตรติดกับลำน้ำมูลได้รับผลกระทบอย่างหนัก