ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ 1
https://ppantip.com/topic/38182471
เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ 2
https://ppantip.com/topic/38201894
..........เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ 3.
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ทุกท่าน ตอนที่แล้วผมพาท่านขึ้นรถไปกับเจ้าทัตได้ครึ่งทาง พอพี่แกต้องย้อนกลับไปเก็บงานเราก็พากันกระโดดลงมาซะก่อนไม่ไหวละครับขืนตามไปตลอดทางมีหวังกลับบ้านมืดแน่ ๆ วันนี้เราเข้าไปดูในโรงงานกันสักนิด ไปดูเด็กโรงน้ำแข็งทำงานกัน
จะได้อะไรมากน้อยแค่ไหน จะดูทั่วไม่ทั่วก็แล้วแต่เวลาจะพาไป ตามผมมาเลยครับ
ในบรรดาพ่อค้า แม่ค้าทั้งหลายที่ค้าขายเกี่ยวกับอาหาร จะเล็กหรือใหญ่จะขายตามข้างทาง หรือตามตึกใหญ่ตึกเล็กก็ตาม น้ำแข็ง เป็นปัจจัยหลักที่ทุกคนต้องใช้ เพราะวัตถุดิบที่จะนำมาทำอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ผัก หรืออื่น ๆ นั้น ต้องใช้ความเย็นชะลอการเน่าเสียของมัน
ความเย็นที่ดีที่สุดก็ต้องเกิดจากน้ำแข็งเท่านั้น เพราะในตู้เย็น ความเย็นจะเย็นแห้ง ๆ และความเย็นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เนื้อสัตว์ไม่เน่าได้ ส่วนในห้องแช่แข็ง ก็เย็นจนแข็ง เนื้อสัตว์ที่เป็นน้ำแข็งรสชาติจะเสียไปเลย ส่วนผักแช่แข็งไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ในอุณหภูมิปกติของตู้เย็นก็
ทำให้ผักแห้งเฉาไม่เหลือความสดไว้ถ้าท่านจะทดลองเอาส้มเขียวหวานใส่ไว้ในตู้เย็นสักสองสามวันจะเห็นว่าส้มจะแห้งแข็งเป็นส้มปลอมไป ดังนั้นน้ำแข็งจึงเป็นที่ต้องการของคนส่วนมาก เมื่อมีคนใช้มาก ก็ต้องผลิตมาก ๆ เมื่อต้องผลิตมาก ๆ ก็ต้องใช้คนงานหลายคนไม่งั้นมันก็ไม่ทันกัน
ตอนที่ต้องใช้คนมาก ๆ นี่แหละ เป็นปัญหาโลกแตกของโรงน้ำแข็งเกือบทุกโรง เพราะจะไปหาคนมาก ๆ ได้ที่ไหน ที่จะมาทำงาน หนัก ๆ แบกหาม นอนดึก ตื่นเช้า กินไม่เป็นเวลา ไม่มีวันหยุด คิดยากใช่มั๊ยครับ ดังนั้นอันดับแรกของการแก้ปัญหาข้อนี้ก็คือ รับคนไม่เลือก นั่น เห็นอะไร
ลาง ๆ แล้วใช่ไหมครับ ใช่แล้ว พอรับไม่เลือกเพราะหาคนที่จะมาทำงานแบบนี้ยาก โรงน้ำแข็งก็เลยเป็นแหล่งรวมมิตรของคนทุกทิศทุกที่ ทุกผิวพรรณ ทุกบุคลิกลักษณะ หลากหลายนิสัยใจคอ บางโรงงานก็ต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติด้วย เรื่องแรงงานต่างชาติ ไว้จะเล่าตอนต่อไปนะ
ครับอาจจะไม่ได้ต่อจากตอนนี้ซะทีเดียว
