💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 14 🚀💫🕛💫

กระทู้คำถาม

ฐานที่ตั้งลับใต้พื้นพิภพ ใจกลางแห่งจักรวรรดิแอตแลนติสใต้...

ณ สถานที่ลึกลับแห่งนี้ คือที่กบดานของออเรเคิลซึ่งใช้สำหรับทั้งการฝึกวิชามาร ที่พักอาศัยส่วนตัว และมีคุกไว้จองจำนักโทษหรือบุคคลสำคัญ หลายคนถูกใช้เป็นเหยื่อหรือหนูทดลองวิชาทั้งที่เป็นวิทยาศาสตร์และไสยเวทย์มนต์ดำ

สองสามีภรรยา แซม และจอย ถูกพาตัวเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อให้ออเรเคิลสะกดจิตให้อยู่หมัด มิให้ดิ้นรนขัดขืนด้วยจิตใต้สำนึกซึ่งสามารถทำให้ทั้งคู่ฟื้นความทรงจำขึ้นมาอีกได้ จำต้องเป็นทาสรับใช้เทพพยากรณ์ และจักรพรรดิเนรอส กับต้องอุทิศตนทำงานให้จักรวรรดิ

ราชภาดาเขย และพระขนิษฐาฟาโรห์คูฟู ขณะนี้จึงตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับกัปตันวันชนะ ช่วงก่อนจะถูกเลโอนีดาสใช้วิชามนต์ดำแย่งร่างสลับวิญญาณ!

และเทพพยากรณ์ก็ยิ่งฮึกเหิม เมื่อเห็นลูกศิษย์กลับมา ภายใต้ร่างของกัปตันวันชนะ ทั้งคู่จึงพากันไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิเนรอส และกราบทูลให้ทรงทราบถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่

จักรพรรดิเนรอส ก่อนหน้าที่สองศิษย์อาจารย์จะพากันมาเข้าเฝ้า ทรงกริ้วเป็นอันมากที่ได้ทรงทราบว่าสมาชิกคณะอาคันตุกะจากแดนไกลได้หนีออกไปจากแดนจักรวรรดิกันเกือบหมด แต่พอทอดพระเนตรเห็นคนทั้งสองมาเข้าเฝ้าและได้ทรงทราบเรื่องราวที่ผ่านมาของพวกเขา ก็ทรงพอพระทัย โดยเฉพาะเมื่อทรงทราบว่า เลโอนีดาส ได้ยึดครองร่างของกัปตันวันชนะได้และหนีกลับเข้ามาในจักรวรรดิได้ด้วย "กำไลวิเศษ"

"เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนักแล้ว!" จักรพรรดิผู้ทรงหวังผนวกดินแดนแอตแลนติสให้เป็นจักรวรรดิหนึ่งเดียวตรัสและทรงปรบพระหัตถ์ "การที่ได้ตัววันชนะกลับมาและมิหนำซ้ำยังมีจิตวิญญาณของเจ้า...เลโอนีดาส...เข้าครอบครองแทนที่ ทำให้เราไม่ต้องเปลืองแรงเปลืองพลังในการควบคุมจิตของวันชนะอีกต่อไป และเลโอนีดาส...เจ้าก็มีความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์เช่นเดียวกับมัน ก็คงไม่ยากสำหรับเจ้าที่จะดูดซับความรู้ในหัวสมองของมัน! เจ้าคงจะกลายเป็นวันชนะได้อย่างแนบเนียน!"

"ดูเหมือนว่าจะเป็นดังที่พระองค์ตรัสพระเจ้าข้า" เลโอนีดาสในร่างกัปตันทูลตอบ

"อืม....สุ้มเสียงของเจ้า ก็ฟังดูเหมือนเสียงของเขา" เนรอสตรัสต่อไป "นี่ถ้าเจ้าสองคนไม่บอก ข้าก็คิดว่าเป็นวันชนะจริงๆ เลยทีเดียว!"

