💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-66 : ภาคอวสาน ตอนที่ 23 (ก่อนจบอวสานภาค 1) 💫🕛💫

กระทู้คำถาม
ช่วงเวลายามเช้าเก้าโมงเศษๆ ณ จุดหนึ่งแห่งเทือกเขาสันติคีรี พิธีการที่เรียบง่าย แต่สำคัญสำหรับสถาพร สองสาวพี่น้องฝาแฝด และอดีตมหาเปรียญชั้นเอกซึ่งชื่อเอกเหมือนกัน กำลังจะเริ่มขึ้น...  

โต๊ะเหล็กแบบพับเก็บได้หนึ่งตัว ถูกแอนดี้นำมาตั้งไว้ทางทิศตะวันออก มีแก้วน้ำใบหนึ่งบรรจุทรายไว้ครึ่งแก้วปักธูปจุดไว้ พร้อมกับจอกสุรารินวางไว้หนึ่งจอก นั่นคือการไหว้ฟ้าดินซึ่งเพิ่งจะผ่านพ้นไป

จากนั้น ห่างออกมาเล็กน้อย สถาพรและรัชนก ยืนหันหน้าเข้าหากัน คนอื่นๆ ยืนรายล้อมเป็นสักขีพยาน  

หนุ่มอาข่าบรรจงซึ่งพูดภาษาไทยชัดเจน ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินพิธี เนื่องจากเขาสามารถพูดภาษาจีนกลางได้คล่องพอๆกับภาษาไทย เริ่มประกาศ
 "ชายและหญิงผู้ประสงค์สาบานเป็นพี่น้องกัน ประสานมือ ประคองจอกสุราไว้"

สถาพรและรัชนี ยกสองมือขึ้นในระดับอก สอดประสานแบบชาวจีน ประคองจอกสุราไว้ในมือ

"อี้ ฉี กง....(คำนับหนึ่ง)"

ทั้งสอง น้อมตัวลงโค้งคำนับซึ่งกันและกัน แล้วเงยหน้าขึ้น ยืนตัวตรง

"จ้าย ฉี กง...(คำนับ อีกครั้ง) ทั้งสองคนคำนับกันอีกครั้ง

"ซาน ฉี กง" (คำนับ ครั้งที่สาม) ทั้งสองคำนับกันเป็นครั้งที่สาม ครั้งสุดท้าย

"ทั้งสองโปรดกล่าวตามข้าพเจ้า" บรรจงดำเนินพิธีต่อไป   "หันหน้าไปทางโต๊ะบูชาฟ้าดิน ประกาศชื่อของแต่ละคนก่อน"

"ข้าพเจ้า นายสถาพร"   "ข้าพเจ้า นางสาวรัชนก"  

"ต่อไปกล่าวตามผมนะครับ" บรรจงบอกต่อไปเพื่อให้ทั้งสองกล่าวตาม "ขอเป็นพี่น้องกันและกัน มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

"ขอเป็นพี่น้องกันและกัน มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป"

"ดื่มสุรามงคล"

ทั้งสองยกจอกสุราขึ้นดื่ม

"กราบไหว้ฟ้าดิน คำนับสามครั้ง อี้ฉีกง...จ้ายฉีกง...ซานฉีกง..."

ทั้งสองก้มกราบสามครั้งตามจังหวะที่บรรจงประกาศ

"เสร็จพิธีแล้วครับ เรียกกันเป็นพี่เป็นน้องได้เลยครับ"

"พี่พร...นกเรียกตามที่รัชนีเรียกนะคะ" แฝดผู้พี่เรียกก่อน

"ได้เลยจ้ะ น้องนก" สถาพรตอบรับ แล้วทั้งสองก็โอบกอดกันฉันพี่น้อง ด็อกเตอร์หนุ่มตบไหล่เธอเบาๆ สองสามครั้ง แล้วจึงปล่อยแยกจากกัน