ทีนี้ ขนาดยกเว้นกฎกติกามารยาทไปตั้งหลายอย่างจนแทบจะไม่มีกฎกันแล้ว ปัญหาคนงานไม่พอก็ยังมีปกติ คือบางครั้งไม่ได้ลาออกไปไหนหรอกยังมีชื่อว่าเป็นคนงานอยู่ในโรงงานนั่นแหละ แต่หยุดกันบ่อย เมาลุกไม่ไหวมั่ง ลา กลับบ้าน ลาป่วย ลา อะไรต่ออะไรกันยุ่งไปหมด
แล้วก็มักจะเลือกหยุดกันหน้าเทศกาลซะด้วย รู้ ๆ กันอยู่ว่าเมื่อมีเทศกาล คนก็ต้องมีเลี้ยงสังสรรค์กันแทบทุกบ้านน้ำแข็งก็ผลิตกันแทบไม่ทัน ส่งก็ไม่ทันพอกัน แถมคนงานก็ยังขาดซะหลายคนอีก ทำไงดีทีนี้ บางโรงมีลูกหลานโต ๆ หลายคน ก็เกณฑ์กันมาช่วยในโรงงาน ปิดเทอมทีจะ
เห็นลูกหลานเถ้าแก่แบกน้ำแข็งกันฮึบ ฮับ ฮึบ ฮับ ปะปน พูดคุยหยอกล้อกันกับคนงานในโรงงานนั่นแหละ ไม่มีถือสากันแล้ว ทุกคนตอนนี้มีความสำคัญเท่ากันหมดขาดใครไปคนนึงคนที่เหลือก็ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น งานหน้าโรงมีอะไรมั่งล่ะ งานหลัก ก็คือ เหยียบน้ำแข็งใส่ถุง
แล้วก็แบกขึ้นรถ รถก็มีทั้งรถของโรงงานเอง และรถลูกค้าข้างนอกเข้ามาซื้อ รวมทั้งซับเอเย่นต์ ที่มาเอาเองในโรงจะทยอยกันเข้ามาไม่เป็นเวลา คืออยู่อำเภอนอก ๆ ขายหมดตอนไหนก็ตีรถเข้ามาเอาตอนนั้น ก็ต้องขึ้นให้เขาเลยเพราะเขาต้องขับกลับไปอีกไกลพอควร และลูกค้าที่
รออยู่ที่ร้านก็มี จึงรอนานไม่ได้ ถ้าน้ำแข็งร่วงพอดี ก็เหยียบใส่ถุงยกขึ้นรถเลย ถ้ามาจังหวะยังไม่ร่วงก็ต้องแบกในห้องเย็นออกมาขึ้นให้จนกว่าจะเต็มรถ พอรถโรงงานออกหมดแล้ว และไม่มีลูกค้านอกเข้ามา ถึงเวลาน้ำแข็งร่วงทีนึงก็เข้าแถวกันเหยียบแล้วยกเข้าไปเก็บในห้องเย็น
เครื่องจะยังไม่ปิดจนกว่าน้ำแข็งในห้องเย็นจะเต็ม เพื่อเก็บสำรองไว้ใช้ตอนเครื่องปิดแล้ว เผื่อลูกค้าที่เข้ามาไม่เป็นเวลา หรือมีเหตุบังเอิญที่ทำให้ตอนกลางคืนเครื่องเปิดไม่ได้ เช่น ไฟดับ เครื่องเสีย เป็นต้น
เครื่องน้ำแข็งที่โรงนี้มีอยู่ สามเครื่องเรียงกัน หลอดใหญ่สองเครื่อง หลอดเล็กหนึ่งเครื่อง หลอดใหญ่ใช้เวลาสี่สิบนาทีน้ำแข็งจะร่วงลงมา สี่สิบถุง หลอดเล็กใช้เวลายี่สิบห้านาทีน้ำแข็งจะร่วงลงมายี่สิบห้าถุง แต่ความคลาดเคลื่อนด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง เช่น เครื่องเปิดไม่
พร้อมกันก็จะทำให้เวลาที่น้ำแข็งร่วงลงมา ไม่ตรงกัน ตรงนี้นี่เองที่ทำให้เด็กหน้าหวอด ทั้งคนงานมืออาชีพและคนงานชั่วคราว คือบรรดาลูกหลานเถ้าแก่ทั้งหลาย ไม่มีเวลาได้พักได้ผ่อนกัน เข้างานมาตีห้า ตอนรถโรงงานยังอยู่คนก็เยอะ และต่างคนต่างแย่งกันแบก กลัวไม่ได้น้ำแข็ง
ก็จะเบาหน่อยแต่พอรถออกไปหมดแล้วนี่มองตากันปริบ ๆ เหลืออยู่กันสี่ห้าคน เดี๋ยวเครื่องนู้นก็ หวอ ๆๆๆๆ เดี๋ยวเครื่องนี้ก็ หวอ ๆๆๆๆ
