Izakaya (อิซากายะ) คือร้านนั่งดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เป็นที่รวมกลุ่มของเหล่าเพื่อนฝูง คนทำงานทั้งหลาย ที่สามารถอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายได้ในราคาไม่แพงมากนัก ปัจจุบันวัฒนธรรมจากญี่ปุ่นแพร่เข้ามาในประเทศไทย จึงทำให้ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน บางร้านก็จัดเป็นบุฟเฟ่ต์พร้อมเครื่องดื่ม แต่สำหรับที่นี่ สั่งเป็นจาน พร้อมเครื่องดื่มราคาสมเหตุผล นั่งได้นานๆ ไม่ต้องรีบสั่ง รีบทานเยอะๆแบบกลัวทานไม่คุ้ม เลือกกินเฉพาะที่เราอยากทาน อันที่จริงมันก็ขัดใจเรานิดหน่อยแหละเพราะสายบุฟเฟ่ต์ มาถึงหน้าร้านแล้ว พนักงานบอกว่า บุฟเฟ่ต์ของที่ร้าน Kansai Izakaya ยกเลิกไปแล้วค่ะ (หัวใจสลาย...) แต่ไหนๆก็ดิ้นรนจะมาทานให้ได้แล้ว ก็ต้องทาน เพราะดูราคาแล้วก็ไม่ได้แพงมากมาย อีกอย่างมากับ Office หลายคน กินที่ร้านนี้แหละขี้เกียจหาร้านอื่นแล้ว เข้าไปในร้านกันเลย...
คำถามแรกก่อนเข้าร้านคือ ร้านอยู่ตรงไหน? แนะนำว่าใช้ Google Maps เปิดเข้ามาที่ร้านเลยก็ได้เพราะคนก่อนหน้านี้ปักหมุดไว้ตรงแล้ว ตอนแรกนึกว่าปักผิด เพราะทางเข้าเปลี่ยวมาก มาตามแผนที่จะเจอร้านโคขุนคุณทอง 2020 ร้านของคุณเปิ้ลนาครก่อน ข้ามสะพานคลองด้านหลัง มองด้านซ้ายมือ จะเห็นชื่อร้านเขียนอยู่ตรงกำแพง นี่แหละร้าน ถึงแล้ว ทางเข้าก่อนถึงร้านมืดมาก ยังดีที่มีไฟจากตัวร้าน และร้านส้มตำฝั่งตรงข้ามทำให้คึกคักขึ้นมาหน่อย ร้านปิดทุกวันอาทิตย์ ถ้าจันทร์-ศุกร์ เปิด 2 รอบ 11.30-14.00 และ 17.00 - 23.00 ยกเว้นวันเสาร์เปิดรอบเย็นวันเดียว ใครจะมากันวันไหนวางแผนให้ดีก่อนนะครับ ถ้ามาเก้อก็ไปร้านคุณเปิ้ล นาครแทน🤣🤣🤣
เข้ามาถึงในร้าน บรรยากาศก็แบบร้านเหล้ากึ่งญี่ปุ่นหน่อยๆ เพราะมีการเอาธง เสื่อแบบญี่ปุ่น รวมถึงป้ายราคาภาษาญี่ปุ่นติดไว้เต็มร้าน โต๊ะเก้าอี้เป็นแบบไม้อัด คนปกติก็นั่งได้สบาย แต่ก้นผมล้นเบาะ ทำให้ต้องหมุนเก้าอี้ไปมา เพื่อหาเหลี่ยมใหม่นั่งทานไปเรื่อยๆ ภายในร้านลูกค้าครึ่งนึงเป็นคนญี่ปุ่น นั่งทานกัน สูบบุหรี่กันในร้านเป็นเรื่องปกติ ใครไม่ชอบกลิ่นบุหรี่แล้วจะมานั่งร้านสไคล์นี้แล้วพบกับคนญี่ปุ่น เตรียมหาโต๊ะนั่งไกลๆได้เลยครับ