"เอาละครับทุกๆท่าน ตอนนี้ คุณรัชนกก็ได้เป็นน้องสาวอีกคนหนึ่งของสถาพรแล้ว" กัปตันวันชนะกล่าวประกาศด้วยเสียงอันดัง "ต่อจากนี้ไป ผม ในฐานะหัวหน้าทีม THE FUGITIVE ขอเป็นเถ้าแก่ สู่ขอรัชนี และรัชนก ให้กับคุณเอก หวังว่าเพื่อนสถาพรคงยินดีและไม่ขัดข้อง"

" OF COURSE! แน่นอนอยู่แล้วเพื่อน !!" ด็อกเตอร์หนุ่มตอบรับโดยทันที "เรายินดี ขอยกน้องสาวทั้งสองคนให้แก่คุณเอกด้วยความยินดีปรีดา พวกเขารักกัน จะขัดข้องขัดขวางทำไมเล่า"

"ตั้งเก้าอี้ให้ผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว!" บรรจงเริ่มดำเนินพิธีวิวาห์

"อ้าว เก้าอี้ยังไม่มี แอนดี้ขึ้นไปบนยานอีกทีไปเอามาไป" กัปตันหันไปสั่งลูกน้องคนเก่ง

"เตรียมชุดน้ำชามาด้วย ถ้วยน้ำชาสองใบนะแอนดี้" สถาพรบอกเพิ่ม

"ไปเอาเดี๋ยวนี้ครับผม" แอนดี้ตอบยิ้มๆ แล้วเดินกลับขึ้นไปบนยาน

"โผมไปช่วยล่วยโค" อาเจอะอาสา แล้วเดินตามแอนดี้ไปต้อยๆ  เพียงครู่เดียวทั้งสองก็ลงมาจากยานโดยแอนดี้หอบหิ้วเก้าอี้นั่งเล่นมาด้วยสองตัว ตั้งไว้หน้าโต๊ะบูชาฟ้าดิน  ส่วนอาเจอะยกถาดชุดน้ำชามายืนรอ

พิธีการจึงดำเนินต่อไป...บรรจงประกาศให้หนึ่งเจ้าบ่าวสองเจ้าสาวช่วยกันรินน้ำชาให้กัปตันวันชนะและสถาพร ก่อนที่สองสหายจะผลัดกันกล่าวคำอวยพรโดยกัปตันเป็นฝ่ายกล่าวก่อน

"ขอให้พวกคุณทั้งสาม ครองรักกันตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่นะครับ"

"ขอบคุณครับ กัปตัน" มหาเอกกล่าวขอบคุณก่อน แล้วสองสาวพี่น้องฝาแฝดจึงกล่าวพร้อมกัน "ขอบคุณค่ะ กัปตัน"

"ผมมีของขวัญพิเศษ เตรียมไว้ให้ด้วย" พูดจบกัปตันก็ล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ หยิบถุงผ้าแพรสีแดงขนาดย่อมถุงหนึ่งออกมา ในนั้นบรรจุกล่องเล็กๆสองกล่องเอาไว้ ยื่นให้มหาเอก "คุณรับไปก่อน อีกสักครู่หลังจากเสร็จพิธี ให้มอบให้เจ้าสาวทั้งสอง คนละกล่อง"

"ขอบคุณมากครับผม" มหาเอกกล่าวตอบและยิ้ม รับถุงผ้านั้นไว้

"ขอบคุณมากค่ะ กัปตัน" สองพี่น้องฝาแฝดกล่าวขอบคุณด้วยสายตาเป็นประกายอย่างตื่นเต้น ทั้งคู่เดาได้ทันทีว่ากัปตันวันชนะให้อะไรเป็นของขวัญ

หลังจากนั้น บรรจง ผู้ดำเนินพิธีการ บอกให้หนึ่งเจ้าบ่าวและสองเจ้าสาวคำนับฟ้าดิน แล้วหันหน้าเข้าหากัน โดยมหาเอกอยู่ทางทิศเหนือ สองสาวฝาแฝดอยู่ด้วยกันทางทิศใต้ แล้วให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวคารวะซึ่งกันและกัน จบด้วยการดื่มสุรามงคล

