"แอนนา หยุด !!!"
เสียงตะโกนจากคนสี่คนประสานพร้อมกันดังก้องไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้สาวพลังจิตมหัศจรรย์ยั้งมือไว้และบังคับพลังซึ่งกำลังเข้มข้นถึงขีดสุดให้อ่อนลงและสลายไปในที่สุดทั้งหมดนี้กินเวลาเพียงวินาทีเดียว แล้วจึงหันไปตามเสียงของทั้งสี่คนนั้น
"คุณแม่ น้องแจ๊ค พี่เอก พี่ออเรร่า..."
"ใช่ พวกเราเอง" เอ็มม่าตอบ "พวกเรากำลังรวมตัวกันเพื่อหนีให้พ้นจากพลังมืดซึ่งครอบงำพวกเราทุกคนอยู่ และเราจับกระแสพลังอันเข้มข้นรุนแรงของเธอทั้งสองคนได้ก็เลยต้องรีบมาห้าม!!"
"หนูขอโทษค่ะ คุณแม่ ขอโทษพี่ยูไลด้วย หนูไม่รู้เพราะอะไร มันโมโหง่ายมากเลย!" แอนนาทำหน้าเศร้าและเป็นกังวล พลางเดินเข้าไปประคองและพยุงตัวของยูไล เกลเลอร์ให้ลุกขึ้นยืน "เจ็บมากไหมคะพี่ หนูขอโทษจริงๆ นะ ตอนนี้หนูเสียใจมาก ไม่มีความโกรธหลงเหลืออยู่แล้ว พี่ทำคืนหนูก็ได้นะ!"
"ไม่..ไม่เป็นไร แอนนา" หนุ่มนักพลังจิตส่ายหน้าและยิ้มฝืนๆ "พี่ก็ขอโทษเธอเหมือนกัน พี่ก็ทำกับเธอมากเกินไปเช่นกันนั่นแหละ ไม่รู้ปีศาจตนไหนมันมาเข้าสิงจิตใจ.." พอพูดถึงตรงนี้เขาก็ถอนใจเฮือกใหญ่ แล้วจ้องตาแอนนา กล่าวต่อ "ไอ้ที่พูดไม่ดีกับเธอและทำร้ายเธอน่ะ มันไม่ใช่พี่หรอก!!"
"เช่นเดียวกันค่ะ!" สาวจิตพิฆาตพยักหน้า "ยัยคนที่เกือบจะฆ่าพี่นั่น ก็ไม่ใช่ตัวหนูเหมือนกัน!!"
"ทุกคนอย่าเพิ่งพูดอะไรกันมากเลยในตอนนี้" มหาเอกพูดสอดเข้ามา "ตอนนี้ พวกเรารีบไปจากที่นี่กันก่อนเถอะครับ"
"ไปไหนฮะ พี่เอก ?" เด็กชายแจ๊คเงยหน้าขึ้นถาม
"ดูข้างบนโน่นสิ ทุกคน!!" อดีตมหาเปรียญแหงนหน้าขึ้นและชี้มือขึ้นไปเหนือศีรษะให้ทุกคนแหงนดูตาม
บนฟ้านั้น กลุ่มเมฆใหญ่สลายตัวแยกจากกัน แรงลมพุ่งลงมาจากบริเวณกลางกลุ่มเมฆสู่พื้นเบื้องล่าง และยานลำหนึ่งแหวกม่านเมฆปรากฏ
"THE FUGITIVE !!! เยสส !! วะ ฮู้ว์ว์ว์ LONG TIME NO SEE !!!" ยูไลร้องลั่นพร้อมชูกำปั้นด้วยความดีใจ
"ดีใจจริงๆ ที่ได้เห็นยานลำนี้อีกครั้ง ว่าแต่...ใครอยู่บนยานกันบ้างนะ ?" เอ็มม่าพูดแล้วยิ้มอย่างมีความหวังขณะแหงนมอง
"ก็คงจะเป็น แอนดี้ และคุณเล็กมั้งครับ" มหาเอกกล่าวตอบ "บางทีอาจมีพวกเราคนอื่นๆ อีกก็ได้ ถ้าโชคดีพอ...."