เหยียบ ๆ เครื่องนี้ ยังไม่ทันเสร็จ เครื่องโน้นก็ร่วง เหยียบแล้วแบกเข้าห้องเย็นเหลือถุงสุดท้าย เครื่องนู้นก็ หวอ ๆๆๆๆๆ เล่นกันอยู่อย่างนี้จนกว่าจะมีคนมาเพิ่ม ตอนบ่ายแก่ๆ นี่เล่นเอาแข้งขาอ่อนไปตาม ๆ กัน
มีอยู่ครั้งนึง เวลาประมาณสิบโมงเช้า เป็นช่วงปิดเทอมหน้าร้อน คนงานก็ขาดเป็นปกติ วันนั้นมีลูกหลานเถ้าแก่สามคน กับคนงานอีกสามคนอยู่หน้าหวอด เล่นกันไป คุยกัน ไป ทำงานกันไป เครียดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะหลบไปไหนก็ไม่ได้ยังไงก็ต้องทำโดยเฉพาะ
ลูกหลานเถ้าแก่ พากันวิ่งจากเครื่องนู้นไปเครื่องนี้ เครื่องนี้ไปเครื่องนั้น แบกเข้าห้องเย็นมาตั้งแต่เจ็ดโมง ขาเริ่มแกว่งกันแล้ว รอบนั้นฟลุ๊คยังไงไม่รู้ น้ำแข็งร่วงไล่ ๆ กันเลย หวอ ๆๆๆๆ หวอ ๆๆๆๆๆ หวอ ๆๆๆๆๆ เสียงหวอดดังห่างกันไม่ถึงห้าวินาที ทั้งลูกหลานเถ้าแก่ และคนงาน
ต่างร้อง เฮ ๆๆๆๆ พร้อมกัน เป็นที่รู้กันว่าจะได้นั่งพักนานขึ้นเพราะน้ำแข็งร่วงพร้อมกันอย่างนี้ อย่างน้อยอีกเกือบครึ่งชั่วโมงถึงจะร่วงมาอีกครั้ง เวลาพักสำหรับที่นี่แค่สิบนาทีก็มีค่ามากมาย เพราะทำงานกันยาววันละสิบสองสิบสามชั่วโมง ต่างคนต่างดีใจวิ่งคว้าถุงที่ห้อยไว้บนราวข้าง ๆ
ที่เหยียบ แย่งกันเหยียบให้ไวที่สุดเสร็จแล้วแบกเข้าห้องเย็นเรียงเสร็จแล้ววิ่งออกมาต่อแถว ถึงคิวตัวเองก็เหยียบ แล้วก็แบกวิ่งเข้าห้องเย็นด้วยความสนุกสนาน ไม่ถึงสิบนาทีน้ำแข็งในกระบะก็น้อยลง จนกระทั่งถึงถุงสุดท้าย น้ำแข็งเต็มถุงแล้วยังเหลือในกระบะไม่ถึงครึ่งถุงก็คาไว้หยั่งงั้น
ก่อนเอาไว้รวมกับหวอดหน้าได้ มัดปากถุงสุดท้ายเสร็จยกขึ้นบ่าปุ๊บ รถยนต์ซับเอเย่นต์ ก็เข้ามาในโรงงานพอดี “ โห่ ๆๆๆๆๆๆ ฮิ้ว ”
เสียงทั้งหมดโห่พร้อมกันด้วยความเซ็ง ต่างคนต่างบ่นพึมพำ ว่าเข้ามาไวสักสิบนาทีก็ไม่เหนื่อยแล้ว ยกขึ้นรถได้เลยมาตอนนี้ก็ต้องแบกออกมา
อีก เพิ่งเอาเข้าไปแท้ ๆ หลายคนนั่งถอนใจเบา ๆ ก่อนลุกขึ้นเดินเนือย ๆ ไปเปิดห้องเย็น บ่นไปก็เท่านั้น บ่นไปก็ทำอะไรไม่ได้
ต่างคนต่างเดินเข้าห้องเย็นแบกมาคนละถุง ละถุง คนขับ บอก จำนวนที่ต้องการ แล้วก็เดินไปที่ออฟฟิศ คิดเงินคิดทองกันกับเสมียน ทางนี้ก็
แบกขึ้นรถกันไปใช้เวลาพอสมควร พอใกล้เสร็จ ความเครียดของแต่ละคนก็เริ่มเบา เริ่มหยอกกัน เริ่มแหย่กัน แบกวิ่งมั่ง โชว์แบกสองถุงเทินกันมั่ง พอได้หายเหนื่อย หัวเราะกัน คิกคัก คิกคัก เหลืออีกสิบกว่าถุงก็จะเสร็จแล้ว คนหกคนต่างวิ่งแย่งกันเข้าห้องเย็นแบกออกมาด้วยความ
