*****
ความเดิมโดยย่อจากตอนที่แล้ว (66) *****
หลังจากเสียท่า ยาน THE FUGITIVE+SAVIOR FALCON ตกหลุมพรางลงไปติดกับดักใต้พิภพข้างใต้พระราชวัง กัปตันวันชนะและคณะได้เผชิญหน้ากับหัวหน้าอสูรต่างดาว เร็พไทเลี่ยนชาวดาวไซเมนนัส (ซึ่งเป็นอริกับชาวดาวเนโอโซรอส) ผู้ปลอมแปลงตัวเป็นจักรพรรดิเนรอส พร้อมทั้งเลโอนีดาส ผ่านการติดต่อสื่อสารหน้าจอภาพในยานด้วยความตกตะลึงที่เห็นสายลับตัวแสบฟื้นคืนชีพมาในสภาพใหม่ และตกใจยิ่งกว่านั้นเมื่อเห็นเอ็มม่า แอนนา และน้องแจ๊คถูกจับขังในตู้โลหะแยกกัน เพื่อเป็นเชลยและตัวประกันบีบบังคับให้กัปตันและสถาพรร่วมมือกับตนและเลโอนีดาสสร้างยานเลียนแบบ THE FUGITIVE ด้วยวิศวกรรมย้อนกลับ หวังจะขโมยเอาความรู้เทคโลโลยีของชาวเนโอโซรอสซึ่งมีอยู่ในยาน เมื่อแจ้งความประสงค์แล้วจอมอสูรต่างดาวและเลโอนีดาสก็จากไป
อีกด้านหนึ่ง คนทางโลโคเทีย มีจักรพรรดิเนรอสตัวจริง อิบิคัส เซบาสเต็น เฮโรดัส ฯลฯ รวมทั้ง อาบือ อาเจอะ พร้อมกับภรรยาสาว ลิลลี่และโรซ่า ผู้ซึ่งติดตามเซฟิย่าจักรพรรดินี ได้เดินทางไปพบกับผู้เฒ่าไดโอเซนัส แม่หมอฟรีด้า และรัชนก รัชนี ที่เกาะนิรนาม เมื่อได้แลกเปลี่ยนข่าวสารกันจึงได้รู้ว่ากัปตันและคณะเดินทางไปพระราชวังทางใต้แล้ว และที่โลโคเทียก็กำลังจะมีภัย ทหายฝ่ายใต้ก็กำลังจะบุกจู่โจมเพื่อเรียกร้องให้คนทางเหนือส่งตัวเนรอสให้ ทั้งหมดจึงขึ้นยานของฝ่ายเหนือเดินทางกลับโลโคเทีย ปะทะกับทหารฝ่ายใต้ซึ่งจอมอสูรต่างดาวและเลโอนีดาสนำทัพมา ขณะที่กำลังจะเพลี่ยงพล้ำ เซบาสเต็นใช้จิตวิทยาเกลี้ยกล่อมทหารชาวใต้ให้แปรพักตรได้สำเร็จ ซ้ำเนรอสยังชี้ให้พวกเขาเห็นว่ายานบินของจักรพรรดิตัวปลอมนั้นแตกต่างจากยานบินของชาวแอตแลนติสทั้งรูปร่างลักษณะและขนาด เมื่อทหารฝ่ายใต้คล้อยตามและแปรพักตรหันหน้ามาประจันกับผู้นำทัพ จอมอสูรก็จะลงมือทำลายล้างพวกเขา แต่เลโอนีดาสขอลงมือเอง ขณะที่อดีตสายลับตัวแสบกำลังเข่นฆ่าเหล่าทหารชาวแอตแลนติสในฝูงบิน แอนดี้ก็โผล่มาจู่โจมถล่มยานของเขาด้วยเลเซอร์จากสองฝ่ามือเจาะข้างยานเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่และฉุดกระชากเขาร่วงลงมาจากยานตกลงไปในสายน้ำเบื้องล่างและปะทะกันตัวต่อตัวแต่ไม่อาจเอาชนะกันได้สุดท้ายจึงสงบศึกกันชั่วคราวแล้วเลโอนีดาสก็จากไป, ในช่วงที่ทั้งสองกำลังดวลกันอยู่นั้น จอมอสูรต่างดาวก็จะทำลายล้างเหล่าทหาร แต่ออเรเคิลขับยานมาขัดขวางและสะท้อนรังสีสลายอณูซึ่งส่งมาจากยานต่างดาวกลับไปให้เจ้าของ ทำให้ส่วนท้ายของยานต่างดาวถูกกัดกร่อนและระเบิดไฟลุกไหม้ จักรพรรดิตัวปลอมจึงจำต้องขับยานหนีกลับไปพระราชวังทางใต้ด้วยความเจ็บใจ
ทางด้านเมืองเซเปรัส อีกอรัส เลมูรัสหนุ่มหลังจากอำลาลีน่า เลมูรัสสาวผู้เป็นที่รักของตนมาแล้วด้วยความผิดหวังที่นางไม่ยอมหนีตามตนมาเพราะเสพติดความสุขสบายในวังหลวงด้วยการสวมรอยเป็นออเรเคิลและดำรงตำแหน่งจักรพรรดินี เขาลักลอบบุกกลับคืนสู่ "บ้านเก่า" คือศูนย์ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ แหล่ง "เพาะพันธุ์" ชาวเลมูรัส และพบว่าข้างในนั้นเต็มไปด้วยเหล่าเลมูรัสทั้งวัยทารก วัยเด็ก และวัยหนุ่มสาว พวกเขามีโทรจิต สื่อสารทางจิตกับตนได้ทุกคน อีกอรัสสัญญากับเลมูรัสทารกน้อยเพศหญิงคนหนึ่งชื่อ "อลิซ" ว่าเขาจะกลับมาช่วยทุกคนให้เป็นอิสระออกไปจากที่นั้นให้ได้ แล้วก็รีบออกจากฐานลับนั้นไป อีกอรัสได้กำลังใจเพิ่มขึ้นหลังจากโทรจิตคุยกับลีน่าและนางบอกให้เขาเรียนพูดภาษามนุษย์ และให้สัญญาว่าหากเขาประสบความสำเร็จวันใด วันนั้นนางอาจจะกลับมาหา...
