ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ ๑
https://ppantip.com/topic/38182471
ตอนที่ ๒
https://ppantip.com/topic/38201894
ตอนที่ ๓
https://ppantip.com/topic/38222772
ตอนที่ ๔
https://ppantip.com/topic/38244528
ตอนที่ ๕
https://ppantip.com/topic/38267741
ตอนที่ ๖
https://ppantip.com/topic/38286854
ตอนที่ ๗
https://ppantip.com/topic/38310587
ตอนที่ ๘
https://ppantip.com/topic/38336944
ตอนที่ ๙
https://ppantip.com/topic/38365655
ตอนที่ ๑๐
https://ppantip.com/topic/38546405
ตอนที่ ๑๑
https://ppantip.com/topic/38567188
..........เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ ๑๒ ( ภาษากระเหรี่ยง )
..........สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ตอนที่แล้ว ผมคุยเพลินไปหน่อย เลยใส่ภาษาบ้านตัวเองปนลงไปในเรื่อง ด้วยความที่ใช้อยู่จนชิน เลยลืมนึกไป ว่าคนอื่นเค้าอ่านแล้วจะ งง แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมต้องศึกษาอีกเยอะเลย เพราะการที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ไม่ได้สุงสิงกับใคร เลยไม่ค่อยได้ส่งสำเนียงเหน่อ ๆ ออกไปให้ใครได้ยิน
การได้มาหัดเขียนเรื่องลงในพันทิป กลายเป็นว่า ได้ฝึกใช้ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียนโดยตรง และได้เจอกัลยาณมิตร มากมาย ที่มาให้กำลังใจ และคำแนะนำ เรามาคุยเรื่องนี้กันสักตอนนะครับ มาลองคุยเรื่องภาษากันดู แต่ภาษาบ้านผม เอาไว้โอกาสดี ๆ ค่อยว่ากัน วันนี้เรามาหัดพูดภาษากระเหรี่ยง เผื่อเครื่องบินไปน้ำมันหมดแถวท่าสองยาง จะได้ไม่อดข้าวกันครับ
งานที่หนัก และต้องแข่งกับเวลาด้วยนี่ มันทำคนเดียวไม่ได้แน่นอนครับ จริง ๆ แล้วมันก็ได้หรอกนะ แต่มันจะช้า ถึงช้ามาก ก็เลยต้องมีคนช่วย ทีนี้คนที่มาช่วยเรา ก็ต้องคุยกันรู้เรื่องด้วย ถ้าคุยไม่รู้เรื่อง คำว่า ช้า คงไม่พอสำหรับวันนี้
โรงน้ำแข็ง จะว่างานหนักเกินไป ก็ไม่น่าจะใช่ ถังแก๊ส ก็หนักพอ ๆ กัน ยิ่งข้าวสารยิ่งหนักกว่ามาก เด็กร้านแก๊ส กับคนงานโรงสี ทำไมเค้าอยู่กับงานของเค้าได้
