3 เดือน ก่อนหน้าการมาถึงของยาน THE FUGITIVE....
ในห้องทำงานทางวิทยาศาสตร์และเครื่องจักรกล ซึ่งเป็นสถานที่ที่อิบิคัส จัดไว้ให้เลโอนีดาสทำงานและคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ร่วมกับสถาพร ไม่ไกลจากบ้านพักของด็อกเตอร์หนุ่มมากนัก ขณะนี้ เขากำลังทำงานอยู่กับยอดนักวิทยาศาสตร์ผู้เป็นสายลับจากจักรวรรดิแอตแลนติสใต้ โดยยังไม่รู้ระแคะระคายใดๆ ทั้งสิ้นว่าตนเองกำลังจะถูกปองร้ายโดยเพื่อนร่วมงานใกล้ตัวคนนี้!
ถึงตอนนี้ สถาพร และเอวา ได้รับการแต่งตั้งเป็นประชนชนพลเมืองกิตติมศักดิ์แห่งสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทั้งสองสามีภรรยาผ่านการทดสอบวัดผลวิชาความรู้ภาษาแอตแลนติสเชี่ยนกันทั้งคู่ในระดับ 7 ซึ่งดีเกินคาดกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เสียอีก และฝ่ายสามีก็ผ่านการแข่งขันทำความเร็วในการประกอบยานบินส่วนตัวด้วยตนเองเพียงคนเดียว ไม่มีลูกมือคอยช่วย เขาทำความเร็วได้ตามที่กฏการแข่งขันตั้งไว้ คือภายในเวลาสองส่วนยี่สิบสี่แห่งชั่วยามของวันหนึ่ง ก็คือ ภายในสองชั่วโมงของยี่สิบสี่ชั่วโมงแห่งหนึ่งวันนั่นเอง โดยเขาประกอบยานเสร็จด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 22 นาที
ส่วนลูกน้องหนุ่มอาข่าทั้งสาม ก็ได้เข้าสอบวัดผลทางภาษาด้วยเช่นกัน ผลปรากฏว่า บรรจงทำคะแนนได้ดีที่สุด สอบผ่านระดับ 5 ในขณะที่ อาบือ และอาเจอะ สอบผ่านระดับ 3 บรรจงแสดงความเสียดายเป็นอย่างมากที่ไม่ถึงระดับ 6 ไม่อย่างนั้นก็ได้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ไปอีกคนหนึ่งแล้ว และเขา รวมทั้งอาบือและอาเจอะก็ได้รับการเชียร์ ให้กำลังใจจากเจ้านายทั้งสองในการสอบใหม่ปีหน้า ถ้ายังอยู่ต่อ ยังไม่ไปไหน...
เมื่อเห็นว่าสถาพรสามารถสื่อสารด้วยภาษาแอตแลนติสเชี่ยนได้พอสมควรแล้ว อิบิคัสจึงจัดสถานที่ทำงานนี้ให้เขาได้ร่วมงานกับเลโอนีดาส
วิศวกรต่างกาลเวลาทั้งสองทำงานเข้าขากันได้เป็นอย่างดี และสถาพรก็ชื่นชมเพื่อนร่วมงานคนนี้ ให้ความไว้วางใจเขาอย่างสนิทชิดเชื้อ
เวลาผ่านไปประมาณเดือนเศษๆ เลโอนีดาสเห็นว่าสถาพรให้ความสนิทสนมและไว้เนื้อเชื่อใจตนเองแน่นอนแล้ว จึงเริ่มดำเนินแผนการที่ตนได้รับคำสั่งมาจาก "สาสน์ลับ" !
