"ใจเย็นไว้ก่อนเพื่อน" สถาพรเอ่ยปากเบรคเพื่อนเก่าซึ่งบัดนี้กลับมาเป็นเพื่อนรักกันดังเดิมอีกครั้ง "มีเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่นายต้องรีบทำตอนนี้"
"อ้อ...จริงด้วยแฮะ, คุณรัชนี" กัปตันวันชนะหันมายังน้องสาวของเพื่อนแล้วเรียกหล่อน
"คะ ?"
"คุณ...อยากจะเอาชิพมรณะ ออกจากสมองของคุณไหมครับ ตอนนี้ ?"
รัชนีเม้มปาก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจ พยักหน้า
"เอาก็เอาค่ะ! ยังไง ดีฉันก็ต้องกลับไปหาความจริงกับ 'คุณพ่อ' ของดิฉัน ตอนนี้ ท่านคงรอดิฉันอยู่แน่ๆ ซึ่งถ้าดิฉันกลับไปโดยยังคงมีชิพนั่นฝังอยู่ใต้กระโหลก คลื่นสมองและความคิดของดิฉันในส่วนที่มีความเคลือบแคลง ระแวง สงสัย จะต้องถูกตรวจจับได้อย่างไม่ต้องสงสัย"
"และคุณก็จะตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต" หนุ่มเอกกล่าวเสริมออกไปอย่างลืมตัว และพอพูดออกไปแล้วก็นึกสงสัยตัวเองว่า เหตุใดจึงต้องพูดออกไปอย่างนั้น... ครั้นเหลือบแลไปยังสองสาวเล็กและจอยก็พบว่าทั้งสองคนกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ โดยพระกนิษฐาของฟาโรห์คูฟูแอบยกนิ้วโป้งชูให้ และแม่หมอเล็กทำท่าตบมืออย่างไร้เสียงรัวๆ ทำให้อดีตมหาเปรียญเผลอส่ายหน้าน้อยๆทีหนึ่ง ก่อนจะรีบตวัดสายตากลับมามองคุณหมอและ ศ.จ.สาว
"เอ่อ...ค่ะ!" รัชนีหันมามองเอก พอสบตากับเขาเท่านั้นก็รู้สึกว่าใบหน้าตนเองร้อนผ่าว หลบสายตาเขาทีหนึ่ง แต่แล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาอีกครั้งแล้วหลุดคำพูดที่ตนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะพูดออกมาได้!
"ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ คุณเอก!"
มหาเอกค้อมกายคำนับหล่อนราวกับว่าตนเองเป็นชาวญี่ปุ่นและยิ้มน้อยๆให้ ก่อนจะตอบ "พวกเรา เป็นห่วงคุณกันทุกคนครับ"
"และผมเป็นห่วงคุณเป็นพิเศษ มากกว่าใคร!" สาวจอยกระซิบข้างหูสาวเล็ก แล้วทั้งสองคนก็พากันหัวเราะคิกคักๆ
"คุณเอกพูดถูกแล้วหละครับคุณรัชนี" กัปตันกล่าวเสริมยิ้มๆ แล้วหันไปถามภรรยา "เอ็มม่า คุณช่วยเรียกเพื่อนของคุณให้มาช่วยผ่าตัดให้คุณรัชนีตอนนี้ได้ไหมที่รัก ?"
"จะลองติดต่อดูค่ะ" คุณแม่ต่างดาวพยักหน้า แล้วเดินออกจากห้องประชุม ตรงไปยังห้องนักบินซึ่งมีอุปกรณ์สื่อสาร หล่อนทำการติดต่อกับยานบินซึ่งลอยตัวสแตนด์บายคอยติดตามความเคลื่อนไหวของกัปตันและคณะอยู่เหนือโลก ประมาณห้านาทีต่อมาจึงกลับเข้ามาในห้องประชุมแล้วรายงานผลการติดต่อ
"เรียบร้อยแล้วค่ะ อีกสักครู่ ทีมผ่าตัดจะเข้ามาในยาน เชิญคุณรัชนีไปที่ห้องพยาบาลตอนนี้เลยค่ะ พวกเราก็ไปรอพวกเขาในห้องโน้นกัน"
"สุดยอดครับ ที่รัก" กัปตันชูนิ้วโป้งให้ภรรยา และหล่อนก็ยิ้มหวานให้
แล้วทุกคนในห้องประชุมก็ย้ายเข้าไปรวมตัวกันอยู่ในห้องพยาบาล รอการมาของทีมแพทย์ชาวเนโอโซรอส เพื่อทำการผ่าตัดเอาชิพมรณะออกจากสมองของรัชนี อย่างที่เคยทำให้สถาพรมาแล้ว...
-----------------------------------------------------------------------------------------
ยานบินลำหนึ่งรูปทรงจานประกบกัน มีโดมใหญ่อยู่ตรงกลางด้านบน สีเงินยวงวาววับ ลอยตัวต่ำลงมาหยุดอยู่เหนือยาน THE FUGITIVE ราวสองร้อยเมตร จากนั้น ลำแสงสีส้มลำใหญ่ส่องลงมาจากใต้ยาน พร้อมกับร่างของชาวเนโอโซรอสสี่คน
และเมื่อเข้าใกล้ยาน THE FUGITIVE ร่างทั้ง 4 ก็พลันสลายวูบหายเข้าไปในยานของกัปตันวันชนะและคณะ ด้วยเทคโนโลยีเทเลพอร์เทชั่นขั้นสุดยอด ทุกอณูในร่างกายของพวกเขาแทรกซึมผ่านเข้าไปในยาน THE FUGITIVE แล้วไปรวมตัวเป็นชาวเนโอโซรอสทั้ง 4 อีกครั้ง กลางห้องพยาบาล ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น!