"บริวารชายหญิงสองคนของวันชนะ ก็คิดว่าเป็นวันชนะแท้ๆ เลยเพคะ ฝ่าบาท ที่กลับมา" เทพพยากรณ์กราบทูลเสริม

"ดี! ดีมาก! แล้วพวกมันสองคน เป็นอย่างไรกันบ้าง เจ้าและเหล่าบริวารผู้ทรงพลังจิตทั้งหลาย ควบคุมพวกมันได้เพียงใด ?"

"พวกเขาต้องมนต์สะกด และอยู่ใต้อำนาจของพวกหม่อมฉันโดยสิ้นเชิงเพคะ หม่อมฉันจะสั่งให้พวกมันทำสิ่งใดก็ได้ทั้งนั้น!"

"ดี! ดีเยี่ยม! ถ้าอย่างนั้น ก็ให้พวกมันสองคนทำงานร่วมกับเลโอนีดาสเถิด! แต่ว่า เลโอนีดาส!" เนรอสทรงหันพระพักตร์มาทางหัวขโมยร่างสับเปลี่ยนวิญญาณบ้าง

"พระเจ้าข้า ฝ่าบาท ?"

"เจ้าจงตั้งใจทำงานให้ดี อย่าทำอะไรนอกลู่นอกทางให้เสียการเสียงาน! ข้ารู้นะ ว่าเจ้ามักมากในกามารมณ์! ข้ามองเห็นสายตาเจ้าที่มองภรรยาของบุรุษชื่อแซมด้วยความกำหนัด! อย่าไปยุ่งกับนางเลย! สาวๆ ชาววังสวยๆ มีให้เจ้าเสพสุขมากมายไม่อั้น! ถ้าเจ้าขืนยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของแซม อาจเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายได้ ถึงแม้ว่าพวกมันอยู่ภายใต้อำนาจของอาจารย์เจ้าแล้วก็ตาม แต่พวกมันก็ยังมีความผูกพันกันอยู่ อย่าทำให้เกิดความขัดแย้งเพราะความมักมากของเจ้า เข้าใจหรือไม่ ??"

"ข้าพระองค์เข้าใจดีพระเจ้าข้า และจะปฏิบัติตามที่พระองค์รับสั่งทุกประการพระเจ้าข้า!" เลโอนีดาสทูลรับรอง

"แน่นะ ??"

"แน่นอนพระเจ้าข้า ฝ่าบาท"

"อืมม...." เนรอสทรงจ้องมองหน้าเขา แล้วตรัสช้าๆ ชัดๆ "เจ้าจงจำไว้...ถ้าหากวันใด เกิดเรื่องวุ่นวาย เพราะเจ้าไปเกาะแกะกับภรรยาของแซมแล้วละก็ วันนั้น ข้าจะให้เหล่าขัณฑีจับเจ้าไปตอน! และเจ้าก็จะได้กลับมาเป็นขัณฑีหลวงอีกครา !!"

"พระ...พระเจ้าข้า ฝ่าบาท!" เลโอนีดาสสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินรับสั่งดังนั้น รีบทูลตอบทันที "ข้าพระองค์จะจดจำไว้ และจะไม่กระทำการอันใดฝ่าฝืนพระบัญชา อย่างแน่นอนพระเจ้าข้า!"

"ดีมาก! เอาละ...ถ้าอย่างนั้น เรามาคุยกันถึงเรื่องการวางแผนต่อสู้ หรือเตรียมตัวรับมือกับพวกสหพันธรัฐอย่างไรต่อไปกันดีกว่า ข้าว่าอีกไม่นานพวกมันก็คงจะลักลอบบุกรุกเข้ามาในจักรวรรดิอีก เพื่อจะแย่งพาตัวของวันชนะซึ่งเจ้าครอบครองอยู่ และสองสามีภรรยานั่นออกไปให้จงได้แน่ๆ"

*************************************************************************

ทางด้านศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในกองบัญชาการกองทัพอากาศโลโคเทียสหพันธรัฐ....