ยามสายใกล้เที่ยงของวันหนึ่ง หลังจากที่ทั้งสองคนทำงานประกอบยานบินลำใหญ่ลำหนึ่งเสร็จไปประมาณครึ่งลำ เลโอนีดาสก็ชวนให้หยุดพัก
"ท่านสถาพร เราทำงานกันมามากแล้ว ตั้งแต่เช้า และตอนนี้ ก็ใกล้เวลาเที่ยง เราพักกันก่อนเถิด"
"ก็ได้ ดีเหมือนกัน ท่านเลโอนีดาส" ด็อกเตอร์หนุ่มพยักหน้าแล้ววางเครื่องไม้เครื่องมือในมือลงบนพื้น ลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจสองสามรอบ
"ข้าจะไปยกน้ำชามาให้ท่านดื่มนะ ท่านรออยู่ที่นี่สักครู่เถิด" เลโอนีดาสกล่าวแล้วเดินไปเข้าห้องส่วนตัว ครู่หนึ่งก็เดินกลับมาพร้อมด้วยถาดรองเหยือกน้ำชาและถ้วยหนึ่งใบ วางไว้บนโต๊ะตัวเล็กซึ่งมีเก้าอี้สองตัวตั้งหันหน้าเข้าหากัน มันคือที่ที่ทั้งสองนั่งคุยกันเป็นประจำในยามพักผ่อน
"ท่านนั่งดื่มน้ำชารอไปก่อนนะ ข้าจะไปสำรวจที่โรงครัวดูสักหน่อย ว่าวันนี้แม่ครัวทำอาหารชนิดใดบ้าง ประเดี๋ยวข้ามา"
"ได้ ท่านเลโอนีดาส ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่" สถาพรพยักหน้า ยกเหยือกขึ้นมารินน้ำชาลงไปในถ้วยแล้วลองจิบดู ปรากฏว่ามันร้อนฉ่า ต้องเป่าลมจากปากให้มันเย็นลง
"ไม่ต้องรีบร้อนดื่ม...ค่อยๆ ดื่มเถิด ข้าไปละนะ" เลโอนีดาสกล่าวพร้อมด้วยการยิ้มและแววตาซึ่งตนพยายามทำให้อ่อนโยนมากที่สุด! ต้องเป็นคนที่มีสัมผัสพิเศษเท่านั้นจึงจะมองเห็นความมุ่งร้ายที่แฝงอยู่ข้างใน!!
"ตกลง ท่านไปเถิด" ด็อกเตอร์หนุ่มพยักหน้าให้เขาอีกครั้ง แล้วเริ่มจิบน้ำชาต่ออย่างสบายใจ ก่อนจะร้องบอกเมื่อนึกขึ้นได้ "อ้อ ท่านเลโอนีดาส! เดี๋ยว!"
"มีอะไรหรือ ท่านสถาพร ?" สายลับผู้คิดการชั่วหันกลับมาถาม
"น้ำชาของท่าน รสชาติดีมาก" สถาพรกล่าวพร้อมกับยกถ้วยชาชูขึ้น
"ขอบคุณมากที่ชม ข้ายินดีที่ได้ยินท่านกล่าวเช่นนี้"
"ให้ภรรยาและบริวารสามคนของข้าได้ลองดื่มบ้างสิ ท่านกำลังจะไปโรงครัว ก็ต้องผ่านบ้านพักของข้าอยู่แล้วนี่นา" สถาพรเสนอแนะให้เขานำน้ำชาไปให้เอวาและหนุ่มอาข่าทั้งสามได้ดื่มด้วย โดยหารู้ไม่ว่ากำลังบอกให้ศัตรูนำยาพิษไปให้บริวารของตนดื่ม!
"อ๋อ...ได้สิท่าน !" เลโอนีดาสตอบรับทันที "อันที่จริง ท่านไม่จำต้องบอก ข้าก็กำลังจะนำไปฝากพวกเขาถึงที่บ้านอยู่แล้ว!"
"อย่างนั้นหรือ ? ท่านช่างมีน้ำใจเอื้ออารีย์ต่อพวกเราดีแท้!"
"ไม่ต้องเกรงใจ...พวกเราเป็นสหายที่ดีต่อกันนี่นา จริงไหมเล่า ?" พูดแล้วก็ยิ้มให้อีกที
"อืม...จริงของท่าน" ด็อกเตอร์หนุ่มพยักหน้าแล้วยกถ้วยชาขึ้นดื่มอีกครั้ง หมดแล้วก็รินต่อถ้วยที่สอง
เลโอนีดาสยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วกลับหลังหันเดินออกจากประตู และแอบซุ่มดูปฏิกริยาของสถาพรอยู่ข้างนอก
ความหอมหวานของชา ผสมกับยาสลบซึ่งไร้กลิ่น ทำให้สถาพรรู้สึกติดใจในรสชาติ จึงดื่มติดต่อกันไปสามถ้วยซ้อนๆ !!
แต่พอกำลังจะรินถ้วยที่สี่ อาการง่วงงุนอย่างปัจจุบันทันด่วนก็เข้าจู่โจมตัวเขาทันที และสุดจะต้านทานไหว ยังไม่ทันจะสงสัยว่าเพราะเหตุใดตนเองจึงง่วงอย่างหนักขนาดนี้ เขาก็ปิดเปลือกตาทั้งสองลงสนิท มือข้างที่ถือถ้วยชาอยู่ปล่อยถ้วยหลุดจากมือร่วงตกแตกกระจายบนพื้นพร้อมกับทั้งร่างซึ่งล้มไปพร้อมกับเก้าอี้ สลบเหมือด !!
