กัปตันวันชนะ ต้องปวดหัวกับเรื่องความประพฤติของเพื่อนเก่า หลังจากที่กลับมาจากข้างนอกก่อนหน้าล็อต พร้อมกับแอนดี้และสองสาว เมื่อได้รับทราบเรื่องจากสมาชิกที่เหลือในทีมที่อยู่เฝ้าบ้านของล็อต
งานนี้ แม้จะรู้ดีว่า ด็อกเตอร์หนุ่มหมายมั่นปั้นมือจะพรากพรหมจรรย์ของเอวา ลูกสาวคนเล็กของล็อตก็ตามที แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้กับความจริงที่ว่า นางเข้าไปหาเขาเองถึงในห้อง อีกทั้งท่าทางของนางก็ดูมีใจให้กับสถาพรอยู่แล้วด้วย ดังนั้น หากนางตกเป็นเขา นางเองก็อาจจะไม่เสียอกเสียใจอะไร กลับจะยินดีเสียด้วยซ้ำและคงจะเกาะติดสถาพรไปตลอดแน่ๆ ปัญหาคือ สถาพรจะยอมรับนางเป็นภรรยาหรือไม่เท่านั้น และคงจะเป็นเรื่องใหญ่ หากล็อตได้ล่วงรู้
"ถ้าล็อตรู้เรื่อง เขาต้องบังคับให้เอวาแต่งงานกับสถาพรอย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นคนหนักในธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม สถาพรจะต้องกลายเป็นลูกเขยของเขา และถ้าเป็นเช่นนั้น เขาจะไปกับพวกเราไม่ได้ เขาต้องอยู่ที่นี่ และเมื่อถึงเวลาก็ต้องเดินทางไปพร้อมกันกับครอบครัวของล็อต ในวันที่เมืองนี้จะถูกถล่ม ซึ่งผมคิดว่า สถาพรคงจะไม่ยอมอยู่แน่" กัปตันกล่าวกับสมาชิกทุกคน แล้วถอนใจยาว
"ถึงขั้นนั้น ไม่ยอมก็ต้องยอมครับ กัปตัน เขาจะทำร้ายจิตใจภรรยาได้ไง ไหนจะล็อตและครอบครัวอีกล่ะ ?" แซมกล่าวค้าน แล้วตามด้วยการยุให้เจ้านายตัดหางปล่อยวัด "ผมว่า ปล่อยเขาไปเถอะครับ ยังไงเขาก็ไม่มีวันที่จะมาเป็นสมาชิกของกัปตันได้หรอกครับ"
"ผมไม่ให้เขาเป็นแน่นอนอยู่แล้วครับ แซม" กัปตันกล่าวอย่างหนักแน่น "อุดมการณ์ทางการเมืองของเขาคนละขั้วกับพวกเราอยู่แล้ว แค่ข้อนี้ข้อเดียวเขาก็ไม่อาจร่วมกับเราได้"
"งั้นก็ปล่อยเขาไปเสียเถอะครับ" แซมพยายามเร่งเร้า
"คอยดูสถานการณ์ไปก่อนครับ ตอนนี้ เขาก็แยกตัวอยู่ห่างจากพวกเราอยู่แล้วนะ ยังไม่ต้องไปบอกไล่อะไรหรอก ถึงเวลาที่เราจะต้องเดินทาง ถ้าจะทิ้งเขา ผมจะเป็นคนบอกเขาเอง!"
กัปตันกล่าว แล้วควักกล่องบุหรี่โลหะออกมาจากอกเสื้อ เปิดกล่อง ดึงบุหรี่ออกมาตัวหนึ่งแล้วจุดสูบ อัดควันลึกแล้วพ่นควันออกมายาวๆ และสูบต่อเนื่องอีกหลายครั้ง จนบุหรี่ถูกไฟเผาสั้นลงเหลือไม่ถึงครึ่งมวนอย่างรวดเร็ว อาการนั้นทำให้ทุกคนเงียบกริบ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเขาเกิดความเครียดความกดดันอย่างหนัก น้อยครั้งมากที่ใครจะได้เห็นเขาจุดบุหรี่สูบต่อหน้า!
"ง่า...นึกว่า กัปตัน เลิกสูบไปแล้วเสียอีก" สาวจอยเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
"ยังไม่เลิกโดยเด็ดขาดหรอกครับ คุณจอย" กัปตันหันมาบอก และยิ้มนิดหนึ่งคล้ายประชดตัวเอง "ผมยังพกกล่องบุหรี่ติดตัว เผื่อไว้ เวลาที่มันเครียดจัด ก็เอาเสียหน่อย"
แซมกำลังจะพูดออกมาตรงๆ ว่า 'กัปตันจะทิ้งเขาซึ่งเป็นเพื่อนเก่าได้แน่หรือครับ ?" แต่เมื่อเห็นอากับกิริยาของเจ้านายแล้วก็ต้องเบรคปากของตัวเองไว้
"ประตูหน้าห้องสถาพรพังไปแล้ว แอนดี้" กัปตันหันมาหาแอนดรอยด์อัจฉริยะ
"ครับ เจ้านาย"
"นายไปช่วยซ่อมประตูห้องให้เขาหน่อยนะ"
"ได้ครับผม ไปเดี๋ยวนี้ครับ"
"เดี๋ยวก่อน แอนดี้"
"ครับผม ?"
