แอตแลนติสเหนือ สัปดาห์ที่สอง หลังการมาถึงของยาน SAVIOR FALCON...
สถาพร เอวา และสามหนุ่มชาวอาข่า ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักซึ่งมีโรงเก็บยานให้ด้วยในชุมชนโลโคเทีย ด้วยการอนุเคราะห์ของ อิบิคัส ผู้เป็นผู้นำชุมชน นอกจากนั้น อิบิคัส ยังให้เลโอนีดาสพร้อมกับนายช่างและวิศวกรช่วยตรวจสอบและทำการซ่อมแซม SAVIOR FALCON ให้ด้วย จนสำเร็จสมบูรณ์
แต่ว่า ยานของสถาพร ยังมีสมรรถนะไม่เทียบเท่ากับยาน THE FUGITIVE ของกัปตันวันชนะ สิ่งสำคัญที่ขาดอยู่คือ ระบบต้านแรงโน้มถ่วง และระบบ TELEPORTATION และสำคัญที่สุดคือ สสารสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในเตาปฏิกรณ์ปรมาณูเพื่อการเปิด "รูหนอน" ได้อย่างสมบูรณ์
"ยานของท่าน สมรรถนะยังด้อย เมื่อเปรียบเทียบกับยานบินของชาวแอตแลนติส" เลโอนีดาสกล่าวขณะที่กำลังศึกษา "พิมพ์เขียว" ของยาน "เหยี่ยวกู้ภัย" ซึ่งเจ้าของยานฉายให้ดูด้วยระบบโฮโลแกรมสามมิติ
"มันยังขาดอะไรบ้างที่จำเป็น ?" สถาพรถาม โดยการสนทนามีเอวาเป็นล่ามช่วยแปลให้ทั้งสองฝ่าย
"อย่างแรกเลยที่ยานลำนี้สมควรจะมี คือ เครื่องต้านแรงโน้มถ่วง ถ้ายานมีเครื่องต้านแรงโน้มถ่วง ท่านไม่จำเป็นต้องนำยานลงจอดในยามที่จะช่วยเหลือใครหรือรับใครขึ้นยาน ท่านสามารถที่จะดูดคนๆ นั้นขึ้นยานไปได้เลย"
ด็อกเตอร์หนุ่มฟังคำแปลจากภรรยาแล้วก็พยักหน้าหงึกๆ
เลโอนีดาสมองหน้าเขาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวต่อ "อย่างต่อไป ที่ท่านสมควรมี คือ เครื่องส่งถ่ายอณูแห่งสสารจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ถ้ามีเครื่องที่ว่านี้ ท่านจะสามารถส่งคน หรือวัตถุใดๆ แม้แต่ยานทั้งลำ! ย้ายจากที่หนึ่งไปอยู่อีกที่หนึ่งตามที่ต้องการได้ มันจะช่วยท่านได้ในยามคับขัน ตัวอย่างเช่น ท่านพบกับศัตรูและกำลังเพลี่ยงพล้ำ ท่านก็ให้เครื่องนี้ส่งยานให้หนีรอดไปได้"
"พวกเรา...ในโลกอนาคต เรียกวิธีนี้ว่า TELEPORTATION" สถาพรบอกกับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรเจ้าถิ่น
"อืม...ชื่อของมันมีสำเนียงคล้ายๆ ภาษาของพวกเรา" เขาพยักหน้า แล้วกล่าวถึงสิ่งสำคัญที่สุด "ประการสุดท้าย ซึ่งท่านกำลังต้องการอย่างมากที่สุดก็คือ ระบบเปิด 'อุโมงค์อากาศ' ที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องใช้สสารพิเศษอย่างที่เราได้คุยกันมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่สสารนั้นจำเป็นต้องไปหาในดินแดนแอตแลนติสใต้"
"ทางเหนือ ใหญ่โตตั้งครึ่งทวีป ไม่มีสสารนั้นเลยแม้แต่น้อยหรือ เป็นไปได้อย่างไร ???" สถาพรถามด้วยความข้องใจ
เลโอนีดาสจ้องหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วจึงตอบ "อันที่จริง มันก็มีอยู่! แต่มีจำนวนน้อยมาก และถูกรวบรวมไว้ใน 'ธนาคารสสาร' กลาง
มหานครวงแหวน เพื่อใช้ผลิตพลังงานต่างๆใช้กันทั้งเมือง เพื่อเป็นการส่วนรวม มันมีค่ายิ่งกว่าเพชร ทองคำ หรืออัญมณีใดๆ เสียอีก!"
"หมายความว่า ไม่สามารถขอมาสักชิ้นหนึ่งได้ ???"
