กระทู้นี้เป็น Spoil นะคะ
ตัวเต็มออกวันอาทิตย์ 22:00 ทาง Manga Plus
- บทเริ่มต้นด้วย ลูฟี่ ขอบคุณเซาโลที่ช่วยเหลือโรบินมาโดยตลอด และยื่นมือออกไปทำความรู้จัก
ลูฟี่ : เซาโล-ซัน ข้าเข้าใจว่าลูกน้องของข้าคนหนึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของคุณ ต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ให้ข้าได้แนะนำตัว
- ลูฟี่พูดด้วยท่าทีแปลก ๆ โดยการใช้วิธีการพูดแบบยากูซ่า ซึ่งทุกคนต่างขำ เพราะไม่รู้ว่าลูฟี่ไปเรียนรู้วิธีการพูดแบบนั้นมาจากไหน
ซันจิ : นายไปเรียนคำพวกนั้นมาจากไหนน่ะ?
ลูฟี่ : ได้โปรดให้พวกเราแนะ....
- โรบินตัดบทของลูฟี่โดยการพูดปาดหน้าว่า "นี่คือลูฟี่"
เซาโล : เดริชิชิชิชิ ข้ารู้อยู่แล้ว!! ลูฟี่เป็นชื่อที่โด่งดังมากเลยนะ เธอพบเพื่อนที่ดีแล้วสินะโรบิน ใช่ไหม?
โรบิน : ใช่แล้ว เป็นพวกพ้องที่คอยปกป้องคนอย่างฉัน
- กลุ่มหมวกฟาง ยกเว้น ลูฟี่ โซโล จินเบ ร้องไห้อีกครั้งและคิดว่าพวกเขาจะปกป้องโรบินไปตลอดชีวิต เซาโลกล่าวขอบคุณกลุ่มหมวกฟางที่คอยปกป้องโรบิน
- ลิลิธกล่าวแนะนำตัวเองกับเซาโล ว่าเธอคือเวก้าพังค์ (ลิลิธนั่งมาบนเรือ Sval พร้อมกับพวกบอนนี่) และลิลิธก็ขอให้จินเบยกกล่องเหล็กที่เธอเอามาจาก Egghead ลงมาจากเรือ Sval เป็นกล่องเหล็กที่มีสติกเกอร์ติดไว้ว่า Vegapunk
- จินเบกล่าวว่า เราขนย้ายสิ่งนี้มาตามคำสั่งของเวก้าพังค์ แล้วข้างในมีอะไรกันแน่
ลิลิธ : ฉันไงล่ะ!
ลูฟี่ : ร่างโคลนของเวก้าพังค์หรอ!!
ลิลิธ : ใช่แล้ว แต่นี่จะแตกต่างจาก satellite ตัวอื่น ๆ เพราะเวก้าพังค์คนนี้คือแบบจำลองที่สมบูรณ์แบบแล้ว และเป็นคนเดียวกับที่มาเยือนเอลบัฟเมื่อ 20 ปีก่อนด้วย รัฐบาลโลกน่าจะเริ่มสงสัยเป็นธรรมดาหาก "สเตลล่า" ถูกนำออกมาจากห้องแลป แต่เราขนย้ายร่างจำลองนี้ผ่าน nutrient medium แต่เราจะไม่สามารถนำร่างจำลองนี้ออกจากกล่องได้อย่างปลอดภัยเพราะไม่มีห้องแลป หรือเครื่องจักรที่มีคุณภาพ
- ลิลิธกล่าวว่าเธอจะอยู่ที่เอลบัฟเพื่อสร้างห้องแลปใหม่ และปลุกชีพเวก้าพังค์จากร่างโคลนอันนี้ และรักษาคุมะ บอนนี่ตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก - หลังจากนั้นพวกยักษ์ก็พากลุ่มหมวกฟางทัวร์โรงเรียน โดย เซาโล โรบิน บอนนี่ ช๊อปเปอร์ และลิลิธ ขึ้นไปที่หอสมุดนกฮูก
- เราจะเห็นภาพของหอสมุดจากข้างนอกบริเวณโรงเรียนว่า มันเหมือนหอสมุดนกฮูกจริง ๆ
- ขณะที่พวกลูฟี่กำลังทัวร์อยู่ ก็จะเห็นยักษ์เด็ก กำลังเล่นกันอยู่ใกล้ ๆ น้ำพุของนักรบ
- อุซปถามยักษ์เด็กเหล่านั้นว่าสนใจจะไปร่วมผจญภัย และต่อสู้กับเหล่าอันธพาลในสักวันหนึ่งหรือไม่ แต่กลับไปรับคำตอบจากใครบางคนว่า นั่นไม่ใช่เทรนสักหน่อยนะ
- ยักษ์เด็กจึงกล่าวกับอุซปว่า พวกนายต้องหลบออกไปนะ ไม่งั้นก็จะโดนดุเอา เพราะตอนนี้พวกนายอยู่ต่อหน้า ริปรีย์เซนเซย์
