........เรื่องเล่าหลังโรงงาน เรื่อง เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ ๕ โดย ลุงแผน.........@@

กระทู้สนทนา


          ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



...........เด็กโรงน้ำแข็ง     ตอนที่  ๕     ( เด็กท้าย )

          เด็กท้าย  อภิมหาอมตะมหาตำนาน ในโรงงานมาตั้งแต่รุ่นอากง ที่ท่านเริ่มสร้างโรงน้ำแข็งมา และถ้าจะจัดสิบอันดับสิ่งสำคัญในโรงงานละก็ เด็กท้ายต้องติดอันดับหนึ่งในสิบแน่นอน ตามมุมมองทั่ว ๆ ไปคนงานที่ขับรถไม่ได้เป็นช่างก็ไม่ได้ คอยแบกของอย่างเดียวก็คือคนงานธรรมดา ๆ       คนนึงแต่งตัวมอม ๆ ผมเผ้ารกรุงรัง พูดจาก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง  ไม่ได้โดดเด่นหรือมีบทบาทสำคัญอะไร แต่ขอโทษครับบนรถหกล้อคันนึงมีน้ำแข็งอยู่  สองร้อยกระสอบพื้นของตู้ติดรถก็สูงประมาณหน้าอกน้ำแข็งในตู้ก็เรียงสูงเลยหัว ถ้าไม่มีเด็กท้ายนี่คนขับไปคนเดียวแบกคนเดียวอาจถึงกับต้องคลานกลับเลยนะครับ
      
         เด็กท้ายนี่หายากตั้งแต่เริ่มต้นรับสมัครแล้วครับมาสมัครงานวันแรกไม่มีใครตั้งใจมาสมัครแบกของเป็นเด็กท้ายสักคนอย่างเจ้าหนุ่มหน้ามนคนนี้ที่เข้ามาในโรงงานตอนบ่ายแก่ๆแต่งตัวเรียบร้อยเสื้อแขนยาวติดกระดุมแขน ชายเสื้อเข้าในกางเกง รองเท้าผ้าใบใหม่เอี่ยม หวีผมเรียบเป๊ะ น้ำหอมนี่กลิ่นมาก่อนเจ้าตัวเกือบห้านาที  เจ๊อยู่หน้าออฟฟิศพอดีเจ้าหนุ่มก็ยกมือไหว้บอกมาสมัครงานเจ๊ก็รับไหว้แล้วถามว่าทำอะไรได้มั่ง ได้ทุกอย่าง ขับรถก็ได้  

ช่างซ่อมรถก็ได้ งานเชื่อม งานไฟฟ้า ประปาเคยทำงานกรุงเทพ มาแต่เบื่อความแออัดในเมืองกรุงเลยขอกลับบ้านเกิดเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน หลัง ๆ นี่ผมต่อเองนะ  “เอ้างั้นพรุ่งนี้ก็ขับเบอร์สามเลย ” เจ๊บอก เจ้าตัวหันไปเห็นว่าเป็นหกล้อเข้าทำหน้ามุ่ย “ หกล้อผมขับไม่ได้ครับเจ๊ ไม่มีใบขับขี่ ” “ อ้อ เหรอ ” เจ๊ก็ไม่อยากเสี่ยง ขับหกล้อไม่มีใบขับขี่นี่ถ้าโดนจับปรับกันสองสามหมื่น“ งั้นเบอร์แปด ก็แล้วกัน”เจ้าหนุ่มหันไปมองตาม รถเบอร์แปดจอดอยู่ไม่ไกล “

มีตู้ผมขับไม่ได้หรอกเจ๊ มองหลังไม่เห็น ”“ อ้าว ” เจ๊นึกอะไรไม่ออกแล้วทีนี้  อ้อ เจ้าหนุ่มบอก ว่าเป็นช่างด้วย เลยบอกให้ไปหาน้าจุก ช่างประจำโรงงาน อู่น้าจุกอยู่เลยออฟฟิศไปนิดเดียวแล้วให้น้าจุกหาห้องพักให้ด้วย เจ้าหนุ่มก็แบกเป้สีแดงแปร๊ดเดินไปตามที่เจ๊บอก เจ๊ก็ไปหากับข้าวกับปลาเตรียมไว้ให้คนงานตอนเย็น พอค่ำ ๆ หน่อย ก็เดินไปดูแถว ๆ หน้าหวอด มองโน่นมองนี่ไปเรื่อย ดูเด็กหน้าหวอดห้าหกคนทำงานกันให้วุ่นไปหมดไอ้พวกนี้คงจะ

