-6-
รถไฟวิ่งเข้าอุโมงค์ ภายนอกมืดสนิท เหมือนหมึกสีดำ...
เมื่อพ้นปากอุโมงค์ ทิวทัศน์ต่างไป เป็นธรรมชาติยิ่งใหญ่ พันธุ์พืชปกคลุมหนาแน่น
ผมมองตื่นตาตื่นใจ ขณะที่ดวงดาวทอแสงเรืองรองผ่านหมู่แมกไม้
ใบไม้แต่ละใบ ก็ส่งเสียงหวีดวิ้วตามแรงลม
ผมเห็นดอกป๊อบปี้ ดอกคอสมอส และดอกมอร์นิ่งกลอรี่ผลิบานหลากสีสัน
วินาทีถัดมาสายลมยามราตรี พัดพากลิ่นต้นเฟิร์นอ่อน ๆ โชยเข้าทางหน้าต่าง
"ฉันชอบอ่านเรื่องที่มีการสูญเสีย มันทำให้คนที่เหลือ รู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิต" ชายชราเอ่ยเหมือนหยั่งรู้ความคิดผม
"ใช่ !! ผมก็เหมือนกัน คุณเข้าใจผมดีแท้ ๆ คุณลุงต้องอ่านเรื่องสั้นของผมนะครับ" ผมขอร้องเขา
"ว่าแต่เธอเขียนเกี่ยวกับอะไร หืม ?" เขาสูบบุหรี่หมดมวน บี้มันกับที่เขียบุหรี่ตรงหน้า
ผมรื้อกระเป๋า เอื้อมมือหยิบต้นฉบับ
"เรื่องของเด็กชายที่สูญเสียดวงตานะครับ เรื่องแรกของผม ใช้ฉากสงครามเป็นโครงเรื่อง"
ผมยื่นส่งให้ชายสูงวัย
"ชื่อเรื่อง ทิ้งดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวครับ เขียนโดยบุรุษแห่งตัวอักษร นามปากกาของผมเอง กรุณาอ่านหน่อยเถอะนะครับ"
เขาเอื้อมรับแผ่วเบา อ่านจริงจัง ค่อย ๆ พลิกเปิดหน้ากระดาษ สายตาไล่ทีละตัวอักษร
เวลาผ่านไปหกนาทีครึ่ง... ชายชราวางลงบนโต๊ะเงียบ ๆ
"ชอบมั้ยครับ ? " ผมถามอย่างตื่นเต้น
"ฉันรักผลงานนี้เลยล่ะ โดยเฉพาะตอนจบ เขียนได้ซึ้งนะ" เขาชม
"บังเอิญผมได้ครูที่เก่งครับ" ผมกล่าวอย่างภูมิใจ เท้าศอกกับโต๊ะ
"ครูที่ดีจะไม่ยอมบอกหมดทุกอย่าง แต่จะบอกแค่แนวทาง เพื่อให้เราเรียนรู้ พัฒนาตนเอง..." เขาตอบ
"ใช่ครับ เธอเป็นครูแบบนั้นเลย..."
ผมเก็บงานเขียนลงกระเป๋าปิดซิบนอก ขณะนั้นเสียงดังกึก ๆ รถไฟกำลังวิ่งข้ามสะพานไม้ สองฟากเป็นหินผา หุบเหวสูงชัน
"เธอเก่ง ยังหนุ่ม แถมเป็นผู้มีพรสวรรค์" เขาว่า
"คุณเพิ่งอ่านเรื่องสั้นที่ผมเขียนเพียงเรื่องเดียวเองนะ" ผมตอบเขิน ๆ เป็นครั้งแรกที่ได้รับการยกย่องจากคนแปลกหน้า
"ความจริงผมไม่มั่นใจตั้งหลายอย่างครับ โดยเฉพาะบางครั้ง คิดพล๊อตเรื่องไม่ได้..." น้ำเสียงผมมีแววท้อแท้
"หาสิ่งที่เธออยากเขียนสิ" เขายิ้มที่มุมปาก
ผมประหลาดใจที่เขายิ้ม
"สิ่งที่ผมอยากเขียนเหรอครับ ?" ผมทวนย้ำ
"ใช่"
"ผมไม่แน่ใจ จะหาเจอมั้ย ?" ผมระบายลมหายใจยาว
"เจอสิ... แล้วใช้หัวใจสัมผัสสิ่งที่เขียน จะต้องได้เรื่องราวที่วิเศษแน่" ชายสูงวัยตอบ ใบหน้านั้นฉายแววจริงจัง
"ครับ... ผมจะลองดู" ผมผงกหัว
เมื่อพ้นสะพาน รถไฟวิ่งผ่านแม่น้ำ ทะเลสาบ และช่องธารน้ำแข็งนับพัน
แต่ละครั้งผมมองวิวอย่างเพลิดเพลิน
"บางครั้งวิวก็เป็นแรงบันดาลใจชั้นยอดนะ" ชายชราว่า
"ใช่ครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน..."