มาถึงสายเมาก็สั่งกันเลยเบียร์ A........I หนึ่งทาวเวอร์ ด้านในหล่อน้ำแข็งมาเย็นเจี๊ยบพร้อมกดลงในแก้วหูหิ้วหนา ซดให้ชื่นใจสุดๆ ไม่แน่ใจว่าทาวเวอร์ละเท่าไหร่ เพราะตอนจ่ายเงินเจ้านายผมจ่ายให้ครับ ไม่ได้ดูบิลเลย แต่ถ้าสั่งเป็นแก้ว 90 บาทครับ (โต๊ะด้านหลังเป็นทีมงานช่อง Ilovetogo มากันครบเลย ไม่พลาดที่จะขอถ่ายรูปด้วย เพราะผมฝึกถ่ายรูป โดยดูคลิปวิดีโอใน Youtube จากช่องนี้ครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาทานร้านเดียวกัน บังเอิญมาก)
เมนูจานแรก "Sandoichi Sushi" เป็นซูชิไข่หวานที่ไม่มีข้าว ด้านในสอดไส้ด้วยปูอัด โรยด้วยไข่กุ้ง รสชาติอร่อยมั้ย ? ก็กลมกล่อม หวานกำลังดี แต่สีไข่ไม่ค่อยสวยดู Over Cooked ไปนิดนึง ดำๆ เนื้อไข่สากแปลกๆ ถ้าเทียบกับมาตรฐานที่เคยทานไข่หวานมา ร้านนี้เป็นอันดับท้ายครับ ราคาจานนี้ 2 ชิ้นใหญ่ 59 บาท
"Salmon Roll" ราคา 129 บาท ได้ซูชิโรลสอดไส้ปูอัด แตงกวา ไข่หวาน พันด้วยสาหร่าย ข้าวสวยปรุงรส และปลาแซลมอนบางๆ พร้อมไข่กุ้งและมายองเนส มันก็อร่อย หวาน กลมกล่อม มีความกรอบของแตงกวาทำให้เคี้ยวสนุกขึ้นหน่อย แต่คุณภาพปลาแซลมอนร้านนี้จัดว่าแย่ สำหรับผม เพราะไม่มีความแทรกมันเลย ได้มา 6 ชิ้นยักษ์ เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ ถ้าเทียบกับราคาแล้วก็โอเค
"หมูสามชั้นต้มโชยุ"หรือ"บูตะคาคุนิ" 90 บาทได้หมูสามชั้นชิ้นหนามา 2 ชิ้น ต้มมาในโชยุรสหวานหอมกลิ่นขิงสด ตัวเนื้อหมูถูกต้มเปื่อยนุ่มละลายในปาก ทานกับไข้ต้มยางมะตูมที่ดองมาในซอสโชยุ จานนี้ได้ข้าวสวยเป็นหม้อก็หมดครับ รสหวานเค็มลงตัว แต่เข้มข้นไปหน่อย ต้องสั่งข้าวสวยมาเสริมทัพ ใครไม่ชอบทานหวาน จะรู้สึกว่าเมนูนี้หวานเกินไป ข้ามไปได้เลย แต่ผมทานรสหวานแบบนี้อยู่แล้ว สั่งอีก 2 !
"ไก่ทอดคาราเกะ"เมนูนี้ราคา 80 บาท สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นไก่ทอดสูตรธรรมดา หรือสูตรเผ็ด วันนี้ผมเลือกเป็นสูตรเผ็ดครับ เป็นไก่ทอดที่ทอดมาในน้ำมันพริก มีความเผ็ดฉุนอ่อนๆ บีบมะนาวตัดรสเล็กน้อย ให้ความเปรี้ยว เค็ม เผ็ด เพลินมาก แปปเดียวหมดถาด ต้องสั่งเพิ่มอีกครับ