"ไม่ได้แน่นอน ท่านสถาพร!" เลโอนีดาสกล่าวอย่างหนักแน่น
"เฮ้อ...สงสัยคงต้องติดอยู่ที่นี่ไปอีกนานละมั้งเนี่ย!" ด็อกเตอร์หนุ่มยกมือขึ้นเกาหัวและทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย
"ท่านอยู่ที่นี่นานๆ ก็ได้ ไม่เห็นจะเป็นไร! เพราะถึงเวลาที่ท่านจะกลับสู่โลกอนาคต...ข้าหมายถึง โลกปัจจุบันของท่าน ท่านก็เพียงแต่ตั้งเวลาเป้าหมายปลายทางให้ตรงกับวันเดือนและปีปัจจุบันของท่านเท่านั้น! เวลาอาจจะคลาดเคลื่อนกันบ้างกับเวลาที่ท่านจากมา เช่น ถ้าท่านจากมาในเวลาบ่าย ตอนที่ท่านกลับไป ก็อาจจะเป็นเวลาเย็นในวันเดียวกันนั่นแหละ!! จะเดือดร้อนไปไยเล่า ?" เลโอนีดาสพยายามกล่าวปลอบใจ
"ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ ก็ดีน่ะสิ!"
"เป็นได้สิน่า....ข้าและพวกของข้า ก็จะช่วยปรับปรุงยานของท่านให้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน"
"เอาอย่างนี้เถิด!" เสียงของอีกคนหนึ่งดังมาจากข้างหลัง เมื่อทุกคนหันไปมอง ก็เห็นผู้นำชุมชนเดินเข้ามาหาสถาพรและเลโอนีดาส "ท่านสถาพร ข้ามีข้อเสนอพิเศษ"
"อะไรหรือ ท่านผู้นำชุมชน ?"
"ข้าคิดว่า ท่าน ภรรยา และบริวารทั้งสามคนของท่าน อยู่ที่นี่กับพวกเราไปก่อน อาจจะสักสามเดือนหกเดือน แต่ไม่เกินหนึ่งปีแน่นอนที่พวกท่านจะได้กลับไปสู่โลกปัจจุบันของท่าน"
"แล้วจะให้ข้าทำอะไรในขณะที่อยู่ที่นี่ ?" ด็อกเตอร์หนุ่มถามด้วยความสงสัย
"ก็ให้ท่านทำงานร่วมกับเลโอนีดาสน่ะสิ! ท่านจะได้ความรู้ วิทยาการของแอตแลนติสจากเลโอนีดาส ท่านจะได้เป็นหนึ่งในคณะทำงานพัฒนาบ้านเมืองของพวกเรา จะมีค่าจ้างให้ท่านอย่างงามทุกเดือน และ ที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องสสารพิเศษที่ท่านต้องการ ข้าจะลองติดต่อเจรจากับท่านประธานสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือ เพื่อขอสสารพิเศษมาให้ท่านสักชิ้นหนึ่ง ถ้าเราโชคดี ท่านประธานสหพันธรัฐตกลงยินยอม และทางสภาลงมติยินยอม ท่านก็จะได้กลับบ้านเร็วขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ เราก็ค่อยหาทางเข้าไปเอามาจากแอตแลนติสใต้อีกที พวกเราจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้...ท่านจะตกลงรับข้อเสนอนี้ไหม ?"
หลังจากเอวาแปลคำพูดของอิบิคัสแล้ว สองสามีภรรยาจึงปรึกษากัน
"น้องคิดว่าไงบ้าง กับข้อเสนอของเขา ?"
"อืมม...น้องว่า เราอยู่ที่นี่ ก็สบายดีเหมือนกันนะคะ พวกเขาก็เป็นมิตรที่ดี ต้อนรับพวกเราอย่างดี ข้อเสนอของเขาก็ฟังดูวิเศษมาก ท่านพี่สมควรรับข้อเสนอไว้ ไม่ควรปฏิเสธค่ะ"
"อ่าฮะ!" สถาพรพยักหน้าหงึก แล้วหันไปถามสามหนุ่มอาข่า "บรรจง อาบือ อาเจอะ ว่าไง ? เขาจะให้เราอยู่ที่นี่ต่อไป อีกสักสามเดือนหกเดือน"
"ถ้าลูกพี่ตกลง พวกผมก็ไม่มีปัญหาครับ" บรรจงตอบก่อน
"โผว่า อยู่ที่นี่ สบายลีคับ" อาบือออกความเห็นเป็นคนที่สอง "อาหาก็ลี มีเหล้าให้หลื่มทุคือๆ
(ทุกคืนๆ) แจ๋วจีๆ เลยคับ"
"แล้วก็...ยามี สาวๆ สวยๆ มาคอยบอริกา
(บริการ) ให้ล่วย โผกาลาจิ
(กำลังจีบ) อยู่โคนือ
(คนนึง) คับ" อาเจอะพูดแล้วแยกเขี้ยวยิ้มร่า
"อ้อ อยากได้สาวโบราณเป็นเมียแล้วสิ" สถาพรพูดยิ้มๆ
"โอ...หยะล่ายสิคับลู่พี่! โสยกว่าสาวอาข่าเปสิๆ เท่าเลย! ฮิฮิ" อาบือกล่าว
"เออ! เดี๋ยวถ้าเกิดได้สาวๆ ที่นี่เป็นเมียจริงๆ ก็อยู่ที่นี่เสียเลยนะ! ดีไหม ??"
"ไอ้...ย่ะ! ม่ายลีคับ ม่ายลีแน่นอ!"