ต่อจากนี้ไป เชิญพบกับ แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 67.1 ต่อไป ได้เลยครับ......
==========================================================================
"เอาละ...ได้เวลาทำงานกันเสียที !!"
ถ้อยคำน้ำเสียงหนักๆ และกระโชกโฮกฮากระคายหู ซึ่งคุ้นหูเป็นอย่างดีสำหรับกัปตันวันชนะและสถาพรผู้สหายสนิท ดังก้องห้องปฏิบัติการลับใต้ดิน หลังจากประตูเลื่อนเปิดโดยอัตโนมัติให้ผู้พูดเดินเข้ามา
"เลโอนีดาส ไอ้สา ra เลว !!" ด็อกเตอร์จอมระห่ำดีเดือดตะโกนด่า "แกมันสัตนรกแท้ๆ สมควรลงนรกไปแล้ว แหม้งยังเศือกฟื้นกลับมาทำเรื่อง ra ยำตำบอนได้อีก ไอ้ ship หาย ไอ้เฮี่ย !!"
คนโดนด่า แทนที่จะโมโหโกรธา กลับหัวเราะชอบใจ
"เจ้านี่ปากคอเราะร้ายจริงๆ บุรุษประสาอะไร ปากจัดเยี่ยงอิสตรี! ฮ่าๆๆ ด่าได้ด่าไป! อีกสักครู่ เจ้ากับวันชนะสหายรักของเจ้า ต้องร่วมมือทำงานกับข้า!"
"เฮอะ!" สถาพรแค่นเสียง "เราสองคนไม่ทำตามคำสั่งของแกแน่!"
"อย่างนั้นหรือ ?" อดีตสายลับสองหน้าผู้ถูกอัพเกรดยิ้มพราย "เจ้าคงลืมไปแล้วกระมัง ? ว่าภรรยาและลูกๆ ของวันชนะ ถูกจับขังแยกกันอยู่ในตู้กระจกคนละตู้ ไม่ห่วง ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของภรรยาและลูกๆ ของวันชนะเลยหรือไร ?"
คำถามนี้ทำให้สหายกัปตันสะอึก นิ่งอึ้ง ในขณะที่ทางด้านเลโอนีดาสผู้เป็นต่อ ถือแท่งโลหะเล็กยาวอันหนึ่งในมือชี้ไปยังฝาผนังด้านหนึ่งของห้อง ทันทีนั้นมีช่องเลื่อนเปิดออก 3 ช่อง
เผยให้เห็นแคปซูลแก้วอันมีร่างของเอ็มม่า แอนนา และเด็กชายแจ๊ค อยู่ข้างใน ทั้งสามคนอยู่ในสภาพสลบ หรือไม่อย่างนั้นก็อยู่ในสภาวะหลับลึก ไร้สติสัมปชัญญะใดๆ ทั้งสิ้น
"แกจะทำอะไรกับพวกเขา ถ้าเราไม่ยอมร่วมมือทำงานกับแก ?" กัปตันวันชนะถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองระคนวิตกกังวล
"อ้อ...อยากรู้กระนั้นหรือ ได้เลย ท่านวันชนะ นี่คือตัวอย่างสักเล็กน้อย!"
พอจบคำพูด เลโอนีดาสชี้ปลายแท่งโลหะนั้นไปยังภรรยาและลูกๆ ของกัปตันทันที และใช้ปลายนิ้วชี้เคาะบนแท่งวัตถุนั้นทีหนึ่ง มีเสียง "บี๊บบ" ดังขึ้นสั้นๆ ฉับพลันนั้น บังเกิดประกายไฟแปลบปลาบแตกดังเปรี๊ยะๆ ช็อตคนทั้งสามร่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว!
"เฮ้ยย !!" กัปตันร้องออกมา ฝ่ายสถาพรก็เอะอะโวยวายตามเคย "ไอ้สัสสส แหม้งเอ๊ยยย...หยุดโว้ยย!!!"
"พอได้แล้วเลโอนีดาส! พอ!! เดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดีทั้งสามคน!" กัปตันตะโกนบอก
"แล้วตกลง จะยอมทำงานร่วมกับข้าไหมเล่า ?" อดีตสายลับสุดแสบยังไม่ยอมปิดสวิทช์ปล่อยกระแสไฟฟ้า แต่ยังคงบีบบังคับคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ เอ็มม่า แอนนาและเด็กชายแจ๊คจึงต้องโดนกระแสไฟฟ้าช็อตต่อไปอีก!