"เอานี่ไปให้เขาด้วย" กัปตันกล่าวแล้วโยนกล่องบุหรี่ไปให้
แอนดี้ยกมือขวารับไว้พลางพยักหน้ารับคำสั่ง เก็บมันไว้ในช่องเก็บอุปกรณ์บริเวณหน้าขา แล้วเดินออกจากห้องของเจ้านาย ตรงไปยังห้องของสถาพร พอไปถึงก็พบว่าเจ้าของห้องกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง แต่ไม่ได้หลับ
ทันทีที่เห็นแอนดี้มาถึง เขาก็เอ่ยทัก "ไง แอนดี้ เจ้านายสั่งให้นายมาหาฉันเหรอ ?"
"ครับ คุณสถาพร"
"มาหาฉันทำไมวะ ?"
"เจ้านาย สั่งให้ผมช่วยซ่อมบานประตูห้องของคุณน่ะครับ"
"เหรอ ? อือ....ขอบใจว่ะ! ฝากบอกขอบคุณเขาด้วยนะ"
"ครับผม"
แอนดี้พยักหน้าตอบ แล้วเริ่มสำรวจดูบานประตูซึ่งถูกแซมใช้กำลังถีบจนพังหลุดทั้งกระบิกองอยู่กับพื้น ยกบานประตูตั้งขึ้นประกบเข้าที่กรอบประตู เปิดกล่องอุปกรณ์ยื่นออกมาจากบริเวณหน้าขา หยิบแผ่นโลหะเล็กๆในนั้นออกมาทำเป็นบานพับติดตั้งบานประตู พร้อมทำกลอนไว้ข้างใน ไม่กี่นาทีก็เสร็จเรียบร้อย
"นายนี่มันสารพัดประโยชน์จริงๆเลยว่ะ!" สถาพรกล่าวชม ซึ่งก็เท่ากับชมฝีมือของเพื่อนเก่าไปในตัว
"ขอบคุณครับที่ชม ผมเกิดจากการออกแบบและสร้างขึ้นมาโดยเจ้านาย ซึ่งเป็นเพื่อนของคุณนั่นแหละครับ"
แอนดี้จงใจใช้คำว่า "เพื่อน" ไม่พูดว่า "เพื่อนเก่า" ซึ่งคำพูดนั้นทำให้สถาพรฉายแววตาซึมเศร้าออกมาแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบสะบัดหน้า สลายแววตานั้นทิ้งไป เขานึกประหลาดใจในความเปลี่ยนแปลงของแอนดี้ ซึ่งดูเหมือนมนุษย์มากขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งคำพูดและการกระทำ
"แอนดี้..."
"ครับ ? มีอะไรหรือครับ คุณสถาพร ?"
"ตอนนี้ นาย...มีความรู้สึกนึกคิด เหมือนคนทั่วไปแล้วเหรอ ?" สถาพรดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
"ก็...มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนครับผม แต่ยังไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ"
"แล้วมีเท่าไรวะ ? ซัก 60-70 เปอร์เซ็นต์ ได้ไหม ?"
"ประมาณนั้น ครับผม"
"แล้วนาย เอ้อ...อยู่กับคุณเล็ก"
"ใช่ครับ"
"ทำหน้าที่สามี ได้ครบถ้วน ?"
"ไม่มีปัญหาครับผม! โล้สำเภาได้ทั้งคืนครับ!" แอนดี้ตอบยิ้มๆ
ด็อกเตอร์หนุ่มหัวเราะก๊าก
"คุณเล็ก คงจะ
อิ่มเอม มากสิท่า ฮะ ?"
"ก็ดูท่าทางมีความสุขดีครับผม"
สถาพรหัวเราะหึหึ ควานหาบุหรี่ที่หัวนอนเพื่อจะจุดสูบ แต่พอเปิดกล่องก็เจอแต่ความว่างเปล่า บุหรี่ข้างในหมดแล้ว
"เฮ้อ...." เขาส่ายหน้า มองไปที่แอนดี้ แล้วก็ต้องทึ่ง เมื่อแอนดรอยด์คนเก่งโยนกล่องโลหะแบนๆขนาดใหญ่กว่าซองบุหรี่ขนาดคิงไซส์นิดหน่อยมาให้
"เฮ่ยย!?" เขามองหน้าแอนดี้อย่างงงๆ พลางยกมือคว้ารับกล่องโลหะนั้นไว้ได้ พอเปิดดูก็พบว่ามีบุหรี่หลายมวนอยู่ภายใน
"เจ้านาย ฝากมาให้คุณครับ" แอนดี้พูดหน้าตาย
"ฮะ !! ?? Amazing !!!" เขาว่า แล้วหยิบบุหรี่มาจุดสูบตัวหนึ่ง ก่อนจะซักถามต่อ
"วันชนะ สูบบุหรี่ด้วยเหรอวะ ?"
"สูบครับ" แอนดี้พยักหน้า "แต่ไม่บ่อยครับ นานๆ ผมถึงจะเห็นเจ้านายสูบที โดยมากจะสูบในช่วงเวลาที่มีความเครียดมากๆ ครับ"
"อืมม...." ดอกเตอร์หนุ่มครางในลำคอ อัดบุหรี่อีกรอบ "เครียดอะไรมากมายว้า..."
"ก็เครียดเรื่องเกี่ยวกับคุณนั่นแหละครับ!"