โดยไม่รอช้า ทีมแพทย์จากดาวเนโอโซรอสเริ่มทำการผ่าตัดให้แก่รัชนีทันทีที่มาถึง และปฏิบัติการครั้งนี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเช่นเดียวกันกับที่เคยทำให้สถาพร ใช้เวลาเร็วกว่าเสียด้วยซ้ำ
หลังจากชิพมรณะถูกถอดออก และทีมแพทย์ต่างดาวช่วยกันเย็บแผลสมานแผลผ่าตัดอย่างสนิทเนียนเรียบชนิดที่ไม่มีทีมแพทย์ที่ไหนในโลกนี้จะทำได้เรียบร้อยแล้ว รัชนีจึงเอ่ยปากบอกกับเอ็มม่า
"บอกพวกเค้าด้วยนะคะ ว่าดิฉันขอบคุณมากๆ ขอบคุณที่สุดเลยค่ะ รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจดีจริงๆ"
"ได้ค่ะ ดิฉันจะบอกให้" เอ็มม่าตอบพลางกุมมือของหล่อนและบีบเบาๆเป็นการปลอบขวัญ
"ยินดีด้วย แม่เสือ ที่ได้เป็นอิสรภาพด้วยกัน" สถาพรกล่าวกับน้องสาวแล้วเดินเข้ามาลูบศีรษะของหล่อนด้วยความรักใคร่
"ตอนที่พี่พรผ่าตัดเสร็จแล้ว รู้สึกโล่งอกมากไหมคะ ?"
"ก็เหมือนกันละมั้ง อย่างคนโบราณว่า เหมือนยกภูเขาออกจากอก"
"อิสรภาพ เป็นสิ่งที่หอมหวลเสมอครับ คุณรัชนี" กัปตันวันชนะกล่าวยิ้มๆ
"แต่ก็น่าเศร้านะคะ ที่ผู้โชคดี ได้รับอิสรภาพ มีแต่พวกเรา ดิฉันหมายถึง ตัวดิฉัน กับพี่พร" รัชนีกล่าวและทำหน้าเศร้า
"เธอคิดถึง ประชาชนทั้งหลาย ซึ่งถูกควบคุมอยู่ล่ะสิ" สถาพรถามน้องสาวเหมือนหยั่งเชิง
"ใช่ค่ะ พี่พร" หล่อนพยักหน้าหงึก "ถ้าเราสามารถช่วยพวกเขาได้ เหมือนอย่างที่เพื่อนๆของคุณเอ็มม่าช่วยเราสองคนได้ก็จะดีมาก ดีที่สุด"
"จะช่วยยังไง แม่เสือเอ๊ย...ประชาชนตั้งแปดสิบเก้าสิบล้าน ช่วยหมดทุกคนไม่ไหวหรอก เป็นไปไม่ได้!" สถาพรพูดพลางส่ายหน้า
"เราว่า มีอยู่วิธีหนึ่งเพื่อน และเป็นวิธีเดียว!!" กัปตันวันชนะสอดแทรกเข้ามา
"ทำไงวะ ?" ด็อกเตอร์หนุ่มเลิกคิ้ว
"บุกเข้าถ้ำเสือ! แล้วทำลายคอมพิวเตอร์ของศูนย์บัญชาการซะ!! ถ้าทำได้ ชิพทุกอันในหัวประชาชนทุกคนก็จะเป็นเพียงแค่เศษวัตถุส่วนเกินส่วนหนึ่งซึ่งไร้พิษสงใดๆ อีกต่อไป !!!"
สถาพรพยักหน้าช้าๆ ในขณะที่รัชนีเม้มปากครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับกัปตัน
"คุณพูดถูกค่ะ คุณวันชนะ แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ เราไม่รู้ว่า ศูนย์บัญชาการใหญ่ที่แท้จริง อยู่ที่ไหน!!"
"หืมม...คุณก็ไม่ทราบหรือครับ ?" กัปตันทำหน้าแปลกใจระคนสงสัย
"ไม่ทราบเลยจริงๆค่ะ" รัชนีส่ายหน้า "มันเป็นสถานที่ลับ ดิฉันรู้แค่นั้น พี่พรก็คงจะเหมือนกับดิฉัน คงไม่รู้อะไรมากไปกว่าดิฉันหรอก"
"ฐานทัพที่นายเคยกลับไปรายงานตัวครั้งสุดท้าย ไม่ใช่ศูนย์บัญชาการใหญ่หรอกหรือ ?" กัปตันหันมาถามเพื่อนอีกด้วยความข้องใจ
"ไม่ใช่หรอกเพื่อน ที่นั่นเป็นเพียงศูนย์บัญชาการกองทัพอากาศประจำหน่วยเหนือเท่านั้น!" สถาพรไขข้อข้องใจ
"ถ้าอย่างนั้น ศูนย์บัญชาการใหญ่ซึ่งควบคุมกองทัพทั้งประเทศ อยู่ที่ไหนกันแน่นะ ???" กัปตันวันชนะกล่าว เอามือกุมคางตนเอง คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิดหนัก
"ผมสงสัยอยู่ที่หนึ่งครับ" แอนดี้เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันดัง
"ที่ไหน แอนดี้ ?" กัปตันหันขวับไปถามลูกน้องคนเก่ง
"ถ้ำนั้นไงครับ เจ้านาย!!"