"บริวาร !!!" เลโอนีดาสร้องเรียกคนของตัวเองทันที
"ขอรับ นายท่าน!" ชาย 5 คนเปล่งเสียงขานรับพร้อมกันแล้วออกมาจากห้องพักส่วนตัวของเขา
"นำตัวชายคนนั้นไปมัดเชือกไพล่หลัง มัดข้อเท้า และเอาผ้ามัดที่ปากของมันด้วย จากนั้นใส่มันลงไปในถุงกระสอบ แล้วเอาไปโยนลงไปในบ่อจระเข้!! เมื่อเสร็จแล้วรีบกลับมาหาข้า !!" เลโอนีดาสสั่งด้วยน้ำเสียงเฮี่ยมเกรียม!
"ขอรับ นายท่าน!!"
ชายฉกรรจ์ทั้งห้า รับคำสั่งจากเจ้านายแล้วรีบเข้าไปข้างใน คนหนึ่งถือถุงกระสอบใบใหญ่เตรียมไว้ อีกสี่คนช่วยกันจับด็อกเตอร์หนุ่มนอนคว่ำ เอามือทั้งสองของเขาไพล่หลังเพื่อจะเอาเชือกมัด แต่ขณะที่กำลังจะมัด หนึ่งในสี่คนนั้นก็ห้ามไว้โดยกระทันหัน "เดี๋ยวก่อน!"
"อะไร เจ้าบรูตัส ?" เพื่อนคนที่ถือเชือกไว้ในมือชะงักและหันมาถาม
"ที่ข้อมือซ้ายของมัน มีกำไลเงินอยู่ ท่าทางจะมีราคามากโขอยู่ ถอดมันออกมาก่อน!"
คนถือเชือกมองดูที่ข้อมือซ้ายของสถาพร ก็เห็นว่ามีกำไลเงินวาววับสวมอยู่จริงๆ มันทำตาโตด้วยความโลภ
"ได้ลาภละโว้ย!" ว่าแล้วก็ลงมือแกะกำไลนั้น แต่ปรากฏว่า แกะอย่างไรก็แกะไม่ออก เพราะกำไลนั้นมันรวบสนิทเข้ากับข้อมือของด็อกเตอร์หนุ่มพอดี!
และกำไลนั้น เป็น "กำไลเทเลพอร์เตอร์" ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่ด็อกเตอร์หนุ่มได้รับมาจากเพื่อนรัก กัปตันวันชนะ หลังเสร็จสิ้นภารกิจคราวก่อน !!
"พวกเจ้า มัวทำอะไรกันอยู่ตั้งนาน ทำไมไม่จับมันยัดใส่กระสอบเสียที!!" เลโอนีดาสตะคอกถามด้วยความรำคาญ
"พวกผมจะเอากำไลข้อมือเงินของมันน่ะครับ นายท่าน" บรูตัสตอบ
"เงินอะไรกัน! นั่นไม่ใช่เงินหรอก สีของเงินไม่แวววาวมากถึงเพียงนี้ เป็นแค่กำไลเครื่องประดับธรรมดา อย่าไปสนใจ! รีบจัดการงานให้เสร็จ ไอ้พวกนี้นี่ โลภโมโทสันไม่เข้าเรื่อง!"
"เอ้อ...ขอรับๆ นายท่าน" ทั้งสี่คนระล่ำระลักตอบ แล้วจึงเลิกสนใจกำไลของสถาพร จัดการมัดเชือกไพล่หลังเขา มัดข้อเท้าและมัดปากเสร็จก็ช่วยกันนำร่างของเขาใส่กระสอบ แล้วผูกปากกระสอบจนแน่น
"รีบไปที่บ่อจระเข้ท้ายเรือนจำ โยนมันลงไป แล้วรีบกลับมาหาข้าที่นี่!!"
"ขอรับ นายท่าน!"
ชายโฉดทั้งห้า รีบช่วยกันนำกระสอบบรรจุร่างของสถาพรไปขึ้นยานบินลำหนึ่งซึ่งจอดอยู่ข้างหลังอาคารแห่งนั้น ไม่กี่นาทียานนั้นก็บินขึ้นอย่างเร่งด่วนและพุ่งไปยังบ่อจระเข้ ท้ายเรือนจำแห่งชุมชนโลโคเทีย!
โชคของด็อกเตอร์หนุ่มยังดี ที่ยานลำนี้ ไม่มีระบบส่งคนหรือสิ่งของลงจากใต้ท้องยาน จำเป็นต้องลงจอด ชายโฉดทั้งห้าคนจึงต้องเสียเวลากับการนำเขาลงจากยานหามไปยังท้ายเรือนจำ และต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้ผู้ใดได้พบเห็นอีกด้วย!
แต่เมื่อมาถึงบ่อจระเข้ขนาดใหญ่ ปรากฏว่า มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาจากบนกำแพงเรือนจำ ผ่านกล้องส่องทางไกล!