สนุกเพราะอย่างมากก็จะมีคนท้าย ๆ ได้แบกคนละสองถุงก็ไม่หนักหนาอะไรยิ่งเสร็จเร็วก็ยิ่งดี ถุงสุดท้ายออกมาจากห้องเย็นโดยหลานเถ้าแก่ แบกผ่านคนห้าคนที่สลับกันหยอกต่าง ๆ นานา บ้างก็แกล้งยืนขวางมั่ง บ้างก็ทำดึงถุงน้ำแข็งที่อยู่บนบ่าไว้ บางคนเข้ามาข้างหลังทำท่าจะดึง
กางเกงลงหัวเราะกันสนุกสนานเสียง เฮ ๆ ๆ ดังลั่นหน้าหวอด และแล้ว น้ำแข็งถุงสุดท้ายก็ได้วางลงบนรถของซับเอเย่นต์ โดยสวัสดิภาพ
และในทันทีที่น้ำแข็งถุงนั้นวางถึงพื้นรถ เสียงที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดีก็ดังขึ้น หวอ ๆๆๆๆๆ หวอ ๆๆๆๆๆ หวอ ๆๆๆๆๆ เสียงห่างแต่ละเสียงห่างกัน
ไม่ถึงห้าวินาที แทบจะทันใดนั้นเองเหมือนกัน ที่เสียงทั้งหกคนดังขึ้นพร้อมกัน “ โห่ ๆๆๆๆๆๆ ฮิ้ววววววว ”
เหนื่อยมั๊ยครับท่านผู้อ่านทุกท่าน แบกเข้าแล้วก็แบกออก พอแบกออกเสร็จแล้วก็แบกเข้าไปอีก น่าจะเหนื่อยนะครับเพราะตั้งแต่เจ็ดโมงก็ยังไม่ได้นั่งกันเลย โน่นแหละ กว่ารถจะทยอยกันเข้ามาก็บ่ายสามไปแล้ว ทีนี้คนก็จะเริ่มมากขึ้น จะได้เบากันมั่งก็ตอนนั้นแหละ ตอนหน้า ขึ้น
รถไปชมเมืองมั่งดีกว่าครับสลับกันมั่ง อยู่หน้าหวอดนานนักเดี๋ยวหมดแรง ตอนหน้าลองตามใครไปสักคัน อยากรู้ว่างานหนักขนาดนี้นี่เค้ามีวิธีแก้เครียด แก้เหนื่อยกันยังไง แต่ละคนคงไม่เหมือนกันละมั้ง ไม่งั้นหมดเรื่องเล่าไว ไม่ดีแน่ เพราะไม่รู้จะไปยังไงต่อ พบกันใหม่ตอนหน้า
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ สวัสดีครับ
ลุงแผน
๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๑
( กดส่งแล้ว ตัวหนังสือมันกระโดด เปะปะไปหมด เลยต้องนั่งแก้ ขออภัยทุกท่านด้วยครับ )
..............................
.....ขอบคุณกำลังใจทุกท่านที่มีมาตลอด รวมทั้งคำแนะนำจากรุ่นพี่ทุกท่าน ขออภัยหากเอ่ยชื่อไม่ครบ และขออภัย หากเรียงตามอาวุโสไม่ถูกต้องครับ....
คุณลิ ลายลิขิต , คุณ นัน turtle_cheesecake , คุณ แอน นลินมณี , คุณ แกง สันตะวาใบข้าว , คุณ เจ้ย เด็กหญิงเจ้ย
คุณ เทียนสี teansri , คุณ maesriruen , คุณ ดาว Lady Star 919 , คุณ ซูซี่ Susisiri , คุณ jongkonnee , คุณ อเวรา ,
คุณ ออม รัชต์สารินท์ , คุณ เล็ก 2326325
คุณ กาล อนันตา , คุณก้อง KTHc , คุณ นะ Na(นะ) , คุณ ศรเขียว , คุณ เสี่ย kasareev , อาจารย์จี GTW คุณ ส่องแสงตะวันฉาย
คุณ อ้น psycho_factory , คุณ สวนดอก , คุณ บิว สมช 4257784
........เรื่องเล่าหลังโรงงาน เรื่อง เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ 3 โดย ลุงแผน.........@@
ตอนเดิมครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
..........เด็กโรงน้ำแข็ง ตอนที่ 3.