เด็กโรงน้ำแข็ง ที่ทำได้ไม่เท่าไรก็ออก น่าจะเป็นความผันผวนทางด้านเวลามากกว่า ตัวแปรที่ทำให้เวลาคลาดเคลื่อนนั้นมีมากมาย เครื่องเสีย รถเสีย ไฟดับ ทำให้เวลาเลิกงานต้องยืดไปหลายชั่วโมง และความต้องการของตลาดในแต่ละวัน ก็คาดการณ์อะไรไม่ได้ ลูกค้าที่สั่งเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้การนัดหมายกับใครเป็นไปได้ยาก พวกหนุ่ม ๆ เลยคิดกลับไปอยู่บ้านดีกว่า
บรรดาเถ้าแก่ทั้งหลาย จึงต้องไปค้นหาแรงงานต่างชาติมาทดแทน โดยเฉพาะโรงน้ำแข็ง ที่ตอนนี้กระเหรี่ยงเริ่มมีมากกว่าคนไทย ข้อดีก็คือ บ้านอยู่ไกล กลับยาก เลยไม่ค่อยจะลาหยุด แต่ข้อด้อยก็มี คือ ไปบ้านทีนานเป็นเดือน
ทีนี้ กระเหรี่ยงมาใหม่ อยู่ในโรงงานก็ไม่เท่าไร เพราะอยู่กันมาก และกระเหรี่ยงคนเก่า ๆ เริ่มฟังภาษาไทยได้ รับงานไป ก็ส่งภาษาบอกพวกกัน งานก็เดินไปได้ แล้วคนขับ คนไทย ไปกับกระเหรี่ยงมาใหม่ล่ะ
คงจำเดวาตอนมาใหม่ ๆ ได้นะครับ เดวา ผู้ดับฝันของเจ้าโบ้ ตื่นสายไม่เจอใคร อุตส่าห์ได้เดวาไปช่วยแล้วเชียว หนักไปกว่าเก่าอีก ดังนั้น ใครได้เด็กท้ายเป็นงาน แล้วก็คุยรู้เรื่อง จะรักษากันไว้อย่างดี ไม่ให้หลุดมือไปง่าย ๆ ส่วนคนมาใหม่ ไม่มีใครอยากเอาไปเท่าไร ไปด้วยกัน เหมือนทำให้เหนื่อยขึ้นกว่าเดิมมากกว่า แล้วถ้าหลบไม่ได้ ต้องไปด้วยกันจริง ๆ ล่ะ จะทำยังไง ก็ต้องทำใจละครับ มันจะไปทำอะไรได้
ผมไปกับคนงานใหม่บ่อยมาก ไม่รู้ว่าเถ้าแก่เห็นว่าหน้าผมคล้ายกระเหรี่ยงหรือเปล่า ผมก็เดาไม่ออก รู้อย่างเดียวเหนื่อยใจแทบขาด พูดกับเค้า ก็มองหน้าเรานิ่ง พอพูดซ้ำ ก็ยิ้มแล้วก็นั่ง เฉย ๆ เราก็ต้องปีนขึ้นไปดึงน้ำแข็งลงมาเอง ต้องปีนนะครับ เพราะขอบตู้ท้ายรถสูงเท่าหน้าอกผมแน่ะ
โดดขึ้นโดดลงพร้อมทั้งบอกไปด้วย ว่าถุงนี้ อนามัย ถุงนี้บด นี่หลอดเล็ก ชูมือให้ดู อันนี้หนึ่ง สอง สาม เข้าใจมั้ย พวกก็ยิ้มแหย ๆ เอ้า ปีนต่อไปเรา ตัวเตี้ยอยู่แล้วยิ่งเตี้ยไปใหญ่
เหนื่อยก็เหนื่อย เริ่มท้อจนอยากจะลาออกไปกับเค้าอีกคน แต่นึกไปนึกมา เค้าออกไปอยู่บ้านกัน เค้าก็มีข้าวกิน มีพ่อมีแม่ ถึงจะถูกบ่นถูกว่ายังไง ก็ยังมีที่ซุกหัวนอน ไอ้เรา พ่อแม่ก็ไปหมดแล้ว พี่น้องก็กระจัดกระจาย ถึงจะหากันเจอ แต่ดูแล้วสภาพมันก็พอ ๆ กัน คงพึ่งใครไม่ได้หรอก
ความคิดผุดขึ้นมาในวันหนึ่ง หลังส่งน้ำแข็งรอบเช้าเสร็จ กำลังรอขึ้นน้ำแข็งรอบบ่าย มีกระเหรี่ยงอยู่หน้าหวอด พูดไทยได้หลายคน ลองถามคนนึง ชื่อ พะตุ อยู่แม่ตื่น บ้านเดียวกับเดวา เจ้าตุนี่เรียนถึงชั้นประถมหก เขียนหนังสือไทยได้ด้วย ถามว่าจะสอนภาษากระเหรี่ยงให้มั่งได้มั้ย เค้าก็บอกว่าได้ สงสัยว่าพี่แผนอยากรู้ทำไม บอกว่าจะเอาไว้คุยกับคนใหม่ เค้าก็ดีใจ ที่มีคนสนใจภาษาบ้านตัวเอง