ฉับพลันนั้น แอนดี้ก็ส่งเสียงผ่านสปีคเกอร์โฟนลงมาจากใต้ท้องยาน
"ทุกท่านโปรดยืนรวมกัน ชิดๆ กันไว้ครับ ผม แอนดี้ จะใช้พลังจากยานดูดทุกท่านขึ้นมาบนยานครับผม"
ทั้งหกคนยืนกอดกันเป็นกลุ่มเดียว จากนั้นยาน THE FUGITIVE ก็ดูดพวกเขาขึ้นไป พอทุกคนเข้าไปกันหมดแล้วช่องใต้ท้องยานก็ปิด และแอนดี้รีบเปิดใช้ระบบ TELEPORTATION ทำให้ยานทั้งลำรวมทั้งทุกคนในยานหายวับไปจากจุดกลางอากาศแห่งน่านฟ้าจักรวรรดิแอตแลนติสใต้ ไปโผล่เหนือน่านฟ้าเมืองโลโคเทียแห่งสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือภายในชั่วพริบตา!
ภายในยาน "เชลย" ผู้หนีมาจากแดนจักรวรรดิ อันได้แก่ เอ็มม่า แอนนา เด็กชายแจ๊ค ยูไล ออเรร่า และมหาเอก ต่างพากันดีใจที่ได้พบแอนดี้และสาวเล็กอีกครั้ง ต่างพากันถามสารทุกข์สุกดิบของกันและกัน ทั้งห้าคนยังแปลกใจและตื่นเต้นกับการได้พบกับเหล่าสหายใหม่ชาวสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือ
"ทุกท่านครับ นี่คือ เซบาสเต็น หัวหน้าหน่วยกองกำลังพิเศษซึ่งขึ้นยานมาพร้อมกับผมและคุณเล็ก เพื่อตามหาและช่วยพาพวกเราทุกคนออกมาจากจักรวรรดิแอตแลนติสใต้" แอนดี้ผายมือมายังสหายของผู้นำชุมชนโลโคเทียเป็นการแนะนำ
เซบาสเต็นโค้งคำนับต่อทุกๆ คน และทุกคนก็ทำอย่างเดียวกันตอบเขา จากนั้นจึงเป็นการแนะนำตัวของฝ่ายคนทั้งหกบ้างสลับกันไป
"ตอนนี้ ผมจะนำยานลงจอด แล้วพวกเรา ก็จะได้พบกับ คุณสถาพร และครอบครัวของเขา อีกครั้ง" แอนดี้บอกกับทุกคนที่ได้หนีออกมา
"พวกท่านยังจะได้พบกับ บุคคลสำคัญ อีกคนหนึ่งด้วย" เซบาสเต็นกล่าวเสริม
"ใครหรือคะ ท่านเซบาสเต็น ?" เอ็มม่าถาม ในขณะที่แอนดี้กำลังนำยานลงจอด
"คู่ต่อสู้ ที่สมน้ำสมเนื้อกับเทพพยากรณ์ ออเรเคิล ไงล่ะ! ท่านหญิงเอ็มม่า"
"ท่านคงจะหมายถึง แม่หมอฟรีด้า กระมัง ?"
"ถูกต้องแล้ว ท่านหญิง ท่านเคยได้ยินชื่อนางมาก่อนด้วยรึ ?"
"ก็เคยฟังผ่านหูมาบ้าง" เอ็มม่าพยักหน้า "พวกคนในจักรวรรดิบางคนพูดถึงนางอยู่ ว่าทั่วปฐพีแอตแลนติสนี้ หากจะมีบุคคลผู้มีพลังอำนาจใกล้เคียงหรือทัดเทียมกันกับเทพพยากรณ์ออเรเคิล
ก็เห็นจะมีอยู่สองคน!"
"หา....อะไรนะท่าน!! สองคน กระนั้นหรือ ???" เซบาสเต็นอุทานแล้วถามด้วยความทึ่ง สงสัยว่าอีกคนหนึ่งคือใคร และทุกคนทางฝ่ายสหพันธรัฐก็สงสัยไปตามๆ กันเช่นเดียวกัน
"ใช่ สองคน!" เอ็มม่าพยักหน้าตอบ "หนึ่งก็คือ แม่หมอฟรีด้า ซึ่งตอนนี้อยู่กับพวกท่านแล้ว"
"ตอนนี้ พี่เอ็ม ต้องใช้คำว่า 'พวกเรา' แล้วละเจ้าค่ะ!" สาวเล็กกล่าวเสริม
"อ้อ....จริงสิเนาะ! เป็นพวกเดียวกันแล้วนี่นา!" เอ็มม่าพูดยิ้มๆ แล้วกล่าวต่อถึงอีกคนหนึ่ง "ส่วน อีกคนหนึ่ง...พวกท่าน คงต้องใช้คำนี้ก่อนค่ะ เพื่อความเข้าใจง่ายๆ...พวกท่านคงจะยังไม่มีใครทราบ แม่หมอฟรีด้าน่าจะยังไม่เคยบอกใคร หรืออาจจะบอกไปแล้วก็ได้มั้ง"
"ข้าพอจะคาดเดาได้!" เซบาสเต็นพูดพลางดีดนิ้ว
"หืม....ท่านว่า คือผู้ใดคะ ?"