"ไข่ต้มยางมะตูมปรุงรส"ราคา 40 บาท ที่สั่งมาเพราะติดใจจากบูตะคาคูนิจานเมื่อกี้ ไข่ต้มแบบยางมะตูม ไข่ขาวด้านนอกสีเข้มหอมซีอิ๊วหวานๆ ด้านในตรงกลางเป็นไข่แดงเนื้อมันอร่อย ตอนเสิร์ฟที่ร้านราดน้ำซอสหมูตุ๋นลงไปอีกนิด แค่นี้ก็อร่อยแล้ว
"ซารุโซบะ" หรือ "โซบะเย็น" ราคา 95 บาทได้ชามโตมาก โซบะเส้นนุ่มๆ กับซุปปลาผสมโชยุรสเค็มๆหอมๆ ทานกับไข่หวาน แตงกวา ปูอัด และไข่กุ้ง จะทานวาซาบิแค่ไหนก็ปาดจากข้างชามผสมลงไป ดูแปลกตาไปหน่อย แต่พอผสมกันแล้วก็อร่อยดี
"คอหมูย่างเกลือ" ราคา 90 บาท เป็นคอหมูที่เป็นส่วนคอแท้ๆ ไม่ใช่คอหมูหลอกๆ แทรกมันสวยงาม เอาไปย่างกับเกลือจนเหลืองกรอบ มีความเกรียมเล็กน้อย เคี้ยวแล้วได้ความกรอบ รสเค็มอ่อนๆ ไขมันแตกในปาก นี่มันกับแกล้มชั้นดีทีเดียว
เห็นว่าเจ้านายเลี้ยงก็กะว่าจะสั่งแต่เนื้อวัวทานสักหน่อย ร้านเจ้ากรรมดันแทบไม่มีเมนูเนื้อวัวให้ทานเลย เนื้อฮาระมิส่วนท้องก็หมด หม้อไฟก็ใหญ่โตไปเลยสั่งจานนี้มาแทน "ข้าวหน้าเนื้อย่างซอส" ราคา 120 บาท ให้ปริมาณมาเยอะดี หมายถึงข้าวอ่ะนะ เนื้อย่างให้มาบางๆ กับกิมจิ พอลองชิมเข้าไป หวานมาก !!! ถ้าคนไม่ชอบทานหวานมีบ้วนทิ้งอ่ะ แต่เราชอบ หวานเค็ม เนื้อวัวคุณภาพใช้ได้ ไขมันหอม ไม่เหม็นสาบ ย่างมาเกรียมนิดๆ ทานกับข้าวญี่ปุ่นเม็ดเล็กเหนียวๆ และกิมจิรสเปรี้ยวเค็มกลมกล่อม ลงตัวแต่ถ้าจะให้ลงตัวที่สุดคือจับคลุกทุกอย่างให้เข้ากัน รสชาติจะพอดีเดะ ตอนแรกนึกว่าข้าวจะเหลือ แต่ทานไปมา อ้าวหมดพอดีเลย
จากจานเมื่อกี้ทำให้เห็นว่ากิมจิที่ร้านนี้เด็ดจริง ผักกาดขาวดองกำลังดี ให้สัมผัสกรอบๆ รสเค็มนวลเปรี้ยวนิดๆลงตัว หอมกลิ่นขิงและพริกเกาหลีแบบครบเครื่อง เหมาะเป็นกับแกล้มสุดๆ แถมให้เยอะขนาดนี้ 40 บาทเองนะ ดีงาม....
"ข้าวหน้าหมูย่างซอส" 90 บาทเอง ชามใหญ่แถมให้หมูเยอะกว่าข้าวหน้าเนื้อย่างเมื่อกี้ตั้งหลายเท่า ซอสรสหวานเค็มกำลังดี เหมือนใส่ซอสปริมาณเท่ากับจานเมื่อกี้ แต่จานนี้ให้หมูเยอะกว่า รสชาติเลยออกมาพอดี ไม่แน่ใจว่าข้าวชามนี้รวมอยู่ในชุดกลางวันของที่ร้านหรือเปล่า แต่แนะนำเลยชามนี้อร่อยสุดละ เนื้อหมูมันๆ ย่างเกรียมนิดๆ ผัดกับซอสราดข้าว พร้อมกิมจิอร่อยๆ โหยดีอ่ะ.....
