Put Front Ratio Spread หรือบางตำราอาจเรียก Put Ratio Spread
หรือ Put Front Spread หรือ Put Ratio Vertical Spread
หรือ 1x2 Put Ratio Vertical Spread
เป็นการ long put strike สูงกว่า จำนวน 1 สัญญา
และ short put strike ที่ต่ำกว่า จำนวน 2 สัญญา
ใน series เดียวกัน
โดย กำไรจะจำกัด
ส่วนขาดทุนจะไม่จำกัดในด้านขาลง
ด้านขาขึ้น จะกำไร หรือขาดทุนจำกัด ขึ้นกับ premium ที่ได้รับ และจ่ายไป
เป็นการเทรดในมุมมองว่าตลาดจะ sideways หรืออาจจะขึ้นได้
และคาดว่าจะไม่ลงแรงมาก
สมมติ long s50u18p1125 (lp1125) 1 สัญญา ที่ premium 26
และ short s50u18p1100 (sp1100*2) 2 สัญญา ที่ premium 17
เส้นสีแดง คือ lp1125
เส้นสีเขียว คือ sp1100
เส้นสีดำ คือ lp1125 + sp1100*2 คือ put front ratio spread
จุดสูงสุด คือ จุดที่กำไรมากสุด เท่ากับ
(strike สูง - strike ต่ำ) + (ผลต่างค่า premium ที่รับ - ที่จ่าย)
= (1125 - 1100) + (17*2 - 26) = 25 + 8 = 33 จุด
จุดต่ำสุดด้านขาขึ้น คือ จุดที่ กำไร หรือขาดทุนมากสุดด้านขาขึ้น เท่ากับ
ผลต่างค่า premium ที่รับ - ที่จ่าย
= 17*2 - 26 = 8 จุด
ถ้า premium ที่รับ มากกว่าที่จ่ายไป จะ กำไร
ถ้า premium ที่รับ น้อยกว่าที่จ่ายไป จะ ขาดทุน
จุดเท่าทุน (Break-Even Point) คือ จุดที่เส้นกราฟตัดแกน X (Y = 0)
ด้านขาลง เท่ากับ strike ต่ำ - กำไรสูงสุด
= 1100 - 33 = 1067
ด้านขาขึ้น ถ้ากำไรคงที่ จะไม่มีจุด BE เพราะ ไม่มีจุดตัดแกน X
ถ้าขาดทุนคงที่ จะมีจุด BE = strike สูง - (ผลต่างค่า premium ที่จ่าย - ที่รับ)
ถ้า set50 < 1067 จะเริ่มขาดทุนไปเรื่อยๆ
ถ้า set50 > 1067 จะเริ่มกำไรไปเรื่อยๆ
ถ้า set50 = 1100 จะกำไรสูงสุด
ถ้า set50 > 1100 จะเริ่มกำไรลดลงไปเรื่อยๆ
ถ้า set50 > 1125 ขึ้นไป จะกำไร หรือขาดทุนคงที่
จากรูปกราฟ จะเห็นว่า คล้ายกราฟ short straddle รวมกับ long call ด้านขวา
หรือ (short call + short put) strike ต่ำ + long call strike สูง
ในทางปฏิบัติ เราสามารถทำ put front ratio spread ได้หลายวิธี
อธิบายได้ด้วย synthetic options
ตัวอย่าง
put front ratio spread = LP1125 + SP1100*2
จาก synthetic options จะได้ว่า
LP1125 = LC1125 + SF
SP1100 = SC1100 + LF
แทนค่า LP1125 จะได้
= LC1125 + SF + SP1100*2
= LC1125 + (SF + SP1100) + SP1100
เนื่องจาก SF + SP1100 เท่ากับ SC1100
= LC1125 + SC1100 + SP1100
SC1100 + SP1100 ก็คือ short straddle นั่นเอง
ดังนั้น put front ratio spread จะให้กราฟเหมือนกับ long call รวมกับ short straddle เช่นกัน
นอกจากนี้เราสามารถแทนค่า synthetic options ที่ SP1100 และ/หรือ LP1125
จะได้รูปแบบการทำได้หลายแบบ
เช่น LC1125 + SP1100*2 + SF
หรือ LP1125 + SC1100*2 + LF*2
หรือ LC1125 + SC1100*2 + LF
ในทางปฏิบัติ put front ratio spread สามารถปรับเปลี่ยนจากกลยุทธ์อื่นได้ เช่น
จาก bear put spread = LP1125 + SP1100 โดยการเพิ่ม SP1100 เข้าไป
หรือจาก short straddle = SC1100 + SP1100 โดยการเพิ่ม LC1125 เข้าไป