"นายหมายถึง ถ้ำที่ทิ้งศพคนเป็นพันเป็นหมื่น ที่นายกับสถาพรไปเจอมานั่นน่ะเหรอ ?" กัปตันเอ่ยถามและทำตาลุกวาว
"ครับ เจ้านาย"
"ทำไมนายถึงคิดว่าเป็นที่นั่น แอนดี้ ?" สถาพรถามบ้าง
"เพราะว่า ครั้งล่าสุดที่เจ้านายสั่งให้ผมไปสำรวจ ผมได้พบ และต่อสู้กับพวกหุ่นยนต์เอไอ หลายตัวครับ ผมตัวเดียว พวกมันมีเป็นสิบ มีอาวุธ เป็นอันตราย เหาะได้เหมือนผม ผมเกือบจะหนีพวกมันไม่ทัน โชคดีที่ผมสามารถถล่มหินเหนือปากถ้ำเข้าใส่พวกมัน แล้วปากถ้ำนั้นก็ปิดไปแล้วครับตอนนี้"
"ฮืมม........" สถาพรส่งเสียงครางหนักๆ
"น่าคิด...ในถ้ำลับ ที่ทิ้งศพตั้งมากมายก่ายกอง ทำไมมีหุ่นยนต์เอไอประจำการ ??"
"อย่างนั้น เราคงต้องกลับไปที่นั่นอีกครั้ง!" กัปตันวันชนะเสนอความเห็น "ปากถ้ำถูกปิดไปแล้ว ก็ระเบิดให้มันเปิดใหม่อีกครั้งได้ แค่แอนดี้คนเดียวก็จัดการได้แล้ว หลังจากนั้น พวกเราก็เข้าไปสำรวจข้างใน พร้อมอาวุธไว้ยิงสู้กับหุ่นเอไอพวกนั้น!!" พูดจบแล้วหันมาถามภรรยาซึ่งยืนคุยอยู่กับบรรดาทีมแพทย์ชาวเนโอโซรอส "เอ็มม่า คุณลองถามเพื่อนๆของคุณหน่อยสิครับ ชวนพวกเขาร่วมปฏิบัติการกับพวกเรา จะได้ไหม ?"
"จะลองถามดูค่ะ" เอ็มม่าพยักหน้า แล้วส่งภาษาดาวบ้านเกิดถามชาวเนโอโซรอสทั้ง 4 ครู่เดียวเท่านั้น กัปตันวันชนะก็เห็นพวกเขาสั่นศีรษะ จากนั้นเอ็มม่าจึงแปลภาษาของพวกนั้นให้สามีฟัง "พวกเขาบอกว่า ทำไม่ได้ค่ะ จะเป็นการขัดต่อมติของสภาแห่งดวงดาว พวกเขาจะคอยคุ้มกันพวกเรามิให้ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตเท่านั้นค่ะ !!"
"แหม...ช่างยึดมั่นเหนียวแน่นกับมติเสียเหลือเกิน!" กัปตันกล่าวด้วยความรู้สึกทั้งฉุนทั้งขำปนกัน
"วันชนะคะ..." เอ็มม่าเอ่ยถามสามีเพิ่มเติม
"อะไรหรือครับที่รัก ?"
"คุณ อยากให้พวกเขาทำอะไรให้อีกไหมคะ ? ถ้ามีก็บอก ถ้าพวกเขาทำให้ได้ พวกเขาจะทำให้ แน่นอนค่ะ!"
"อืมม.....ให้ทำอะไรดีน้อ ???" กัปตันทำท่าครุ่นคิด แล้วก็ดีดนิ้วเปาะ "นึกออกแล้ว ผมอยากให้ยาน THE FUGITIVE สามารถส่งคนออกจากยาน และรับคนขึ้นยาน ด้วยวิธีการ เทเลพอเทชั่น แบบที่พวกเขาลงมาจากยานบินข้างบนแล้วเข้ามาในยานของเรา ลองถามสิครับ พวกเขาจะทำให้ได้ไหม ?"
"อ๋อ...สลายมวลสารแล้วย้ายเข้ามา มันต้องติดตั้งอุปกรณ์ชุดใหญ่เลยนะคะ" เอ็มม่าตอบยิ้มๆ
"ก็ลองถามพวกเค้าดูหน่อยซี่..."
"ได้ค่ะ จะลองถามดู แหมคุณนี่ พวกคุณชอบพูดกันว่าไงนะ...ได้คืบจะเอาศอก ใช่ไหม ?" หล่อนยิ้มตอบสามีก่อนจะหันไปสอบถามชาวเนโอโซรอสทั้งสี่อยู่ครู่หนึ่งแล้วให้คำตอบ "พวกเค้าบอกว่า ต้องให้ทีมวิศวกรมาช่วยติดตั้งให้ค่ะ พวกเค้าเป็นทีมแพทย์ ทำให้ไม่ได้"
"งั้นก็ ฝากบอกพวกเค้าให้ช่วยขอทีมวิศวกรลงมาหน่อยสิจ๊ะ"
"บอกไปแล้วค่ะ พวกเขาสัญญาว่าจะขอให้ แต่ไม่รับรองนะคะ ว่าจะได้หรือไม่ได้"
"ขอบคุณครับที่รัก ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้นี่ แหล่มเลย!" กัปตันพูดแล้วแยกเขี้ยวยิ้ม
"แปลว่าอะไรคะ แหล่ม ? very good ???"