แล้วจะเริ่มยังไงก่อน วันสองวันคงยังไปไม่ถึงไหนหรอก ต้องเรียนคำที่ใช้งานบ่อยที่สุด แล้วค่อยเพิ่มคำอื่นทีหลัง เลยเริ่มที่จำนวนนับ ส่วนอนามัย บด ก้อน พวกนี้ทับศัพท์ไปได้เลย เพราะบ้านเค้ามีน้ำแข็ง ก็คือน้ำแข็งอย่างเดียว คำว่าอนามัย บด อะไรเหล่านี้ก็คือคำศัพท์ใหม่ของเค้าเช่นกัน
วันนี้ เอาสามคำก่อน ลิ้นเรายังไม่คุ้น แต่โชคดี ที่ พะตุ เขียนหนังสือไทยได้ ไม่งั้นพูดมาบางคำ เราออกเสียงตามยังไงก็ไม่ได้ พะตุต้องสะกดให้ฟังทีละตัว ผมก็ค่อย ๆ พูดตาม
หนึ่ง ก็คือ เตอ , สอง คี , สาม เซอ เอ้า แล้วหนึ่งถุงล่ะ เตอเพ่อ พะตุบอก เตอ คือหนึ่ง เพ่อ แปลว่าถุง หรือ ลูก ที่เราเรียกแทนกระสอบน้ำแข็ง จริง ๆ แล้วออกเสียง ประมาณ พา เลอะ ให้ไว ๆ แต่ เพ่อ เค้าก็เข้าใจ อีกคำ ความหมายเดียวกัน คือ แต้ แปลว่า ถุง หรือ ลูก เราก็ได้ละ เสร็จโก๋ รอบบ่ายสบายอุรา
เร็วขึ้นมานิดนึงจริง ๆ แค่สามคำประกาศิต แต่มาติดตรงสีถุงนิดเดียว โรงงานแยกถุงอนามัย กับ บดมาคนละสี เวลายกจะได้ไม่ต้องมามัวคลำดู ถามเจ้าคนที่ไปด้วย ก็ไม่เข้าใจคำถาม ไม่เป็นไร กลับโรงงานค่อยว่ากันใหม่
ได้ผลแล้วก็สนุกละสิทีนี้ พอกลับโรงงานก็พุ่งไปหา พะตุ เรียนต่อ สีขาว เรียก วา , สีเขียว ลา อนามัยใส่ถุงสีขาว เราก็ใช้ แต้วา , สองถุง ก็ คีเพ่อ รวมกันเป็น แต้วา คีเพ่อ คือ ถุงสีขาวน่ะ สองถุงนะ พอจะใช้ ถุงเขียว สามถุง ก็บอก แต้ลา เซอเพ่อ พวกชอบใจใหญ่เลย คนไทยพูดกระเหรี่ยง
ไอ้ที่ผมถูกใจก็ตรงได้กลับบ้านไวนี่แหละ แต่ผลพลอยได้ คือ รู้ภาษาเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง และ เดินไปไหนในโรงงานเจอกระเหรี่ยง ยิ้มให้ทุกคน กลายเป็นขวัญใจไปเลยทีนี้
พอของเดิมคล่องแล้วก็ต่อสิ ขับรถไปเราจะพูดอะไรกับเด็กท้ายมั่งเราก็จำไว้ กลับมาถาม พะตุ พอครั้งต่อไปเราก็พูดเป็น อย่างเปิดปิดประตูตู้ท้ายรถ ถ้าลืมปิดมันจะเปิดอ้าไปฟาดรถคันอื่น หรือคนเดินถนนได้