เห็นเจ๊เดินมาแต่ไกลแล้วละ มองไปมองมา มาสะดุดตาไอ้หนุ่มคนนึง จะว่าไม่เคยเห็นมันก็คลับคล้ายคลับคลา เลยเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ อ้าว ไอ้หนุ่มที่มาสมัครงานตอนบ่ายสามนี่เอง หัวหูยุ่งรุงรังชายเสื้อตอนนี้ห้อยมาอยู่นอกกางเกงแล้วก็ยัง ยับยู่ยี่เปียกโชกตั้งแต่ไหล่ลงมาถึงอกถึงชายเสื้อน้ำย้อยเป็นทางไหลลงมาถึงกางเกงตั้งแต่เอวลงไปที่ขากางเกงเลยไปขังอยู่ในรองเท้าเวลาเดินเสียงอากาศดันน้ำในรองเท้าดังสวบสวบสวบเป็นจังหวะตามการก้าวเดิน

อุ้มน้ำแข็งเดินตามคนอื่น ๆ ไป ในห้องเย็น คงแบกไม่ไหวเลยใช้อุ้มเอา น้าจุกยืนดูเครื่องอยู่แถวนั้น  เจ๊เลยเดินไปหาแล้วถามว่า “ น้าจุก ทำไมเอาช่างมาแบกน้ำแข็งเล่า”“ ช่างบ้าอะไรเจ๊” น้าจุกพูดปนขำ  แถมยังหงุดหงิดอยู่นิด ๆ “ ให้มันเปลี่ยนฟิวส์ หน่อยเดียว เดินไปถึงเอาไขควงไขน็อตเลย ไฟดูดเกือบตาย คัทเอ๊าท์ก็ยังไม่เอาลง ” น้าจุกส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “ ให้เปลี่ยนล้อก็ไม่ได้ ให้ถ่ายน้ำมันเครื่องก็หาน็อตใต้ท้องไม่เจอ ให้เปลี่ยนแบตก็เปิดกระโปรงรถ

ไม่ได้ ทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง เลยให้มันมาหน้าหวอดเนี่ย ” น้าจุกพูด เซ็ง ๆเจ๊ หัวเราะตัวงอ“ งั้น พรุ่งนี้ให้มันไปกับเบอร์สาม”เจ๊พูดไปขำไปเสียงขลุกขลักขลุกขลัก “ มันขับหกล้อได้เหรอเจ๊ กระบะยังไม่รอดเลยมั้ง” น้าจุกท้วง “ ให้มันเป็นเด็กท้ายสิน้า บ้าใครจะให้มันขับเล่า ” เจ๊ยังขำไม่หายเดินไปหัวเราะไปกลับเข้าบ้านที่อยู่ท้ายโรงงานนั่นแหละ  
              

        ครับ ก็เลยได้เด็กท้ายมาหนึ่งคน แหมแต่ขั้นตอนการกลั่นกรองว่าจะได้มานี่ก็ไม่ง่ายนะดูแล้วเริ่มตั้งแต่ตำแหน่งบน ๆ ลงมาเลย ดีไฟไม่ดูดตายก่อน ไม่งั้นอดเป็นเด็กท้ายแน่ ๆ ทีนี้ของมีค่าได้มา ยากการใช้งานก็ต้องยากเป็นธรรมดา กว่าจะฝึกกว่าจะหัดกว่าจะรู้เรื่อง คนขับบางคนตัดปัญหาด้วยการไป

คนเดียวซะเลย บอกว่าเหนื่อยกายดีกว่าเหนื่อยใจ มันดีกว่ายังไงมาดูอีกสักคนซิ ดูคนไทยไปแล้ว ลองมาดูต่างชาติมั่ง  เอาใครดีนะ    เอาเจ้าเดวาตอนมาใหม่ ๆ ดีกว่า เดวา บ้านอยู่ บ้านแม่ตื่น อำเภอ ท่าสองยาง จังหวัดตาก เป็นคนกระเหรี่ยง มีบัตรประจำตัวระบุว่า
                                                                  