"ครับ ประมาณนั้น"
"ไม่เคยได้ยินคำนี้ค่ะ!"
"มันเป็นคำแบบ...สแลง ของคนยุคต้นศตวรรษที่ 21 น่ะครับ"
"อ่าฮะ...เข้าใจแล้วค่ะ อ่า...พวกเค้าจะกลับขึ้นยานแล้วนะคะตอนนี้"
"ครับ บอกพวกเค้าว่า ผมและทุกคน ขอบคุณพวกเขามากๆนะครับ"
"จะบอกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ" เอ็มม่าพยักหน้า แล้วแปลภาษาไทยอันเป็นคำขอบคุณของกัปตันวันชนะให้ทีมแพทย์เหล่านั้นฟัง
กัปตันและทุกคนในยานเห็นทั้ง 4 คนพยักหน้า แล้วยืนรวมกันกลางห้อง ครู่หนึ่งก็มีลำแสงสีส้มส่องผ่านเพดานห้องลงมาจับร่างทั้ง 4 และพริบตาเดียวร่างทั้ง 4 ก็สลายเหมือนเป็นผงธุลีเล็กละเอียดและพุ่งขึ้นไปบนเพดาน หายวับไปกับตา
"เอาละ...ตอนนี้ เอาอย่างนี้ก่อนละกันนะครับ ทุกคน" กัปตันวันชนะเริ่มวางแผน "เราจะไปเขาสันติคีรีกันอีกที แล้วผมจะให้แอนดี้ กลับไปสำรวจถ้ำนั้นอีกครั้ง ดูซิว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรที่ผิดปกติบ้าง ให้แอนดี้ส่งสัญญาณภาพและเสียงกลับมาที่ยาน หลังจากนั้น ค่อยมาคิดหาทางดำเนินการกันต่อไป"
"ดิฉันก็คงต้องกลับไปที่ศูนย์อนามัยในหมู่บ้านลาหู่นะคะ คุณวันชนะ" รัชนีเอ่ยขึ้นเพื่อเตือนมิให้เขาลืม "ยังไงดิฉันต้องไขข้อข้องใจที่มีอยู่กับคนที่ดิฉันเรียกว่า 'คุณพ่อ' ให้รู้ดำรู้แดง !!"
"เราต้องไปด้วยกัน แม่เสือ!!" สถาพรกล่าวกับน้องสาวพลางยกแขนขึ้นโอบไหล่ของหล่อน
"ค่ะ! พี่พร"
"อืมม....." กัปตันหยุดใช้ความคิดหน่อยหนึ่ง ก่อนตัดสินใจ "การกลับไปที่นั่น อันตรายมากสำหรับคุณนะครับ แม้จะมีสถาพรไปด้วย"
"เราก็อยากเห็นหน้าคนที่น้องเราอยู่ด้วยและเรียกว่าพ่อเหมือนกันว่ะ วันชนะ!! อยากเห็นเหลือเกินว่ามันจะเหมือนพ่อเราซักแค่ไหน!!"
"ตัวจริงเสียงจริงเลยหละพี่พร ไม่เชื่อก็คอยดูเหอะ!!" รัชนียืนยันเสียงแข็ง
"ถ้ามันจริง แล้วคนที่ยิงหัวตัวเองตายในคลิปวีดิโอที่เราดูกันล่ะใคร ???" สถาพรถามสวนกลับทันควัน
"ไม่รู้อ่ะ !!!" คุณหมอและ ศ.จ.สาวกรี๊ด "เพราะยังงี้ นีจึงต้องหาความจริงให้ได้ ว่ามันยังไงกันแน่ พี่ก็เตรียมทำใจไว้ด้วยนะคะ!! เวลาไปเจอกับ 'คุณพ่อ' ตัวเป็นๆ อะ"
"เธอก็เหมือนกัน แม่เสือ!!" ด็อกเตอร์หนุ่มสวนกลับน้องสาวอย่างไม่ยอมรดลาวาศอก "เตรียมทำใจไว้ล่วงหน้า ถ้าได้พบว่า คนที่เธอกับพี่กำลังจะไปหามันไม่ใช่คุณพ่อ!!"
"ได้เลยค่ะพี่!!! ดูซิ งานนี้ ใครจะชนะ หึหึ"
สถาพรส่ายหน้าแล้วตอบ "
ใครชนะก็ไม่ดีทั้งนั้น แม่เสือเอ๊ย เธออย่าใช้คำนี้เลย"
"อืม...จริงด้วยสิเนาะ" รัชนีทำเสียงอ่อยๆ หลังจากฟังคำพูดของพี่ชาย
จากนั้น กัปตันวันชนะชวนทุกคนเข้าห้องนักบิน แล้วเขากับแอนดี้ก็ร่วมกันขับยาน THE FUGITIVE ลอยขึ้นสู่ฟ้าแล้วมุ่งหน้าสู่เขาสันติคีรี เพื่อส่งสองพี่น้องเข้าหมู่บ้านลาหู่
(มีต่อครับ)
💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-51 : ภาคอวสาน ตอนที่ 8 💫🕛💫
"ใจเย็นไว้ก่อนเพื่อน" สถาพรเอ่ยปากเบรคเพื่อนเก่าซึ่งบัดนี้กลับมาเป็นเพื่อนรักกันดังเดิมอีกครั้ง "มีเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่นายต้องรีบทำตอนนี้"
"อ้อ...จริงด้วยแฮะ, คุณรัชนี" กัปตันวันชนะหันมายังน้องสาวของเพื่อนแล้วเรียกหล่อน
"คะ ?"