ถ้าคนไทยไปด้วยเราจะถามว่า ปิดประตูหรือยัง กับกระเหรี่ยงก็ ปิ แกร่ เรีย ปิ ปิด , แกร่ ประตู , เรีย หรือยัง ถ้าเด็กท้ายบอก วี รี้ ก็แปลว่าเสร็จแล้ว รี้ นี่ออกเสียงสั้นกว่าไม้โทนิดนึงนะครับ ไม่สั้นเท่า ริ แต่ยาวกว่า รี หน่อย งง มั้ยครับ ถ้า งง จะได้เป็นเพื่อนผม กว่าจะออกเสียงได้แต่ละคำ พวกขำกันทั้งโรงงาน และถ้าเค้าจำไม่ได้เค้าจะบอก ซา บี เนาะ ลืม ถ้าไม่รู้ ก็ ซือ ยา บะ ไม่รู้ , ยา ตัวนี้ ต้องแยกเขี้ยวแล้วทำเสียงขึ้นจมูกนะ ลองทำดู แต่หลบ ๆ หน่อยนะครับ คนในบ้านเห็น เค้าจะไม่เข้าใจ
ไปไหนมา แล แพ แล , กินข้าวหรือยัง ออ เหม่ เรีย , กินข้าวไหม ออ เหม่ หยา ท่องไปท่องมา เลยคิดว่า งานแค่อย่างเดียว แล้ววันนึง ทำไม่กี่ชั่วโมง เราต้องใช้คำพูดกันมากขนาดนี้เลยเหรอ สังเกตจากศัพท์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ที่คุยได้แล้วก็แล้วไป พอจะพูดไอ้ที่ไม่รู้ ก็จำไว้ พอถึงโรงงานต้องรีบถามเลย เดี๋ยวลืม เพราะมันใช้งานจริง ๆ ทุกวัน และคนใหม่ก็มีมาเรื่อย ๆ เค้าก็ยกให้ผมตลอด แต่ตอนนี้เริ่มสบายละ คุยกันรู้เรื่อง แต่ก็ในงานเท่านั้นนะครับ จะมาพูดยาว ๆ กับผม เดี๋ยวผมก็ยิ้มแหย ๆ ให้มั่งหรอก
เสร็จหรือยัง วี รี้ เรีย , ยังไม่เสร็จ วี รี้ บ่า , บ่า เป็นคำปฏิเสธ แปลว่า ยัง - ไม่ ออกเสียงยาวกว่า บ่า นิดนึง แต่สั้นกว่า บา , พอ บารี , พอหรือยัง บารี เรีย เลยจับจุดได้นิด ๆ คำถาม คำตอบรับ จะเหมือนกัน แค่เปลี่ยนคำนาม หรือกิริยา ก็ใช้ได้ สนุกไปอีกทีนี้ สร้างรูปประโยคได้แล้ว ก็เรียนศัพท์ทีละคำ ส่วนจำนวนนับนั้นได้ครบเรียบร้อย
( มีต่อครับ )
........เรื่องเล่าหลังโรงงาน เรื่อง เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ ๑๒ โดย ลุงแผน.........@@
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
..........เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ ๑๒ ( ภาษากระเหรี่ยง )
..........สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ตอนที่แล้ว ผมคุยเพลินไปหน่อย เลยใส่ภาษาบ้านตัวเองปนลงไปในเรื่อง ด้วยความที่ใช้อยู่จนชิน เลยลืมนึกไป ว่าคนอื่นเค้าอ่านแล้วจะ งง แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมต้องศึกษาอีกเยอะเลย เพราะการที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ไม่ได้สุงสิงกับใคร เลยไม่ค่อยได้ส่งสำเนียงเหน่อ ๆ ออกไปให้ใครได้ยิน