"เหรอ ?" เขาย้อนถามและยิ้มนิดหนึ่ง อัดบุหรี่ต่อแล้วถามเหมือนเอ่ยพูดลอยๆ
"ฉันนี่ เลวมากไหมวะ ?"
แอนดี้เงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบโดยยกคำพูดของหนูน้อยแอนนามาพูด
"คุณเป็นทั้งคนดี และคนเลวครับ"
สถาพรมองหน้าเขาด้วยความรู้สึกทึ่งอีกครั้ง ก่อนจะถามต่อ "นี่ นายคิดเองหรือวะ ?"
"เปล่าครับ" แอนดี้ปฏิเสธอย่างซื่อๆ "ผมจำคำพูดของคุณหนูแอนนามาครับ"
"อ้อ...ลูกสาวของวันชนะ"
"ครับผม"
"เขาเป็นเด็กพิเศษนี่"
"ครับ คุณคงได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้ว"
"ใช่...ฉันพอรู้ตัวอยู่บ้าง ตอนที่เขาใช้พลังช่วย...เอ้อ...รักษาฉัน"
"ผมไม่น่าปล่อยให้คุณเอาขวดยาของเศรษฐีคนนั้นมาเลย" แอนดี้พูดแล้วส่ายหัว
"หึ...รู้สึกเอือมระอาเป็นด้วยหรือวะ ?" สถาพรถามด้วยสีหน้าทึ่งอีกครั้ง พลางนึกในใจ
มันจะเหมือนคนมากเกินไปแล้วมั้ง
"ก็ พอรู้สึกได้ พอเข้าใจได้ครับ"
"นายเป็นหุ่นยนต์ และด้วยเทคโนโลยีเท่าที่ทำได้ ทั้งวันชนะและฉัน ต่อให้ร่วมมือกันอัพเกรดนาย ก็ไม่น่าจะทำให้นายเปลี่ยนแปลงไปมากมายได้ถึงขนาดนี้นี่หว่า ฮะ ? " เขาถามด้วยความข้องใจ "จริงอยู่ เจ้านายของนายน่ะ เก่ง แต่ฉันเองก็ไม่ด้อยไปกว่าเขาหรอก แอนดี้"
"แน่นอนครับ คุณทั้งสองคนเป็นวิศวกรที่เก่งทั้งคู่ แต่ความรู้ความสามารถของคุณทั้งสอง ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถอัพเกรดผมให้เป็นอย่างตอนนี้ได้อย่างแน่นอน คุณพูดถูกแล้วครับ"
"งั้น...ก็หมายความว่า พวกต่างดาว ช่วยทำให้ละสิ ?"
"ใช่ครับผม"
สถาพรนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ใช้ความคิด....
'พวกวันชนะมีมนุษย์ต่างดาวคอยช่วยเหลือ แบบนี้ ถ้ากลับสู่ปัจจุบัน แล้วต้องแยกทางกันไปอยู่คนละฝ่าย เราคงสู้ไม่ได้แน่ๆ เพราะเทคโนโลยีต่างดาวต้องล้ำหน้าไปหลายช่วงตัว การเป็นศัตรูกับพวกของวันชนะ ไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ ยังไงซะ เราสมควรต้องพยายามทำดีไว้ก่อนดีกว่า...อย่างน้อยวันชนะก็ยังมีความรู้สึกผูกพันกับเรา คนอื่นไม่สำคัญเท่าไร แต่วันชนะสำคัญที่สุด...อีกอย่าง เอ็มม่า เมียของวันชนะยังเคยบอกเราว่า พวกของเธอ สามารถเอาชิพระเบิดที่ฝังอยู่ในหัวเราออกได้ อันนี้สิน่าสน!'
แอนดี้เห็นด็อกเตอร์หนุ่มเงียบไป ประกอบกับเขาเองก็ซ่อมประตูห้องเสร็จแล้ว จึงเอ่ยขึ้นขอตัวกลับไปหากัปตันวันชนะ
"ผมซ่อมแซมประตูห้องให้คุณเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่มีอะไร ผมไปก่อนนะครับ เจ้านายคงจะรอผมอยู่"
"อืมม...ไปเถอะ แอนดี้" สถาพรเหลือบตามองเขาและพยักหน้า "ขอบใจมาก และฝากบอกขอบคุณเจ้านายของนายด้วย"
"ครับผม จะบอกให้ครับ" แอนดี้ยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก้าวออกไป ปิดประตู ปล่อยให้เจ้าของห้องอยู่ตามลำพัง
*************************************************************************
ล็อต พร้อมกับทูตสวรรค์สององค์ มาถึงบ้านในเวลาหลังจากที่แอนดี้กลับไปหากัปตันวันชนะและสมาชิกคนอื่นๆ ที่ห้องของเขาเพียงไม่กี่นาที