"ยอม! ข้ายอมเจ้าแล้ว เลโอนีดาส! หยุดปล่อยกระแสไฟฟ้าเดี๋ยวนี้!!" กัปตันตะโกนลั่น ทันทีนั้นประกายไฟฟ้าซึ่งกำลังท่วมร่างคนทั้งสามแตกเป็นพะเนียงอยู่ก็ดับวูบ
เลโอนีดาสยิ้มร่า แล้วหันมาถามอีกคน "แล้วเจ้าล่ะ ? สถาพร จะว่าอย่างไร ?"
"เฮอะ! ไอ้สัส ra ยำเอ๊ยยย.....แหม้งง...ยอมก็ได้วะ!!"
เลโอนีดาสหัวเราะ แล้วส่งสายตาเจ้าเล่ห์ ยิ้มอย่างชั่วร้ายให้เขา ก่อนจะกล่าวต่อไปและทำสิ่งที่ด็อกเตอร์จอมระห่ำคาดไม่ถึง
"ดูท่าทาง...เจ้าไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร...แต่เพราะวันชนะยินยอมก่อน เจ้าจึงต้องยอมตามอย่างเสียไม่ได้!"
"ข้าก็มิได้เต็มใจยินยอม เหมือนกับเขาเช่นกัน!" กัปตันกล่าว
"มันก็ใช่! ฮ่าๆๆ" เลโอนีดาสหัวร่อกวนๆ "แต่เขาแตกต่างจากท่านอยู่หนึ่งข้อ ซึ่งหากข้าปล่อยให้เป็นไป คือปล่อยให้ความแตกต่างนั้นยังอยู่ เขาอาจจะทำงานให้ข้าได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นข้าจำเป็นต้องขจัดความแตกต่างนั้นเสีย!"
"แตกต่าง ? ยังไงวะ ???" สถาพรแหกปากดังลั่น พร้อมกับความรู้สึกหวาดหวั่น นึกในใจ "อย่าเป็นอย่างที่เรานึกอยู่นี่นะขอร้อง! อย่านะเมิง!"
"แตกต่างก็คือ......วันชนะจำต้องยอม เพราะข้ามีภรรยาและลูกๆ ของเขาเป็นตัวประกัน! แต่เจ้าไม่มีไงล่ะ !! เพราะฉะนั้น ข้าต้องทำให้พวกเจ้าทั้งสองคนมีความเสมอภาคกัน!!" เลโอนีดาสเฉลย ซึ่งคำเฉลยนั้นทำเอาสถาพรหน้าเสียซีดลงกว่าเดิม และถึงตอนนี้ อดีตสายลับสองหน้าชี้แท่งอุปกรณ์ซึ่งทำงานเป็นรีโมทคอนโทรลนั่นเองไปยังฝาผนังด้านขวาบริเวณถัดจากแคปซูลแก้วของเด็กชายแจ็ค
ฉับพลันนั้นปรากฏช่องอีก 3 ช่องเปิดเผยให้เห็นแคปซูลที่เหลือ ข้างในมีร่างอันสลบไสลนิ่งสนิทของ เอวา บรรจง ลาลูน่า เรียงรายกันไปตามลำดับ!!
"เฮ้ยย!! เลโอนีดาส ไอ้สัสสส เล่นไม้นี้เลยเหรอวะ ไปจับพวกเขามาตั้งแต่เมื่อไร ??" สถาพรร้องโวยวายอีกตามเคย
"ฮ่ะๆๆๆ ช่ายย......." คนถูกถามตอบพร้อมยิ้มยียวน "คราวนี้ เจ้าคงทำงานร่วมกับข้าและวันชนะ ด้วยความยินยอมพร้อมใจแล้วสินะ"
"ไอ้เลวเอ๊ยยย...ถ้าหลุดออกไปได้ ข้าจะสับแกให้เละ!!"
"ฮ่ะๆๆ คงยากหน่อยหละนะ..."
"ไอ้บัดซบ ไอ้ chad หมา!! ra ยำสัสส...เชี่ยเอ๊ยยย แหม้งงง.. ฯลฯ"
เลโอนีดาสยิ้มบ้างหัวเราะบ้าง ปล่อยให้สถาพรก่นด่าไปเรื่อยๆ
"มาๆๆ..." อดีตสายลับกล่าวตัดบท "มาเริ่มงานกันได้แล้ว เราจะขึ้นไปบนยานของเจ้ากัน วันชนะ ชื่ออะไรนะ ? THE FUGITIVE ใช่ไหม และมันแปลว่า 'ผู้ลี้ภัย' ใช่ไหม ...แต่ถึงตอนนี้ มันลี้ภัยไปไหนไม่ได้แล้วหละ ฮ่าๆๆ"
"เลโอนีดาส..." กัปตันพยายามกล่าวอย่างใจเย็น "เจ้าต้องเข้าใจอยู่อย่างหนึ่งนะ ยานของเรามีวิทยาการจากต่างดาวประกอบร่วมด้วย และข้าไม่สามารถอ่านภาษาต่างดาวที่ปรากฏได้เลยไม่ว่าคำไหน จุดไหน"
"ไม่เป็นไรเลย ท่านวันชนะ นั่นไม่ใช่ปัญหา...." เลโอนีดาสกล่าวยิ้มๆ "เวลามีปัญหากับภาษาต่างดาว ดาวอะไรนะ เนโอโซรอส ใช่ไหม ? ข้าก็แค่ให้คนพาตัวท่านหญิงเอ็มม่า ภรรยาของท่าน ขึ้นยาน เพื่อให้ช่วยแปล ช่วยอธิบาย...และนางต้องช่วย! เพราะถ้าไม่ช่วย ลูกสาวและลูกชายของนาง และของเจ้า จะต้องถูกลงโทษทรมาณ!!!"