"น่าจะเป็น อาจารย์ของทั้งเทพพยากรณ์ออเรเคิล และแม่หมอฟรีด้า!"
"มิผิดค่ะ ท่านเซบาสเต็น" เอ็มม่าพยักหน้า "แต่ข้าก็ยังไม่ทราบว่า อาจารย์ของพวกเขาทั้งสองเป็นใคร อยู่ที่ไหน"
"พวกเราก็ไม่ทราบเหมือนกันขอรับท่านหญิง แม่หมอก็มิได้กล่าวถึงโดยละเอียด"
"ถ้าอย่างนั้น เราก็คงต้องรีบไปคุยกับนาง ซักถามถึงเรื่องนี้แล้วหละ ข้าคิดว่า ถ้าพวกเรา...คราวนี้ข้าหมายถึงพวกเราทุกคนจริงๆหละนะ! ถ้าพวกเรา หาตัวอาจารย์ท่านนั้นมาได้ เราก็จะได้คนมีฝีมือมาเพิ่ม และไม่เสียเปรียบพวกจักรวรรดิ ดีไม่ดี อาจจะได้เปรียบพวกเขาเสียด้วยซ้ำ !!"
"ความคิดเห็นของท่านน่าสนใจมาก ท่านหญิง!" เซบาสเต็นกล่าวชื่นชม
"ถ้าอย่างนั้นอย่ามัวชักช้าเลย เรารีบไปหาแม่หมอฟรีด้ากัน ณ บัดนี้เถิด!" เอ็มม่ากล่าวสรุป จากนั้น ทุกคนจึงลงมาจากยานซึ่งจอดบนลานจอดเรียบร้อยแล้ว และเซบาสเต็นเดินนำทุกคนเข้าไปในอาคารหลังหนึ่งในกองบัญชาการทหารอากาศแห่งเมืองโลโคเทีย
****************************************************************************
ขณะเดียวกัน ทางฝั่งจักรวรรดิแอตแลนติสใต้.....
"อะไรกันวะ !!!" กัปตันวันชนะ ภายใต้สีหน้าอันหมองคล้ำและซีดเซียวซึ่งเกิดจากอำนาจคุณไสยขั้นอุกฤษณ์ แผดเสียงดังลั่นด้วยความเดือดดาลในห้องปฏิบัติการทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ หลังจากแซมกลับมารายงานผลให้เขาได้รับทราบว่า มีสมาชิกหายไปเพิ่มขึ้นอีกหลายคน
"พวกมันหายหัวไปไหนกัน ? นายหาดูดีแล้วเหรอ ? ทั่วทุกหนทุกแห่งแล้วเหรอ แซม ??"
"ครับผม กัปตัน" หนุ่มแซมยืนก้มหน้า สองมือกุมเป้า ตอบเสียงอ่อยๆ
"นี่หมายความว่า พวกนั้น จงใจหนีผมไป...ไปรวมกลุ่มกันใหม่ อยู่กับฝ่ายเหนือ ซึ่งมีเป้าหมายโค่นล้มองค์จักรพรรดิและระบอบจักรวรรดิ!!" กัปตันซึ่งบัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นคนละคนผู้ต่างกับเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าว แล้วหันขวับมาจ้องหน้าหนุ่มแซม ถามเสียงเครียด "ตอนนี้ นอกจากนาย ยังมีใครเหลืออยู่บ้าง ? จอย อยู่ไหม ?"
"อยู่ครับผม"
"รัชนก รัชนีล่ะ ?"
"อยู่ด้วยกันทั้งสามคนเลยครับ ที่บ้านพักตากอากาศ"
"ไปเรียกตัวมาอยู่รวมกันที่นี่ให้หมด อยู่ที่นี่ กินที่นี่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น อยู่ด้วยกันหมดทุกคน เผื่อเวลาผมจะใช้การใช้งานอะไรจะได้ทันท่วงทีไม่ต้องเสียเวลาตามหา รวมทั้งนายด้วย เข้าใจไหมแซม!"