"คุณ...อยากจะเอาชิพมรณะ ออกจากสมองของคุณไหมครับ ตอนนี้ ?"
รัชนีเม้มปาก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจ พยักหน้า
"เอาก็เอาค่ะ! ยังไง ดีฉันก็ต้องกลับไปหาความจริงกับ 'คุณพ่อ' ของดิฉัน ตอนนี้ ท่านคงรอดิฉันอยู่แน่ๆ ซึ่งถ้าดิฉันกลับไปโดยยังคงมีชิพนั่นฝังอยู่ใต้กระโหลก คลื่นสมองและความคิดของดิฉันในส่วนที่มีความเคลือบแคลง ระแวง สงสัย จะต้องถูกตรวจจับได้อย่างไม่ต้องสงสัย"
"และคุณก็จะตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต" หนุ่มเอกกล่าวเสริมออกไปอย่างลืมตัว และพอพูดออกไปแล้วก็นึกสงสัยตัวเองว่า เหตุใดจึงต้องพูดออกไปอย่างนั้น... ครั้นเหลือบแลไปยังสองสาวเล็กและจอยก็พบว่าทั้งสองคนกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ โดยพระกนิษฐาของฟาโรห์คูฟูแอบยกนิ้วโป้งชูให้ และแม่หมอเล็กทำท่าตบมืออย่างไร้เสียงรัวๆ ทำให้อดีตมหาเปรียญเผลอส่ายหน้าน้อยๆทีหนึ่ง ก่อนจะรีบตวัดสายตากลับมามองคุณหมอและ ศ.จ.สาว
"เอ่อ...ค่ะ!" รัชนีหันมามองเอก พอสบตากับเขาเท่านั้นก็รู้สึกว่าใบหน้าตนเองร้อนผ่าว หลบสายตาเขาทีหนึ่ง แต่แล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองเขาอีกครั้งแล้วหลุดคำพูดที่ตนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะพูดออกมาได้!
"ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ คุณเอก!"
มหาเอกค้อมกายคำนับหล่อนราวกับว่าตนเองเป็นชาวญี่ปุ่นและยิ้มน้อยๆให้ ก่อนจะตอบ "พวกเรา เป็นห่วงคุณกันทุกคนครับ"
"และผมเป็นห่วงคุณเป็นพิเศษ มากกว่าใคร!" สาวจอยกระซิบข้างหูสาวเล็ก แล้วทั้งสองคนก็พากันหัวเราะคิกคักๆ
"คุณเอกพูดถูกแล้วหละครับคุณรัชนี" กัปตันกล่าวเสริมยิ้มๆ แล้วหันไปถามภรรยา "เอ็มม่า คุณช่วยเรียกเพื่อนของคุณให้มาช่วยผ่าตัดให้คุณรัชนีตอนนี้ได้ไหมที่รัก ?"
"จะลองติดต่อดูค่ะ" คุณแม่ต่างดาวพยักหน้า แล้วเดินออกจากห้องประชุม ตรงไปยังห้องนักบินซึ่งมีอุปกรณ์สื่อสาร หล่อนทำการติดต่อกับยานบินซึ่งลอยตัวสแตนด์บายคอยติดตามความเคลื่อนไหวของกัปตันและคณะอยู่เหนือโลก ประมาณห้านาทีต่อมาจึงกลับเข้ามาในห้องประชุมแล้วรายงานผลการติดต่อ
"เรียบร้อยแล้วค่ะ อีกสักครู่ ทีมผ่าตัดจะเข้ามาในยาน เชิญคุณรัชนีไปที่ห้องพยาบาลตอนนี้เลยค่ะ พวกเราก็ไปรอพวกเขาในห้องโน้นกัน"
"สุดยอดครับ ที่รัก" กัปตันชูนิ้วโป้งให้ภรรยา และหล่อนก็ยิ้มหวานให้
แล้วทุกคนในห้องประชุมก็ย้ายเข้าไปรวมตัวกันอยู่ในห้องพยาบาล รอการมาของทีมแพทย์ชาวเนโอโซรอส เพื่อทำการผ่าตัดเอาชิพมรณะออกจากสมองของรัชนี อย่างที่เคยทำให้สถาพรมาแล้ว...
ยานบินลำหนึ่งรูปทรงจานประกบกัน มีโดมใหญ่อยู่ตรงกลางด้านบน สีเงินยวงวาววับ ลอยตัวต่ำลงมาหยุดอยู่เหนือยาน THE FUGITIVE ราวสองร้อยเมตร จากนั้น ลำแสงสีส้มลำใหญ่ส่องลงมาจากใต้ยาน พร้อมกับร่างของชาวเนโอโซรอสสี่คน และเมื่อเข้าใกล้ยาน THE FUGITIVE ร่างทั้ง 4 ก็พลันสลายวูบหายเข้าไปในยานของกัปตันวันชนะและคณะ ด้วยเทคโนโลยีเทเลพอร์เทชั่นขั้นสุดยอด ทุกอณูในร่างกายของพวกเขาแทรกซึมผ่านเข้าไปในยาน THE FUGITIVE แล้วไปรวมตัวเป็นชาวเนโอโซรอสทั้ง 4 อีกครั้ง กลางห้องพยาบาล ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น!