                                                                    :บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน:


นอกนั้นก็เหมือนบัตรประชาชนของเรามีรูปถ่ายชื่อ แต่ของเค้าไม่มีนามสกุล ที่อยู่ วันออกบัตร วันหมดอายุ  และคนที่ถือบัตรนี้จะออกไปนอกจังหวัดไม่ได้  ทีนี้จะรับมาทำงานจะทำไง ใครจะมาทำงานก็นัดเจอกันที่อำเภอ เจ้าเดวาอยู่ท่าสองยาง ก็เจอกันที่ ที่ว่าการอำเภอ ท่าสองยางจากบ้านผมไปท่าสองยางนี่ออกจากบ้านตีสี่ ถึงท่าสองยางเก้าโมงหน่อย ๆ ยังได้คิวต้น ๆ ถ้าคนไม่มาก ปลัดไม่ติดประชุม ก็จะเสร็จก่อนเที่ยง ถึงบ้านก็ประมาณหกโมง

เย็น ถ้าไปช้า ติดเที่ยง ได้คิวบ่าย สามทุ่มละครับกว่าจะถึงบ้าน ทีนี้พอไปถึงอำเภอ ที่เราต้องเตรียมไปก็มี  สำเนา บัตรประชาชน ทะเบียนบ้านเจ้าของโรงงาน ที่นี่จะเรียกรวมว่า นายจ้าง ใบอนุญาตประกอบการ  ทะเบียนการค้า  อันนี้ส่วนของนายจ้าง ของเจ้าเดวาก็มี รูปถ่ายหนึ่งนิ้ว สองใบ  ทะเบียนบ้าน ก็คัดกันหลังอำเภอนั่นแหละครับ  และสำเนาบัตรที่เจ้าตัวมีอยู่  เมื่อ เอกสารครบแล้วก็ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ ที่ชั้นสอง ขั้นตอนนี้เรียกว่า การขอ

อนุญาต ออกนอกพื้นที่ ใบอนุญาตนี้มีอายุ หกเดือน พอถึงหกเดือนก็ต้องมาขอใหม่ พอตรวจเอกสารเสร็จลงมานั่งรอนอนรอข้างล่างสักพักใหญ่เมื่อเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเรียกไปรับใบอนุญาตออกนอกพื้นที่ ต้องเอาเจ้าเดวาไปแสดงตัวด้วยว่ามีตัวตนตรงกับรูปถ่าย แล้วก็พิมพ์ลายนิ้วมือไว้ในใบคำร้อง และใบอนุญาต ใครเขียนหนังสือเป็นก็ใช้เซ็นชื่อเอา ก็จะได้ใบอนุญาตมาใบนึงคล้ายใบ  ร บ เรานั่นเอง มีรูปเจ้าเดวาติดอยู่ด้านบนซ้ายของเอกสาร เสร็จแล้วก็พากันขึ้นรถกลับโรงงานจะผ่านด่านได้ก็ต้องมีใบนี้แหละ
            

        มาถึงโรงงานก็ค่ำแล้ว พักผ่อนกันก่อน เจ้าเดวายังทำงานไม่ได้ยังเพราะไม่ได้ขออนุญาตเข้าทำงาน  ใครว่างก็พาเจ้าเดวาไปขอใบรับรองแพทย์เตรียมไว้ ยังทันคลินิกปิดสองทุ่มครึ่งวันรุ่งขึ้นสาย ๆ ก็พาเจ้าเดวาไปที่อำเภอ ขึ้นไปชั้นสอง ไปที่ห้องฝ่ายความมั่นคง นำใบอนุญาตออกนอกพื้นที่ที่ได้จากท่าสองยาง ไปให้เจ้าหน้าที่ที่นั่นดูพร้อมทั้งตัวเจ้าเดวา เจ้าหน้าที่ตรวจความเรียบร้อยพร้อมเทียบเจ้าเดวากับรูปที่ติดมากับเอกสาร เมื่อเอกสาร