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน ทุกท่าน ตอนที่แล้วผมพาท่านขึ้นรถไปกับเจ้าทัตได้ครึ่งทาง พอพี่แกต้องย้อนกลับไปเก็บงานเราก็พากันกระโดดลงมาซะก่อนไม่ไหวละครับขืนตามไปตลอดทางมีหวังกลับบ้านมืดแน่ ๆ วันนี้เราเข้าไปดูในโรงงานกันสักนิด ไปดูเด็กโรงน้ำแข็งทำงานกัน
จะได้อะไรมากน้อยแค่ไหน จะดูทั่วไม่ทั่วก็แล้วแต่เวลาจะพาไป ตามผมมาเลยครับ
ในบรรดาพ่อค้า แม่ค้าทั้งหลายที่ค้าขายเกี่ยวกับอาหาร จะเล็กหรือใหญ่จะขายตามข้างทาง หรือตามตึกใหญ่ตึกเล็กก็ตาม น้ำแข็ง เป็นปัจจัยหลักที่ทุกคนต้องใช้ เพราะวัตถุดิบที่จะนำมาทำอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ผัก หรืออื่น ๆ นั้น ต้องใช้ความเย็นชะลอการเน่าเสียของมัน
ความเย็นที่ดีที่สุดก็ต้องเกิดจากน้ำแข็งเท่านั้น เพราะในตู้เย็น ความเย็นจะเย็นแห้ง ๆ และความเย็นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เนื้อสัตว์ไม่เน่าได้ ส่วนในห้องแช่แข็ง ก็เย็นจนแข็ง เนื้อสัตว์ที่เป็นน้ำแข็งรสชาติจะเสียไปเลย ส่วนผักแช่แข็งไม่ต้องพูดถึง แม้แต่ในอุณหภูมิปกติของตู้เย็นก็
ทำให้ผักแห้งเฉาไม่เหลือความสดไว้ถ้าท่านจะทดลองเอาส้มเขียวหวานใส่ไว้ในตู้เย็นสักสองสามวันจะเห็นว่าส้มจะแห้งแข็งเป็นส้มปลอมไป ดังนั้นน้ำแข็งจึงเป็นที่ต้องการของคนส่วนมาก เมื่อมีคนใช้มาก ก็ต้องผลิตมาก ๆ เมื่อต้องผลิตมาก ๆ ก็ต้องใช้คนงานหลายคนไม่งั้นมันก็ไม่ทันกัน
ตอนที่ต้องใช้คนมาก ๆ นี่แหละ เป็นปัญหาโลกแตกของโรงน้ำแข็งเกือบทุกโรง เพราะจะไปหาคนมาก ๆ ได้ที่ไหน ที่จะมาทำงาน หนัก ๆ แบกหาม นอนดึก ตื่นเช้า กินไม่เป็นเวลา ไม่มีวันหยุด คิดยากใช่มั๊ยครับ ดังนั้นอันดับแรกของการแก้ปัญหาข้อนี้ก็คือ รับคนไม่เลือก นั่น เห็นอะไร
ลาง ๆ แล้วใช่ไหมครับ ใช่แล้ว พอรับไม่เลือกเพราะหาคนที่จะมาทำงานแบบนี้ยาก โรงน้ำแข็งก็เลยเป็นแหล่งรวมมิตรของคนทุกทิศทุกที่ ทุกผิวพรรณ ทุกบุคลิกลักษณะ หลากหลายนิสัยใจคอ บางโรงงานก็ต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติด้วย เรื่องแรงงานต่างชาติ ไว้จะเล่าตอนต่อไปนะ
ครับอาจจะไม่ได้ต่อจากตอนนี้ซะทีเดียว
ทีนี้ ขนาดยกเว้นกฎกติกามารยาทไปตั้งหลายอย่างจนแทบจะไม่มีกฎกันแล้ว ปัญหาคนงานไม่พอก็ยังมีปกติ คือบางครั้งไม่ได้ลาออกไปไหนหรอกยังมีชื่อว่าเป็นคนงานอยู่ในโรงงานนั่นแหละ แต่หยุดกันบ่อย เมาลุกไม่ไหวมั่ง ลา กลับบ้าน ลาป่วย ลา อะไรต่ออะไรกันยุ่งไปหมด