ทูตสวรรค์ทั้งสองแปลงร่างเป็นมนุษย์ธรรมดาซึ่งมีหน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณเนียนผุดผ่องเหมือนเดิม สิ่งที่หายไปก็คือ ปีกขนาดใหญ่ทั้งสองซึ่งติดอยู่ที่หลังของพวกเขาเท่านั้น จากนั้นจึงตามล็อตเข้าไปในบ้าน
แต่การเดินทางมาของทั้งสาม ก็ถูกจับตามองโดยชาวเมืองกลุ่มหนึ่งประมาณห้าหกคนซึ่งซ่อนตัวอยู่ข้างนอก และพวกเขารู้สึกพึงพอใจในรูปกายของทูตสวรรค์สองคนนั้นเป็นอย่างมาก จึงคิดกันว่า จะบีบบังคับให้ล็อตปล่อยตัว "อาคันตุกะใหม่รูปงาม" ออกมาให้พวกตนให้จงได้ ดังนั้น ทุกคนจึงกลับไปแจ้งข่าวแก่คนอื่นๆซึ่งอยู่บริเวณหน้าประตูเมือง จากนั้นจึงยกขบวนกันนับร้อยๆคน ถือคบเพลิงเดินไปยังบ้านของล็อตอีกครั้ง
ฝ่ายล็อต หลังจากเข้าบ้านไปพร้อมกับทูตสวรรค์ทั้งสองซึ่งแปลงกายเป็นมนุษย์ธรรมดาแล้ว ก็ได้ทราบความเป็นไปที่เกิดขึ้นภายในบ้านอย่างคร่าวๆ จากคำบอกเล่าของเอ็มม่า ดังนั้น เขาจึงกล่าวกับทุกคน ในขณะที่กำลังรับประทานอาหารเย็นกันที่โต๊ะอาหาร
"ข้ามีลูกสาวอยู่สองคน ยาเฟต์ เป็นคนพี่ และมีสามีแล้ว ส่วน เอวา เป็นคนน้อง ยังไม่มีที่หมั้นหมาย และข้าได้ทราบจากปากของนางเองว่า สหายคนหนึ่งในหมู่ของพวกท่าน พึงพอใจในตัวนาง และนางเองก็มีจิตปฏิพัทธต่อเขา" ถึงตอนนี้ ล็อตหันมาทางกัปตันวันชนะและเอ็มม่าซึ่งนั่งอยู่คู่กัน แล้วหันไปถามลูกสาวคนเล็กซึ่งนั่งอยู่ข้างซ้าย "ข้าพูดถูกไหม เอวา ?"
"เอ้อ....เป็นอย่างนั้นเจ้าค่ะ ท่านพ่อ" นางตอบแล้วก้มศีรษะลงมองพื้นด้วยความเขินอาย
ล็อตพยักหน้าหงึก แล้วหันมาถามเอ็มม่า "ท่านหญิง ท่านลองถามสหายคนนั้นดูทีรึ ว่าเขา จะยอมรับเอวา เป็นภรรยาหรือไม่ ? เพราะข้า ยินดียกลูกสาวคนนี้ให้ บอกเขาด้วยว่า ข้าทราบเรื่องราวความเป็นไปที่เกิดขึ้นภายในห้องพักของเขาในวันนี้แล้ว ทุกอย่าง!"
"ค่ะ ท่านล็อต ดิฉันจะลองถามเขาดูเดี๋ยวนี้" เอ็มม่าพยักหน้ารับคำ แล้วหันไปถามด็อกเตอร์หนุ่มซึ่งนั่งอยู่ที่ท้ายโต๊ะ "คุณสถาพร...คุณจะยอมรับ เอวา ลูกสาวคนเล็กของท่านล็อต เป็นภรรยาไหมคะ ?"
"อะไรนะครับ ?" สถาพรเงยหน้าขึ้นและหันไปมองคนถาม "คุณเอ็มม่า ว่าอะไรนะครับ ขอโทษที ผมใจลอยคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ เลยไม่ได้ฟังถนัด"
คุณแม่ต่างดาวส่ายหน้าทีหนึ่ง ก่อนจะพูดซ้ำ "ฉันถามว่า คุณจะยอมรับ เอวา ลูกสาวคนเล็กของท่านล็อต เป็นภรรยาไหม ?"
ด็อกเตอร์หนุ่มหันไปมองเอวาทีหนึ่ง หันไปมองล็อตผู้เป็นพ่อทีหนึ่ง ทำหน้างงๆ แล้วถาม "เขายกลูกสาวให้ผมหรือครับ ?"
"ใช่ค่ะ"
"เขา...เอิ่ม...ไม่โกรธผมหรือครับ ที่วันนี้ อ่าา....ลูกสาวของเขา เกือบจะ...เป็นของผมแล้ว"
เอ็มม่าหันไปถามล็อตด้วยคำถามนั้นของสถาพร แล้วเมื่อล็อตให้คำตอบด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง หล่อนจึงหันมาแปลให้เขาฟัง
"ล็อตบอกว่า คุณได้ล่วงเกินนางไปบ้างแล้ว และถ้าแซมไม่พังประตูเข้าไป นางก็ต้องตกเป็นของคุณอย่างแน่นอน คุณได้สัมผัสแตะต้องนางแล้ว นางไม่อาจเป็นของชายอื่นได้ นอกจากคุณคนเดียว ล็อตจะโกรธคุณ ถ้าคุณปฏิเสธ และจะให้คุณออกไปจากบ้านทันทีค่ะ!"
"โว้วว..." สถาพรร้องอุทานเสียงดัง "ผมหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่ไหมนี่ ?"