โดยไม่รอช้า ทีมแพทย์จากดาวเนโอโซรอสเริ่มทำการผ่าตัดให้แก่รัชนีทันทีที่มาถึง และปฏิบัติการครั้งนี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเช่นเดียวกันกับที่เคยทำให้สถาพร ใช้เวลาเร็วกว่าเสียด้วยซ้ำ
หลังจากชิพมรณะถูกถอดออก และทีมแพทย์ต่างดาวช่วยกันเย็บแผลสมานแผลผ่าตัดอย่างสนิทเนียนเรียบชนิดที่ไม่มีทีมแพทย์ที่ไหนในโลกนี้จะทำได้เรียบร้อยแล้ว รัชนีจึงเอ่ยปากบอกกับเอ็มม่า
"บอกพวกเค้าด้วยนะคะ ว่าดิฉันขอบคุณมากๆ ขอบคุณที่สุดเลยค่ะ รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจดีจริงๆ"
"ได้ค่ะ ดิฉันจะบอกให้" เอ็มม่าตอบพลางกุมมือของหล่อนและบีบเบาๆเป็นการปลอบขวัญ
"ยินดีด้วย แม่เสือ ที่ได้เป็นอิสรภาพด้วยกัน" สถาพรกล่าวกับน้องสาวแล้วเดินเข้ามาลูบศีรษะของหล่อนด้วยความรักใคร่
"ตอนที่พี่พรผ่าตัดเสร็จแล้ว รู้สึกโล่งอกมากไหมคะ ?"
"ก็เหมือนกันละมั้ง อย่างคนโบราณว่า เหมือนยกภูเขาออกจากอก"
"อิสรภาพ เป็นสิ่งที่หอมหวลเสมอครับ คุณรัชนี" กัปตันวันชนะกล่าวยิ้มๆ
"แต่ก็น่าเศร้านะคะ ที่ผู้โชคดี ได้รับอิสรภาพ มีแต่พวกเรา ดิฉันหมายถึง ตัวดิฉัน กับพี่พร" รัชนีกล่าวและทำหน้าเศร้า
"เธอคิดถึง ประชาชนทั้งหลาย ซึ่งถูกควบคุมอยู่ล่ะสิ" สถาพรถามน้องสาวเหมือนหยั่งเชิง
"ใช่ค่ะ พี่พร" หล่อนพยักหน้าหงึก "ถ้าเราสามารถช่วยพวกเขาได้ เหมือนอย่างที่เพื่อนๆของคุณเอ็มม่าช่วยเราสองคนได้ก็จะดีมาก ดีที่สุด"
"จะช่วยยังไง แม่เสือเอ๊ย...ประชาชนตั้งแปดสิบเก้าสิบล้าน ช่วยหมดทุกคนไม่ไหวหรอก เป็นไปไม่ได้!" สถาพรพูดพลางส่ายหน้า
"เราว่า มีอยู่วิธีหนึ่งเพื่อน และเป็นวิธีเดียว!!" กัปตันวันชนะสอดแทรกเข้ามา
"ทำไงวะ ?" ด็อกเตอร์หนุ่มเลิกคิ้ว
"บุกเข้าถ้ำเสือ! แล้วทำลายคอมพิวเตอร์ของศูนย์บัญชาการซะ!! ถ้าทำได้ ชิพทุกอันในหัวประชาชนทุกคนก็จะเป็นเพียงแค่เศษวัตถุส่วนเกินส่วนหนึ่งซึ่งไร้พิษสงใดๆ อีกต่อไป !!!"
สถาพรพยักหน้าช้าๆ ในขณะที่รัชนีเม้มปากครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับกัปตัน
"คุณพูดถูกค่ะ คุณวันชนะ แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ เราไม่รู้ว่า ศูนย์บัญชาการใหญ่ที่แท้จริง อยู่ที่ไหน!!"
"หืมม...คุณก็ไม่ทราบหรือครับ ?" กัปตันทำหน้าแปลกใจระคนสงสัย
"ไม่ทราบเลยจริงๆค่ะ" รัชนีส่ายหน้า "มันเป็นสถานที่ลับ ดิฉันรู้แค่นั้น พี่พรก็คงจะเหมือนกับดิฉัน คงไม่รู้อะไรมากไปกว่าดิฉันหรอก"
"ฐานทัพที่นายเคยกลับไปรายงานตัวครั้งสุดท้าย ไม่ใช่ศูนย์บัญชาการใหญ่หรอกหรือ ?" กัปตันหันมาถามเพื่อนอีกด้วยความข้องใจ
"ไม่ใช่หรอกเพื่อน ที่นั่นเป็นเพียงศูนย์บัญชาการกองทัพอากาศประจำหน่วยเหนือเท่านั้น!" สถาพรไขข้อข้องใจ
"ถ้าอย่างนั้น ศูนย์บัญชาการใหญ่ซึ่งควบคุมกองทัพทั้งประเทศ อยู่ที่ไหนกันแน่นะ ???" กัปตันวันชนะกล่าว เอามือกุมคางตนเอง คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิดหนัก
"ผมสงสัยอยู่ที่หนึ่งครับ" แอนดี้เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันดัง
"ที่ไหน แอนดี้ ?" กัปตันหันขวับไปถามลูกน้องคนเก่ง
"ถ้ำนั้นไงครับ เจ้านาย!!"