แล้วก็มักจะเลือกหยุดกันหน้าเทศกาลซะด้วย รู้ ๆ กันอยู่ว่าเมื่อมีเทศกาล คนก็ต้องมีเลี้ยงสังสรรค์กันแทบทุกบ้านน้ำแข็งก็ผลิตกันแทบไม่ทัน ส่งก็ไม่ทันพอกัน แถมคนงานก็ยังขาดซะหลายคนอีก ทำไงดีทีนี้ บางโรงมีลูกหลานโต ๆ หลายคน ก็เกณฑ์กันมาช่วยในโรงงาน ปิดเทอมทีจะ
เห็นลูกหลานเถ้าแก่แบกน้ำแข็งกันฮึบ ฮับ ฮึบ ฮับ ปะปน พูดคุยหยอกล้อกันกับคนงานในโรงงานนั่นแหละ ไม่มีถือสากันแล้ว ทุกคนตอนนี้มีความสำคัญเท่ากันหมดขาดใครไปคนนึงคนที่เหลือก็ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น งานหน้าโรงมีอะไรมั่งล่ะ งานหลัก ก็คือ เหยียบน้ำแข็งใส่ถุง
แล้วก็แบกขึ้นรถ รถก็มีทั้งรถของโรงงานเอง และรถลูกค้าข้างนอกเข้ามาซื้อ รวมทั้งซับเอเย่นต์ ที่มาเอาเองในโรงจะทยอยกันเข้ามาไม่เป็นเวลา คืออยู่อำเภอนอก ๆ ขายหมดตอนไหนก็ตีรถเข้ามาเอาตอนนั้น ก็ต้องขึ้นให้เขาเลยเพราะเขาต้องขับกลับไปอีกไกลพอควร และลูกค้าที่
รออยู่ที่ร้านก็มี จึงรอนานไม่ได้ ถ้าน้ำแข็งร่วงพอดี ก็เหยียบใส่ถุงยกขึ้นรถเลย ถ้ามาจังหวะยังไม่ร่วงก็ต้องแบกในห้องเย็นออกมาขึ้นให้จนกว่าจะเต็มรถ พอรถโรงงานออกหมดแล้ว และไม่มีลูกค้านอกเข้ามา ถึงเวลาน้ำแข็งร่วงทีนึงก็เข้าแถวกันเหยียบแล้วยกเข้าไปเก็บในห้องเย็น
เครื่องจะยังไม่ปิดจนกว่าน้ำแข็งในห้องเย็นจะเต็ม เพื่อเก็บสำรองไว้ใช้ตอนเครื่องปิดแล้ว เผื่อลูกค้าที่เข้ามาไม่เป็นเวลา หรือมีเหตุบังเอิญที่ทำให้ตอนกลางคืนเครื่องเปิดไม่ได้ เช่น ไฟดับ เครื่องเสีย เป็นต้น
เครื่องน้ำแข็งที่โรงนี้มีอยู่ สามเครื่องเรียงกัน หลอดใหญ่สองเครื่อง หลอดเล็กหนึ่งเครื่อง หลอดใหญ่ใช้เวลาสี่สิบนาทีน้ำแข็งจะร่วงลงมา สี่สิบถุง หลอดเล็กใช้เวลายี่สิบห้านาทีน้ำแข็งจะร่วงลงมายี่สิบห้าถุง แต่ความคลาดเคลื่อนด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง เช่น เครื่องเปิดไม่
พร้อมกันก็จะทำให้เวลาที่น้ำแข็งร่วงลงมา ไม่ตรงกัน ตรงนี้นี่เองที่ทำให้เด็กหน้าหวอด ทั้งคนงานมืออาชีพและคนงานชั่วคราว คือบรรดาลูกหลานเถ้าแก่ทั้งหลาย ไม่มีเวลาได้พักได้ผ่อนกัน เข้างานมาตีห้า ตอนรถโรงงานยังอยู่คนก็เยอะ และต่างคนต่างแย่งกันแบก กลัวไม่ได้น้ำแข็ง
ก็จะเบาหน่อยแต่พอรถออกไปหมดแล้วนี่มองตากันปริบ ๆ เหลืออยู่กันสี่ห้าคน เดี๋ยวเครื่องนู้นก็ หวอ ๆๆๆๆ เดี๋ยวเครื่องนี้ก็ หวอ ๆๆๆๆ