"อ้าว ทำไมล่ะจ๊ะ อาบือ ?" เอวาถามบ้างแล้วก็ยิ้มอย่างขบขัน
"นายหญีคับ...โผได้ยี
(ผมได้ยิน) ว่า ที่นี่ มาจะระเบอะ
(มันจะระเบิด) โหมะเลย แล้วก็จะโจโลไป
(จมลงไป) ในมหาสะหมุ เพาะชาน้า
(เพราะฉะนั้น)...ต้องพาเมียขื้อยา
(ขึ้นยาน) ไปล่วยนะคับ!"
"บ๊ะ! เดี๋ยวก็ออกลูกออกหลานกันเต็มยานหรอกพวกเอ็ง!!" สถาพรพูดแล้วก็หัวเราะ ก่อนจะบอกกับภรรยา "บอกเขาไปว่า พี่ตกลงรับข้อเสนอจ้ะ!"
เอวาบอกกับผู้นำชุมชนตามนั้น และเขาพยักหน้ายิ้มด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติม
"ถ้าเช่นนั้นก็ดีมาก แต่เพื่อให้การทำงานร่วมกันระหว่างเราเป็นไปโดยราบรื่น ข้าจะจัดหาครูสอนภาษาพิเศษมาสอนท่าน รวมทั้งแม่หญิงเอวา และบริวารทั้งสามคนของท่านด้วย สอนหลักสูตรเร่งรัด ไม่นานพวกท่านก็จะสามารถพูดภาษาแอตแลนติสได้"
"ขอบคุณท่านมาก ท่านอิบิคัส แต่ข้าว่า เจ้าลิงสามตัวนั่น" พูดแล้วก็พยักเพยิดไปทางสามหนุ่มอาข่า "ไม่ต้องสอนก็ได้กระมังครับ ?"
"สอนซี่..." ผู้นำชุมชนแห่งโลโคเทียกล่าวยิ้มๆ "ไม่อย่างนั้น พวกเขาก็จะพูดคุยกับสาวๆ ที่พวกเขาชมชอบอยู่ไม่ได้น่ะสิ!"
"เอ้า! บรรจง อาบือ อาเจอะ เตรียมตัวเป็นนักเรียนกันนะจ๊ะ จะมีครูมาสอนให้พวกเราพูดภาษาของที่นี่นะจ๊ะ" เอวาบอกกับหนุ่มชาวเขาทั้งสาม
"เย้!!" อาเจอะชูมือขึ้นด้วยความดีใจ "โผจะต้าจายเรีย
(ตั้งใจเรียน) คับ! จะล่ายจิสาวๆ ล่าย ฮิฮิ"
สถาพร เอวา และคนฝ่ายเจ้าถิ่นมองดูสามหนุ่มและยิ้มด้วยความขบขัน ก่อนที่ผู้นำชุมชนแห่งโลโคเทียจะกล่าวชักชวนทุกคนไปเที่ยว
"เอาละทุกๆ ท่าน เป็นอันว่าเราตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จะมีครูสอนภาษามาสอนพวกท่านถึงที่นี่ ส่วนตอนนี้ ข้าขอเชิญชวนพวกท่านไปเที่ยวชมเมืองต่างๆ ในแอตแลนติสเหนือด้วยกัน ยานบินของท่านได้รับการซ่อมแซมแล้วและพร้อมที่จะบินไปกับพวกเราได้ พวกท่านจะใช้ยานของพวกท่าน หรือจะเป็นผู้โดยสาร ไปกับยานของข้าก็ได้ แล้วแต่ความชอบใจ"
"ถ้าอย่างนั้น เราขอขึ้นยานของเราเองก็แล้วกัน และจะบินตามหลังท่านไป" สถาพรตอบ
อิบิคัสพยักหน้า แล้วเดินออกจากประตูโรงเก็บยานไปพร้อมกับเลโอนีดาสเพื่อไปขึ้นยาน ขณะเดียวกัน สถาพร เอวา และสามหนุ่มอาข่า ก็พากันขึ้นไปบนยาน SAVIOR FALCON ครั้นทุกคนประจำที่กันดีแล้ว "เหยี่ยวกู้ภัย" ก็บินขึ้นพ้นจากฝาครอบแก้วรูปทรงครึ่งวงกลมซึ่งเปิดอ้าออก แล้วบินตามยานของผู้นำชุมชนแห่งโลโคเทียไปทางทิศเหนือ
อิบิคัสพาพวกสถาพรบินชมทัศนียภาพของเมืองต่างๆ ในบริเวณรอบนอกสุด ก่อนจะขยับบินเข้าสู่วงใน วงที่สอง...วงที่สาม...ที่สี่ และที่ห้าเป็นวงสุดท้าย แต่ละวงนั้นมีการขุดแม่น้ำเป็นวงซ้อนกันเป็นชั้นๆ และมีสะพานเชื่อมต่อกันทุกชั้น มันจึงถูกขนานนามว่า
มหานครวงแหวน!
ตรงกลางของมหานครวงแหวน คือนครหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง และความศิวิไลซ์ถึงขีดสุด รวมกันอยู่ ณ ศูนย์กลางแห่งนี้ มีโดมกระจกขนาดยักษ์ตรงกลาง ภายในปรับอากาศเย็นสบายอยู่ตลอดเวลา และเป็นศูนย์รวมพลังงานแจกจ่ายไปทั่วทุกเมืองในทุกวงแหวน
"อเมซซิ่ง!!" สถาพรร้องอุทานเมื่อแรกเห็นส่วนกลางแห่งมหานครวงแหวนนั้น "เหลือเชื่อจริงๆ น่าเสียดายที่ต่อไปในอนาคตข้างหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องล่มสลายจมหายไปใต้ก้นมหาสมุทรจนหมดสิ้น ไม่น่าเลย...ไม่น่าเลยจริงๆ !!"