- เราก็จะรู้ว่า อุซปและลูฟี่ยืนอยู่บนร่างของ ริปรีย์ ที่นอนอยู่บนพื้นพอดี โดยลูฟี่ยืนอยู่บนหน้าอกของริปรีย์ เหมือนครั้งแรกที่ลูฟี่เจอกับชิราโฮชิเลย
- ริปรีย์เป็นนักรบยักษ์สาวสวยมีรอยแทททูบนใบหน้า และเป็นครูสอนชีวะวิทยาใน โรงเรียนวอลรัส
อุซป : เราเหยียบยักษ์อยู่หรอเนี่ย ขอโทษนะ
ริปรีย์ : ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องกังวลเพราะมันไม่ได้หนักอะไร แต่พวกนายตกใจใช่ไหม?
"นักรบเอลบัฟทำลายโลก" นั่นมันร้อยกว่าปีมาแล้วนะ นี่ม่ใช่ยุคของความรุนแรงอีกต่อไปแล้ว
- ริปรีย์อธิบายว่าเด็ก ๆ ใน วอลรัสอคาเดมี่ สุภาพและรักสันติกว่าเด็กในเอลบัฟ เพราะทำตามเจตนารมณ์ของ กษัตริย์ฮาราล
- กษัตริย์ฮาราล ต้องการให้เอลบัฟเป็นประเทศที่รักสันติ ทำการค้า และเจรจาแทนการทำสงคราม นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ค่อยถูกกับผู้อาวุโสของเอลบัฟ เริ่มตั้งแต่ กษัตริย์ฮาราล ตายโดยฝีมือลูกชายตัวเอง เอลบัฟจึงไม่มีกษัตริย์
- ริปรีย์กล่าวว่าเธอมาจากรุ่นสุดท้ายของนักรบยักษ์ เธออยากพบลูฟี่ในร่างสีขาว ตำนานในเอลบัฟเคยกล่าวไว้ว่ามีนักรบที่มีลักษณะแบบนั้น
- โรบิน ช๊อปเปอร์ ลิลิธ บอนนี่ และเซาโล มาถึงหอสมุดนกฮูก เมื่อก้าวเข้าไปเซาโลก็เริ่มอธิบายกับโรบินว่าตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่โอฮาร่า.....
เซาโล : ตั้งแต่ข้ามาถึงที่เอลบัฟ หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับโอฮาร่า ข้าไม่สามารถละสายตาจากมันได้เลย สิ่งที่พวกนักวิชาการละชีวิตคอยปกป้องไว้
ข้าจึงไปขอความช่วยเหลือกับฮัจรูดิน และเพื่อนของเขา และในที่สุดเราก็กลับไปที่โอฮาร่า และเมื่อข้าเห็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ เหล่านั้นอยู่ในสภาพสมบูรณ์ข้าก็ร้องไห้ เอาล่ะ เข้าข้างในกันเถอะ .... โรบิน ระวังหนังสือที่ถืออยู่ในมือด้วยล่ะ
โรบิน : โอ้
- เมื่อก้าวเข้าห้องสมุดนกฮูก หนังสือที่โรบินถืออยู่ก็กลายเป็นหนังสือขนาดยักษ์ ใหญ่กว่าตัวโรบิน
- เราจะเห็น หอสมุดนกฮูก ที่เต็มไปด้วยหนังสือเล่มยักษ์มากมายบนชั้นหนังสือ ตู้หนังสือขนาดใหญ่มีกิ่งก้านไม้ยื่นออกมาแถมมีนกฮูกนอนหลับอยู่ด้วย
เซาโล : เดริชิชิชิชิ เป็นไงล่ะ! ตกใจใช่ไหม
นี่คือหนังสือที่อยู่ในโอฮาร่า และตอนนี้กลายเป็นหนังสือไซส์ยักษ์ไปแล้ว
นี่คือความลึกลับของหอสมุดนกฮูก ที่หนังสือทุกเล่มจะใหญ่ขึ้นเมื่อเข้ามาที่แห่งนี้
นี่คือบันทึกที่ชาวโอฮาร่าปกป้องมาตลอด 22 ปี เราเฝ้าดูมันไว้ตลอด ตลอดเวลาที่ค้นหามัน แล้วเราก็เก็บมันกลับมาได้ทุกเล่ม
- โรบินจำคำพูดของดร.โคลเวอร์ที่พูดกับเธอได้ดีที่ ต้นไม้แห่งความรู้ ตอนที่เธออายุได้แค่สองขวบ แล้วโรบินก็เริ่มร้องไห้
โคลเวอร์ (อดีต) : นี่เป็นหอสมุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก เธอชอบหนังสือไหม ?