เอาใจสายดื่มที่อยากได้กับแกล้มรสเค็มๆ ด้วย "หนวดปลาหมึกย่างเกลือ" ราคา 90 บาท หนวดปลาหมึกเนื้อเด้ง ปรุงรสเค็มอ่อนๆ ย่างเกรียมนิดๆทานกับมัสตาร์ตเผ็ดฉุน อร่อยดีครับ
"Salmon Toro Shio" หรือ "ท้องปลาแซลมอนย่างเกลือ" ราคา 150 บาท ตอนยกมาวางทำไมหน้าตามันแปลกประหลาด ไม่เหมือนท้องปลาที่เราเคยทานมาก่อนหน้านี้ บีบมะนาวสดลงไปแล้วชิม เออ...อร่อยอ่ะ เหมือนกำลังกินท้องปลาแซลมอนแดดเดียว เนื้อกระชับ เคี้ยวสนุก ไม่มันเลี่ยนจนเกินไป จานนี้เรียกได้ว่าเกินความคาดหวังครับ
"หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว" ราคา 120 บาท ให้มาครึ่งหัว ถามว่าแพงกว่าร้านอื่นมั้ย แพงนะ แต่พอชิมเท่านั้นแหละ อร่อยมาก ! ซุปปลาหวานเค็มเข้มข้น หอมโชยุและขิงแบบเดียวกับบูตะคาคุนิเมื่อกี้ ตุ๋นจนเปื่อยแบบปลากระป๋อง ทานได้ทั้งหัวเลย ก้างอ่อนๆด้านในก็กลายเป็นคอลลาเจนหมด อร่อยสะใจมาก ถ้าเทียบกับร้านอื่นที่ตุ๋นมาต้องคอยแกะเนื้อทานแล้ว ร้านนี้ดีกว่า ทานได้ทั้งหัวเลย ลงมติกันว่าชอบทุกคน
"ไก่ไดจัง" หรือไก่ย่างเสียบไม้แบบยากิโทริ มี "สะโพกไก่ย่างซอส" ด้วยมาแบบรวมๆ จำไม่ได้ว่าราคาเท่าไหร่ มีไม้เล็กใหญ่บนๆกันไป บีบมะนาวลงก่อนแล้วค่อยทาน ไก่ย่าง กรอบนอก นุ่มใน ซอสเคลือบอร่อยทานเพลินดีแปปเดียวหมด
มื้อนี้นอกจากเบียร์แล้วยังมีสาเกเย็นๆ 280 บาท ชูไฮรสบ๊วย รสชาติเหมือนทานน้ำบ๊วยโซดา ขวดละ 90 บาท ชูไฮรสซากุระ รสชาติเหมือนทานน้ำหวานกลิ่นดอกกุหลาบใส่โซดา 90 บาท และเบียร์แอปเปิ้ลจาก A......I แปลกมากเพิ่งเคยเห็นที่นี่ที่แรก หอมกลิ่นมอลท์จากการหมักและรสเปรี้ยวของแอปเปิ้ลเขียวเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ 90 บาทเท่ากันครับ นอกจากนี้แล้วยังมีรส บ๊วย ลิ้นจี่ พีช อีก น่าสนใจดี แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว เอาไว้คราวหลังนะ
ร่างกายบอกว่าไม่ไหว แต่ปากยังสั่งไม่หยุด สั่ง "ไส้กรอกย่างสไตล์ญี่ปุ่น"มาลอง ราคา 90 บาท เป็นไส้กรอกชิ้นเล็กเนื้อแน่น หนังกรอบ เนื้อด้านเป็นแบบบดหยาบ มีความฉ่ำน้ำเนื้อ หอมกลิ่นรมควันและโชยุอ่อนๆ ทานกับมัสตาร์ตรสเผ็ดฉุน ดีงามมาก แต่แนะนำว่าพอถึงโต๊ะปุ๊บรีบทานจะฟินห์กว่า เพราะคนหลังๆที่มาทานต่อบอกว่าไหนอ่ะน้ำเนื้อไม่เห็นมี โถ่มันเย็นจนกลายเป็นเนื้อเดียวกับไส้กรอกแล้ว จะไปอร่อยได้ยังไงกันเล่า
"Korean Katsu Don" ราคา 110 บาท อันนี้แปลกดี เคยทานแต่ข้าวหน้าหมูทอดธรรมดา นี่เป็นหมูทอดเกาหลี อ่ะลองดู มันคือหมูทอดแบบญี่ปุ่นที่นำไปผัดกับซอสไก่ทอดโคชูจังรสเผ็ดหวานอ่อนๆ แล้วนำมาราดข้าว มันก็อร่อยดีนะ แต่ถ้าเลือกได้อยากทานแบบปกติมากกว่า ใครอยากลองก็สั่งดูครับเมนูแปลกไม่มีที่อื่น รสชาติไม่แย่แต่เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก นี่นายเลี้ยงอยากลองอะไรก็สั่ง
อย่างสุดท้ายจริงๆแล้ว "ทาโกะยากิ" 6 ลูก ราคา 90 บาท น่าจะเป็นแบบสำเร็จรูปนำไปทอด รสชาติมาตรฐาน หมึกด้านในชิ้นโตอยู่ ใส่ซอสกับปลาแห้งมาเยอะสะใจดี ที่สำคัญไม่เสิร์ฟมาร้อนจนลวกแพดานปากและลิ้น ร้อนกำลังอร่อย จะเป็นข้อดีหรือข้อเสียดีเนี่ย เอาเป็นว่า ใครชอบแบบไหนพิจารณาเอาครับ
***เกิน 10,000 ตัวอักษรขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