--------------------------------------
สวัสดีค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งรับหน้าร้อน 2022 ค่ะ
ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุขกับเรื่องนี้นะคะ
--------------------------------------
1
ผมเฝ้ามองรถไฟขบวนนั้น ออกจากชานชาลาสถานีรถไฟ
มันเป็นฤดูร้อนที่อากาศอบอุ่นมากกว่าจะอบอ้าว -- มีสายลมพัดผ่านมาเบาๆ จนทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความเย็นชื้นของเหงื่อที่ไหลอาบไปทั่วใบหน้าและลำคอของตนเอง
หากแต่ผมสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนบนใบหน้าของตนเองด้วยเช่นเดียวกัน
แล้ววินาทีถัดมาผมก็รับรู้ว่ามันคือน้ำตาของผมเอง
และนั่นทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว ราวกับเพิ่งลืมตาตื่นหลังจากฝันร้าย
พลันสองเท้าของผมก็ค่อยๆก้าวไปเบื้องหน้า -- ค่อยๆเร่งฝีเท้า จนกลายเป็นออกวิ่ง
ผมต้องขึ้นรถไฟขบวนนั้น!
ผมไม่อาจรับรู้อะไรอื่นได้อีก นอกจากเสียงล้อรถไฟที่ดังก้องกังวานไปทั่วชานชาลา
ผมกัดฟันแน่น รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ออกวิ่งเต็มฝีเท้าเพื่อไล่ตามท้ายขบวนนั้นให้ทัน
ผมยื่นมือออกไปเบื้องหน้า พยายามไขว่คว้าราวเหล็กที่อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่คืบ
ผมต้องขึ้นรถไฟนี้ให้ได้
ผมต้องทำให้ได้
โครม!
ผมสะดุดล้มลง
ผมเงยหน้าขึ้น รีบทรงตัวลุกกลับขึ้นมา หากแต่รถไฟขบวนนั้นก็อยู่ไกลจากชานชาลาแห่งนี้ไปเสียแล้ว
ผมมาช้าเกินไป --
แวบนั้นผมรู้สึกสูญเสียการทรงตัว ท่อนขาคล้ายจะอ่อนแรงขึ้นมาชั่วขณะ ร่างทั้งร่างซวนเซ หล่นลงจากขอบชานชาลา
หากแต่ใครคนหนึ่งได้ฉุดผมเอาไว้ ไม่ให้หล่นลงไป
“เธอทิ้งคุณ” เสียงของเด็กสาวคนนั้นบอกผมมาจากทางด้านหลัง ขณะกอดผมไว้แน่น “อย่าไล่ตามเธออีกเลย”
ตอนนั้นเองที่หัวใจของผมได้แตกสลาย พังทลาย จนแทบไม่อาจเรียกว่าเป็นชีวิตได้อีกต่อไป
ผมรู้สึกว่างเปล่า -- ปราศจากซึ่งความรู้สึกอื่นใดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และความว่างเปล่านั้นก็ทำให้ผมหลงทาง -- ไม่สามารถหาหนทางออกไปจากชานชาลาแห่งนี้ได้อีกเลย
SHE,SUMMER เธอ,ฤดูร้อน (1)
มันเป็นฤดูร้อนที่อากาศอบอุ่นมากกว่าจะอบอ้าว -- มีสายลมพัดผ่านมาเบาๆ จนทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความเย็นชื้นของเหงื่อที่ไหลอาบไปทั่วใบหน้าและลำคอของตนเอง
หากแต่ผมสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนบนใบหน้าของตนเองด้วยเช่นเดียวกัน
แล้ววินาทีถัดมาผมก็รับรู้ว่ามันคือน้ำตาของผมเอง
และนั่นทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว ราวกับเพิ่งลืมตาตื่นหลังจากฝันร้าย
พลันสองเท้าของผมก็ค่อยๆก้าวไปเบื้องหน้า -- ค่อยๆเร่งฝีเท้า จนกลายเป็นออกวิ่ง
ผมต้องขึ้นรถไฟขบวนนั้น!
ผมไม่อาจรับรู้อะไรอื่นได้อีก นอกจากเสียงล้อรถไฟที่ดังก้องกังวานไปทั่วชานชาลา
ผมกัดฟันแน่น รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ออกวิ่งเต็มฝีเท้าเพื่อไล่ตามท้ายขบวนนั้นให้ทัน
ผมยื่นมือออกไปเบื้องหน้า พยายามไขว่คว้าราวเหล็กที่อยู่ห่างไปเพียงไม่กี่คืบ
ผมต้องขึ้นรถไฟนี้ให้ได้
ผมต้องทำให้ได้
โครม!
ผมสะดุดล้มลง
ผมเงยหน้าขึ้น รีบทรงตัวลุกกลับขึ้นมา หากแต่รถไฟขบวนนั้นก็อยู่ไกลจากชานชาลาแห่งนี้ไปเสียแล้ว
ผมมาช้าเกินไป --
แวบนั้นผมรู้สึกสูญเสียการทรงตัว ท่อนขาคล้ายจะอ่อนแรงขึ้นมาชั่วขณะ ร่างทั้งร่างซวนเซ หล่นลงจากขอบชานชาลา
หากแต่ใครคนหนึ่งได้ฉุดผมเอาไว้ ไม่ให้หล่นลงไป
“เธอทิ้งคุณ” เสียงของเด็กสาวคนนั้นบอกผมมาจากทางด้านหลัง ขณะกอดผมไว้แน่น “อย่าไล่ตามเธออีกเลย”
ตอนนั้นเองที่หัวใจของผมได้แตกสลาย พังทลาย จนแทบไม่อาจเรียกว่าเป็นชีวิตได้อีกต่อไป
ผมรู้สึกว่างเปล่า -- ปราศจากซึ่งความรู้สึกอื่นใดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และความว่างเปล่านั้นก็ทำให้ผมหลงทาง -- ไม่สามารถหาหนทางออกไปจากชานชาลาแห่งนี้ได้อีกเลย