"ครับผม...จะไปเรียกพวกเขามาที่นี่เดี๋ยวนี้แหละครับ" แซมพยักหน้าหงึกอย่างว่าง่าย
"เออ! รีบไปรีบมา...แล้วก็...เดี๋ยวก่อน!" กัปตันดีดนิ้วดังเป๊าะ เบรคแซมซึ่งกำลังจะออกวิ่งแทบหัวทิ่ม
"อะไรครับผม กัปตัน ?" เขาหันกลับมาถามอย่างเงื่องหงอย
"คราวนี้...อย่า!!" กัปตันแยกเขี้ยว จ้องตาเขาเขม็ง และยกนิ้วชี้ตั้งขึ้นแล้วส่ายไปมาซ้ายขวาๆ อย่างช้าๆ "อย่า....ให้ใครหายไปเพิ่มอีก โดยเด็ดขาด! แม้แต่คนเดียว!! ถ้าใครหายไป คนที่ยังอยู่ ต้องช่วยกันหาให้เจอให้จงได้!!"
"แล้ว...ถ้า สมมติว่า มีใครหายไปอีก พวกผมช่วยกันหาแล้ว หาไม่ได้ หาที่ไหนก็ไม่เจอ จะให้ทำไงครับผม ?" หนุ่มแซมถามและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้!
"ต้องเจอสิวะ !!!" กัปตันตะคอกใส่ "ถ้าไม่เจอ ไม่ต้องกลับมาให้ผมเห็นหน้าอีก! ถ้ากลับมาโดยไม่มีคนมาด้วยละก็ ผมจะยิงทิ้ง !!!"
"เอ่อ...คะ ครับผม จะตามหาจนเจอให้ได้ แล้วจะ..จะ พากลับมา ครับผม" แซมตอบเสียงตะกุกตะกัก
"ไป! รีบไปและรีบกลับ!!"
"ครับผม!!"
ครั้นหนุ่มแซมตะเบ๊ะให้เจ้านายแล้วกลับหลังหันวิ่งหน้าตั้งออกไปจากประตูเรียบร้อยแล้ว กัปตันวันชนะก็ทำงานต่อจากที่ค้างไว้กับเจคอฟ วิศวกรชาวจักรวรรดิแอตแลนติสใต้
งานนั้นก็คือ การเริ่มวางโครงสร้างวของยานบินลำใหม่ ซึ่งเขาตั้งใจ หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องมาแทนที่ THE FUGITIVE ให้จงได้! มีเทคโนโลยีล้ำหน้าใดๆ สมรรถนะเยี่ยมยอดกว่าเช่นไรได้บ้าง ต้องใส่ลงไปให้สุดฝีมือ!
เขาได้ตั้งชื่อยานลำใหม่ไว้ล่วงหน้า เรียบร้อยแล้วด้วย....
มันมีชื่อว่า DESTROYER !!!
****************************************************************************
ยามเย็น ณ บ้านพักตากอากาศส่วนตัว ซึ่งทางจักรวรรดิจัดไว้ให้ โดยมีการกักบริเวณไม่ให้ออกไปไหนมาไหนตามใจชอบได้ จะไปไหนต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วยพาไป ถ้าไกลก็ต้องขึ้นยานบินของจักรวรรดิ และให้นักบินของจักรวรรดิขับพาไป เช่นเดียวกัน
การกักบริเวณเช่นนี้ เป็นไปอย่างเข้มงวด ตั้งแต่สมาชิกหลายคนของกัปตันวันชนะหายตัวไป
สาวจอย กับสองสาวพี่น้องฝาแฝด รัชนกและรัชนี อยู่รวมกันในห้องเดียวกัน ข้างนอกมียามเฝ้าตลอดเวลา และสภาพจิตของพวกเธอ ก็ยังมึนๆ เบลอๆ จะรู้สึกเป็นตัวของตัวเองบ้างวก็ในยามเช้าหลังจากตื่นขึ้นมาใหม่ๆ ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ราวสามถึงห้านาที หลังจากนั้นพวกเธอก็จะถูกกระแสจิตจากภายนอกเข้าครอบงำจนไม่เป็นตัวของตัวเองไปทั้งวัน! พวกเธอจะมีอาการป้ำๆ เป๋อๆ อยู่บ่อยครั้ง นานๆ จะเกิดรู้สึกตัวเป็นปกติสักสองสามวินาที แล้วก็จะกลับไปเป็นเอ๋อเหมือนเดิมอีก!