"ก็ แล้วแต่คุณค่ะ!" เอ็มม่ากล่าวเสียงเข้ม
(มีต่อครับ)
💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-42 : โซดอม เมืองคนบาป #6 💫🕛💫
กัปตันวันชนะ ต้องปวดหัวกับเรื่องความประพฤติของเพื่อนเก่า หลังจากที่กลับมาจากข้างนอกก่อนหน้าล็อต พร้อมกับแอนดี้และสองสาว เมื่อได้รับทราบเรื่องจากสมาชิกที่เหลือในทีมที่อยู่เฝ้าบ้านของล็อต
งานนี้ แม้จะรู้ดีว่า ด็อกเตอร์หนุ่มหมายมั่นปั้นมือจะพรากพรหมจรรย์ของเอวา ลูกสาวคนเล็กของล็อตก็ตามที แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้กับความจริงที่ว่า นางเข้าไปหาเขาเองถึงในห้อง อีกทั้งท่าทางของนางก็ดูมีใจให้กับสถาพรอยู่แล้วด้วย ดังนั้น หากนางตกเป็นเขา นางเองก็อาจจะไม่เสียอกเสียใจอะไร กลับจะยินดีเสียด้วยซ้ำและคงจะเกาะติดสถาพรไปตลอดแน่ๆ ปัญหาคือ สถาพรจะยอมรับนางเป็นภรรยาหรือไม่เท่านั้น และคงจะเป็นเรื่องใหญ่ หากล็อตได้ล่วงรู้
"ถ้าล็อตรู้เรื่อง เขาต้องบังคับให้เอวาแต่งงานกับสถาพรอย่างแน่นอน เพราะเขาเป็นคนหนักในธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม สถาพรจะต้องกลายเป็นลูกเขยของเขา และถ้าเป็นเช่นนั้น เขาจะไปกับพวกเราไม่ได้ เขาต้องอยู่ที่นี่ และเมื่อถึงเวลาก็ต้องเดินทางไปพร้อมกันกับครอบครัวของล็อต ในวันที่เมืองนี้จะถูกถล่ม ซึ่งผมคิดว่า สถาพรคงจะไม่ยอมอยู่แน่" กัปตันกล่าวกับสมาชิกทุกคน แล้วถอนใจยาว
"ถึงขั้นนั้น ไม่ยอมก็ต้องยอมครับ กัปตัน เขาจะทำร้ายจิตใจภรรยาได้ไง ไหนจะล็อตและครอบครัวอีกล่ะ ?" แซมกล่าวค้าน แล้วตามด้วยการยุให้เจ้านายตัดหางปล่อยวัด "ผมว่า ปล่อยเขาไปเถอะครับ ยังไงเขาก็ไม่มีวันที่จะมาเป็นสมาชิกของกัปตันได้หรอกครับ"
"ผมไม่ให้เขาเป็นแน่นอนอยู่แล้วครับ แซม" กัปตันกล่าวอย่างหนักแน่น "อุดมการณ์ทางการเมืองของเขาคนละขั้วกับพวกเราอยู่แล้ว แค่ข้อนี้ข้อเดียวเขาก็ไม่อาจร่วมกับเราได้"
"งั้นก็ปล่อยเขาไปเสียเถอะครับ" แซมพยายามเร่งเร้า
"คอยดูสถานการณ์ไปก่อนครับ ตอนนี้ เขาก็แยกตัวอยู่ห่างจากพวกเราอยู่แล้วนะ ยังไม่ต้องไปบอกไล่อะไรหรอก ถึงเวลาที่เราจะต้องเดินทาง ถ้าจะทิ้งเขา ผมจะเป็นคนบอกเขาเอง!"
กัปตันกล่าว แล้วควักกล่องบุหรี่โลหะออกมาจากอกเสื้อ เปิดกล่อง ดึงบุหรี่ออกมาตัวหนึ่งแล้วจุดสูบ อัดควันลึกแล้วพ่นควันออกมายาวๆ และสูบต่อเนื่องอีกหลายครั้ง จนบุหรี่ถูกไฟเผาสั้นลงเหลือไม่ถึงครึ่งมวนอย่างรวดเร็ว อาการนั้นทำให้ทุกคนเงียบกริบ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเขาเกิดความเครียดความกดดันอย่างหนัก น้อยครั้งมากที่ใครจะได้เห็นเขาจุดบุหรี่สูบต่อหน้า!
"ง่า...นึกว่า กัปตัน เลิกสูบไปแล้วเสียอีก" สาวจอยเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
"ยังไม่เลิกโดยเด็ดขาดหรอกครับ คุณจอย" กัปตันหันมาบอก และยิ้มนิดหนึ่งคล้ายประชดตัวเอง "ผมยังพกกล่องบุหรี่ติดตัว เผื่อไว้ เวลาที่มันเครียดจัด ก็เอาเสียหน่อย"
แซมกำลังจะพูดออกมาตรงๆ ว่า 'กัปตันจะทิ้งเขาซึ่งเป็นเพื่อนเก่าได้แน่หรือครับ ?" แต่เมื่อเห็นอากับกิริยาของเจ้านายแล้วก็ต้องเบรคปากของตัวเองไว้
"ประตูหน้าห้องสถาพรพังไปแล้ว แอนดี้" กัปตันหันมาหาแอนดรอยด์อัจฉริยะ
"ครับ เจ้านาย"
"นายไปช่วยซ่อมประตูห้องให้เขาหน่อยนะ"
"ได้ครับผม ไปเดี๋ยวนี้ครับ"
"เดี๋ยวก่อน แอนดี้"
"ครับผม ?"