"สวยงามมากจริงๆ นะคะ ท่านพี่" เอวากล่าวด้วยความตื่นตาตื่นใจ และสามหนุ่มชาวอาข่าก็มีอาการอย่างเดียวกัน
"ใช่จ้ะน้อง มันสวยงามมาก เกินจะบรรยาย..." ด็อกเตอร์หนุ่มกล่าวต่อไป "และน่าเสียดายอีกอย่าง...เราไม่สามารถไปดูทางฝั่งแอตแลนติสใต้ได้ อยากรู้จริงๆว่าทางฝั่งนั้นจะงดงามขนาดไหน"
"คิดว่าคงไม่แพ้ทางเหนือแน่นอนค่ะท่านพี่ เพราะได้ยินท่านเซบาสเตนบอกว่า พวกชาวใต้ มีวัตถุดิบในการผลิตสิ่งต่างๆ มากกว่าทางเหนือ"
ทันใดนั้น มีเสียงวิทยุสื่อสารเข้ามาในยาน เป็นภาษาฟินิเชียนซึ่งเอวาฟังออก ผู้พูดคือ อิบิคัสนั่นเอง
"เรายังพอมีเวลา ขณะนี้เป็นยามสามแห่งช่วงบ่าย พวกท่านอยากลงไปเดินเที่ยวในใจกลางนครหลวงกันหรือไม่ ?"
เอวาแปลคำพูดชักชวนนั้นให้สามีฟัง และเขาพยักหน้า เธอจึงตอบกลับไป
"ไปสิเจ้าคะ ท่านน้าอิบิคัส นำทางไปเลยเจ้าค่ะ"
ดังนั้น ยานของอิบิคัสจึงบินตรงไปยังจุดศูนย์กลางของมหานครวงแหวน ตามมาด้วย SAVIOR FALCON ของสถาพรกับพวก
เมื่อใกล้เข้าไป ทุกคนมองเห็นบ้านเรือน วิหารบูชาเทพเจ้า และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เรียงรายเป็นบล็อกๆ ไปอย่างมีระเบียบ
อิบิคัสนำยานลงไปที่บล็อกๆ หนึ่ง "เหยี่ยวกู้ภัย" บินตามมาติดๆ เมื่อลดระดับลงมาใกล้พื้นดิน ก็พบกับพื้นที่กว้างขวางรูปสี่เหลี่ยมตีตารางเป็นช่องๆ
นั่นคือ ลานจอดยานบิน !! มียานสารพัดรูปร่างหลากหลายแบบ จับจองที่จอดกันแน่นขนัด มีที่จอดเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย
ยานทั้งสองลำ เลือกช่องลงจอดใกล้ๆ กัน จากนั้นคนในยานจึงลงจากยาน
"อีกสักครู่ เราจะเดินชมตลาดกัน" อิบิคัสกล่าว แล้วชี้ไปที่ "ยานขนส่ง" ลำหนึ่งรูปร่างเป็นกล่องสี่เหลี่ยม อยู่บนทางซึ่งคล้ายกับรางรถไฟที่ไม่มีไม้หมอน
"นั่นคือยานขนส่งผู้คนไปที่ตลาด ยานหนึ่งลำต่อคนสิบคน พวกเราไปที่ยานลำนั้นกัน" อิบิคัสกล่าว
"มันทำงานอย่างไร ? บินไป หรือว่าไปตามรางที่เห็นนั่น ?" สถาพรถาม
"ไม่ได้บินไปดอก! หากแต่ ไปด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อพลังงานถูกเปิด ยานนั้นจะลอยตัวอยู่เหนือรางเหล็กนั้นเล็กน้อยด้วพลังกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า แล้วจะแล่นไปด้วยความเร็ว 100 ฟิลิปป้าต่อเซคุนดาส" เลโอนีดาสตอบ
"ฟิลิปป้า กับ เซคุนดาส คือ ประมาณไหนเจ้าคะ ?"