และตอนนี้...เธอทั้งสามคน ก็กำลังนอนเล่นกันอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ซึ่งสามารถนอนรวมกันได้ เล่นหยอกล้อ จั๊กจี้กันบ้าง ปล้ำกันบ้าง ราวกับเด็กๆ ส่งเสียงหัวเราะคิกคักอยู่ตลอดเวลา
ฉับพลันนั้น....หนุ่มแซมก็โผล่พรวดพราดเข้ามา
"กรี๊ดดดดดดด........ผู้ชายๆๆ" รัชนีกรีดร้องขึ้นมาก่อนทันทีที่เห็นเขา จากนั้นอีกสองคนก็กรี๊ดตาม ก่อนที่สาวจอยจะยกมือปิดปากตัวเองเมื่อเห็นว่าที่แท้คือสามีของตนนั่นเอง
"โธ่....ผมเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน" แซมพูดเสียงอ่อยๆ เหมือนอิดหนาระอาใจ ความรู้สึกของเขาตอนนี้ก็เบลอๆ อยู่เหมือนกัน
"มาทำไมคะ ที่รัก ?" สาวจอยเอ่ยถาม
"กัปตันเรียกน่ะจ้ะ ที่รัก..." แซมตอบ
"เรียกจอยเหรอ ?"
"มะ ไม่ใช่ครับ เรียกหมดทุกคนเลย"
"เรียกไปทำไมอ่ะ ตอนเนี้ย...กำลังเล่นกันหนุกๆ อิอิ" รัชนีพูดยิ้มๆ ขณะกอดเอวสาวจอยและจิ้มนิ้วชี้จั๊กจี๋ สาวจอยพอโดนทำอย่างนั้นก็ทำกับแฝดผู้พี่บ้าง ลงท้ายสามสาวก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนที่นอนยับยู่ยี่ไปหมด อีนุงตุงนังเหมือนแมวสามตัวเล่นฟัดกันไม่มีผิด!
"โหยย......คุณหญิงทั้งสามคร้าบ....เลิกเล่นกันได้แล้วคร้าบ...แล้วรีบไปหากัปตันกันเดี๋ยวนี้เถอะ ชักช้า เดี๋ยวก็โดนกัปตันด่าอีกหรอก! ช่วงนี้เขายิ่งรมณ์บ่อจอยบ่อยด้วยน่ะ!"
"ฮ่ายยย.....หา....า......วววว...." รัชนกอ้าปากหาวยาวเหยียดแล้วสะบัดหน้า "ง่วงจังเยย....คุณแซม ขอนอนก่อน ซักแพ๊พ...." ว่าแล้วก็ทิ้งตัวหงายหลังผลึ่งลงไปนอนหงายอ้าแขนอ้าขา
💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 11 🚀💫🕛💫
เสียงตะโกนจากคนสี่คนประสานพร้อมกันดังก้องไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้สาวพลังจิตมหัศจรรย์ยั้งมือไว้และบังคับพลังซึ่งกำลังเข้มข้นถึงขีดสุดให้อ่อนลงและสลายไปในที่สุดทั้งหมดนี้กินเวลาเพียงวินาทีเดียว แล้วจึงหันไปตามเสียงของทั้งสี่คนนั้น
"คุณแม่ น้องแจ๊ค พี่เอก พี่ออเรร่า..."
"ใช่ พวกเราเอง" เอ็มม่าตอบ "พวกเรากำลังรวมตัวกันเพื่อหนีให้พ้นจากพลังมืดซึ่งครอบงำพวกเราทุกคนอยู่ และเราจับกระแสพลังอันเข้มข้นรุนแรงของเธอทั้งสองคนได้ก็เลยต้องรีบมาห้าม!!"
"หนูขอโทษค่ะ คุณแม่ ขอโทษพี่ยูไลด้วย หนูไม่รู้เพราะอะไร มันโมโหง่ายมากเลย!" แอนนาทำหน้าเศร้าและเป็นกังวล พลางเดินเข้าไปประคองและพยุงตัวของยูไล เกลเลอร์ให้ลุกขึ้นยืน "เจ็บมากไหมคะพี่ หนูขอโทษจริงๆ นะ ตอนนี้หนูเสียใจมาก ไม่มีความโกรธหลงเหลืออยู่แล้ว พี่ทำคืนหนูก็ได้นะ!"
"ไม่..ไม่เป็นไร แอนนา" หนุ่มนักพลังจิตส่ายหน้าและยิ้มฝืนๆ "พี่ก็ขอโทษเธอเหมือนกัน พี่ก็ทำกับเธอมากเกินไปเช่นกันนั่นแหละ ไม่รู้ปีศาจตนไหนมันมาเข้าสิงจิตใจ.." พอพูดถึงตรงนี้เขาก็ถอนใจเฮือกใหญ่ แล้วจ้องตาแอนนา กล่าวต่อ "ไอ้ที่พูดไม่ดีกับเธอและทำร้ายเธอน่ะ มันไม่ใช่พี่หรอก!!"
"เช่นเดียวกันค่ะ!" สาวจิตพิฆาตพยักหน้า "ยัยคนที่เกือบจะฆ่าพี่นั่น ก็ไม่ใช่ตัวหนูเหมือนกัน!!"