การได้มาหัดเขียนเรื่องลงในพันทิป กลายเป็นว่า ได้ฝึกใช้ทั้งภาษาพูด และภาษาเขียนโดยตรง และได้เจอกัลยาณมิตร มากมาย ที่มาให้กำลังใจ และคำแนะนำ เรามาคุยเรื่องนี้กันสักตอนนะครับ มาลองคุยเรื่องภาษากันดู แต่ภาษาบ้านผม เอาไว้โอกาสดี ๆ ค่อยว่ากัน วันนี้เรามาหัดพูดภาษากระเหรี่ยง เผื่อเครื่องบินไปน้ำมันหมดแถวท่าสองยาง จะได้ไม่อดข้าวกันครับ
งานที่หนัก และต้องแข่งกับเวลาด้วยนี่ มันทำคนเดียวไม่ได้แน่นอนครับ จริง ๆ แล้วมันก็ได้หรอกนะ แต่มันจะช้า ถึงช้ามาก ก็เลยต้องมีคนช่วย ทีนี้คนที่มาช่วยเรา ก็ต้องคุยกันรู้เรื่องด้วย ถ้าคุยไม่รู้เรื่อง คำว่า ช้า คงไม่พอสำหรับวันนี้
โรงน้ำแข็ง จะว่างานหนักเกินไป ก็ไม่น่าจะใช่ ถังแก๊ส ก็หนักพอ ๆ กัน ยิ่งข้าวสารยิ่งหนักกว่ามาก เด็กร้านแก๊ส กับคนงานโรงสี ทำไมเค้าอยู่กับงานของเค้าได้
เด็กโรงน้ำแข็ง ที่ทำได้ไม่เท่าไรก็ออก น่าจะเป็นความผันผวนทางด้านเวลามากกว่า ตัวแปรที่ทำให้เวลาคลาดเคลื่อนนั้นมีมากมาย เครื่องเสีย รถเสีย ไฟดับ ทำให้เวลาเลิกงานต้องยืดไปหลายชั่วโมง และความต้องการของตลาดในแต่ละวัน ก็คาดการณ์อะไรไม่ได้ ลูกค้าที่สั่งเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้การนัดหมายกับใครเป็นไปได้ยาก พวกหนุ่ม ๆ เลยคิดกลับไปอยู่บ้านดีกว่า
บรรดาเถ้าแก่ทั้งหลาย จึงต้องไปค้นหาแรงงานต่างชาติมาทดแทน โดยเฉพาะโรงน้ำแข็ง ที่ตอนนี้กระเหรี่ยงเริ่มมีมากกว่าคนไทย ข้อดีก็คือ บ้านอยู่ไกล กลับยาก เลยไม่ค่อยจะลาหยุด แต่ข้อด้อยก็มี คือ ไปบ้านทีนานเป็นเดือน
ทีนี้ กระเหรี่ยงมาใหม่ อยู่ในโรงงานก็ไม่เท่าไร เพราะอยู่กันมาก และกระเหรี่ยงคนเก่า ๆ เริ่มฟังภาษาไทยได้ รับงานไป ก็ส่งภาษาบอกพวกกัน งานก็เดินไปได้ แล้วคนขับ คนไทย ไปกับกระเหรี่ยงมาใหม่ล่ะ
คงจำเดวาตอนมาใหม่ ๆ ได้นะครับ เดวา ผู้ดับฝันของเจ้าโบ้ ตื่นสายไม่เจอใคร อุตส่าห์ได้เดวาไปช่วยแล้วเชียว หนักไปกว่าเก่าอีก ดังนั้น ใครได้เด็กท้ายเป็นงาน แล้วก็คุยรู้เรื่อง จะรักษากันไว้อย่างดี ไม่ให้หลุดมือไปง่าย ๆ ส่วนคนมาใหม่ ไม่มีใครอยากเอาไปเท่าไร ไปด้วยกัน เหมือนทำให้เหนื่อยขึ้นกว่าเดิมมากกว่า แล้วถ้าหลบไม่ได้ ต้องไปด้วยกันจริง ๆ ล่ะ จะทำยังไง ก็ต้องทำใจละครับ มันจะไปทำอะไรได้
ผมไปกับคนงานใหม่บ่อยมาก ไม่รู้ว่าเถ้าแก่เห็นว่าหน้าผมคล้ายกระเหรี่ยงหรือเปล่า ผมก็เดาไม่ออก รู้อย่างเดียวเหนื่อยใจแทบขาด พูดกับเค้า ก็มองหน้าเรานิ่ง พอพูดซ้ำ ก็ยิ้มแล้วก็นั่ง เฉย ๆ เราก็ต้องปีนขึ้นไปดึงน้ำแข็งลงมาเอง ต้องปีนนะครับ เพราะขอบตู้ท้ายรถสูงเท่าหน้าอกผมแน่ะ