ในห้องประชุม ทั้งบุคคลสำคัญในศูนย์วิจัยฯ และบรรดาชาวคณะของกัปตันวันชนะ ต่างก็วิตกกังวลกับการหนีไปของเลโอนีดาสในร่างของกัปตัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง โดยเฉพาะสถาพรนั้นโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง

"บ้าจริงๆ เล้ย!" ด็อกเตอร์จอมดีเดือดสบถด่า "นึกว่าทางเรากำลังจะกลับมาตีตื้นเป็นฝ่ายได้เปรียบบ้าง กะลุยถล่มวังเนรอสแล้วแท้ๆ หรืออย่างน้อยก็บุกเข้ารังของเลโอนีดาสก็ยังดี จะได้เอาร่างของมันมา แล้วทำการสลับวิญญาณกลับไปตามเดิม ซึ่งงานนี้แม่หมอฟรีด้าต้องช่วยกัปตันวันชนะได้แน่ๆ เฮ้อ! ต้องมาเหนื่อยกับการไล่ล่าหาตัวไอ้ขัณฑีในร่างเพื่อนอีก! เซ็งว่ะ !!"

"ใจเย็นๆ ครับ คุณสถาพร" มหาเอกพยายามปลอบใจให้เขาคลายความร้อนรุ่มใจลง "ถึงอย่างไรตอนนี้ พวกเราก็มีกันเกือบครบพร้อมหน้า ขาดแค่กัปตัน คุณจอย และแซม สามคนเท่านั้น ผมว่ายังไงๆ เราต้องพบกับพวกเขาจนได้ ไม่หนีหายไปไหนหรอกครับ"

"กว่าจะได้เจอ ผมกลัวว่าอีกสองคนนั่นก็จะโดนล้างสมองกลายเป็นสมุนรับใช้จักรพรรดิไปแล้วน่ะสิครับ! คุณเอก" สถาพรพูดแล้วก็ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ

"ถึงแม้อาจจะเป็นอย่างนั้น ก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไม่เกินความสามารถของแม่หมอหรอกครับ"

"เอ้อ! พูดถึงแม่หมอ..." สถาพรเปลี่ยนเรื่องและทำตาโตด้วยความกังวลและสงสัย "มีใครเห็นนางบ้างไหม ? รู้สึกว่านางหายไปนานมากแล้วนา"

"จริงด้วยแฮะ ผมก็ไม่เห็น" เอกพยักหน้าแล้วหันไปถามคนอื่นๆ ในทีมที่เหลือ

ผลคือแต่ละคนส่ายหน้าตอบปฏิเสธกันหมด เขาจึงลองถามกลุ่มบุคคลสำคัญของทางสหพันธรัฐดูบ้าง "ท่านอิบิคัส ท่านเซบาสเต็น พวกท่านเล่า ? พบเห็นแม่หมอฟรีด้าบ้างหรือไม่ ?"

"ข้าไม่เห็นนางเลย ไม่รู้ว่านางไปไหน ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว" อิบิคัสตอบก่อน

"ข้าก็ไม่เห็นนางเหมือนกัน" เซบาสเต็นกล่าวตอบต่อจากสหาย

"รู้สึกว่ามันชักจะแปลกๆ แล้วนะคะ" เอ็มม่าตั้งข้อสงสัย แล้วหันไปสั่งการกับลูกน้องคนเก่งของสามี "แอนดี้! ไปดูที่ห้องพักของแม่หมอซิ แล้วกลับมารายงานด่วนเลย"

"ครับผม นายหญิง!" แอนดี้รับคำแล้วเดินออกไปจากห้องประชุม ตรงไปยังห้องพักของแม่หมอ ครู่เดียวเท่านั้นก็กลับมารายงานผล

"แม่หมอไม่อยู่ครับผม!"

"อ้าว! ไปไหนอีกคนนึงแล้วละเนี่ย โฮ้ยย ตายๆๆ" สถาพรครางฮือ

"นางเอาอะไรติดตัวไปบ้าง แอนดี้ ?" เอ็มม่าซักถามต่อ

"เท่าที่ผมมองเห็น สิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆ ของนาง อยู่ครบหมดครับผม มีอย่างเดียวเท่านั้นที่นางเอาไปด้วย"

"อะไร ??" เกือบทุกคนถามพร้อมกัน

"กระบี่โบราณครับ! อาวุธประจำกายของนางซึ่งไม่เคยทิ้งไว้ที่ไหน นางไปไหนก็พกพาไปด้วยเสมอครับ"