เราทั้งสองดื่มด่ำ ความหนาวเย็นของธรรมชาติ
ขณะนั้นผมเล่าปัญหาส่วนตัวให้ชายชราฟัง...
"พอพ้นจากปัญหานึง ผมก็หลุดเข้าไปอีกปัญหานึงทันที เป็นแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น สำหรับผมทุกอย่างเลยครับ ต้องเริ่มต้นด้วยการทำผิดก่อนแล้วถึงจะถูก
ไม่เคยเลยสักครั้ง ที่จะถูกเสียแต่แรก... " ผมบอกซึม ๆ และพูดต่อ
"ทุกสิ่งที่ผมได้รับ ต้องแลกมาด้วยความสูญเสีย... บางครั้งผมไม่แน่ใจ ว่ามันคุ้มรึเปล่า..." เสียงผมเริ่มสั่นเครือ ใบหน้าซึมเซา
"คุ้มสิ..." ชายชราลากเสียงตอบ
"เรื่องที่เกิดขึ้นก็เพื่อให้เธอมีโอกาสแก้ปัญหา และเติบโต ส่วนเรื่องอื่น ๆ เธอจะผ่านไปได้เอง"
น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจถึงความรู้สึกผม
รถไฟแล่นคดเคี้ยว วิ่งขึ้นสู่ภูเขา
ลมจากหน้าต่างลอดมา พลางพลิกชุดเรื่องสั้นเปิดทีละหน้า เราจ้องมองหนังสือที่ถูกเปิดโดยแรงลม
"นักเขียนคนโปรดเธอคือ โอเฮนรี่ ใช่มั้ย ?" เขาถามสายตาเข้มขรึม คิ้วขมวดน้อย ๆ
"ครับ เขาเป็นเทพเจ้าเรื่องสั้นหักมุม ผมมีหนังสือเขาทุกเล่ม บางเรื่องถูกสร้างเป็นภาพยนต์ด้วย แต่..." ผมหยุดนิดนึง
"ผมไม่คิดว่าตัวเอง จะประสบความสำเร็จสูงขนาดนั้นหรอกครับ..."
ชายชรามองผมนิ่งงันชั่วครู่ จากนั้นเอ่ยเสียงทุ้มลึก
"ทางเดียวที่จะบรรลุสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือ เธอต้องเชื่อว่ามันเป็นไปได้" เขากล่าวพร้อม ขยับร่างลุกบนเก้าอี้บุนวม
ยกมือซ้ายปัดฝ้า ที่เกิดจากไอเย็นบนกระจกหน้าต่างชั้นบน
"ใหนบอกฉันสิ เธอเห็นอะไร เมื่อมองเงาในกระจก" น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป ฟังดูหนักแน่น
ผมงุนงงเล็กน้อย แต่ก็ลุกขึ้นยืนตามที่เขาบอก ผมหันหน้าเข้ากระจกใส ข้างนอกมืดมาก เห็นเพียงเงาลาง ๆ ของตัวเองสะท้อนกลับมา...
"เอ่อ ผมเห็นผู้ชาย... "ผมหยุดไปสี่ห้าวินาที "ที่กังวลเกี่ยวกับทุกสิ่ง" ผมตอบหลังจากเงียบงันครู่นึง
"เปล่าเลย" ชายชราแย้ง "ฉันเห็นเด็กผู้ชายคนนึง ที่หลายครั้งหลายคราเขาได้แสดงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว เพื่อลุยฝ่าความฝันตั้งหลายอย่าง
ฉันว่าเขายอดเยี่ยมมาก..." เขาตบหัวไหล่ผมเบา ๆ จากนั้นพูดต่อ
"เมื่อเธอยอมแพ้มันจะจบ แต่ถ้าเธอไม่ยอมแพ้ วันนั้นจะมาถึง... และเธอจะดีใจที่ไม่ยอมแพ้..." เขาขยิบตาข้างขวาให้ผม
"แต่จำไว้นะ อย่าเลิกเขียน อย่าให้พรสวรรค์ต้องเสียเปล่า..."
"ขอบคุณครับ" ใบหน้าผมสดใสขึ้น "คุณทำให้ผมอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม..."