เซาโล : ข้าดีใจมากที่ข้าสามารถแสดงเรี่องทั้งหมดนี้ให้เธอดูได้สักที เดริชิชิชิชิชิ
- ตัดกลับมาที่ อันเดอร์เวิร์ด (ใต้โลก) โลกิ กำลังคุยกับใครสักคนที่ชื่อว่า โมสะ
- โมสะ พูดด้วยวาจาสุภาพและดูเป็นคนขี้อาย (ยังไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชาย)
- โลกิ และโมสะ ไม่เคยพบกันจริง ๆ แต่ได้คุยกับผ่านแมลงสื่อสาร เพราะโลกิมีเวลาเหลือเฟือและกำลังเบื่อ เมื่อเวลาผ่านไปโลกิเริ่มมองโมสะเป็นเพื่อนและเรียกโมสะ ว่า โมสะโกะ
โลกิ : แกยังรู้สึกหวาดกลัวเกี่ยวกับ ประสบการณ์น่าขนหัวลุก ที่เล่าให้ฟังอยู่ไหมโมสะ
โมสะ : ก็นะ ยังสั่น ๆ อยู่เลย
โลกิ : ถ้าข้าอยู่ที่นั่นนะ ข้าจะฆ่ามันให้หมดเพื่อแกเลย โมสะ
- โมสะบอกกับโลกิว่า แม้ว่าโลกิจะใช้คำพูดที่ดูโหดร้ายแต่จริง ๆ แล้วก็น่าจะใจดีและอบอุ่น นั่นทำให้โลกิโมโหเล็กน้อย 5555
- ตอนจบของตอนนี้ ภาพจะตัดกลับไปที่หมู่บ้านที่ดอร์รี่ และโบรกี้ รอลูฟี่กลับมาอยู่
โบรกี้ : ปาร์ตี้ยังไม่เริ่ม มาฆ่าเวลาด้วยการดื่มไปพลาง ๆ กันเถอะ
ยักษ์ : แกดื่มเยอะไปแล้วมั้งนั่น
- ทันใดนั้นก็มีแสงสีดำวาปขึ้นมาแล้วส่องมายังหมู่บ้าน แล้วเราจะเห็นวงเวทย์ปรากฏขึ้นภายในปราสาทในห้องที่มีบัลลังก์ วงเวทย์เหมือนกับที่เราเคยเห็นที่เอ้กเฮดตอนพวกห้าผู้เฒ่าปรากฏตัวบนเกาะนั้น แต่วงเวทย์ที่เราเห็นในตอนนี้จะไม่มีเลขปรากฏอยู่ (ถ้าจำได้วงเวทย์ของเซทเทิร์นมีเลขห้ากำกับ)
- จากวงเวทย์สองวงมีคนใส่ชุดดำปรากฏตัวขึ้นและกำลังคุกเข่า คนแรกคือคนที่ใส่ฮูดหน้าตาเหมือนแชงส์ (ที่ปรากฏตัวที่เหตุการณ์เรเวอรี่ 907) และคนที่สองรูปลักษณ์เหมือนผู้หญิงมีผมปาดตาข้างขวา
ข้อความจากบรรณาธิการ : เรามีผู้บุกรุกแล้ว !!!!
- สัปดาห์หน้างด เพราะนิตยสารหยุด
[Spoil] ONE PIECE : 1,134 หอสมุดนกฮูก (เต็มตอน)