"ทุกคนอย่าเพิ่งพูดอะไรกันมากเลยในตอนนี้" มหาเอกพูดสอดเข้ามา "ตอนนี้ พวกเรารีบไปจากที่นี่กันก่อนเถอะครับ"
"ไปไหนฮะ พี่เอก ?" เด็กชายแจ๊คเงยหน้าขึ้นถาม
"ดูข้างบนโน่นสิ ทุกคน!!" อดีตมหาเปรียญแหงนหน้าขึ้นและชี้มือขึ้นไปเหนือศีรษะให้ทุกคนแหงนดูตาม
บนฟ้านั้น กลุ่มเมฆใหญ่สลายตัวแยกจากกัน แรงลมพุ่งลงมาจากบริเวณกลางกลุ่มเมฆสู่พื้นเบื้องล่าง และยานลำหนึ่งแหวกม่านเมฆปรากฏ
"THE FUGITIVE !!! เยสส !! วะ ฮู้ว์ว์ว์ LONG TIME NO SEE !!!" ยูไลร้องลั่นพร้อมชูกำปั้นด้วยความดีใจ
"ดีใจจริงๆ ที่ได้เห็นยานลำนี้อีกครั้ง ว่าแต่...ใครอยู่บนยานกันบ้างนะ ?" เอ็มม่าพูดแล้วยิ้มอย่างมีความหวังขณะแหงนมอง
"ก็คงจะเป็น แอนดี้ และคุณเล็กมั้งครับ" มหาเอกกล่าวตอบ "บางทีอาจมีพวกเราคนอื่นๆ อีกก็ได้ ถ้าโชคดีพอ...."
ฉับพลันนั้น แอนดี้ก็ส่งเสียงผ่านสปีคเกอร์โฟนลงมาจากใต้ท้องยาน
"ทุกท่านโปรดยืนรวมกัน ชิดๆ กันไว้ครับ ผม แอนดี้ จะใช้พลังจากยานดูดทุกท่านขึ้นมาบนยานครับผม"
ทั้งหกคนยืนกอดกันเป็นกลุ่มเดียว จากนั้นยาน THE FUGITIVE ก็ดูดพวกเขาขึ้นไป พอทุกคนเข้าไปกันหมดแล้วช่องใต้ท้องยานก็ปิด และแอนดี้รีบเปิดใช้ระบบ TELEPORTATION ทำให้ยานทั้งลำรวมทั้งทุกคนในยานหายวับไปจากจุดกลางอากาศแห่งน่านฟ้าจักรวรรดิแอตแลนติสใต้ ไปโผล่เหนือน่านฟ้าเมืองโลโคเทียแห่งสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือภายในชั่วพริบตา!
ภายในยาน "เชลย" ผู้หนีมาจากแดนจักรวรรดิ อันได้แก่ เอ็มม่า แอนนา เด็กชายแจ๊ค ยูไล ออเรร่า และมหาเอก ต่างพากันดีใจที่ได้พบแอนดี้และสาวเล็กอีกครั้ง ต่างพากันถามสารทุกข์สุกดิบของกันและกัน ทั้งห้าคนยังแปลกใจและตื่นเต้นกับการได้พบกับเหล่าสหายใหม่ชาวสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือ
"ทุกท่านครับ นี่คือ เซบาสเต็น หัวหน้าหน่วยกองกำลังพิเศษซึ่งขึ้นยานมาพร้อมกับผมและคุณเล็ก เพื่อตามหาและช่วยพาพวกเราทุกคนออกมาจากจักรวรรดิแอตแลนติสใต้" แอนดี้ผายมือมายังสหายของผู้นำชุมชนโลโคเทียเป็นการแนะนำ
เซบาสเต็นโค้งคำนับต่อทุกๆ คน และทุกคนก็ทำอย่างเดียวกันตอบเขา จากนั้นจึงเป็นการแนะนำตัวของฝ่ายคนทั้งหกบ้างสลับกันไป
"ตอนนี้ ผมจะนำยานลงจอด แล้วพวกเรา ก็จะได้พบกับ คุณสถาพร และครอบครัวของเขา อีกครั้ง" แอนดี้บอกกับทุกคนที่ได้หนีออกมา
"พวกท่านยังจะได้พบกับ บุคคลสำคัญ อีกคนหนึ่งด้วย" เซบาสเต็นกล่าวเสริม
"ใครหรือคะ ท่านเซบาสเต็น ?" เอ็มม่าถาม ในขณะที่แอนดี้กำลังนำยานลงจอด
"คู่ต่อสู้ ที่สมน้ำสมเนื้อกับเทพพยากรณ์ ออเรเคิล ไงล่ะ! ท่านหญิงเอ็มม่า"
"ท่านคงจะหมายถึง แม่หมอฟรีด้า กระมัง ?"