"เอานี่ไปให้เขาด้วย" กัปตันกล่าวแล้วโยนกล่องบุหรี่ไปให้
แอนดี้ยกมือขวารับไว้พลางพยักหน้ารับคำสั่ง เก็บมันไว้ในช่องเก็บอุปกรณ์บริเวณหน้าขา แล้วเดินออกจากห้องของเจ้านาย ตรงไปยังห้องของสถาพร พอไปถึงก็พบว่าเจ้าของห้องกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง แต่ไม่ได้หลับ
ทันทีที่เห็นแอนดี้มาถึง เขาก็เอ่ยทัก "ไง แอนดี้ เจ้านายสั่งให้นายมาหาฉันเหรอ ?"
"ครับ คุณสถาพร"
"มาหาฉันทำไมวะ ?"
"เจ้านาย สั่งให้ผมช่วยซ่อมบานประตูห้องของคุณน่ะครับ"
"เหรอ ? อือ....ขอบใจว่ะ! ฝากบอกขอบคุณเขาด้วยนะ"
"ครับผม"
แอนดี้พยักหน้าตอบ แล้วเริ่มสำรวจดูบานประตูซึ่งถูกแซมใช้กำลังถีบจนพังหลุดทั้งกระบิกองอยู่กับพื้น ยกบานประตูตั้งขึ้นประกบเข้าที่กรอบประตู เปิดกล่องอุปกรณ์ยื่นออกมาจากบริเวณหน้าขา หยิบแผ่นโลหะเล็กๆในนั้นออกมาทำเป็นบานพับติดตั้งบานประตู พร้อมทำกลอนไว้ข้างใน ไม่กี่นาทีก็เสร็จเรียบร้อย
"นายนี่มันสารพัดประโยชน์จริงๆเลยว่ะ!" สถาพรกล่าวชม ซึ่งก็เท่ากับชมฝีมือของเพื่อนเก่าไปในตัว
"ขอบคุณครับที่ชม ผมเกิดจากการออกแบบและสร้างขึ้นมาโดยเจ้านาย ซึ่งเป็นเพื่อนของคุณนั่นแหละครับ"
แอนดี้จงใจใช้คำว่า "เพื่อน" ไม่พูดว่า "เพื่อนเก่า" ซึ่งคำพูดนั้นทำให้สถาพรฉายแววตาซึมเศร้าออกมาแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบสะบัดหน้า สลายแววตานั้นทิ้งไป เขานึกประหลาดใจในความเปลี่ยนแปลงของแอนดี้ ซึ่งดูเหมือนมนุษย์มากขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งคำพูดและการกระทำ
"แอนดี้..."
"ครับ ? มีอะไรหรือครับ คุณสถาพร ?"
"ตอนนี้ นาย...มีความรู้สึกนึกคิด เหมือนคนทั่วไปแล้วเหรอ ?" สถาพรดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
"ก็...มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนครับผม แต่ยังไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ"
"แล้วมีเท่าไรวะ ? ซัก 60-70 เปอร์เซ็นต์ ได้ไหม ?"
"ประมาณนั้น ครับผม"
"แล้วนาย เอ้อ...อยู่กับคุณเล็ก"
"ใช่ครับ"
"ทำหน้าที่สามี ได้ครบถ้วน ?"
"ไม่มีปัญหาครับผม! โล้สำเภาได้ทั้งคืนครับ!" แอนดี้ตอบยิ้มๆ
ด็อกเตอร์หนุ่มหัวเราะก๊าก
"คุณเล็ก คงจะ อิ่มเอม มากสิท่า ฮะ ?"
"ก็ดูท่าทางมีความสุขดีครับผม"
สถาพรหัวเราะหึหึ ควานหาบุหรี่ที่หัวนอนเพื่อจะจุดสูบ แต่พอเปิดกล่องก็เจอแต่ความว่างเปล่า บุหรี่ข้างในหมดแล้ว
"เฮ้อ...." เขาส่ายหน้า มองไปที่แอนดี้ แล้วก็ต้องทึ่ง เมื่อแอนดรอยด์คนเก่งโยนกล่องโลหะแบนๆขนาดใหญ่กว่าซองบุหรี่ขนาดคิงไซส์นิดหน่อยมาให้
"เฮ่ยย!?" เขามองหน้าแอนดี้อย่างงงๆ พลางยกมือคว้ารับกล่องโลหะนั้นไว้ได้ พอเปิดดูก็พบว่ามีบุหรี่หลายมวนอยู่ภายใน
"เจ้านาย ฝากมาให้คุณครับ" แอนดี้พูดหน้าตาย
"ฮะ !! ?? Amazing !!!" เขาว่า แล้วหยิบบุหรี่มาจุดสูบตัวหนึ่ง ก่อนจะซักถามต่อ
"วันชนะ สูบบุหรี่ด้วยเหรอวะ ?"
"สูบครับ" แอนดี้พยักหน้า "แต่ไม่บ่อยครับ นานๆ ผมถึงจะเห็นเจ้านายสูบที โดยมากจะสูบในช่วงเวลาที่มีความเครียดมากๆ ครับ"
"อืมม...." ดอกเตอร์หนุ่มครางในลำคอ อัดบุหรี่อีกรอบ "เครียดอะไรมากมายว้า..."
"ก็เครียดเรื่องเกี่ยวกับคุณนั่นแหละครับ!"