เขาหัวเราะหึหึ เมื่อเห็นสีหน้าของผม
"นี่เป็นคำชมที่ดีที่สุด ในชีวิตฉัน..." ปลายหางตาเขามีรอยย่นเกิดขึ้น และรอยยิ้มที่มุมปากก็ดูบุ๋มลงทุกที แต่ทว่าสายตากลับทรงพลัง
FT 5 | เรื่องสั้น ปาฏิหาริย์คืนสิ้นปี ตอนที่ 6
เมื่อพ้นปากอุโมงค์ ทิวทัศน์ต่างไป เป็นธรรมชาติยิ่งใหญ่ พันธุ์พืชปกคลุมหนาแน่น
ผมมองตื่นตาตื่นใจ ขณะที่ดวงดาวทอแสงเรืองรองผ่านหมู่แมกไม้
ใบไม้แต่ละใบ ก็ส่งเสียงหวีดวิ้วตามแรงลม
ผมเห็นดอกป๊อบปี้ ดอกคอสมอส และดอกมอร์นิ่งกลอรี่ผลิบานหลากสีสัน
วินาทีถัดมาสายลมยามราตรี พัดพากลิ่นต้นเฟิร์นอ่อน ๆ โชยเข้าทางหน้าต่าง
"ฉันชอบอ่านเรื่องที่มีการสูญเสีย มันทำให้คนที่เหลือ รู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิต" ชายชราเอ่ยเหมือนหยั่งรู้ความคิดผม
"ใช่ !! ผมก็เหมือนกัน คุณเข้าใจผมดีแท้ ๆ คุณลุงต้องอ่านเรื่องสั้นของผมนะครับ" ผมขอร้องเขา
"ว่าแต่เธอเขียนเกี่ยวกับอะไร หืม ?" เขาสูบบุหรี่หมดมวน บี้มันกับที่เขียบุหรี่ตรงหน้า
ผมรื้อกระเป๋า เอื้อมมือหยิบต้นฉบับ
"เรื่องของเด็กชายที่สูญเสียดวงตานะครับ เรื่องแรกของผม ใช้ฉากสงครามเป็นโครงเรื่อง"
ผมยื่นส่งให้ชายสูงวัย
"ชื่อเรื่อง ทิ้งดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวครับ เขียนโดยบุรุษแห่งตัวอักษร นามปากกาของผมเอง กรุณาอ่านหน่อยเถอะนะครับ"
เขาเอื้อมรับแผ่วเบา อ่านจริงจัง ค่อย ๆ พลิกเปิดหน้ากระดาษ สายตาไล่ทีละตัวอักษร
เวลาผ่านไปหกนาทีครึ่ง... ชายชราวางลงบนโต๊ะเงียบ ๆ
"ชอบมั้ยครับ ? " ผมถามอย่างตื่นเต้น
"ฉันรักผลงานนี้เลยล่ะ โดยเฉพาะตอนจบ เขียนได้ซึ้งนะ" เขาชม
"บังเอิญผมได้ครูที่เก่งครับ" ผมกล่าวอย่างภูมิใจ เท้าศอกกับโต๊ะ
"ครูที่ดีจะไม่ยอมบอกหมดทุกอย่าง แต่จะบอกแค่แนวทาง เพื่อให้เราเรียนรู้ พัฒนาตนเอง..." เขาตอบ
"ใช่ครับ เธอเป็นครูแบบนั้นเลย..."
ผมเก็บงานเขียนลงกระเป๋าปิดซิบนอก ขณะนั้นเสียงดังกึก ๆ รถไฟกำลังวิ่งข้ามสะพานไม้ สองฟากเป็นหินผา หุบเหวสูงชัน
"เธอเก่ง ยังหนุ่ม แถมเป็นผู้มีพรสวรรค์" เขาว่า
"คุณเพิ่งอ่านเรื่องสั้นที่ผมเขียนเพียงเรื่องเดียวเองนะ" ผมตอบเขิน ๆ เป็นครั้งแรกที่ได้รับการยกย่องจากคนแปลกหน้า
"ความจริงผมไม่มั่นใจตั้งหลายอย่างครับ โดยเฉพาะบางครั้ง คิดพล๊อตเรื่องไม่ได้..." น้ำเสียงผมมีแววท้อแท้
"หาสิ่งที่เธออยากเขียนสิ" เขายิ้มที่มุมปาก
ผมประหลาดใจที่เขายิ้ม
"สิ่งที่ผมอยากเขียนเหรอครับ ?" ผมทวนย้ำ
"ใช่"
"ผมไม่แน่ใจ จะหาเจอมั้ย ?" ผมระบายลมหายใจยาว
"เจอสิ... แล้วใช้หัวใจสัมผัสสิ่งที่เขียน จะต้องได้เรื่องราวที่วิเศษแน่" ชายสูงวัยตอบ ใบหน้านั้นฉายแววจริงจัง
"ครับ... ผมจะลองดู" ผมผงกหัว
เมื่อพ้นสะพาน รถไฟวิ่งผ่านแม่น้ำ ทะเลสาบ และช่องธารน้ำแข็งนับพัน
แต่ละครั้งผมมองวิวอย่างเพลิดเพลิน
"บางครั้งวิวก็เป็นแรงบันดาลใจชั้นยอดนะ" ชายชราว่า
"ใช่ครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน..."