"อ้อ พวกท่านคงไม่รู้จักคำบอกมาตราวัดต่างๆ ของเรา หนึ่งฟิลิปป้า ก็ยาวประมาณจากศอกไปถึงปลายนิ้วกลางของชายคนหนึ่ง ส่วน เซคุนดาส คือ เศษหนึ่งส่วนหกสิบแห่งยามหนึ่งยาม"
"งั้น 1 ฟิลิปป้าก็ ประมาณหนึ่งศอกมั้ง" สถาพรเดา
คนทั้งหมดเข้าไปใน "ยานขนส่ง" ลำนั้น จากนั้นยานก็ลอยตัวขึ้นเหนือรางเหล็ก และพุ่งไปข้างหน้า ไม่ถึงนาทีก็จอด ประตูเปิดออกโดยอัตโนมัติ ทุกคนออกมาจากยาน มองไปข้างหน้า
(มีต่อครับ)
💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 4 🚀💫🕛💫
สถาพร เอวา และสามหนุ่มชาวอาข่า ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักซึ่งมีโรงเก็บยานให้ด้วยในชุมชนโลโคเทีย ด้วยการอนุเคราะห์ของ อิบิคัส ผู้เป็นผู้นำชุมชน นอกจากนั้น อิบิคัส ยังให้เลโอนีดาสพร้อมกับนายช่างและวิศวกรช่วยตรวจสอบและทำการซ่อมแซม SAVIOR FALCON ให้ด้วย จนสำเร็จสมบูรณ์
แต่ว่า ยานของสถาพร ยังมีสมรรถนะไม่เทียบเท่ากับยาน THE FUGITIVE ของกัปตันวันชนะ สิ่งสำคัญที่ขาดอยู่คือ ระบบต้านแรงโน้มถ่วง และระบบ TELEPORTATION และสำคัญที่สุดคือ สสารสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในเตาปฏิกรณ์ปรมาณูเพื่อการเปิด "รูหนอน" ได้อย่างสมบูรณ์
"ยานของท่าน สมรรถนะยังด้อย เมื่อเปรียบเทียบกับยานบินของชาวแอตแลนติส" เลโอนีดาสกล่าวขณะที่กำลังศึกษา "พิมพ์เขียว" ของยาน "เหยี่ยวกู้ภัย" ซึ่งเจ้าของยานฉายให้ดูด้วยระบบโฮโลแกรมสามมิติ
"มันยังขาดอะไรบ้างที่จำเป็น ?" สถาพรถาม โดยการสนทนามีเอวาเป็นล่ามช่วยแปลให้ทั้งสองฝ่าย
"อย่างแรกเลยที่ยานลำนี้สมควรจะมี คือ เครื่องต้านแรงโน้มถ่วง ถ้ายานมีเครื่องต้านแรงโน้มถ่วง ท่านไม่จำเป็นต้องนำยานลงจอดในยามที่จะช่วยเหลือใครหรือรับใครขึ้นยาน ท่านสามารถที่จะดูดคนๆ นั้นขึ้นยานไปได้เลย"
ด็อกเตอร์หนุ่มฟังคำแปลจากภรรยาแล้วก็พยักหน้าหงึกๆ
เลโอนีดาสมองหน้าเขาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวต่อ "อย่างต่อไป ที่ท่านสมควรมี คือ เครื่องส่งถ่ายอณูแห่งสสารจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ถ้ามีเครื่องที่ว่านี้ ท่านจะสามารถส่งคน หรือวัตถุใดๆ แม้แต่ยานทั้งลำ! ย้ายจากที่หนึ่งไปอยู่อีกที่หนึ่งตามที่ต้องการได้ มันจะช่วยท่านได้ในยามคับขัน ตัวอย่างเช่น ท่านพบกับศัตรูและกำลังเพลี่ยงพล้ำ ท่านก็ให้เครื่องนี้ส่งยานให้หนีรอดไปได้"
"พวกเรา...ในโลกอนาคต เรียกวิธีนี้ว่า TELEPORTATION" สถาพรบอกกับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรเจ้าถิ่น
"อืม...ชื่อของมันมีสำเนียงคล้ายๆ ภาษาของพวกเรา" เขาพยักหน้า แล้วกล่าวถึงสิ่งสำคัญที่สุด "ประการสุดท้าย ซึ่งท่านกำลังต้องการอย่างมากที่สุดก็คือ ระบบเปิด 'อุโมงค์อากาศ' ที่สมบูรณ์ ซึ่งต้องใช้สสารพิเศษอย่างที่เราได้คุยกันมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่สสารนั้นจำเป็นต้องไปหาในดินแดนแอตแลนติสใต้"
"ทางเหนือ ใหญ่โตตั้งครึ่งทวีป ไม่มีสสารนั้นเลยแม้แต่น้อยหรือ เป็นไปได้อย่างไร ???" สถาพรถามด้วยความข้องใจ
เลโอนีดาสจ้องหน้าเขานิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วจึงตอบ "อันที่จริง มันก็มีอยู่! แต่มีจำนวนน้อยมาก และถูกรวบรวมไว้ใน 'ธนาคารสสาร' กลาง มหานครวงแหวน เพื่อใช้ผลิตพลังงานต่างๆใช้กันทั้งเมือง เพื่อเป็นการส่วนรวม มันมีค่ายิ่งกว่าเพชร ทองคำ หรืออัญมณีใดๆ เสียอีก!"
"หมายความว่า ไม่สามารถขอมาสักชิ้นหนึ่งได้ ???"