"เหรอ ?" เขาย้อนถามและยิ้มนิดหนึ่ง อัดบุหรี่ต่อแล้วถามเหมือนเอ่ยพูดลอยๆ
"ฉันนี่ เลวมากไหมวะ ?"
แอนดี้เงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบโดยยกคำพูดของหนูน้อยแอนนามาพูด
"คุณเป็นทั้งคนดี และคนเลวครับ"
สถาพรมองหน้าเขาด้วยความรู้สึกทึ่งอีกครั้ง ก่อนจะถามต่อ "นี่ นายคิดเองหรือวะ ?"
"เปล่าครับ" แอนดี้ปฏิเสธอย่างซื่อๆ "ผมจำคำพูดของคุณหนูแอนนามาครับ"
"อ้อ...ลูกสาวของวันชนะ"
"ครับผม"
"เขาเป็นเด็กพิเศษนี่"
"ครับ คุณคงได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้ว"
"ใช่...ฉันพอรู้ตัวอยู่บ้าง ตอนที่เขาใช้พลังช่วย...เอ้อ...รักษาฉัน"
"ผมไม่น่าปล่อยให้คุณเอาขวดยาของเศรษฐีคนนั้นมาเลย" แอนดี้พูดแล้วส่ายหัว
"หึ...รู้สึกเอือมระอาเป็นด้วยหรือวะ ?" สถาพรถามด้วยสีหน้าทึ่งอีกครั้ง พลางนึกในใจ มันจะเหมือนคนมากเกินไปแล้วมั้ง
"ก็ พอรู้สึกได้ พอเข้าใจได้ครับ"
"นายเป็นหุ่นยนต์ และด้วยเทคโนโลยีเท่าที่ทำได้ ทั้งวันชนะและฉัน ต่อให้ร่วมมือกันอัพเกรดนาย ก็ไม่น่าจะทำให้นายเปลี่ยนแปลงไปมากมายได้ถึงขนาดนี้นี่หว่า ฮะ ? " เขาถามด้วยความข้องใจ "จริงอยู่ เจ้านายของนายน่ะ เก่ง แต่ฉันเองก็ไม่ด้อยไปกว่าเขาหรอก แอนดี้"
"แน่นอนครับ คุณทั้งสองคนเป็นวิศวกรที่เก่งทั้งคู่ แต่ความรู้ความสามารถของคุณทั้งสอง ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถอัพเกรดผมให้เป็นอย่างตอนนี้ได้อย่างแน่นอน คุณพูดถูกแล้วครับ"
"งั้น...ก็หมายความว่า พวกต่างดาว ช่วยทำให้ละสิ ?"
"ใช่ครับผม"
สถาพรนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ใช้ความคิด.... 'พวกวันชนะมีมนุษย์ต่างดาวคอยช่วยเหลือ แบบนี้ ถ้ากลับสู่ปัจจุบัน แล้วต้องแยกทางกันไปอยู่คนละฝ่าย เราคงสู้ไม่ได้แน่ๆ เพราะเทคโนโลยีต่างดาวต้องล้ำหน้าไปหลายช่วงตัว การเป็นศัตรูกับพวกของวันชนะ ไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ ยังไงซะ เราสมควรต้องพยายามทำดีไว้ก่อนดีกว่า...อย่างน้อยวันชนะก็ยังมีความรู้สึกผูกพันกับเรา คนอื่นไม่สำคัญเท่าไร แต่วันชนะสำคัญที่สุด...อีกอย่าง เอ็มม่า เมียของวันชนะยังเคยบอกเราว่า พวกของเธอ สามารถเอาชิพระเบิดที่ฝังอยู่ในหัวเราออกได้ อันนี้สิน่าสน!'
แอนดี้เห็นด็อกเตอร์หนุ่มเงียบไป ประกอบกับเขาเองก็ซ่อมประตูห้องเสร็จแล้ว จึงเอ่ยขึ้นขอตัวกลับไปหากัปตันวันชนะ
"ผมซ่อมแซมประตูห้องให้คุณเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่มีอะไร ผมไปก่อนนะครับ เจ้านายคงจะรอผมอยู่"
"อืมม...ไปเถอะ แอนดี้" สถาพรเหลือบตามองเขาและพยักหน้า "ขอบใจมาก และฝากบอกขอบคุณเจ้านายของนายด้วย"
"ครับผม จะบอกให้ครับ" แอนดี้ยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง แล้วก้าวออกไป ปิดประตู ปล่อยให้เจ้าของห้องอยู่ตามลำพัง
ล็อต พร้อมกับทูตสวรรค์สององค์ มาถึงบ้านในเวลาหลังจากที่แอนดี้กลับไปหากัปตันวันชนะและสมาชิกคนอื่นๆ ที่ห้องของเขาเพียงไม่กี่นาที