"คุณเอก มอบของขวัญแต่งงานให้เจ้าสาวทั้งสองได้แล้วครับ" กัปตันวันชนะบอกเมื่อได้โอกาสเหมาะ

มหาเอกล้วงถุงแพรออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดปากถุงแล้วหยิบกล่องเล็กๆ สองกล่องข้างในออกมา

ทั้งสองกล่องเป็นกล่องหุ้มกำมะหยี่สีแดงสด ตามคติของชาวจีนที่ว่าสีแดงเป็นสีมงคล บนกล่องทั้งสองมีชื่อสลักด้วยอักษรสีทองกำกับไว้ "รัชนก" และ "รัชนี"
อดีตมหาเปรียญเปิดกล่องของแฝดผู้พี่ก่อน และเป็นอย่างที่สองสาวพี่น้องฝาแฝดคาด...

ข้างในกล่อง คือแหวนเพชร !! ใต้แหวน ถูกแกะสลักด้วยเลเซอร์เป็นตัวอักษรจีนคำว่า "เจ่" (สำเนียงจีนกลาง หรือ "เจ๊" สำเนียงแต้จิ๋ว) ซึ่งแปลว่า "พี่สาว"

"ยื่นมือซ้ายออกมาสิจ๊ะ น้องนก" มหาเอกบอกภรรยาคนที่หนึ่งด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เธอยื่นมือซ้ายให้เขาสวมแหวน จากนั้นก็ถึงตาของรัชนีบ้าง ซึ่งมหาเอกก็กระทำดุจเดียวกัน

"YOU MAY KISS THE BRIDES !!!" สถาพรช่วยประกาศเสียงดังก้องไปทั่วหุบเขา

สิ้นคำประกาศของด็อกเตอร์หนุ่ม มหาเอกก็รวบตัวเจ้าสาวทั้งสองเข้ามาหาตัวเองแล้วก้มจูบอย่างดูดดื่มทีละคน ท่ามกลางเสียงปรบมือแสดงความปลื้มปีติยินดีของชาวคณะ THE FUGITIVE ทุกคน

หลังจากนั้นจึงเป็นงานปาร์ตี้อันเต็มไปด้วยความสนุกสนานบันเทิง ทั้งในยานและนอกยาน สำหรับภายในยาน บริเวณกลางยานกลายเป็นฟลอร์ให้วาดลวดลายลีลาเต้นรำกัน โดยกัปตันวันชนะปล่อยให้แซมทำหน้าที่เป็นดีเจเปิดเพลงทั้งเก่าทั้งใหม่ ใครอยากยืดเส้นยืดสายก็ขึ้นไปบนยาน ส่วนนอกยานก็ก่อกองไฟปิ้งย่างอาหาร โดยสามหนุ่มอาข่า บรรจง อาบือ และอาเจอะอาสาออกไปหา "เนื้อ" มา และได้ทั้งไก่และหมูป่ากลับมาย่างกัน

"ขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกสนานกันให้เต็มที่ในวันนี้" กัปตันวันชนะกล่าวกับชาวคณะซึ่งล้อมวงกันกลางกองไฟในตอนหัวค่ำ "เพราะว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะต้องเริ่มทำงานสุดท้ายให้จบโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ นั่นคือการหาตัวผู้นำสูงสุดของพวกทหารให้เจอ แล้วจับตัวมัน พร้อมทั้งผู้ใกล้ชิดซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำชั่วทุกอย่างทุกประการให้ได้มากที่สุด เพื่อส่งมอบตัวพวกมันแก่ยูเอ็นนำไปลงโทษต่อไป"

"จนป่านนี้ ยังไม่มีข่าวคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับเขาเลยค่ะกัปตัน" สาวจอยบอกขณะดูข่าวจากจอมอนิเตอร์ซึ่งฉายออกมาจากยานเป็นภาพสามมิติ