เราทั้งสองดื่มด่ำ ความหนาวเย็นของธรรมชาติ
ขณะนั้นผมเล่าปัญหาส่วนตัวให้ชายชราฟัง...
"พอพ้นจากปัญหานึง ผมก็หลุดเข้าไปอีกปัญหานึงทันที เป็นแบบนี้ไม่จบไม่สิ้น สำหรับผมทุกอย่างเลยครับ ต้องเริ่มต้นด้วยการทำผิดก่อนแล้วถึงจะถูก
ไม่เคยเลยสักครั้ง ที่จะถูกเสียแต่แรก... " ผมบอกซึม ๆ และพูดต่อ
"ทุกสิ่งที่ผมได้รับ ต้องแลกมาด้วยความสูญเสีย... บางครั้งผมไม่แน่ใจ ว่ามันคุ้มรึเปล่า..." เสียงผมเริ่มสั่นเครือ ใบหน้าซึมเซา
"คุ้มสิ..." ชายชราลากเสียงตอบ
"เรื่องที่เกิดขึ้นก็เพื่อให้เธอมีโอกาสแก้ปัญหา และเติบโต ส่วนเรื่องอื่น ๆ เธอจะผ่านไปได้เอง"
น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจถึงความรู้สึกผม
รถไฟแล่นคดเคี้ยว วิ่งขึ้นสู่ภูเขา
ลมจากหน้าต่างลอดมา พลางพลิกชุดเรื่องสั้นเปิดทีละหน้า เราจ้องมองหนังสือที่ถูกเปิดโดยแรงลม
"นักเขียนคนโปรดเธอคือ โอเฮนรี่ ใช่มั้ย ?" เขาถามสายตาเข้มขรึม คิ้วขมวดน้อย ๆ
"ครับ เขาเป็นเทพเจ้าเรื่องสั้นหักมุม ผมมีหนังสือเขาทุกเล่ม บางเรื่องถูกสร้างเป็นภาพยนต์ด้วย แต่..." ผมหยุดนิดนึง
"ผมไม่คิดว่าตัวเอง จะประสบความสำเร็จสูงขนาดนั้นหรอกครับ..."
ชายชรามองผมนิ่งงันชั่วครู่ จากนั้นเอ่ยเสียงทุ้มลึก
"ทางเดียวที่จะบรรลุสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือ เธอต้องเชื่อว่ามันเป็นไปได้" เขากล่าวพร้อม ขยับร่างลุกบนเก้าอี้บุนวม
ยกมือซ้ายปัดฝ้า ที่เกิดจากไอเย็นบนกระจกหน้าต่างชั้นบน
"ใหนบอกฉันสิ เธอเห็นอะไร เมื่อมองเงาในกระจก" น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป ฟังดูหนักแน่น
ผมงุนงงเล็กน้อย แต่ก็ลุกขึ้นยืนตามที่เขาบอก ผมหันหน้าเข้ากระจกใส ข้างนอกมืดมาก เห็นเพียงเงาลาง ๆ ของตัวเองสะท้อนกลับมา...
"เอ่อ ผมเห็นผู้ชาย... "ผมหยุดไปสี่ห้าวินาที "ที่กังวลเกี่ยวกับทุกสิ่ง" ผมตอบหลังจากเงียบงันครู่นึง
"เปล่าเลย" ชายชราแย้ง "ฉันเห็นเด็กผู้ชายคนนึง ที่หลายครั้งหลายคราเขาได้แสดงความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว เพื่อลุยฝ่าความฝันตั้งหลายอย่าง
ฉันว่าเขายอดเยี่ยมมาก..." เขาตบหัวไหล่ผมเบา ๆ จากนั้นพูดต่อ
"เมื่อเธอยอมแพ้มันจะจบ แต่ถ้าเธอไม่ยอมแพ้ วันนั้นจะมาถึง... และเธอจะดีใจที่ไม่ยอมแพ้..." เขาขยิบตาข้างขวาให้ผม
"แต่จำไว้นะ อย่าเลิกเขียน อย่าให้พรสวรรค์ต้องเสียเปล่า..."
"ขอบคุณครับ" ใบหน้าผมสดใสขึ้น "คุณทำให้ผมอยากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม..."
เขาหัวเราะหึหึ เมื่อเห็นสีหน้าของผม
"นี่เป็นคำชมที่ดีที่สุด ในชีวิตฉัน..." ปลายหางตาเขามีรอยย่นเกิดขึ้น และรอยยิ้มที่มุมปากก็ดูบุ๋มลงทุกที แต่ทว่าสายตากลับทรงพลัง