ทูตสวรรค์ทั้งสองแปลงร่างเป็นมนุษย์ธรรมดาซึ่งมีหน้าตาหล่อเหลา ผิวพรรณเนียนผุดผ่องเหมือนเดิม สิ่งที่หายไปก็คือ ปีกขนาดใหญ่ทั้งสองซึ่งติดอยู่ที่หลังของพวกเขาเท่านั้น จากนั้นจึงตามล็อตเข้าไปในบ้าน
แต่การเดินทางมาของทั้งสาม ก็ถูกจับตามองโดยชาวเมืองกลุ่มหนึ่งประมาณห้าหกคนซึ่งซ่อนตัวอยู่ข้างนอก และพวกเขารู้สึกพึงพอใจในรูปกายของทูตสวรรค์สองคนนั้นเป็นอย่างมาก จึงคิดกันว่า จะบีบบังคับให้ล็อตปล่อยตัว "อาคันตุกะใหม่รูปงาม" ออกมาให้พวกตนให้จงได้ ดังนั้น ทุกคนจึงกลับไปแจ้งข่าวแก่คนอื่นๆซึ่งอยู่บริเวณหน้าประตูเมือง จากนั้นจึงยกขบวนกันนับร้อยๆคน ถือคบเพลิงเดินไปยังบ้านของล็อตอีกครั้ง
ฝ่ายล็อต หลังจากเข้าบ้านไปพร้อมกับทูตสวรรค์ทั้งสองซึ่งแปลงกายเป็นมนุษย์ธรรมดาแล้ว ก็ได้ทราบความเป็นไปที่เกิดขึ้นภายในบ้านอย่างคร่าวๆ จากคำบอกเล่าของเอ็มม่า ดังนั้น เขาจึงกล่าวกับทุกคน ในขณะที่กำลังรับประทานอาหารเย็นกันที่โต๊ะอาหาร
"ข้ามีลูกสาวอยู่สองคน ยาเฟต์ เป็นคนพี่ และมีสามีแล้ว ส่วน เอวา เป็นคนน้อง ยังไม่มีที่หมั้นหมาย และข้าได้ทราบจากปากของนางเองว่า สหายคนหนึ่งในหมู่ของพวกท่าน พึงพอใจในตัวนาง และนางเองก็มีจิตปฏิพัทธต่อเขา" ถึงตอนนี้ ล็อตหันมาทางกัปตันวันชนะและเอ็มม่าซึ่งนั่งอยู่คู่กัน แล้วหันไปถามลูกสาวคนเล็กซึ่งนั่งอยู่ข้างซ้าย "ข้าพูดถูกไหม เอวา ?"
"เอ้อ....เป็นอย่างนั้นเจ้าค่ะ ท่านพ่อ" นางตอบแล้วก้มศีรษะลงมองพื้นด้วยความเขินอาย
ล็อตพยักหน้าหงึก แล้วหันมาถามเอ็มม่า "ท่านหญิง ท่านลองถามสหายคนนั้นดูทีรึ ว่าเขา จะยอมรับเอวา เป็นภรรยาหรือไม่ ? เพราะข้า ยินดียกลูกสาวคนนี้ให้ บอกเขาด้วยว่า ข้าทราบเรื่องราวความเป็นไปที่เกิดขึ้นภายในห้องพักของเขาในวันนี้แล้ว ทุกอย่าง!"
"ค่ะ ท่านล็อต ดิฉันจะลองถามเขาดูเดี๋ยวนี้" เอ็มม่าพยักหน้ารับคำ แล้วหันไปถามด็อกเตอร์หนุ่มซึ่งนั่งอยู่ที่ท้ายโต๊ะ "คุณสถาพร...คุณจะยอมรับ เอวา ลูกสาวคนเล็กของท่านล็อต เป็นภรรยาไหมคะ ?"
"อะไรนะครับ ?" สถาพรเงยหน้าขึ้นและหันไปมองคนถาม "คุณเอ็มม่า ว่าอะไรนะครับ ขอโทษที ผมใจลอยคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ เลยไม่ได้ฟังถนัด"
คุณแม่ต่างดาวส่ายหน้าทีหนึ่ง ก่อนจะพูดซ้ำ "ฉันถามว่า คุณจะยอมรับ เอวา ลูกสาวคนเล็กของท่านล็อต เป็นภรรยาไหม ?"
ด็อกเตอร์หนุ่มหันไปมองเอวาทีหนึ่ง หันไปมองล็อตผู้เป็นพ่อทีหนึ่ง ทำหน้างงๆ แล้วถาม "เขายกลูกสาวให้ผมหรือครับ ?"
"ใช่ค่ะ"
"เขา...เอิ่ม...ไม่โกรธผมหรือครับ ที่วันนี้ อ่าา....ลูกสาวของเขา เกือบจะ...เป็นของผมแล้ว"
เอ็มม่าหันไปถามล็อตด้วยคำถามนั้นของสถาพร แล้วเมื่อล็อตให้คำตอบด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง หล่อนจึงหันมาแปลให้เขาฟัง
"ล็อตบอกว่า คุณได้ล่วงเกินนางไปบ้างแล้ว และถ้าแซมไม่พังประตูเข้าไป นางก็ต้องตกเป็นของคุณอย่างแน่นอน คุณได้สัมผัสแตะต้องนางแล้ว นางไม่อาจเป็นของชายอื่นได้ นอกจากคุณคนเดียว ล็อตจะโกรธคุณ ถ้าคุณปฏิเสธ และจะให้คุณออกไปจากบ้านทันทีค่ะ!"
"โว้วว..." สถาพรร้องอุทานเสียงดัง "ผมหลีกเลี่ยงไม่ได้ใช่ไหมนี่ ?"
"ก็ แล้วแต่คุณค่ะ!" เอ็มม่ากล่าวเสียงเข้ม
(มีต่อครับ)