"ไม่ได้แน่นอน ท่านสถาพร!" เลโอนีดาสกล่าวอย่างหนักแน่น
"เฮ้อ...สงสัยคงต้องติดอยู่ที่นี่ไปอีกนานละมั้งเนี่ย!" ด็อกเตอร์หนุ่มยกมือขึ้นเกาหัวและทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย
"ท่านอยู่ที่นี่นานๆ ก็ได้ ไม่เห็นจะเป็นไร! เพราะถึงเวลาที่ท่านจะกลับสู่โลกอนาคต...ข้าหมายถึง โลกปัจจุบันของท่าน ท่านก็เพียงแต่ตั้งเวลาเป้าหมายปลายทางให้ตรงกับวันเดือนและปีปัจจุบันของท่านเท่านั้น! เวลาอาจจะคลาดเคลื่อนกันบ้างกับเวลาที่ท่านจากมา เช่น ถ้าท่านจากมาในเวลาบ่าย ตอนที่ท่านกลับไป ก็อาจจะเป็นเวลาเย็นในวันเดียวกันนั่นแหละ!! จะเดือดร้อนไปไยเล่า ?" เลโอนีดาสพยายามกล่าวปลอบใจ
"ถ้าเป็นเช่นนั้นได้ ก็ดีน่ะสิ!"
"เป็นได้สิน่า....ข้าและพวกของข้า ก็จะช่วยปรับปรุงยานของท่านให้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน"
"เอาอย่างนี้เถิด!" เสียงของอีกคนหนึ่งดังมาจากข้างหลัง เมื่อทุกคนหันไปมอง ก็เห็นผู้นำชุมชนเดินเข้ามาหาสถาพรและเลโอนีดาส "ท่านสถาพร ข้ามีข้อเสนอพิเศษ"
"อะไรหรือ ท่านผู้นำชุมชน ?"
"ข้าคิดว่า ท่าน ภรรยา และบริวารทั้งสามคนของท่าน อยู่ที่นี่กับพวกเราไปก่อน อาจจะสักสามเดือนหกเดือน แต่ไม่เกินหนึ่งปีแน่นอนที่พวกท่านจะได้กลับไปสู่โลกปัจจุบันของท่าน"
"แล้วจะให้ข้าทำอะไรในขณะที่อยู่ที่นี่ ?" ด็อกเตอร์หนุ่มถามด้วยความสงสัย
"ก็ให้ท่านทำงานร่วมกับเลโอนีดาสน่ะสิ! ท่านจะได้ความรู้ วิทยาการของแอตแลนติสจากเลโอนีดาส ท่านจะได้เป็นหนึ่งในคณะทำงานพัฒนาบ้านเมืองของพวกเรา จะมีค่าจ้างให้ท่านอย่างงามทุกเดือน และ ที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องสสารพิเศษที่ท่านต้องการ ข้าจะลองติดต่อเจรจากับท่านประธานสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือ เพื่อขอสสารพิเศษมาให้ท่านสักชิ้นหนึ่ง ถ้าเราโชคดี ท่านประธานสหพันธรัฐตกลงยินยอม และทางสภาลงมติยินยอม ท่านก็จะได้กลับบ้านเร็วขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ เราก็ค่อยหาทางเข้าไปเอามาจากแอตแลนติสใต้อีกที พวกเราจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ท่านได้กลับบ้านโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้...ท่านจะตกลงรับข้อเสนอนี้ไหม ?"
หลังจากเอวาแปลคำพูดของอิบิคัสแล้ว สองสามีภรรยาจึงปรึกษากัน
"น้องคิดว่าไงบ้าง กับข้อเสนอของเขา ?"
"อืมม...น้องว่า เราอยู่ที่นี่ ก็สบายดีเหมือนกันนะคะ พวกเขาก็เป็นมิตรที่ดี ต้อนรับพวกเราอย่างดี ข้อเสนอของเขาก็ฟังดูวิเศษมาก ท่านพี่สมควรรับข้อเสนอไว้ ไม่ควรปฏิเสธค่ะ"
"อ่าฮะ!" สถาพรพยักหน้าหงึก แล้วหันไปถามสามหนุ่มอาข่า "บรรจง อาบือ อาเจอะ ว่าไง ? เขาจะให้เราอยู่ที่นี่ต่อไป อีกสักสามเดือนหกเดือน"
"ถ้าลูกพี่ตกลง พวกผมก็ไม่มีปัญหาครับ" บรรจงตอบก่อน
"โผว่า อยู่ที่นี่ สบายลีคับ" อาบือออกความเห็นเป็นคนที่สอง "อาหาก็ลี มีเหล้าให้หลื่มทุคือๆ (ทุกคืนๆ) แจ๋วจีๆ เลยคับ"
"แล้วก็...ยามี สาวๆ สวยๆ มาคอยบอริกา (บริการ) ให้ล่วย โผกาลาจิ (กำลังจีบ) อยู่โคนือ (คนนึง) คับ" อาเจอะพูดแล้วแยกเขี้ยวยิ้มร่า
"อ้อ อยากได้สาวโบราณเป็นเมียแล้วสิ" สถาพรพูดยิ้มๆ
"โอ...หยะล่ายสิคับลู่พี่! โสยกว่าสาวอาข่าเปสิๆ เท่าเลย! ฮิฮิ" อาบือกล่าว
"เออ! เดี๋ยวถ้าเกิดได้สาวๆ ที่นี่เป็นเมียจริงๆ ก็อยู่ที่นี่เสียเลยนะ! ดีไหม ??"
"ไอ้...ย่ะ! ม่ายลีคับ ม่ายลีแน่นอ!"
