เรื่องสั้นหนึ่งหน้ากระดาษ (1)

“ฉันอยากอยู่ในที่ที่แสงอาทิตย์ส่องอยู่อย่างนั้นทั้งคืนวัน” ทั้งเธอและผมนั่งอยู่บนสะพานไม้ ห้อยขาไปมา เท้าทั้งสี่ของเรานั้นแกว่งล้อกับคลื่นน้ำคลองที่ซัดเข้าตลิ่ง บ้านเรือนเก่าๆทั้งสองฝั่งสงบนิ่ง ยินเสียงเด็กเล็กวิ่งอยู่ไกลๆ เราเตรียมกรวดหินมาหลายๆก้อนจนเต็มกำมือก่อนขึ้นสะพาน เราขว้างมันไปทีละก้อน

         “มันไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน ถ้าคุณคิดแบบนั้น นอร์เวย์หรือไม่ก็สวีเดนในช่วงหน้าร้อนก็มีแบบนั้น” ผมตอบเธอไป

         “คุณเคยนั่งรถไฟในทิเบต ตอนกลางวันในฤดูร้อนไหมล่ะ?” เธอเจาะจงสถานที่ และเอ่ยต่อ “มันมหัศจรรย์เลยล่ะ…ฉันอยากจะเก็บภาพข้างนอกรถไฟทุกๆภาพที่ฉันเห็น ทว่ากล้องที่ฉันพกมาก็ดันเสียซะก่อนในตอนนั้น ฉันเลยไม่ได้ถ่ายมันไว้เลยสักภาพ”

         “ฉันอยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนั้น ทั้งฉัน รถไฟ และดวงอาทิตย์ในยามก่อนเที่ยง ตลอดกาลเลยล่ะหากเป็นไปได้ แต่ถ้าเวลามันไม่หยุดเราทั้งสามไว้ อย่างน้อย ฉันก็อยากให้รถไฟวิ่งแล่นอยู่เรื่อยไป พาฉันท่องผ่านทุ่งหญ้า หรือป่าสนสีเขียว มีแสงอาทิตย์ส่องลงมาท่ามกลางแมกไม้ เสียงของล้อรถไฟจะเสียดกับรางรถไฟอยู่อย่างนั้น ฉันจะชะโงกหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าตรงหน้าต่าง รับลมที่โบกผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ฉันจะนั่งอยู่อย่างนั้น และหากชีวิตฉันจะถึงจุดจบ ฉันจะให้รถไฟหยุดตรงกลางสะพานข้ามลำห้วย แล้วฉันก็จะเดินออกมา ฉันคงนึกไม่ออกว่าจะทำอะไร บางที ฉันอาจจะกระโดดลงมาจากสะพานนั้น ฉันก็คงจะไม่มีชีวิตอยู่ แต่รถไฟของฉันและพระอาทิตย์ของฉันจะยังคงอยู่อย่างนั้น” ผมรับฟังเธอ หยุดคิดตามที่เธอเล่า

         “ไม่เลวเลย แม้ว่าเวลาจะหยุดไม่ได้ แต่คุณก็เลือกที่จะกลับไปนั่งรถไฟขบวนนั้นได้นี่”  

         “มันไม่เหมือนเดิมหรอก แม้ว่าฉันจะกลับไปที่นั่น ต่อให้เป็นวันและเวลาเดิม หรือแม้นว่ารถไฟขบวนเดิม เส้นทางเดิม กระทั่งพระอาทิตย์ดวงเดิม ฉันก็จะไม่รู้สึกเหมือนเดิมอีกแล้ว” นั่นสิ ผมคิดในใจ พร้อมกับหันมามองเธอที่กำลังก้มหน้ามองดูน้ำในคลอง ผมเข้าใจความรู้สึกของเธอดี ความรู้สึกบางอย่างจะถูกใช้งานแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นให้ห้วงเวลาแห่งอดีต มันไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้นนอกจากว่า ’มันผ่านมาแล้ว

         ผมกับเธอยังคงนั่งแกว่งขา เสียงเรือหางยาวแล่นจากชายคลองตรงนั้น ก้อนหินในมือของเราใกล้จะหมด เช่นเดียวกับแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า ผมไม่ตอบเธอไปหรอกว่าช่วงเวลาที่ผมสุขใจอย่างเปี่ยมล้นเกิดขึ้นในเวลาใด อย่างที่เธอบอก บางอย่างมันก็ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่แล้ว แล้วมันจะไม่มีวันหวนกลับมา แม้ว่าพระอาทิตย์ดวงนั้นจะโผล่ขึ้นขอบฟ้าในเช้าอีกวัน


                          

                                                                                          <จบ>
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่