โดดขึ้นโดดลงพร้อมทั้งบอกไปด้วย ว่าถุงนี้ อนามัย ถุงนี้บด นี่หลอดเล็ก ชูมือให้ดู อันนี้หนึ่ง สอง สาม เข้าใจมั้ย พวกก็ยิ้มแหย ๆ เอ้า ปีนต่อไปเรา ตัวเตี้ยอยู่แล้วยิ่งเตี้ยไปใหญ่
เหนื่อยก็เหนื่อย เริ่มท้อจนอยากจะลาออกไปกับเค้าอีกคน แต่นึกไปนึกมา เค้าออกไปอยู่บ้านกัน เค้าก็มีข้าวกิน มีพ่อมีแม่ ถึงจะถูกบ่นถูกว่ายังไง ก็ยังมีที่ซุกหัวนอน ไอ้เรา พ่อแม่ก็ไปหมดแล้ว พี่น้องก็กระจัดกระจาย ถึงจะหากันเจอ แต่ดูแล้วสภาพมันก็พอ ๆ กัน คงพึ่งใครไม่ได้หรอก
ความคิดผุดขึ้นมาในวันหนึ่ง หลังส่งน้ำแข็งรอบเช้าเสร็จ กำลังรอขึ้นน้ำแข็งรอบบ่าย มีกระเหรี่ยงอยู่หน้าหวอด พูดไทยได้หลายคน ลองถามคนนึง ชื่อ พะตุ อยู่แม่ตื่น บ้านเดียวกับเดวา เจ้าตุนี่เรียนถึงชั้นประถมหก เขียนหนังสือไทยได้ด้วย ถามว่าจะสอนภาษากระเหรี่ยงให้มั่งได้มั้ย เค้าก็บอกว่าได้ สงสัยว่าพี่แผนอยากรู้ทำไม บอกว่าจะเอาไว้คุยกับคนใหม่ เค้าก็ดีใจ ที่มีคนสนใจภาษาบ้านตัวเอง
แล้วจะเริ่มยังไงก่อน วันสองวันคงยังไปไม่ถึงไหนหรอก ต้องเรียนคำที่ใช้งานบ่อยที่สุด แล้วค่อยเพิ่มคำอื่นทีหลัง เลยเริ่มที่จำนวนนับ ส่วนอนามัย บด ก้อน พวกนี้ทับศัพท์ไปได้เลย เพราะบ้านเค้ามีน้ำแข็ง ก็คือน้ำแข็งอย่างเดียว คำว่าอนามัย บด อะไรเหล่านี้ก็คือคำศัพท์ใหม่ของเค้าเช่นกัน
วันนี้ เอาสามคำก่อน ลิ้นเรายังไม่คุ้น แต่โชคดี ที่ พะตุ เขียนหนังสือไทยได้ ไม่งั้นพูดมาบางคำ เราออกเสียงตามยังไงก็ไม่ได้ พะตุต้องสะกดให้ฟังทีละตัว ผมก็ค่อย ๆ พูดตาม
หนึ่ง ก็คือ เตอ , สอง คี , สาม เซอ เอ้า แล้วหนึ่งถุงล่ะ เตอเพ่อ พะตุบอก เตอ คือหนึ่ง เพ่อ แปลว่าถุง หรือ ลูก ที่เราเรียกแทนกระสอบน้ำแข็ง จริง ๆ แล้วออกเสียง ประมาณ พา เลอะ ให้ไว ๆ แต่ เพ่อ เค้าก็เข้าใจ อีกคำ ความหมายเดียวกัน คือ แต้ แปลว่า ถุง หรือ ลูก เราก็ได้ละ เสร็จโก๋ รอบบ่ายสบายอุรา
เร็วขึ้นมานิดนึงจริง ๆ แค่สามคำประกาศิต แต่มาติดตรงสีถุงนิดเดียว โรงงานแยกถุงอนามัย กับ บดมาคนละสี เวลายกจะได้ไม่ต้องมามัวคลำดู ถามเจ้าคนที่ไปด้วย ก็ไม่เข้าใจคำถาม ไม่เป็นไร กลับโรงงานค่อยว่ากันใหม่