"อ้าว ทำไมล่ะจ๊ะ อาบือ ?" เอวาถามบ้างแล้วก็ยิ้มอย่างขบขัน
"นายหญีคับ...โผได้ยี (ผมได้ยิน) ว่า ที่นี่ มาจะระเบอะ (มันจะระเบิด) โหมะเลย แล้วก็จะโจโลไป (จมลงไป) ในมหาสะหมุ เพาะชาน้า (เพราะฉะนั้น)...ต้องพาเมียขื้อยา (ขึ้นยาน) ไปล่วยนะคับ!"
"บ๊ะ! เดี๋ยวก็ออกลูกออกหลานกันเต็มยานหรอกพวกเอ็ง!!" สถาพรพูดแล้วก็หัวเราะ ก่อนจะบอกกับภรรยา "บอกเขาไปว่า พี่ตกลงรับข้อเสนอจ้ะ!"
เอวาบอกกับผู้นำชุมชนตามนั้น และเขาพยักหน้ายิ้มด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติม
"ถ้าเช่นนั้นก็ดีมาก แต่เพื่อให้การทำงานร่วมกันระหว่างเราเป็นไปโดยราบรื่น ข้าจะจัดหาครูสอนภาษาพิเศษมาสอนท่าน รวมทั้งแม่หญิงเอวา และบริวารทั้งสามคนของท่านด้วย สอนหลักสูตรเร่งรัด ไม่นานพวกท่านก็จะสามารถพูดภาษาแอตแลนติสได้"
"ขอบคุณท่านมาก ท่านอิบิคัส แต่ข้าว่า เจ้าลิงสามตัวนั่น" พูดแล้วก็พยักเพยิดไปทางสามหนุ่มอาข่า "ไม่ต้องสอนก็ได้กระมังครับ ?"
"สอนซี่..." ผู้นำชุมชนแห่งโลโคเทียกล่าวยิ้มๆ "ไม่อย่างนั้น พวกเขาก็จะพูดคุยกับสาวๆ ที่พวกเขาชมชอบอยู่ไม่ได้น่ะสิ!"
"เอ้า! บรรจง อาบือ อาเจอะ เตรียมตัวเป็นนักเรียนกันนะจ๊ะ จะมีครูมาสอนให้พวกเราพูดภาษาของที่นี่นะจ๊ะ" เอวาบอกกับหนุ่มชาวเขาทั้งสาม
"เย้!!" อาเจอะชูมือขึ้นด้วยความดีใจ "โผจะต้าจายเรีย (ตั้งใจเรียน) คับ! จะล่ายจิสาวๆ ล่าย ฮิฮิ"
สถาพร เอวา และคนฝ่ายเจ้าถิ่นมองดูสามหนุ่มและยิ้มด้วยความขบขัน ก่อนที่ผู้นำชุมชนแห่งโลโคเทียจะกล่าวชักชวนทุกคนไปเที่ยว
"เอาละทุกๆ ท่าน เป็นอันว่าเราตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จะมีครูสอนภาษามาสอนพวกท่านถึงที่นี่ ส่วนตอนนี้ ข้าขอเชิญชวนพวกท่านไปเที่ยวชมเมืองต่างๆ ในแอตแลนติสเหนือด้วยกัน ยานบินของท่านได้รับการซ่อมแซมแล้วและพร้อมที่จะบินไปกับพวกเราได้ พวกท่านจะใช้ยานของพวกท่าน หรือจะเป็นผู้โดยสาร ไปกับยานของข้าก็ได้ แล้วแต่ความชอบใจ"
"ถ้าอย่างนั้น เราขอขึ้นยานของเราเองก็แล้วกัน และจะบินตามหลังท่านไป" สถาพรตอบ
อิบิคัสพยักหน้า แล้วเดินออกจากประตูโรงเก็บยานไปพร้อมกับเลโอนีดาสเพื่อไปขึ้นยาน ขณะเดียวกัน สถาพร เอวา และสามหนุ่มอาข่า ก็พากันขึ้นไปบนยาน SAVIOR FALCON ครั้นทุกคนประจำที่กันดีแล้ว "เหยี่ยวกู้ภัย" ก็บินขึ้นพ้นจากฝาครอบแก้วรูปทรงครึ่งวงกลมซึ่งเปิดอ้าออก แล้วบินตามยานของผู้นำชุมชนแห่งโลโคเทียไปทางทิศเหนือ
อิบิคัสพาพวกสถาพรบินชมทัศนียภาพของเมืองต่างๆ ในบริเวณรอบนอกสุด ก่อนจะขยับบินเข้าสู่วงใน วงที่สอง...วงที่สาม...ที่สี่ และที่ห้าเป็นวงสุดท้าย แต่ละวงนั้นมีการขุดแม่น้ำเป็นวงซ้อนกันเป็นชั้นๆ และมีสะพานเชื่อมต่อกันทุกชั้น มันจึงถูกขนานนามว่า มหานครวงแหวน!
ตรงกลางของมหานครวงแหวน คือนครหลวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง และความศิวิไลซ์ถึงขีดสุด รวมกันอยู่ ณ ศูนย์กลางแห่งนี้ มีโดมกระจกขนาดยักษ์ตรงกลาง ภายในปรับอากาศเย็นสบายอยู่ตลอดเวลา และเป็นศูนย์รวมพลังงานแจกจ่ายไปทั่วทุกเมืองในทุกวงแหวน
"อเมซซิ่ง!!" สถาพรร้องอุทานเมื่อแรกเห็นส่วนกลางแห่งมหานครวงแหวนนั้น "เหลือเชื่อจริงๆ น่าเสียดายที่ต่อไปในอนาคตข้างหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องล่มสลายจมหายไปใต้ก้นมหาสมุทรจนหมดสิ้น ไม่น่าเลย...ไม่น่าเลยจริงๆ !!"