TFEX Options - 3/8/2018 - Put Front Ratio Spread
หรือ Put Front Spread หรือ Put Ratio Vertical Spread
หรือ 1x2 Put Ratio Vertical Spread
เป็นการ long put strike สูงกว่า จำนวน 1 สัญญา
และ short put strike ที่ต่ำกว่า จำนวน 2 สัญญา
ใน series เดียวกัน
โดย กำไรจะจำกัด
ส่วนขาดทุนจะไม่จำกัดในด้านขาลง
ด้านขาขึ้น จะกำไร หรือขาดทุนจำกัด ขึ้นกับ premium ที่ได้รับ และจ่ายไป
เป็นการเทรดในมุมมองว่าตลาดจะ sideways หรืออาจจะขึ้นได้
และคาดว่าจะไม่ลงแรงมาก
สมมติ long s50u18p1125 (lp1125) 1 สัญญา ที่ premium 26
และ short s50u18p1100 (sp1100*2) 2 สัญญา ที่ premium 17
เส้นสีแดง คือ lp1125
เส้นสีเขียว คือ sp1100
เส้นสีดำ คือ lp1125 + sp1100*2 คือ put front ratio spread
จุดสูงสุด คือ จุดที่กำไรมากสุด เท่ากับ
(strike สูง - strike ต่ำ) + (ผลต่างค่า premium ที่รับ - ที่จ่าย)
= (1125 - 1100) + (17*2 - 26) = 25 + 8 = 33 จุด
จุดต่ำสุดด้านขาขึ้น คือ จุดที่ กำไร หรือขาดทุนมากสุดด้านขาขึ้น เท่ากับ
ผลต่างค่า premium ที่รับ - ที่จ่าย
= 17*2 - 26 = 8 จุด
ถ้า premium ที่รับ มากกว่าที่จ่ายไป จะ กำไร
ถ้า premium ที่รับ น้อยกว่าที่จ่ายไป จะ ขาดทุน
จุดเท่าทุน (Break-Even Point) คือ จุดที่เส้นกราฟตัดแกน X (Y = 0)
ด้านขาลง เท่ากับ strike ต่ำ - กำไรสูงสุด
= 1100 - 33 = 1067
ด้านขาขึ้น ถ้ากำไรคงที่ จะไม่มีจุด BE เพราะ ไม่มีจุดตัดแกน X
ถ้าขาดทุนคงที่ จะมีจุด BE = strike สูง - (ผลต่างค่า premium ที่จ่าย - ที่รับ)
ถ้า set50 < 1067 จะเริ่มขาดทุนไปเรื่อยๆ
ถ้า set50 > 1067 จะเริ่มกำไรไปเรื่อยๆ
ถ้า set50 = 1100 จะกำไรสูงสุด
ถ้า set50 > 1100 จะเริ่มกำไรลดลงไปเรื่อยๆ
ถ้า set50 > 1125 ขึ้นไป จะกำไร หรือขาดทุนคงที่
จากรูปกราฟ จะเห็นว่า คล้ายกราฟ short straddle รวมกับ long call ด้านขวา
หรือ (short call + short put) strike ต่ำ + long call strike สูง
ในทางปฏิบัติ เราสามารถทำ put front ratio spread ได้หลายวิธี
อธิบายได้ด้วย synthetic options
ตัวอย่าง
put front ratio spread = LP1125 + SP1100*2
จาก synthetic options จะได้ว่า
LP1125 = LC1125 + SF
SP1100 = SC1100 + LF
แทนค่า LP1125 จะได้
= LC1125 + SF + SP1100*2
= LC1125 + (SF + SP1100) + SP1100
เนื่องจาก SF + SP1100 เท่ากับ SC1100
= LC1125 + SC1100 + SP1100
SC1100 + SP1100 ก็คือ short straddle นั่นเอง
ดังนั้น put front ratio spread จะให้กราฟเหมือนกับ long call รวมกับ short straddle เช่นกัน
นอกจากนี้เราสามารถแทนค่า synthetic options ที่ SP1100 และ/หรือ LP1125
จะได้รูปแบบการทำได้หลายแบบ
เช่น LC1125 + SP1100*2 + SF
หรือ LP1125 + SC1100*2 + LF*2
หรือ LC1125 + SC1100*2 + LF
ในทางปฏิบัติ put front ratio spread สามารถปรับเปลี่ยนจากกลยุทธ์อื่นได้ เช่น
จาก bear put spread = LP1125 + SP1100 โดยการเพิ่ม SP1100 เข้าไป
หรือจาก short straddle = SC1100 + SP1100 โดยการเพิ่ม LC1125 เข้าไป