"สุดแล้วแต่เจ้าเถิด เลโอนีดาส..." กัปตันกล่าวเหมือนปลงตก
"มันแน่อยู่แล้ว ฮ่าๆๆ" อดีตสายลับตัวแสบตอบกลับแล้วเอื้อมมือผลักหลังกับตันและสถาพร ดันให้สองสหายเดินไปข้างหน้า เพื่อไปขึ้นยาน THE FUGITIVE ซึ่งถูกยึดไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีหนทางใดจะยึดกลับคืนมาและหนีไปได้เลย
"เดินไป! ไปขึ้นยาน แล้วเริ่มงานกัน ฮ่าๆๆ"
เมื่อคนทั้งสามขึ้นมาอยู่บนยาน กัปตันและสถาพรก็ได้พบว่า บนยาน ไร้ผู้คน เหลือแต่ยานเปล่าๆ !!
"คนอื่นๆ ไปไหนกันหมด ??" กัปตันหันมาถามเลโอนีดาส
"อ๋อ...ไม่ต้องห่วงดอก! เหล่าบริวารหรือสหายของเจ้าที่เหลือ ตอนนี้อยู่ในห้องรับรองอีกห้องหนึ่งต่างหาก พวกเขาจะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี มีอาหารให้กินทุกมื้อ อยู่กันอย่างสุขสบาย! จนกว่างานของเราจะสำเร็จ แล้วทุกคนจะเป็นอิสระ!"
"ข้าจะเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูดนี้ได้อย่างไร ?"
"เชื่อหรือไม่ก็ตามใจ!" เลโอนีดาสพูดหน้าตาเฉย "ข้ามิอาจบังคับให้ท่านและสถาพรสหายท่านด้วยเชื่อได้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ อย่างไรเสียพวกท่านทั้งสองคนก็ต้องร่วมงานกับข้า!"
กัปตันและสถาพรมองหน้าซึ่งกันและกัน กัปตันส่งสายตาความหมายยอมจำนนปนเศร้า ส่วนสถาพรทำปากเบะและยักไหล่ทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากบอกกับศัตรูตัวแสบซึ่งจำเป็นต้องร่วมงานกันอีกครั้ง!
"โอเค...ก็ได้ ไอ้สัสส ra ยำเอ๊ยย.......ว่ามา! จะให้ทำอะไรก่อนในตอนนี้"
"อืมม...ข้าขอดู แบบโครงสร้างของยานลำนี้ก่อน เปิดแบบโครงสร้างขึ้นมาทีซิ"
"ได้...จะเปิดให้ดูเดี๋ยวนี้" กัปตันวันชนะตอบ แล้วเดินไปหน้าแผงควบคุมบริเวณที่นั่งนักบินที่ 1 ของตน กดปุ่มเปิดระบบสื่อสารกับผู้ควบคุมระบบ แล้งสั่งการ "เปิดพิมพ์เขียวของ THE FUGITIVE ฉายให้ดูบริเวณกลางยานหน่อย คริสติน่า"
"ได้เลยค่ะกัปตัน" เสียงหวานๆ ใสๆ ของผู้ควบคุมระบบสาวซึ่งไร้ตัวตนตอบกลับ จากนั้นบริเวณกลางยานปรากฏภาพพิมพ์เขียวของยานแบบ 3 มิติสมบูรณ์แบบมองทะลุได้ลอยตัวกลางอากาศ
กัปตันวันชนะ จำใจ จำยอม ต้องอธิบายเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของ THE FUGITIVE บรรยายให้เลโอนีดาสฟัง แม้ขัดใจเหลือล้น แต่ก็จำต้องทนฝืนใจ ทำตามที่ศัตรูต้องการ....
มันเป็นสถานการณ์จนตรอกจริงๆ ไม่รู้จะทำประการใดได้ !!!
********************************
นครเซเปรัส ณ สถานบันเทิงเริงรมณ์แห่งหนึ่งในยามราตรี..........
ที่นี่คือศูนย์รวมซึ่งใหญ่ที่สุดแห่งนักท่องราตรีทั้งบุรุษและสตรี เป็นสถานที่ดื่มสุราสารพัดชนิด เคล้าไปกับเรื่องกามารมณ์ ตามรสนิยมของนักเที่ยวหรือลูกค้าแต่ละคน ชายหญิงธรรมดาก็มี ชายกับชาย หญิงกับหญิงก็มี และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้และกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นกลางและชั้นสูงก็คือ การเสพสมกับ "เลมูรัส"....เลมูรัสจำนวนมาก อยู่ที่นี่ และสามารถซื้อขายกันได้โดยเสรี จะซื้อบริการแบบชั่วคราวหรือซื้อขาดหากติดใจ ก็ได้ตามอัธยาศัย...
💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 67 🚀💫🕛💫
***** ความเดิมโดยย่อจากตอนที่แล้ว (66) *****
หลังจากเสียท่า ยาน THE FUGITIVE+SAVIOR FALCON ตกหลุมพรางลงไปติดกับดักใต้พิภพข้างใต้พระราชวัง กัปตันวันชนะและคณะได้เผชิญหน้ากับหัวหน้าอสูรต่างดาว เร็พไทเลี่ยนชาวดาวไซเมนนัส (ซึ่งเป็นอริกับชาวดาวเนโอโซรอส) ผู้ปลอมแปลงตัวเป็นจักรพรรดิเนรอส พร้อมทั้งเลโอนีดาส ผ่านการติดต่อสื่อสารหน้าจอภาพในยานด้วยความตกตะลึงที่เห็นสายลับตัวแสบฟื้นคืนชีพมาในสภาพใหม่ และตกใจยิ่งกว่านั้นเมื่อเห็นเอ็มม่า แอนนา และน้องแจ๊คถูกจับขังในตู้โลหะแยกกัน เพื่อเป็นเชลยและตัวประกันบีบบังคับให้กัปตันและสถาพรร่วมมือกับตนและเลโอนีดาสสร้างยานเลียนแบบ THE FUGITIVE ด้วยวิศวกรรมย้อนกลับ หวังจะขโมยเอาความรู้เทคโลโลยีของชาวเนโอโซรอสซึ่งมีอยู่ในยาน เมื่อแจ้งความประสงค์แล้วจอมอสูรต่างดาวและเลโอนีดาสก็จากไป
อีกด้านหนึ่ง คนทางโลโคเทีย มีจักรพรรดิเนรอสตัวจริง อิบิคัส เซบาสเต็น เฮโรดัส ฯลฯ รวมทั้ง อาบือ อาเจอะ พร้อมกับภรรยาสาว ลิลลี่และโรซ่า ผู้ซึ่งติดตามเซฟิย่าจักรพรรดินี ได้เดินทางไปพบกับผู้เฒ่าไดโอเซนัส แม่หมอฟรีด้า และรัชนก รัชนี ที่เกาะนิรนาม เมื่อได้แลกเปลี่ยนข่าวสารกันจึงได้รู้ว่ากัปตันและคณะเดินทางไปพระราชวังทางใต้แล้ว และที่โลโคเทียก็กำลังจะมีภัย ทหายฝ่ายใต้ก็กำลังจะบุกจู่โจมเพื่อเรียกร้องให้คนทางเหนือส่งตัวเนรอสให้ ทั้งหมดจึงขึ้นยานของฝ่ายเหนือเดินทางกลับโลโคเทีย ปะทะกับทหารฝ่ายใต้ซึ่งจอมอสูรต่างดาวและเลโอนีดาสนำทัพมา ขณะที่กำลังจะเพลี่ยงพล้ำ เซบาสเต็นใช้จิตวิทยาเกลี้ยกล่อมทหารชาวใต้ให้แปรพักตรได้สำเร็จ ซ้ำเนรอสยังชี้ให้พวกเขาเห็นว่ายานบินของจักรพรรดิตัวปลอมนั้นแตกต่างจากยานบินของชาวแอตแลนติสทั้งรูปร่างลักษณะและขนาด เมื่อทหารฝ่ายใต้คล้อยตามและแปรพักตรหันหน้ามาประจันกับผู้นำทัพ จอมอสูรก็จะลงมือทำลายล้างพวกเขา แต่เลโอนีดาสขอลงมือเอง ขณะที่อดีตสายลับตัวแสบกำลังเข่นฆ่าเหล่าทหารชาวแอตแลนติสในฝูงบิน แอนดี้ก็โผล่มาจู่โจมถล่มยานของเขาด้วยเลเซอร์จากสองฝ่ามือเจาะข้างยานเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่และฉุดกระชากเขาร่วงลงมาจากยานตกลงไปในสายน้ำเบื้องล่างและปะทะกันตัวต่อตัวแต่ไม่อาจเอาชนะกันได้สุดท้ายจึงสงบศึกกันชั่วคราวแล้วเลโอนีดาสก็จากไป, ในช่วงที่ทั้งสองกำลังดวลกันอยู่นั้น จอมอสูรต่างดาวก็จะทำลายล้างเหล่าทหาร แต่ออเรเคิลขับยานมาขัดขวางและสะท้อนรังสีสลายอณูซึ่งส่งมาจากยานต่างดาวกลับไปให้เจ้าของ ทำให้ส่วนท้ายของยานต่างดาวถูกกัดกร่อนและระเบิดไฟลุกไหม้ จักรพรรดิตัวปลอมจึงจำต้องขับยานหนีกลับไปพระราชวังทางใต้ด้วยความเจ็บใจ
ทางด้านเมืองเซเปรัส อีกอรัส เลมูรัสหนุ่มหลังจากอำลาลีน่า เลมูรัสสาวผู้เป็นที่รักของตนมาแล้วด้วยความผิดหวังที่นางไม่ยอมหนีตามตนมาเพราะเสพติดความสุขสบายในวังหลวงด้วยการสวมรอยเป็นออเรเคิลและดำรงตำแหน่งจักรพรรดินี เขาลักลอบบุกกลับคืนสู่ "บ้านเก่า" คือศูนย์ปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ แหล่ง "เพาะพันธุ์" ชาวเลมูรัส และพบว่าข้างในนั้นเต็มไปด้วยเหล่าเลมูรัสทั้งวัยทารก วัยเด็ก และวัยหนุ่มสาว พวกเขามีโทรจิต สื่อสารทางจิตกับตนได้ทุกคน อีกอรัสสัญญากับเลมูรัสทารกน้อยเพศหญิงคนหนึ่งชื่อ "อลิซ" ว่าเขาจะกลับมาช่วยทุกคนให้เป็นอิสระออกไปจากที่นั้นให้ได้ แล้วก็รีบออกจากฐานลับนั้นไป อีกอรัสได้กำลังใจเพิ่มขึ้นหลังจากโทรจิตคุยกับลีน่าและนางบอกให้เขาเรียนพูดภาษามนุษย์ และให้สัญญาว่าหากเขาประสบความสำเร็จวันใด วันนั้นนางอาจจะกลับมาหา...