"ถูกต้องแล้ว ท่านหญิง ท่านเคยได้ยินชื่อนางมาก่อนด้วยรึ ?"
"ก็เคยฟังผ่านหูมาบ้าง" เอ็มม่าพยักหน้า "พวกคนในจักรวรรดิบางคนพูดถึงนางอยู่ ว่าทั่วปฐพีแอตแลนติสนี้ หากจะมีบุคคลผู้มีพลังอำนาจใกล้เคียงหรือทัดเทียมกันกับเทพพยากรณ์ออเรเคิล ก็เห็นจะมีอยู่สองคน!"
"หา....อะไรนะท่าน!! สองคน กระนั้นหรือ ???" เซบาสเต็นอุทานแล้วถามด้วยความทึ่ง สงสัยว่าอีกคนหนึ่งคือใคร และทุกคนทางฝ่ายสหพันธรัฐก็สงสัยไปตามๆ กันเช่นเดียวกัน
"ใช่ สองคน!" เอ็มม่าพยักหน้าตอบ "หนึ่งก็คือ แม่หมอฟรีด้า ซึ่งตอนนี้อยู่กับพวกท่านแล้ว"
"ตอนนี้ พี่เอ็ม ต้องใช้คำว่า 'พวกเรา' แล้วละเจ้าค่ะ!" สาวเล็กกล่าวเสริม
"อ้อ....จริงสิเนาะ! เป็นพวกเดียวกันแล้วนี่นา!" เอ็มม่าพูดยิ้มๆ แล้วกล่าวต่อถึงอีกคนหนึ่ง "ส่วน อีกคนหนึ่ง...พวกท่าน คงต้องใช้คำนี้ก่อนค่ะ เพื่อความเข้าใจง่ายๆ...พวกท่านคงจะยังไม่มีใครทราบ แม่หมอฟรีด้าน่าจะยังไม่เคยบอกใคร หรืออาจจะบอกไปแล้วก็ได้มั้ง"
"ข้าพอจะคาดเดาได้!" เซบาสเต็นพูดพลางดีดนิ้ว
"หืม....ท่านว่า คือผู้ใดคะ ?"
"น่าจะเป็น อาจารย์ของทั้งเทพพยากรณ์ออเรเคิล และแม่หมอฟรีด้า!"
"มิผิดค่ะ ท่านเซบาสเต็น" เอ็มม่าพยักหน้า "แต่ข้าก็ยังไม่ทราบว่า อาจารย์ของพวกเขาทั้งสองเป็นใคร อยู่ที่ไหน"
"พวกเราก็ไม่ทราบเหมือนกันขอรับท่านหญิง แม่หมอก็มิได้กล่าวถึงโดยละเอียด"
"ถ้าอย่างนั้น เราก็คงต้องรีบไปคุยกับนาง ซักถามถึงเรื่องนี้แล้วหละ ข้าคิดว่า ถ้าพวกเรา...คราวนี้ข้าหมายถึงพวกเราทุกคนจริงๆหละนะ! ถ้าพวกเรา หาตัวอาจารย์ท่านนั้นมาได้ เราก็จะได้คนมีฝีมือมาเพิ่ม และไม่เสียเปรียบพวกจักรวรรดิ ดีไม่ดี อาจจะได้เปรียบพวกเขาเสียด้วยซ้ำ !!"
"ความคิดเห็นของท่านน่าสนใจมาก ท่านหญิง!" เซบาสเต็นกล่าวชื่นชม
"ถ้าอย่างนั้นอย่ามัวชักช้าเลย เรารีบไปหาแม่หมอฟรีด้ากัน ณ บัดนี้เถิด!" เอ็มม่ากล่าวสรุป จากนั้น ทุกคนจึงลงมาจากยานซึ่งจอดบนลานจอดเรียบร้อยแล้ว และเซบาสเต็นเดินนำทุกคนเข้าไปในอาคารหลังหนึ่งในกองบัญชาการทหารอากาศแห่งเมืองโลโคเทีย
"อะไรกันวะ !!!" กัปตันวันชนะ ภายใต้สีหน้าอันหมองคล้ำและซีดเซียวซึ่งเกิดจากอำนาจคุณไสยขั้นอุกฤษณ์ แผดเสียงดังลั่นด้วยความเดือดดาลในห้องปฏิบัติการทางวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ หลังจากแซมกลับมารายงานผลให้เขาได้รับทราบว่า มีสมาชิกหายไปเพิ่มขึ้นอีกหลายคน
"พวกมันหายหัวไปไหนกัน ? นายหาดูดีแล้วเหรอ ? ทั่วทุกหนทุกแห่งแล้วเหรอ แซม ??"
