Short Guts เป็นการ short call ITM และ short put ITM series เดียวกัน
และจำนวนเท่ากัน
โดย จะกำไรจำกัดเท่ากับค่า premium ของ call รวมกับของ put
หักด้วย strike put - strike call
ส่วนขาดทุนจะไม่จำกัด ขึ้นกับว่า set50 จะขึ้น หรือลงไปได้มากแค่ไหนจนถึงวันหมดอายุ
เป็นการเทรดในมุมมองว่าตลาดอาจจะขึ้น หรืออาจจะลงไม่แรง
หรือ น่าจะ sideways ในกรอบ
หรือ ใช้ตอนที่ความผันผวนสูง และคาดว่าความผันผวนน่าจะลดลง

สมมติ short s50u18c1000 (sc1000) 1 สัญญา ที่ premium 78
และ short s50u18p1100 (sp1100) 1 สัญญา ที่ premium 42
เส้นสีแดง คือ sc1000
เส้นสีเขียว คือ sp1100
เส้นสีดำ คือ sc1000 + sp1100 คือ short guts
จะเห็นว่า
จุดสูงสุด คือ จุดที่กำไรมากสุด เท่ากับ ผลรวมค่า premium - (strike put - strike call)
= (78+42)-(1100-1000) = 120-100 = 20 จุด
จุดเท่าทุน (Break-Even Point) คือ จุดที่เส้นกราฟตัดแกน X (Y = 0)
มี 2 จุด จะเท่ากับ call strike + ผลรวมค่า premium = 1000+120 = 1120
และ put strike - ผลรวมค่า premium = 1100-120 = 980
ถ้า 980 < set50 < 1120 เป็นช่วงที่กำไร
ถ้า set50 < 980 หรือ set50 > 1120 จะเริ่มขาดทุนไปเรื่อยๆ
จะเห็นว่า กราฟ short guts จะเหมือนกับ short strangle
โดยตอนเริ่ม short guts จะได้ค่า premium รวมมากกว่า short strangle
แต่จุดสูงสุดที่กำไรนั้นเท่ากันทั้งคู่
ดังนั้น ตอนหมดอายุ ถ้าได้กำไร ก็ต้องคืน premium ส่วนเกินกำไรที่ได้รับตอนแรกนั้นคืนไป
ที่ short guts ให้กราฟรูปเดียวกับ short strangle
อธิบายได้ด้วย synthetic options
short guts = SC ITM + SP ITM
short strangle = SC OTM + SP OTM
ตัวอย่าง
short guts ด้วย SC1000 + SP1100
short strangle ด้วย SC1100 + SP1000
จะพิสูจน์ว่า SC1000 + SP1100 = SC1100 + SP1000
จาก synthetic options จะได้ว่า
SC1000 = SP1000 + SF
SP1100 = SC1100 + LF
เริ่มคิดจาก SC1000 + SP1100
แทนค่า synthetic options จะได้
= (SP1000 + SF) + (SC1100 + LF)
= (SP1000 + SC1100) + (SF + LF)
= SP1000 + SC1100
ดังนั้น SC1000 + SP1100 = SP1000 + SC1100
หรือสรุปว่า short guts = short strangle ที่คู่ strike เหมือนกัน
และ กราฟของ short guts จะเหมือนกับ short strangle เช่นกัน
TFEX Options - 20/7/2018 - Short Guts
และจำนวนเท่ากัน
โดย จะกำไรจำกัดเท่ากับค่า premium ของ call รวมกับของ put
หักด้วย strike put - strike call
ส่วนขาดทุนจะไม่จำกัด ขึ้นกับว่า set50 จะขึ้น หรือลงไปได้มากแค่ไหนจนถึงวันหมดอายุ
เป็นการเทรดในมุมมองว่าตลาดอาจจะขึ้น หรืออาจจะลงไม่แรง
หรือ น่าจะ sideways ในกรอบ
หรือ ใช้ตอนที่ความผันผวนสูง และคาดว่าความผันผวนน่าจะลดลง
สมมติ short s50u18c1000 (sc1000) 1 สัญญา ที่ premium 78
และ short s50u18p1100 (sp1100) 1 สัญญา ที่ premium 42
เส้นสีแดง คือ sc1000
เส้นสีเขียว คือ sp1100
เส้นสีดำ คือ sc1000 + sp1100 คือ short guts
จะเห็นว่า
จุดสูงสุด คือ จุดที่กำไรมากสุด เท่ากับ ผลรวมค่า premium - (strike put - strike call)
= (78+42)-(1100-1000) = 120-100 = 20 จุด
จุดเท่าทุน (Break-Even Point) คือ จุดที่เส้นกราฟตัดแกน X (Y = 0)
มี 2 จุด จะเท่ากับ call strike + ผลรวมค่า premium = 1000+120 = 1120
และ put strike - ผลรวมค่า premium = 1100-120 = 980
ถ้า 980 < set50 < 1120 เป็นช่วงที่กำไร
ถ้า set50 < 980 หรือ set50 > 1120 จะเริ่มขาดทุนไปเรื่อยๆ
จะเห็นว่า กราฟ short guts จะเหมือนกับ short strangle
โดยตอนเริ่ม short guts จะได้ค่า premium รวมมากกว่า short strangle
แต่จุดสูงสุดที่กำไรนั้นเท่ากันทั้งคู่
ดังนั้น ตอนหมดอายุ ถ้าได้กำไร ก็ต้องคืน premium ส่วนเกินกำไรที่ได้รับตอนแรกนั้นคืนไป
ที่ short guts ให้กราฟรูปเดียวกับ short strangle
อธิบายได้ด้วย synthetic options
short guts = SC ITM + SP ITM
short strangle = SC OTM + SP OTM
ตัวอย่าง
short guts ด้วย SC1000 + SP1100
short strangle ด้วย SC1100 + SP1000
จะพิสูจน์ว่า SC1000 + SP1100 = SC1100 + SP1000
จาก synthetic options จะได้ว่า
SC1000 = SP1000 + SF
SP1100 = SC1100 + LF
เริ่มคิดจาก SC1000 + SP1100
แทนค่า synthetic options จะได้
= (SP1000 + SF) + (SC1100 + LF)
= (SP1000 + SC1100) + (SF + LF)
= SP1000 + SC1100
ดังนั้น SC1000 + SP1100 = SP1000 + SC1100
หรือสรุปว่า short guts = short strangle ที่คู่ strike เหมือนกัน
และ กราฟของ short guts จะเหมือนกับ short strangle เช่นกัน