เรียบร้อยรูปถ่ายกับเจ้าตัวตรงกัน เจ้าหน้าที่ก็ยื่นเอกสารให้ท่านปลัดประทับตราและเซ็นชื่อด้านหลังเอกสารซึ่งจะมีช่องเล็ก ๆ อยู่  ขั้นตอนนี้เรียกว่า การขออนุญาตเข้าพื้นที่มีอายุเท่ากันกับที่ลงมาจากอำเภอท่าสองยางคือหกเดือน พอครบหกเดือนก็ต้องไปขอใบอนุญาตออกนอกพื้นที่ที่นู่นมาขอเข้าพื้นที่

ที่นี่อีก เป็นระเบียบของทางราชการครับ แต่ที่ผ่านมาคนงานมาต่อไม่เกินสองครั้ง หายจ้อยกันหมด พักกินน้ำกันก่อนดีมั๊ยครับ ใกล้เที่ยงแล้ว ต้องไปที่แรงงานจังหวัดอีกที่นึง  ทันหรือไม่ทัน ไปเลยดีกว่าครับเดี๋ยวติดเที่ยง แรงงานจังหวัดอยู่ชั้นสามที่ศาลากลางครับ ขั้นตอนนี้จริง ๆ แล้วเจ้าเดวายังไม่ต้องมาก็ได้ แต่วันนี้ขึ้นรถมาด้วยกันแล้วก็เลยตามเลย ถึงหน้าห้องแรงงานจังหวัดแล้วก็ไปที่แผนกขออนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว เจ้าเดวายังไม่

นับเป็นต่างด้าวแต่ก็ยังไม่มีบัตรสัญชาติไทยดังนั้นการลงทะเบียนเพื่อทำงานในประเทศไทยก็ต้องมาทำที่นี่เหมือนต่างด้าวแต่เจ้าเดวานี่เค้าเรียกว่าคนพื้นที่สูง เอกสารที่ต้องเตรียมมา ของนายจ้างก็เหมือนเดิม สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ใบอนุญาตประกอบการ ทะเบียนการค้า ส่วนของ         เจ้าเดวาก็มี รูปถ่ายหนึ่งนิ้ว  บัตรที่เจ้าตัวมี ทะเบียนบ้าน สำเนาใบอนุญาตออกนอกพื้นที่ถ่ายมาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านหลังจะประทับตราปลัด

ว่าอนุญาตให้เข้าพื้นที่แล้ว  ใบรับรองแพทย์  ของเจ้าเดวานี่ค่อยดีหน่อย พื้นที่สูงขอใบรับรองแพทย์ที่ไหนก็ได้ คลินิกก็ได้  แต่ถ้าเป็นด่างด้าวแท้ คือ พม่า เวียดนาม ลาว นี่ต้องออกโดยโรงพยาบาลของรัฐอย่างเดียวเท่านั้น  งานนี้จึงลดขั้นตอนไปได้หนึ่งวัน  เขียนคำร้องเสร็จ ยื่นคำร้องพร้อมเอกสาร ตรวจเอกสารเรียบร้อย เสียค่าธรรมเนียม หนึ่งร้อยบาท เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จให้แล้วนัดมารับสมุดเล่มบาง ๆ กว้างยาวประมาณฝ่ามือเราเนี่ย เรียกว่า

ใบอนุญาตทำงานหรือชื่อทางการว่า เวิร์ค เพอร์มิท ( work permit  )ส่วนมากนัดมารับไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ วันนั้นเจ้าเดวาต้องมาด้วยเพื่อปั๊มรอยนิ้วมือที่สมุดก่อนเจ้าหน้าที่จะปิดผนึกเป็นเทปใสทับไว้เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลง สมุดนี้ปกติจะต่ออายุทุกหนึ่งปีแต่ในกรณีนี้เจ้าเดวาต้องกลับไปทุกหกเดือน ก็เท่ากับว่าทุกหกเดือนต้องมาต่อ ก็ต้องทำแบบนี้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่เริ่มไปรับตัวมา และมาจบลงที่แรงงานจังหวัดเหมือนวันนี้ และวันนี้ก็ทำงานได้แล้ว เพราะมีใบเสร็จยืนยันว่าเราได้ขออนุญาตทุกอย่างเรียบร้อยตามกฎหมาย

    ( มีต่อครับ )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่