"นายหมายถึง ถ้ำที่ทิ้งศพคนเป็นพันเป็นหมื่น ที่นายกับสถาพรไปเจอมานั่นน่ะเหรอ ?" กัปตันเอ่ยถามและทำตาลุกวาว
"ครับ เจ้านาย"
"ทำไมนายถึงคิดว่าเป็นที่นั่น แอนดี้ ?" สถาพรถามบ้าง
"เพราะว่า ครั้งล่าสุดที่เจ้านายสั่งให้ผมไปสำรวจ ผมได้พบ และต่อสู้กับพวกหุ่นยนต์เอไอ หลายตัวครับ ผมตัวเดียว พวกมันมีเป็นสิบ มีอาวุธ เป็นอันตราย เหาะได้เหมือนผม ผมเกือบจะหนีพวกมันไม่ทัน โชคดีที่ผมสามารถถล่มหินเหนือปากถ้ำเข้าใส่พวกมัน แล้วปากถ้ำนั้นก็ปิดไปแล้วครับตอนนี้"
"ฮืมม........" สถาพรส่งเสียงครางหนักๆ "น่าคิด...ในถ้ำลับ ที่ทิ้งศพตั้งมากมายก่ายกอง ทำไมมีหุ่นยนต์เอไอประจำการ ??"
"อย่างนั้น เราคงต้องกลับไปที่นั่นอีกครั้ง!" กัปตันวันชนะเสนอความเห็น "ปากถ้ำถูกปิดไปแล้ว ก็ระเบิดให้มันเปิดใหม่อีกครั้งได้ แค่แอนดี้คนเดียวก็จัดการได้แล้ว หลังจากนั้น พวกเราก็เข้าไปสำรวจข้างใน พร้อมอาวุธไว้ยิงสู้กับหุ่นเอไอพวกนั้น!!" พูดจบแล้วหันมาถามภรรยาซึ่งยืนคุยอยู่กับบรรดาทีมแพทย์ชาวเนโอโซรอส "เอ็มม่า คุณลองถามเพื่อนๆของคุณหน่อยสิครับ ชวนพวกเขาร่วมปฏิบัติการกับพวกเรา จะได้ไหม ?"
"จะลองถามดูค่ะ" เอ็มม่าพยักหน้า แล้วส่งภาษาดาวบ้านเกิดถามชาวเนโอโซรอสทั้ง 4 ครู่เดียวเท่านั้น กัปตันวันชนะก็เห็นพวกเขาสั่นศีรษะ จากนั้นเอ็มม่าจึงแปลภาษาของพวกนั้นให้สามีฟัง "พวกเขาบอกว่า ทำไม่ได้ค่ะ จะเป็นการขัดต่อมติของสภาแห่งดวงดาว พวกเขาจะคอยคุ้มกันพวกเรามิให้ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตเท่านั้นค่ะ !!"
"แหม...ช่างยึดมั่นเหนียวแน่นกับมติเสียเหลือเกิน!" กัปตันกล่าวด้วยความรู้สึกทั้งฉุนทั้งขำปนกัน
"วันชนะคะ..." เอ็มม่าเอ่ยถามสามีเพิ่มเติม
"อะไรหรือครับที่รัก ?"
"คุณ อยากให้พวกเขาทำอะไรให้อีกไหมคะ ? ถ้ามีก็บอก ถ้าพวกเขาทำให้ได้ พวกเขาจะทำให้ แน่นอนค่ะ!"
"อืมม.....ให้ทำอะไรดีน้อ ???" กัปตันทำท่าครุ่นคิด แล้วก็ดีดนิ้วเปาะ "นึกออกแล้ว ผมอยากให้ยาน THE FUGITIVE สามารถส่งคนออกจากยาน และรับคนขึ้นยาน ด้วยวิธีการ เทเลพอเทชั่น แบบที่พวกเขาลงมาจากยานบินข้างบนแล้วเข้ามาในยานของเรา ลองถามสิครับ พวกเขาจะทำให้ได้ไหม ?"
"อ๋อ...สลายมวลสารแล้วย้ายเข้ามา มันต้องติดตั้งอุปกรณ์ชุดใหญ่เลยนะคะ" เอ็มม่าตอบยิ้มๆ
"ก็ลองถามพวกเค้าดูหน่อยซี่..."
"ได้ค่ะ จะลองถามดู แหมคุณนี่ พวกคุณชอบพูดกันว่าไงนะ...ได้คืบจะเอาศอก ใช่ไหม ?" หล่อนยิ้มตอบสามีก่อนจะหันไปสอบถามชาวเนโอโซรอสทั้งสี่อยู่ครู่หนึ่งแล้วให้คำตอบ "พวกเค้าบอกว่า ต้องให้ทีมวิศวกรมาช่วยติดตั้งให้ค่ะ พวกเค้าเป็นทีมแพทย์ ทำให้ไม่ได้"
"งั้นก็ ฝากบอกพวกเค้าให้ช่วยขอทีมวิศวกรลงมาหน่อยสิจ๊ะ"
"บอกไปแล้วค่ะ พวกเขาสัญญาว่าจะขอให้ แต่ไม่รับรองนะคะ ว่าจะได้หรือไม่ได้"
"ขอบคุณครับที่รัก ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าได้นี่ แหล่มเลย!" กัปตันพูดแล้วแยกเขี้ยวยิ้ม
"แปลว่าอะไรคะ แหล่ม ? very good ???"