เหยียบ ๆ เครื่องนี้ ยังไม่ทันเสร็จ เครื่องโน้นก็ร่วง เหยียบแล้วแบกเข้าห้องเย็นเหลือถุงสุดท้าย เครื่องนู้นก็ หวอ ๆๆๆๆๆ เล่นกันอยู่อย่างนี้จนกว่าจะมีคนมาเพิ่ม ตอนบ่ายแก่ๆ นี่เล่นเอาแข้งขาอ่อนไปตาม ๆ กัน
มีอยู่ครั้งนึง เวลาประมาณสิบโมงเช้า เป็นช่วงปิดเทอมหน้าร้อน คนงานก็ขาดเป็นปกติ วันนั้นมีลูกหลานเถ้าแก่สามคน กับคนงานอีกสามคนอยู่หน้าหวอด เล่นกันไป คุยกัน ไป ทำงานกันไป เครียดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะหลบไปไหนก็ไม่ได้ยังไงก็ต้องทำโดยเฉพาะ
ลูกหลานเถ้าแก่ พากันวิ่งจากเครื่องนู้นไปเครื่องนี้ เครื่องนี้ไปเครื่องนั้น แบกเข้าห้องเย็นมาตั้งแต่เจ็ดโมง ขาเริ่มแกว่งกันแล้ว รอบนั้นฟลุ๊คยังไงไม่รู้ น้ำแข็งร่วงไล่ ๆ กันเลย หวอ ๆๆๆๆ หวอ ๆๆๆๆๆ หวอ ๆๆๆๆๆ เสียงหวอดดังห่างกันไม่ถึงห้าวินาที ทั้งลูกหลานเถ้าแก่ และคนงาน
ต่างร้อง เฮ ๆๆๆๆ พร้อมกัน เป็นที่รู้กันว่าจะได้นั่งพักนานขึ้นเพราะน้ำแข็งร่วงพร้อมกันอย่างนี้ อย่างน้อยอีกเกือบครึ่งชั่วโมงถึงจะร่วงมาอีกครั้ง เวลาพักสำหรับที่นี่แค่สิบนาทีก็มีค่ามากมาย เพราะทำงานกันยาววันละสิบสองสิบสามชั่วโมง ต่างคนต่างดีใจวิ่งคว้าถุงที่ห้อยไว้บนราวข้าง ๆ
ที่เหยียบ แย่งกันเหยียบให้ไวที่สุดเสร็จแล้วแบกเข้าห้องเย็นเรียงเสร็จแล้ววิ่งออกมาต่อแถว ถึงคิวตัวเองก็เหยียบ แล้วก็แบกวิ่งเข้าห้องเย็นด้วยความสนุกสนาน ไม่ถึงสิบนาทีน้ำแข็งในกระบะก็น้อยลง จนกระทั่งถึงถุงสุดท้าย น้ำแข็งเต็มถุงแล้วยังเหลือในกระบะไม่ถึงครึ่งถุงก็คาไว้หยั่งงั้น
ก่อนเอาไว้รวมกับหวอดหน้าได้ มัดปากถุงสุดท้ายเสร็จยกขึ้นบ่าปุ๊บ รถยนต์ซับเอเย่นต์ ก็เข้ามาในโรงงานพอดี “ โห่ ๆๆๆๆๆๆ ฮิ้ว ”
เสียงทั้งหมดโห่พร้อมกันด้วยความเซ็ง ต่างคนต่างบ่นพึมพำ ว่าเข้ามาไวสักสิบนาทีก็ไม่เหนื่อยแล้ว ยกขึ้นรถได้เลยมาตอนนี้ก็ต้องแบกออกมา
อีก เพิ่งเอาเข้าไปแท้ ๆ หลายคนนั่งถอนใจเบา ๆ ก่อนลุกขึ้นเดินเนือย ๆ ไปเปิดห้องเย็น บ่นไปก็เท่านั้น บ่นไปก็ทำอะไรไม่ได้
ต่างคนต่างเดินเข้าห้องเย็นแบกมาคนละถุง ละถุง คนขับ บอก จำนวนที่ต้องการ แล้วก็เดินไปที่ออฟฟิศ คิดเงินคิดทองกันกับเสมียน ทางนี้ก็
แบกขึ้นรถกันไปใช้เวลาพอสมควร พอใกล้เสร็จ ความเครียดของแต่ละคนก็เริ่มเบา เริ่มหยอกกัน เริ่มแหย่กัน แบกวิ่งมั่ง โชว์แบกสองถุงเทินกันมั่ง พอได้หายเหนื่อย หัวเราะกัน คิกคัก คิกคัก เหลืออีกสิบกว่าถุงก็จะเสร็จแล้ว คนหกคนต่างวิ่งแย่งกันเข้าห้องเย็นแบกออกมาด้วยความ