ทุกคนร้องฮือ...ตามด้วยคำถามมากมายซึ่งโดยมากตั้งข้อสงสัยว่า นางไปไหน ไปทำไม ไปต่อสู้กับใครหรือเปล่า และเหตุใดจึงไปโดยลับๆ ไม่บอกกล่าวกับใครๆ เลยสักคน

"ต้องมีสาเหตุ ที่ทำให้นางต้องแอบไปจากพวกเราแน่ๆ " อิบิคัสทำท่าครุ่นคิด

"บางที อาจจะเกี่ยวข้องกับเทพพยากรณ์ออเรเคิลก็เป็นได้" เซบาสเต็นคาดเดา "ข้าเคยได้ยินว่า ทั้งสองคน เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์คนเดียวกัน แต่ออเรเคิลหลงฝักใฝ่ในพลังอำนาจแห่งมนต์ดำ ผิดกับฟรีด้าและอาจารย์ซึ่งมีวิชาทางมนต์ขาว อันเป็นฝ่ายสว่าง แต่ออเรเคิลเสพติดอำนาจมืด"

"อ้อ...ดังนั้น นางก็เลยไปเข้ากับพวกจักรวรรดิ รับใช้จักรพรรดิเนรอส" สถาพรถึงบางอ้อ

"แล้วอาจารย์ของทั้งสองคน คือใครคะ ?" เอ็มม่าถามต่อ

"เขาคือ ไดโอเซนัส ปรมาจารย์แห่งศาสตร์ทางจิตวิญญาณ การพยากรณ์ และยุทธศาสตร์แบบโบราณ" อิบิคัสเฉลย

"ชื่อเสียงของไดโอเซนัส เลื่องลือมากในสมัยก่อน เป็นเวลานับร้อยปี" เซบาสเต็นกล่าวเสริม "น่าเสียดาย และน่าเศร้า ที่เขาต้องถึงจุดจบ ด้วยน้ำมือของศิษย์เนรคุณอย่างออเรเคิล!"

"อ้าว!" เกือบทุกคนทางฝ่ายชาวคณะ THE FUGITIVE ร้องออกมาอย่างมึนงง

"มันเกิดอะไรขึ้นคะ ท่านเซบาสเต็น ?" เอ็มม่าซักถามอีก

"ศิษย์กับอาจารย์ ต่อสู้กัน และอาจารย์เป็นฝ่ายแพ้...ออเรเคิลใช้กระบี่สังหารกรีดกระดูกสันหลังของไดโอเซนัส แล้วถีบเขาตกลงไปในซอกเขาซึ่งมีธารน้ำแข็งอยู่เบื้องล่าง จากนั้นก็ทิ้งให้ฟรีด้าร่ำร้องโศกาอาดูรต่อการจากไปของอาจารย์"

"ทำไมออเรเคิลต้องทำกับอาจารย์ไดโอเซนัสถึงเพียงนั้นคะ ไม่มีจิตสำนึกแห่งความกตัญญูรู้คุณเลยหรือ ?" ออเรร่า สาวผู้รอดจากเมืองคนบาปผู้เป็นภรรยาของสถาพรอดสงสัยและข้องใจจนอดถามไม่ได้

"เพราะนางหลงใหลในอำนาจมืดอย่างไรเล่า แม่หญิงออเรร่า" เซบาสเต็นตอบ "และสาเหตุแห่งการต่อสู้จนนำไปสู่ความตายของไดโอเซนัส ก็คือเขาตั้งใจจะให้ฟรีด้าสืบทอดตำแหน่งอาจารย์สอนศิษย์รุ่นหลัง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สมควรจะเป็น เพราะฟรีด้าเป็นศิษย์ผู้พี่ แต่ออเรเคิลไม่เห็นด้วยและไม่พอใจ เพราะนางเห็นว่าตนเองมีความรู้และฝีมือล้ำเลิศกว่าฟรีด้า ฉลาดกว่าฟรีด้า แต่ความฉลาดของนางนั้นมีความเจ้าเล่ห์เพทุบายร้ายกาจ และมักใหญ่ใฝ่สูง ไดโอเซนัสมองเห็นข้อนี้ จึงเรียกฟรีด้าเข้าพบในวันนั้นและบอกให้นางรู้ถึงความประสงค์ของตน แล้วออเรเคิลก็ปรากฏตัวออกมาสอดแทรก เกิดวิวาทะกันอย่างรุนแรงและในที่สุดศิษย์เนรคุณกับอาจารย์ผู้ชราภาพก็ต่อสู้กัน จบลงด้วยความตายของไดโอเซนัส ความสมใจของออเรเคิล และความเศร้ารันทดของฟรีด้า"