ได้ผลแล้วก็สนุกละสิทีนี้ พอกลับโรงงานก็พุ่งไปหา พะตุ เรียนต่อ สีขาว เรียก วา , สีเขียว ลา อนามัยใส่ถุงสีขาว เราก็ใช้ แต้วา , สองถุง ก็ คีเพ่อ รวมกันเป็น แต้วา คีเพ่อ คือ ถุงสีขาวน่ะ สองถุงนะ พอจะใช้ ถุงเขียว สามถุง ก็บอก แต้ลา เซอเพ่อ พวกชอบใจใหญ่เลย คนไทยพูดกระเหรี่ยง
ไอ้ที่ผมถูกใจก็ตรงได้กลับบ้านไวนี่แหละ แต่ผลพลอยได้ คือ รู้ภาษาเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง และ เดินไปไหนในโรงงานเจอกระเหรี่ยง ยิ้มให้ทุกคน กลายเป็นขวัญใจไปเลยทีนี้
พอของเดิมคล่องแล้วก็ต่อสิ ขับรถไปเราจะพูดอะไรกับเด็กท้ายมั่งเราก็จำไว้ กลับมาถาม พะตุ พอครั้งต่อไปเราก็พูดเป็น อย่างเปิดปิดประตูตู้ท้ายรถ ถ้าลืมปิดมันจะเปิดอ้าไปฟาดรถคันอื่น หรือคนเดินถนนได้
ถ้าคนไทยไปด้วยเราจะถามว่า ปิดประตูหรือยัง กับกระเหรี่ยงก็ ปิ แกร่ เรีย ปิ ปิด , แกร่ ประตู , เรีย หรือยัง ถ้าเด็กท้ายบอก วี รี้ ก็แปลว่าเสร็จแล้ว รี้ นี่ออกเสียงสั้นกว่าไม้โทนิดนึงนะครับ ไม่สั้นเท่า ริ แต่ยาวกว่า รี หน่อย งง มั้ยครับ ถ้า งง จะได้เป็นเพื่อนผม กว่าจะออกเสียงได้แต่ละคำ พวกขำกันทั้งโรงงาน และถ้าเค้าจำไม่ได้เค้าจะบอก ซา บี เนาะ ลืม ถ้าไม่รู้ ก็ ซือ ยา บะ ไม่รู้ , ยา ตัวนี้ ต้องแยกเขี้ยวแล้วทำเสียงขึ้นจมูกนะ ลองทำดู แต่หลบ ๆ หน่อยนะครับ คนในบ้านเห็น เค้าจะไม่เข้าใจ
ไปไหนมา แล แพ แล , กินข้าวหรือยัง ออ เหม่ เรีย , กินข้าวไหม ออ เหม่ หยา ท่องไปท่องมา เลยคิดว่า งานแค่อย่างเดียว แล้ววันนึง ทำไม่กี่ชั่วโมง เราต้องใช้คำพูดกันมากขนาดนี้เลยเหรอ สังเกตจากศัพท์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ที่คุยได้แล้วก็แล้วไป พอจะพูดไอ้ที่ไม่รู้ ก็จำไว้ พอถึงโรงงานต้องรีบถามเลย เดี๋ยวลืม เพราะมันใช้งานจริง ๆ ทุกวัน และคนใหม่ก็มีมาเรื่อย ๆ เค้าก็ยกให้ผมตลอด แต่ตอนนี้เริ่มสบายละ คุยกันรู้เรื่อง แต่ก็ในงานเท่านั้นนะครับ จะมาพูดยาว ๆ กับผม เดี๋ยวผมก็ยิ้มแหย ๆ ให้มั่งหรอก
เสร็จหรือยัง วี รี้ เรีย , ยังไม่เสร็จ วี รี้ บ่า , บ่า เป็นคำปฏิเสธ แปลว่า ยัง - ไม่ ออกเสียงยาวกว่า บ่า นิดนึง แต่สั้นกว่า บา , พอ บารี , พอหรือยัง บารี เรีย เลยจับจุดได้นิด ๆ คำถาม คำตอบรับ จะเหมือนกัน แค่เปลี่ยนคำนาม หรือกิริยา ก็ใช้ได้ สนุกไปอีกทีนี้ สร้างรูปประโยคได้แล้ว ก็เรียนศัพท์ทีละคำ ส่วนจำนวนนับนั้นได้ครบเรียบร้อย
( มีต่อครับ )