"กองกำลังของยูเอ็นได้กระจายกำลังเข้าควบคุมสถานีวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ ไว้หมดแล้ว ก็เป็นอันว่าพวกมันไม่มีกระบอกเสียงใดๆ อีก ตกเป็นผู้ต้องหาโดยสมบูรณ์" มหาเอกกล่าวขณะจิบไวน์กับสองภรรยาสาว

"ถูกต้อง!" สถาพรกล่าวเสริม "และไม่ใช่เป็นผู้ต้องหาเฉพาะของประเทศเราเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นผู้ต้องหาของชาวโลกด้วย"

"คิดว่าพวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนคะตอนนี้ ?" เอ็มม่าถามความเห็นของทุกคน

"ไม่ในประเทศ ก็นอกประเทศ เราไม่รู้เลยครับคุณเอ็มม่า" สถาพรตอบ

"หน้าตาที่แท้จริงของมัน ก็ไม่มีใครเคยเห็น จำได้แต่หน้ากากสีขาวที่มันสวม" แซมกล่าวแล้วส่ายหน้า "แบบนี้คงหาตัวยากหน่อยละครับ"

"ถ้างั้นคงมีวิธีเดียวที่ดีที่สุด..." กัปตันวันชนะเริ่มวางแผน "เราจะบุกกองบัญชาการกองทัพอากาศกันอีกครั้ง ตอนนี้ ยานของเราได้รับการซ่อมแซมและยกเครื่องใหม่แทบหมดทั้งลำ สมรรถนะสูงกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว และฝ่ายทหารก็สูญเสียอากาศยานจำนวนมากจากการช่วยยิงโดยยานแม่จากดาวเนโอโซรอสที่ผ่านมา ฉะนั้น ผมเชื่อว่าลำพังยาน THE FUGITIVE ของเราลำเดียว น่าจะเอาพวกมันอยู่ !!"

"ผมเห็นด้วยครับ" แซมพยักหน้า "ทำลายล้างพวกมันให้สิ้นซาก แล้วจับทหารยศสูงๆ มาคาดคั้นเอาคำตอบว่าเจ้านายใหญ่ของพวกมันอยู่ที่ไหน มันต้องมีซักคนยอมเปิดปากบอกเรามั่งสิน่า..."

"น่าจะเป็นอย่างที่นายว่านะแซม" สถาพรกล่าวเห็นด้วย "เพราะขณะนี้ ดูเหมือนพวกมันจะแตกแยกกันบ้างแล้วหลังจากถูกกองกำลังจากยูเอ็นเข้ามายึดสถานที่สำคัญๆ เอาไว้หมด ไม่ว่าจะเป็นทำเนียบรัฐบาล สถานีวิทยุโทรทัศน์ มีแต่กองทัพเท่านั้นที่ทางยูเอ็นยังไม่บุกเข้ายึด"

"พวกเขาหวังว่าทางทหารจะยอมแพ้และมอบตัวผู้นำสูงสุดพร้อมกับนายทหารชั้นสูงผู้เกี่ยวข้องน่ะค่ะ ก็เลยยังไม่บุก" สาวเล็กว่าไปตามข่าวที่ได้รับ

"ไม่มีทางหรอกที่พวกมันจะยอมมอบตัวง่ายๆ" สถาพรฟันธง "ผมว่าถึงตอนนี้ พวกมันอยู่ในสภาวะจนตรอก และจะต้องต่อสู้จนถึงที่สุดแน่ๆ"

"ใช่ ชนิดที่ ไม่มีอะไรจะสูญเสีย!" แซมกล่าวเสริม

"น่ากลัวว่า พวกมัน อาจมีไม้ตายอะไรงัดออกมาใช้อีกก็เป็นได้นะครับ พวกเราต้องเตรียมรับมือให้ดีทีเดียว!" มหาเอกกล่าวแสดงความวิตกกังวล

"เอาละ...ถึงอย่างไร พวกเราก็ได้แต่รอฟังหรือรอดูความเคลื่อนไหวของพวกมันเท่านั้น ถ้าพวกมันนิ่งเงียบไร้ความเคลื่อนไหว พวกเราก็คงต้องออกไปเคลื่อนไหวเอง...งานนี้ ยังไงก็มียูเอ็นหนุนหลังพวกเราอยู่แล้ว" กัปตันกล่าวสรุป "เอ้า พักผ่อนกันให้สบาย ใครอยากดื่มกินอะไรกันต่อก็เอาให้เต็มที่เลย นะครับ ส่วนผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนละ.." จากนั้นหันไปหาแอนดี้แล้วเรียก "แอนดี้"

"ครับ เจ้านาย ?"