"ครับ ประมาณนั้น"
"ไม่เคยได้ยินคำนี้ค่ะ!"
"มันเป็นคำแบบ...สแลง ของคนยุคต้นศตวรรษที่ 21 น่ะครับ"
"อ่าฮะ...เข้าใจแล้วค่ะ อ่า...พวกเค้าจะกลับขึ้นยานแล้วนะคะตอนนี้"
"ครับ บอกพวกเค้าว่า ผมและทุกคน ขอบคุณพวกเขามากๆนะครับ"
"จะบอกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ" เอ็มม่าพยักหน้า แล้วแปลภาษาไทยอันเป็นคำขอบคุณของกัปตันวันชนะให้ทีมแพทย์เหล่านั้นฟัง
กัปตันและทุกคนในยานเห็นทั้ง 4 คนพยักหน้า แล้วยืนรวมกันกลางห้อง ครู่หนึ่งก็มีลำแสงสีส้มส่องผ่านเพดานห้องลงมาจับร่างทั้ง 4 และพริบตาเดียวร่างทั้ง 4 ก็สลายเหมือนเป็นผงธุลีเล็กละเอียดและพุ่งขึ้นไปบนเพดาน หายวับไปกับตา
"เอาละ...ตอนนี้ เอาอย่างนี้ก่อนละกันนะครับ ทุกคน" กัปตันวันชนะเริ่มวางแผน "เราจะไปเขาสันติคีรีกันอีกที แล้วผมจะให้แอนดี้ กลับไปสำรวจถ้ำนั้นอีกครั้ง ดูซิว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรที่ผิดปกติบ้าง ให้แอนดี้ส่งสัญญาณภาพและเสียงกลับมาที่ยาน หลังจากนั้น ค่อยมาคิดหาทางดำเนินการกันต่อไป"
"ดิฉันก็คงต้องกลับไปที่ศูนย์อนามัยในหมู่บ้านลาหู่นะคะ คุณวันชนะ" รัชนีเอ่ยขึ้นเพื่อเตือนมิให้เขาลืม "ยังไงดิฉันต้องไขข้อข้องใจที่มีอยู่กับคนที่ดิฉันเรียกว่า 'คุณพ่อ' ให้รู้ดำรู้แดง !!"
"เราต้องไปด้วยกัน แม่เสือ!!" สถาพรกล่าวกับน้องสาวพลางยกแขนขึ้นโอบไหล่ของหล่อน
"ค่ะ! พี่พร"
"อืมม....." กัปตันหยุดใช้ความคิดหน่อยหนึ่ง ก่อนตัดสินใจ "การกลับไปที่นั่น อันตรายมากสำหรับคุณนะครับ แม้จะมีสถาพรไปด้วย"
"เราก็อยากเห็นหน้าคนที่น้องเราอยู่ด้วยและเรียกว่าพ่อเหมือนกันว่ะ วันชนะ!! อยากเห็นเหลือเกินว่ามันจะเหมือนพ่อเราซักแค่ไหน!!"
"ตัวจริงเสียงจริงเลยหละพี่พร ไม่เชื่อก็คอยดูเหอะ!!" รัชนียืนยันเสียงแข็ง
"ถ้ามันจริง แล้วคนที่ยิงหัวตัวเองตายในคลิปวีดิโอที่เราดูกันล่ะใคร ???" สถาพรถามสวนกลับทันควัน
"ไม่รู้อ่ะ !!!" คุณหมอและ ศ.จ.สาวกรี๊ด "เพราะยังงี้ นีจึงต้องหาความจริงให้ได้ ว่ามันยังไงกันแน่ พี่ก็เตรียมทำใจไว้ด้วยนะคะ!! เวลาไปเจอกับ 'คุณพ่อ' ตัวเป็นๆ อะ"
"เธอก็เหมือนกัน แม่เสือ!!" ด็อกเตอร์หนุ่มสวนกลับน้องสาวอย่างไม่ยอมรดลาวาศอก "เตรียมทำใจไว้ล่วงหน้า ถ้าได้พบว่า คนที่เธอกับพี่กำลังจะไปหามันไม่ใช่คุณพ่อ!!"
"ได้เลยค่ะพี่!!! ดูซิ งานนี้ ใครจะชนะ หึหึ"
สถาพรส่ายหน้าแล้วตอบ "ใครชนะก็ไม่ดีทั้งนั้น แม่เสือเอ๊ย เธออย่าใช้คำนี้เลย"
"อืม...จริงด้วยสิเนาะ" รัชนีทำเสียงอ่อยๆ หลังจากฟังคำพูดของพี่ชาย
จากนั้น กัปตันวันชนะชวนทุกคนเข้าห้องนักบิน แล้วเขากับแอนดี้ก็ร่วมกันขับยาน THE FUGITIVE ลอยขึ้นสู่ฟ้าแล้วมุ่งหน้าสู่เขาสันติคีรี เพื่อส่งสองพี่น้องเข้าหมู่บ้านลาหู่
(มีต่อครับ)