"สวยงามมากจริงๆ นะคะ ท่านพี่" เอวากล่าวด้วยความตื่นตาตื่นใจ และสามหนุ่มชาวอาข่าก็มีอาการอย่างเดียวกัน
"ใช่จ้ะน้อง มันสวยงามมาก เกินจะบรรยาย..." ด็อกเตอร์หนุ่มกล่าวต่อไป "และน่าเสียดายอีกอย่าง...เราไม่สามารถไปดูทางฝั่งแอตแลนติสใต้ได้ อยากรู้จริงๆว่าทางฝั่งนั้นจะงดงามขนาดไหน"
"คิดว่าคงไม่แพ้ทางเหนือแน่นอนค่ะท่านพี่ เพราะได้ยินท่านเซบาสเตนบอกว่า พวกชาวใต้ มีวัตถุดิบในการผลิตสิ่งต่างๆ มากกว่าทางเหนือ"
ทันใดนั้น มีเสียงวิทยุสื่อสารเข้ามาในยาน เป็นภาษาฟินิเชียนซึ่งเอวาฟังออก ผู้พูดคือ อิบิคัสนั่นเอง
"เรายังพอมีเวลา ขณะนี้เป็นยามสามแห่งช่วงบ่าย พวกท่านอยากลงไปเดินเที่ยวในใจกลางนครหลวงกันหรือไม่ ?"
เอวาแปลคำพูดชักชวนนั้นให้สามีฟัง และเขาพยักหน้า เธอจึงตอบกลับไป
"ไปสิเจ้าคะ ท่านน้าอิบิคัส นำทางไปเลยเจ้าค่ะ"
ดังนั้น ยานของอิบิคัสจึงบินตรงไปยังจุดศูนย์กลางของมหานครวงแหวน ตามมาด้วย SAVIOR FALCON ของสถาพรกับพวก
เมื่อใกล้เข้าไป ทุกคนมองเห็นบ้านเรือน วิหารบูชาเทพเจ้า และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เรียงรายเป็นบล็อกๆ ไปอย่างมีระเบียบ
อิบิคัสนำยานลงไปที่บล็อกๆ หนึ่ง "เหยี่ยวกู้ภัย" บินตามมาติดๆ เมื่อลดระดับลงมาใกล้พื้นดิน ก็พบกับพื้นที่กว้างขวางรูปสี่เหลี่ยมตีตารางเป็นช่องๆ
นั่นคือ ลานจอดยานบิน !! มียานสารพัดรูปร่างหลากหลายแบบ จับจองที่จอดกันแน่นขนัด มีที่จอดเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย
ยานทั้งสองลำ เลือกช่องลงจอดใกล้ๆ กัน จากนั้นคนในยานจึงลงจากยาน
"อีกสักครู่ เราจะเดินชมตลาดกัน" อิบิคัสกล่าว แล้วชี้ไปที่ "ยานขนส่ง" ลำหนึ่งรูปร่างเป็นกล่องสี่เหลี่ยม อยู่บนทางซึ่งคล้ายกับรางรถไฟที่ไม่มีไม้หมอน
"นั่นคือยานขนส่งผู้คนไปที่ตลาด ยานหนึ่งลำต่อคนสิบคน พวกเราไปที่ยานลำนั้นกัน" อิบิคัสกล่าว
"มันทำงานอย่างไร ? บินไป หรือว่าไปตามรางที่เห็นนั่น ?" สถาพรถาม
"ไม่ได้บินไปดอก! หากแต่ ไปด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อพลังงานถูกเปิด ยานนั้นจะลอยตัวอยู่เหนือรางเหล็กนั้นเล็กน้อยด้วพลังกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า แล้วจะแล่นไปด้วยความเร็ว 100 ฟิลิปป้าต่อเซคุนดาส" เลโอนีดาสตอบ
"ฟิลิปป้า กับ เซคุนดาส คือ ประมาณไหนเจ้าคะ ?"
"อ้อ พวกท่านคงไม่รู้จักคำบอกมาตราวัดต่างๆ ของเรา หนึ่งฟิลิปป้า ก็ยาวประมาณจากศอกไปถึงปลายนิ้วกลางของชายคนหนึ่ง ส่วน เซคุนดาส คือ เศษหนึ่งส่วนหกสิบแห่งยามหนึ่งยาม"
"งั้น 1 ฟิลิปป้าก็ ประมาณหนึ่งศอกมั้ง" สถาพรเดา
คนทั้งหมดเข้าไปใน "ยานขนส่ง" ลำนั้น จากนั้นยานก็ลอยตัวขึ้นเหนือรางเหล็ก และพุ่งไปข้างหน้า ไม่ถึงนาทีก็จอด ประตูเปิดออกโดยอัตโนมัติ ทุกคนออกมาจากยาน มองไปข้างหน้า
(มีต่อครับ)