สนุกเพราะอย่างมากก็จะมีคนท้าย ๆ ได้แบกคนละสองถุงก็ไม่หนักหนาอะไรยิ่งเสร็จเร็วก็ยิ่งดี ถุงสุดท้ายออกมาจากห้องเย็นโดยหลานเถ้าแก่ แบกผ่านคนห้าคนที่สลับกันหยอกต่าง ๆ นานา บ้างก็แกล้งยืนขวางมั่ง บ้างก็ทำดึงถุงน้ำแข็งที่อยู่บนบ่าไว้ บางคนเข้ามาข้างหลังทำท่าจะดึง
กางเกงลงหัวเราะกันสนุกสนานเสียง เฮ ๆ ๆ ดังลั่นหน้าหวอด และแล้ว น้ำแข็งถุงสุดท้ายก็ได้วางลงบนรถของซับเอเย่นต์ โดยสวัสดิภาพ
และในทันทีที่น้ำแข็งถุงนั้นวางถึงพื้นรถ เสียงที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดีก็ดังขึ้น หวอ ๆๆๆๆๆ หวอ ๆๆๆๆๆ หวอ ๆๆๆๆๆ เสียงห่างแต่ละเสียงห่างกัน
ไม่ถึงห้าวินาที แทบจะทันใดนั้นเองเหมือนกัน ที่เสียงทั้งหกคนดังขึ้นพร้อมกัน “ โห่ ๆๆๆๆๆๆ ฮิ้ววววววว ”
เหนื่อยมั๊ยครับท่านผู้อ่านทุกท่าน แบกเข้าแล้วก็แบกออก พอแบกออกเสร็จแล้วก็แบกเข้าไปอีก น่าจะเหนื่อยนะครับเพราะตั้งแต่เจ็ดโมงก็ยังไม่ได้นั่งกันเลย โน่นแหละ กว่ารถจะทยอยกันเข้ามาก็บ่ายสามไปแล้ว ทีนี้คนก็จะเริ่มมากขึ้น จะได้เบากันมั่งก็ตอนนั้นแหละ ตอนหน้า ขึ้น
รถไปชมเมืองมั่งดีกว่าครับสลับกันมั่ง อยู่หน้าหวอดนานนักเดี๋ยวหมดแรง ตอนหน้าลองตามใครไปสักคัน อยากรู้ว่างานหนักขนาดนี้นี่เค้ามีวิธีแก้เครียด แก้เหนื่อยกันยังไง แต่ละคนคงไม่เหมือนกันละมั้ง ไม่งั้นหมดเรื่องเล่าไว ไม่ดีแน่ เพราะไม่รู้จะไปยังไงต่อ พบกันใหม่ตอนหน้า
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ สวัสดีครับ
ลุงแผน
๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๑
( กดส่งแล้ว ตัวหนังสือมันกระโดด เปะปะไปหมด เลยต้องนั่งแก้ ขออภัยทุกท่านด้วยครับ )
.....ขอบคุณกำลังใจทุกท่านที่มีมาตลอด รวมทั้งคำแนะนำจากรุ่นพี่ทุกท่าน ขออภัยหากเอ่ยชื่อไม่ครบ และขออภัย หากเรียงตามอาวุโสไม่ถูกต้องครับ....
คุณลิ ลายลิขิต , คุณ นัน turtle_cheesecake , คุณ แอน นลินมณี , คุณ แกง สันตะวาใบข้าว , คุณ เจ้ย เด็กหญิงเจ้ย
คุณ เทียนสี teansri , คุณ maesriruen , คุณ ดาว Lady Star 919 , คุณ ซูซี่ Susisiri , คุณ jongkonnee , คุณ อเวรา ,
คุณ ออม รัชต์สารินท์ , คุณ เล็ก 2326325
คุณ กาล อนันตา , คุณก้อง KTHc , คุณ นะ Na(นะ) , คุณ ศรเขียว , คุณ เสี่ย kasareev , อาจารย์จี GTW คุณ ส่องแสงตะวันฉาย
คุณ อ้น psycho_factory , คุณ สวนดอก , คุณ บิว สมช 4257784