"คืนนี้นายต้องอยู่เฝ้ายามตลอดทั้งคืนนะ"

"ได้เลยครับผม สบายมากครับ" แอนดี้ตอบและยกนิ้วโป้งขึ้น

แล้วค่ำคืนนั้น ก็ผ่านพ้นไปด้วยความสุขสันต์หรรษา...ก่อนหน้าที่จะต้องเผชิญกับศึกใหญ่ พายุมรสุมลูกสุดท้ายที่กำลังจะมาถึง !!



**********************************************************
เช้าวันต่อมา....
กัปตันวันชนะและทุกคน ต้องตกตะลึงและอึ้งไปกับข่าวการประกาศของรัฐบาลต่อสาธารณชน ผ่านการรายงานข่าวทางสถานีวิทยุโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ทุกสำนัก

"ประกาศจากคณะ ปกป้องและพิทักษ์รักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (ป.ส.ช.)

สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลถูกแทรกแซงโดยองค์กรต่างประเทศอย่างไม่เป็นธรรม เพราะถูกล้อมโจมตีและยึดสถานที่ราชการสำคัญๆ ไว้แทบทั้งหมด คงเหลือแต่เพียงกองบัญชาการทหารทั้งสี่เหล่าทัพ ได้แก่ กองบัญชาการทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และกองบัญชาการตำรวจ ซึ่งทั้งหมดขึ้นตรงต่อกองบัญชาการทหารสูงสุดแล้วนั้น
ในฐานะที่ประชาชนซึ่งได้ขึ้นทะเบียนตามกฏหมาย ต้องมีหน้าที่ช่วยกันปกป้องรัฐบาลและประเทศชาติ ดังนั้น รัฐบาลจึงขอประกาศ ให้ประชาชนซึ่งได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย มีชิพข้อมูลอัจฉริยะฝังในสมอง เข้ารายงานตัวต่อกองทัพ โดยให้เดินทางมารวมตัวกันโดยรอบกองบัญชาการทหารสูงสุดภายในสามวัน นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และหลังจากรายงานตัวแล้ว ให้ทุกคนอยู่รวมกันรอบกองบัญชาการทหารสูงสุดไปตลอดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย คือจนกว่าเราจะสามารถขับไล่กองทัพต่างชาติออกไปจากประเทศได้ เพราะเรามีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง อย่าให้ต่างชาติเข้ามาล่วงละเมิดอำนาจอธิปไตยของเรา!

สำหรับประชาชนผู้อยู่ในต่างจังหวัด ให้ไปรายงานตัวและรวมตัวอยู่ภายในค่ายทหาร หรือรอบค่ายทหารประจำจังหวัดของท่าน

ผู้ใด ขัดขืน ไม่ยอมมารายงานตัวและอยู่ร่วมกับกองทัพ ภายใน 3 วัน ผู้นั้นจะถูก 'จำหน่าย' พ้นจากความเป็นประชาชนที่ถูกต้องตามกฏหมาย และคอมพิวเตอร์ส่วนกลางของกองทัพจะสั่งบังคับให้ชิพอัจฉริยะในสมองของผู้นั้นระเบิดทันทีเมื่อครบกำหนดเวลา 3 วัน หรือ 168 ชั่วโมง นับจากเวลา 00:00 นาฬิกา ของวันนี้เป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2699

ลงชื่อ จอมพลเกรียงไกร ........

(ต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่