ต่อจากนี้ไป เชิญพบกับ แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 67.1 ต่อไป ได้เลยครับ......
==========================================================================
"เอาละ...ได้เวลาทำงานกันเสียที !!"
ถ้อยคำน้ำเสียงหนักๆ และกระโชกโฮกฮากระคายหู ซึ่งคุ้นหูเป็นอย่างดีสำหรับกัปตันวันชนะและสถาพรผู้สหายสนิท ดังก้องห้องปฏิบัติการลับใต้ดิน หลังจากประตูเลื่อนเปิดโดยอัตโนมัติให้ผู้พูดเดินเข้ามา
"เลโอนีดาส ไอ้สา ra เลว !!" ด็อกเตอร์จอมระห่ำดีเดือดตะโกนด่า "แกมันสัตนรกแท้ๆ สมควรลงนรกไปแล้ว แหม้งยังเศือกฟื้นกลับมาทำเรื่อง ra ยำตำบอนได้อีก ไอ้ ship หาย ไอ้เฮี่ย !!"
คนโดนด่า แทนที่จะโมโหโกรธา กลับหัวเราะชอบใจ
"เจ้านี่ปากคอเราะร้ายจริงๆ บุรุษประสาอะไร ปากจัดเยี่ยงอิสตรี! ฮ่าๆๆ ด่าได้ด่าไป! อีกสักครู่ เจ้ากับวันชนะสหายรักของเจ้า ต้องร่วมมือทำงานกับข้า!"
"เฮอะ!" สถาพรแค่นเสียง "เราสองคนไม่ทำตามคำสั่งของแกแน่!"
"อย่างนั้นหรือ ?" อดีตสายลับสองหน้าผู้ถูกอัพเกรดยิ้มพราย "เจ้าคงลืมไปแล้วกระมัง ? ว่าภรรยาและลูกๆ ของวันชนะ ถูกจับขังแยกกันอยู่ในตู้กระจกคนละตู้ ไม่ห่วง ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของภรรยาและลูกๆ ของวันชนะเลยหรือไร ?"
คำถามนี้ทำให้สหายกัปตันสะอึก นิ่งอึ้ง ในขณะที่ทางด้านเลโอนีดาสผู้เป็นต่อ ถือแท่งโลหะเล็กยาวอันหนึ่งในมือชี้ไปยังฝาผนังด้านหนึ่งของห้อง ทันทีนั้นมีช่องเลื่อนเปิดออก 3 ช่อง เผยให้เห็นแคปซูลแก้วอันมีร่างของเอ็มม่า แอนนา และเด็กชายแจ๊ค อยู่ข้างใน ทั้งสามคนอยู่ในสภาพสลบ หรือไม่อย่างนั้นก็อยู่ในสภาวะหลับลึก ไร้สติสัมปชัญญะใดๆ ทั้งสิ้น
"แกจะทำอะไรกับพวกเขา ถ้าเราไม่ยอมร่วมมือทำงานกับแก ?" กัปตันวันชนะถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองระคนวิตกกังวล
"อ้อ...อยากรู้กระนั้นหรือ ได้เลย ท่านวันชนะ นี่คือตัวอย่างสักเล็กน้อย!"
พอจบคำพูด เลโอนีดาสชี้ปลายแท่งโลหะนั้นไปยังภรรยาและลูกๆ ของกัปตันทันที และใช้ปลายนิ้วชี้เคาะบนแท่งวัตถุนั้นทีหนึ่ง มีเสียง "บี๊บบ" ดังขึ้นสั้นๆ ฉับพลันนั้น บังเกิดประกายไฟแปลบปลาบแตกดังเปรี๊ยะๆ ช็อตคนทั้งสามร่างสั่นสะท้านไปทั้งตัว!
"เฮ้ยย !!" กัปตันร้องออกมา ฝ่ายสถาพรก็เอะอะโวยวายตามเคย "ไอ้สัสสส แหม้งเอ๊ยยย...หยุดโว้ยย!!!"
"พอได้แล้วเลโอนีดาส! พอ!! เดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดีทั้งสามคน!" กัปตันตะโกนบอก
"แล้วตกลง จะยอมทำงานร่วมกับข้าไหมเล่า ?" อดีตสายลับสุดแสบยังไม่ยอมปิดสวิทช์ปล่อยกระแสไฟฟ้า แต่ยังคงบีบบังคับคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ เอ็มม่า แอนนาและเด็กชายแจ๊คจึงต้องโดนกระแสไฟฟ้าช็อตต่อไปอีก!