"ทำไม นางไม่สังหารฟรีด้าให้ตายตามอาจารย์ไปเสียด้วยเลย ?" สถาพรข้องใจ

"เพราะนางต้องการให้ฟรีด้ามีชีวิตอยู่ต่อไป ด้วยความโศกเศร้า ระทมขมขื่นอย่างไรเล่า!" เซบาสเต็นเฉลยอีก

"เยี่ยงนี้ ทรมาณยิ่งกว่าตายเสียอีก!" ออเรร่ากล่าวแล้วเบะปาก "นางคนนี้ร้ายกาจจริงๆ ข้าชักอยากเจอตัวต่อตัวซักครั้งเสียแล้วสิ!"

"ถ้าอย่างนั้น คราวนี้ ออเรเคิล อาจใช้กลอุบาย หลอกล่อให้ฟรีด้าออกไปหา และท้าสู้กับนางก็ได้ ฟรีด้าจึงแอบไปจากพวกเราโดยมีกระบี่ประจำกายติดตัวไปแต่เพียงอย่างเดียว" เอ็มม่าคาดการณ์และสรุป

"เป็นไปได้มากทีเดียว ท่านหญิง" อิบิคัสพยักหน้าเห็นด้วย

"ถ้าเช่นนั้น นางน่าจะไปที่ไหน ?" สถาพรถาม

"ก็คงจะมีที่เดียวเท่านั้น ที่ออเรเคิลจะมุ่งหมาย" เซบาสเต็นตอบด้วยความมั่นใจ

"ท่านหมายถึง สถานที่เดิม ?" เอ็มม่ากล่าวเป็นเชิงถาม

"ใช่แล้ว ท่านหญิง" สหายแห่งผู้นำโลโคเทียพยักหน้า "หน้าปากถ้ำใต้ภูเขาแอตลาส ใกล้ทะเลสาบโพไซดอน สถานที่ที่ศิษย์และอาจารย์ประลองกันในครั้งนั้น"

"ท่านทราบเรื่องราวของพวกเขาได้อย่างไร แม่หมอเล่าให้ท่านฟังหรือคะ ?"

"ถูกต้องแล้วท่านหญิง ตอนที่นางเล่าให้ข้าฟัง นางเล่าไปก็ร้องไห้ไป น่าเวทนานัก"

"เราออกไปตามหาแม่หมอกันดีไหมคะ อย่างน้อยก็จะได้สืบหาข่าว ขืนอยู่รอนางอย่างเดียว คงไม่ดีกระมังคะ" สาวเล็กเสนอแนะความเห็นบ้างหลังจากฟังคนอื่นคุยกันมานาน

"แล้วเรื่องท่านวันชนะเล่า จะทำประการใดกันดี ?" อิบิคัสย้อนกลับมาถามถึงเรื่องกัปตัน

"ถ้าข้าคาดการณ์ไม่ผิด วันชนะ ซึ่งมีวิญญาณของเลโอนีดาสครอบครองอยู่ ต้องกลับไปอยู่กลางดินแดนจักรวรรดิแล้วเป็นแน่แท้ เราคงทำอะไรไม่ได้ในขณะนี้ คงต้องพักเรื่องของเขาไว้ก่อน" เอ็มม่าแสดงความเห็นเพื่อตัดทางเลือกให้เหลือหนึ่งเดียว ทั้งที่ใจจริงก็อยากจะไปตามตัวสามีของตนกลับมา

"ท่านมีจิตใจที่หนักแน่น เด็ดเดี่ยวมาก ท่านหญิง" อิบิคัสกล่าวชม "ถ้าเป็นสตรีนางอื่น คงอยากจะไปตามหาสามีของตนก่อนเป็นแน่แท้"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่