"ครับผม กัปตัน" หนุ่มแซมยืนก้มหน้า สองมือกุมเป้า ตอบเสียงอ่อยๆ
"นี่หมายความว่า พวกนั้น จงใจหนีผมไป...ไปรวมกลุ่มกันใหม่ อยู่กับฝ่ายเหนือ ซึ่งมีเป้าหมายโค่นล้มองค์จักรพรรดิและระบอบจักรวรรดิ!!" กัปตันซึ่งบัดนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นคนละคนผู้ต่างกับเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าว แล้วหันขวับมาจ้องหน้าหนุ่มแซม ถามเสียงเครียด "ตอนนี้ นอกจากนาย ยังมีใครเหลืออยู่บ้าง ? จอย อยู่ไหม ?"
"อยู่ครับผม"
"รัชนก รัชนีล่ะ ?"
"อยู่ด้วยกันทั้งสามคนเลยครับ ที่บ้านพักตากอากาศ"
"ไปเรียกตัวมาอยู่รวมกันที่นี่ให้หมด อยู่ที่นี่ กินที่นี่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ต้องออกไปไหนทั้งนั้น อยู่ด้วยกันหมดทุกคน เผื่อเวลาผมจะใช้การใช้งานอะไรจะได้ทันท่วงทีไม่ต้องเสียเวลาตามหา รวมทั้งนายด้วย เข้าใจไหมแซม!"
"ครับผม...จะไปเรียกพวกเขามาที่นี่เดี๋ยวนี้แหละครับ" แซมพยักหน้าหงึกอย่างว่าง่าย
"เออ! รีบไปรีบมา...แล้วก็...เดี๋ยวก่อน!" กัปตันดีดนิ้วดังเป๊าะ เบรคแซมซึ่งกำลังจะออกวิ่งแทบหัวทิ่ม
"อะไรครับผม กัปตัน ?" เขาหันกลับมาถามอย่างเงื่องหงอย
"คราวนี้...อย่า!!" กัปตันแยกเขี้ยว จ้องตาเขาเขม็ง และยกนิ้วชี้ตั้งขึ้นแล้วส่ายไปมาซ้ายขวาๆ อย่างช้าๆ "อย่า....ให้ใครหายไปเพิ่มอีก โดยเด็ดขาด! แม้แต่คนเดียว!! ถ้าใครหายไป คนที่ยังอยู่ ต้องช่วยกันหาให้เจอให้จงได้!!"
"แล้ว...ถ้า สมมติว่า มีใครหายไปอีก พวกผมช่วยกันหาแล้ว หาไม่ได้ หาที่ไหนก็ไม่เจอ จะให้ทำไงครับผม ?" หนุ่มแซมถามและทำหน้าเหมือนจะร้องไห้!
"ต้องเจอสิวะ !!!" กัปตันตะคอกใส่ "ถ้าไม่เจอ ไม่ต้องกลับมาให้ผมเห็นหน้าอีก! ถ้ากลับมาโดยไม่มีคนมาด้วยละก็ ผมจะยิงทิ้ง !!!"
"เอ่อ...คะ ครับผม จะตามหาจนเจอให้ได้ แล้วจะ..จะ พากลับมา ครับผม" แซมตอบเสียงตะกุกตะกัก
"ไป! รีบไปและรีบกลับ!!"
"ครับผม!!"
ครั้นหนุ่มแซมตะเบ๊ะให้เจ้านายแล้วกลับหลังหันวิ่งหน้าตั้งออกไปจากประตูเรียบร้อยแล้ว กัปตันวันชนะก็ทำงานต่อจากที่ค้างไว้กับเจคอฟ วิศวกรชาวจักรวรรดิแอตแลนติสใต้
งานนั้นก็คือ การเริ่มวางโครงสร้างวของยานบินลำใหม่ ซึ่งเขาตั้งใจ หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องมาแทนที่ THE FUGITIVE ให้จงได้! มีเทคโนโลยีล้ำหน้าใดๆ สมรรถนะเยี่ยมยอดกว่าเช่นไรได้บ้าง ต้องใส่ลงไปให้สุดฝีมือ!
เขาได้ตั้งชื่อยานลำใหม่ไว้ล่วงหน้า เรียบร้อยแล้วด้วย....
มันมีชื่อว่า DESTROYER !!!