"ยอม! ข้ายอมเจ้าแล้ว เลโอนีดาส! หยุดปล่อยกระแสไฟฟ้าเดี๋ยวนี้!!" กัปตันตะโกนลั่น ทันทีนั้นประกายไฟฟ้าซึ่งกำลังท่วมร่างคนทั้งสามแตกเป็นพะเนียงอยู่ก็ดับวูบ
เลโอนีดาสยิ้มร่า แล้วหันมาถามอีกคน "แล้วเจ้าล่ะ ? สถาพร จะว่าอย่างไร ?"
"เฮอะ! ไอ้สัส ra ยำเอ๊ยยย.....แหม้งง...ยอมก็ได้วะ!!"
เลโอนีดาสหัวเราะ แล้วส่งสายตาเจ้าเล่ห์ ยิ้มอย่างชั่วร้ายให้เขา ก่อนจะกล่าวต่อไปและทำสิ่งที่ด็อกเตอร์จอมระห่ำคาดไม่ถึง
"ดูท่าทาง...เจ้าไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร...แต่เพราะวันชนะยินยอมก่อน เจ้าจึงต้องยอมตามอย่างเสียไม่ได้!"
"ข้าก็มิได้เต็มใจยินยอม เหมือนกับเขาเช่นกัน!" กัปตันกล่าว
"มันก็ใช่! ฮ่าๆๆ" เลโอนีดาสหัวร่อกวนๆ "แต่เขาแตกต่างจากท่านอยู่หนึ่งข้อ ซึ่งหากข้าปล่อยให้เป็นไป คือปล่อยให้ความแตกต่างนั้นยังอยู่ เขาอาจจะทำงานให้ข้าได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นข้าจำเป็นต้องขจัดความแตกต่างนั้นเสีย!"
"แตกต่าง ? ยังไงวะ ???" สถาพรแหกปากดังลั่น พร้อมกับความรู้สึกหวาดหวั่น นึกในใจ "อย่าเป็นอย่างที่เรานึกอยู่นี่นะขอร้อง! อย่านะเมิง!"
"แตกต่างก็คือ......วันชนะจำต้องยอม เพราะข้ามีภรรยาและลูกๆ ของเขาเป็นตัวประกัน! แต่เจ้าไม่มีไงล่ะ !! เพราะฉะนั้น ข้าต้องทำให้พวกเจ้าทั้งสองคนมีความเสมอภาคกัน!!" เลโอนีดาสเฉลย ซึ่งคำเฉลยนั้นทำเอาสถาพรหน้าเสียซีดลงกว่าเดิม และถึงตอนนี้ อดีตสายลับสองหน้าชี้แท่งอุปกรณ์ซึ่งทำงานเป็นรีโมทคอนโทรลนั่นเองไปยังฝาผนังด้านขวาบริเวณถัดจากแคปซูลแก้วของเด็กชายแจ็ค ฉับพลันนั้นปรากฏช่องอีก 3 ช่องเปิดเผยให้เห็นแคปซูลที่เหลือ ข้างในมีร่างอันสลบไสลนิ่งสนิทของ เอวา บรรจง ลาลูน่า เรียงรายกันไปตามลำดับ!!
"เฮ้ยย!! เลโอนีดาส ไอ้สัสสส เล่นไม้นี้เลยเหรอวะ ไปจับพวกเขามาตั้งแต่เมื่อไร ??" สถาพรร้องโวยวายอีกตามเคย
"ฮ่ะๆๆๆ ช่ายย......." คนถูกถามตอบพร้อมยิ้มยียวน "คราวนี้ เจ้าคงทำงานร่วมกับข้าและวันชนะ ด้วยความยินยอมพร้อมใจแล้วสินะ"
"ไอ้เลวเอ๊ยยย...ถ้าหลุดออกไปได้ ข้าจะสับแกให้เละ!!"
"ฮ่ะๆๆ คงยากหน่อยหละนะ..."
"ไอ้บัดซบ ไอ้ chad หมา!! ra ยำสัสส...เชี่ยเอ๊ยยย แหม้งงง.. ฯลฯ"
เลโอนีดาสยิ้มบ้างหัวเราะบ้าง ปล่อยให้สถาพรก่นด่าไปเรื่อยๆ
"มาๆๆ..." อดีตสายลับกล่าวตัดบท "มาเริ่มงานกันได้แล้ว เราจะขึ้นไปบนยานของเจ้ากัน วันชนะ ชื่ออะไรนะ ? THE FUGITIVE ใช่ไหม และมันแปลว่า 'ผู้ลี้ภัย' ใช่ไหม ...แต่ถึงตอนนี้ มันลี้ภัยไปไหนไม่ได้แล้วหละ ฮ่าๆๆ"
"เลโอนีดาส..." กัปตันพยายามกล่าวอย่างใจเย็น "เจ้าต้องเข้าใจอยู่อย่างหนึ่งนะ ยานของเรามีวิทยาการจากต่างดาวประกอบร่วมด้วย และข้าไม่สามารถอ่านภาษาต่างดาวที่ปรากฏได้เลยไม่ว่าคำไหน จุดไหน"
"ไม่เป็นไรเลย ท่านวันชนะ นั่นไม่ใช่ปัญหา...." เลโอนีดาสกล่าวยิ้มๆ "เวลามีปัญหากับภาษาต่างดาว ดาวอะไรนะ เนโอโซรอส ใช่ไหม ? ข้าก็แค่ให้คนพาตัวท่านหญิงเอ็มม่า ภรรยาของท่าน ขึ้นยาน เพื่อให้ช่วยแปล ช่วยอธิบาย...และนางต้องช่วย! เพราะถ้าไม่ช่วย ลูกสาวและลูกชายของนาง และของเจ้า จะต้องถูกลงโทษทรมาณ!!!"
"สุดแล้วแต่เจ้าเถิด เลโอนีดาส..." กัปตันกล่าวเหมือนปลงตก
"มันแน่อยู่แล้ว ฮ่าๆๆ" อดีตสายลับตัวแสบตอบกลับแล้วเอื้อมมือผลักหลังกับตันและสถาพร ดันให้สองสหายเดินไปข้างหน้า เพื่อไปขึ้นยาน THE FUGITIVE ซึ่งถูกยึดไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีหนทางใดจะยึดกลับคืนมาและหนีไปได้เลย
"เดินไป! ไปขึ้นยาน แล้วเริ่มงานกัน ฮ่าๆๆ"
เมื่อคนทั้งสามขึ้นมาอยู่บนยาน กัปตันและสถาพรก็ได้พบว่า บนยาน ไร้ผู้คน เหลือแต่ยานเปล่าๆ !!
"คนอื่นๆ ไปไหนกันหมด ??" กัปตันหันมาถามเลโอนีดาส
"อ๋อ...ไม่ต้องห่วงดอก! เหล่าบริวารหรือสหายของเจ้าที่เหลือ ตอนนี้อยู่ในห้องรับรองอีกห้องหนึ่งต่างหาก พวกเขาจะได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี มีอาหารให้กินทุกมื้อ อยู่กันอย่างสุขสบาย! จนกว่างานของเราจะสำเร็จ แล้วทุกคนจะเป็นอิสระ!"
"ข้าจะเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูดนี้ได้อย่างไร ?"
"เชื่อหรือไม่ก็ตามใจ!" เลโอนีดาสพูดหน้าตาเฉย "ข้ามิอาจบังคับให้ท่านและสถาพรสหายท่านด้วยเชื่อได้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ อย่างไรเสียพวกท่านทั้งสองคนก็ต้องร่วมงานกับข้า!"
กัปตันและสถาพรมองหน้าซึ่งกันและกัน กัปตันส่งสายตาความหมายยอมจำนนปนเศร้า ส่วนสถาพรทำปากเบะและยักไหล่ทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากบอกกับศัตรูตัวแสบซึ่งจำเป็นต้องร่วมงานกันอีกครั้ง!
"โอเค...ก็ได้ ไอ้สัสส ra ยำเอ๊ยย.......ว่ามา! จะให้ทำอะไรก่อนในตอนนี้"
"อืมม...ข้าขอดู แบบโครงสร้างของยานลำนี้ก่อน เปิดแบบโครงสร้างขึ้นมาทีซิ"
"ได้...จะเปิดให้ดูเดี๋ยวนี้" กัปตันวันชนะตอบ แล้วเดินไปหน้าแผงควบคุมบริเวณที่นั่งนักบินที่ 1 ของตน กดปุ่มเปิดระบบสื่อสารกับผู้ควบคุมระบบ แล้งสั่งการ "เปิดพิมพ์เขียวของ THE FUGITIVE ฉายให้ดูบริเวณกลางยานหน่อย คริสติน่า"
"ได้เลยค่ะกัปตัน" เสียงหวานๆ ใสๆ ของผู้ควบคุมระบบสาวซึ่งไร้ตัวตนตอบกลับ จากนั้นบริเวณกลางยานปรากฏภาพพิมพ์เขียวของยานแบบ 3 มิติสมบูรณ์แบบมองทะลุได้ลอยตัวกลางอากาศ
กัปตันวันชนะ จำใจ จำยอม ต้องอธิบายเรื่องโครงสร้างพื้นฐานของ THE FUGITIVE บรรยายให้เลโอนีดาสฟัง แม้ขัดใจเหลือล้น แต่ก็จำต้องทนฝืนใจ ทำตามที่ศัตรูต้องการ....
มันเป็นสถานการณ์จนตรอกจริงๆ ไม่รู้จะทำประการใดได้ !!!
ที่นี่คือศูนย์รวมซึ่งใหญ่ที่สุดแห่งนักท่องราตรีทั้งบุรุษและสตรี เป็นสถานที่ดื่มสุราสารพัดชนิด เคล้าไปกับเรื่องกามารมณ์ ตามรสนิยมของนักเที่ยวหรือลูกค้าแต่ละคน ชายหญิงธรรมดาก็มี ชายกับชาย หญิงกับหญิงก็มี และอีกอย่างที่ขาดไม่ได้และกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มชนชั้นกลางและชั้นสูงก็คือ การเสพสมกับ "เลมูรัส"....เลมูรัสจำนวนมาก อยู่ที่นี่ และสามารถซื้อขายกันได้โดยเสรี จะซื้อบริการแบบชั่วคราวหรือซื้อขาดหากติดใจ ก็ได้ตามอัธยาศัย...