นั่นคือ สายตาของ เซบาสเตน สหายของอิบิคัส และเลโอนีดาสนั่นเอง! เขามาเยี่ยมสหายซึ่งเป็นนักโทษในเรือนจำนี้ และเผอิญพบเห็นความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติบริเวณด้านหลังเรือนจำเข้าพอดี!!
เซบาสเตนสงสัยยิ่งนักว่าใครหรืออะไรที่กำลังดิ้นรนอยู่อย่างหนักในกระสอบที่ชายทั้งห้าคนนั้นกำลังช่วยกันหาม และเขาได้ยินเสียงร้องดังอื้อๆซึ่งรู้ได้ทันทีว่าคนร้องนั้นถูกปิดปากอยู่ แต่ก็พยายามส่งเสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่เจ้าตัวจะทำได้!
หนึ่งในห้าชายโฉดเห็นท่าไม่ดี กลัวว่าจะมีคนได้ยินเสียง จึงบอกกับพรรคพวก "เฮ้ย! มันส่งเสียงดังมาก ข้าว่า เชือดคอมันเสียก่อนมันจะได้เงียบ! แล้วค่อยโยนลงบ่อ บรูตัส เจ้าแกะเชือกเปิดปากถุง แล้วจิกหัวมันขึ้นมา!!"
ชายชื่อบรูตัสพยักหน้า แล้วเริ่มแกะเชือกที่มัดปากถุงกระสอบเพื่อทำตามที่เพื่อนบอก
ภายในถุง สถาพรซึ่งรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาแล้วและรู้แล้วว่ากำลังจะเกิดภัยอันตรายขึ้นกับตนจากสภาวการณ์ที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ ดิ้นรนสุดชีวิต แล้วก็นึกถึงคำที่กัปตันวันชนะเพื่อนรักเคยบอกไว้ในตอนที่มอบกำไลเทเลพอร์ตให้เป็นของที่ระลึกก่อนจากกันในครั้งนั้น...
'เวลาอยู่นอกบ้าน จงใส่กำไลไว้ตลอดเวลา เมื่อใด ที่นายพบกับสถานการณ์คับขันจวนตัว จำเป็นต้องหนีให้พ้น ก็ให้กดปุ่มแป้นสี่เหลี่ยมบนกำไล แล้วมันจะช่วยให้นายหนีไปไกลสิบไมล์'
ด็อกเตอร์หนุ่มถูกมัดมือไพล่หลัง มือทั้งสองจึงไขว่คว้าหากันได้!! เขาใช้นิ้วทั้งห้าของมือขวาควานหาแป้นสี่เหลี่ยมบนกำไลที่ข้อมือซ้าย และก็พบมันเข้าด้วยนิ้วโป้ง แต่ขณะเดียวกัน ปากถุงกระสอบก็ถูกเปิดออกพอดี!!
เซบาสเตียนซึ่งส่องกล้องมองดูอยู่บนกำแพงเรือนจำ มองเห็นศีรษะและใบหน้าของเขาโผล่พ้นปากถุง และอุทานออกมาด้วยเสียงอันดัง
"สถาพร !!"
ทางฝ่ายบรูตัส 1 ในกลุ่มชายโฉดผู้เป็นบริวารของเลโอนีดาส พอเห็นสถาพรโผล่ศีรษะขึ้นมา ก็ใช้มือซ้ายขยุ้มผมของเขาเพื่อจะ "จิกหัวขึ้นมา" ตามที่เพื่อนบอก มือขวาถือมีดคมกริบวาววับยาวประมาณฟุตหนึ่งเตรียมเชือด!
วินาทีนั้น สถาพรกดปุ่มซึ่งเป็นรอยแป้นสี่เหลี่ยมบนกำไลด้วยหัวแม่มือหนักๆ ลงไปทันที !!
กริ๊กก!!...
แว่บบบบบบบบ.......!!!!!
พริบตานั้น ชายฉกรรจ์ทั้งห้าก็ทำตาเหลือกเหมือนเห็นผี เพราะคนที่พวกมันจับมากับมือ หายวับไปต่อหน้าต่อตา !!!
"อะไรกันวะนี่เฮ้ยย !!" พวกมันร้องเอะอะโวยวายด้วยความตกใจจนลืมตัว แล้วก็พากันวิ่งหนีไปจากที่ใกล้บ่อจระเข้ตรงนั้น กลับขึ้นยานเพื่อไปรายงานผลต่อเจ้านายโดยด่วน!
ฝ่ายเซบาสเตน พอเห็นเหตุการณ์ซึ่งตนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นเช่นนั้น ก็สงสัยว่าจะเป็นแผนการณ์ของเลโอนีดาส เพราะเขาสังเกตเห็นเลโอนีดาสมีท่าทางแปลกๆ ในช่วงหลังๆ เวลาอยู่กับสถาพร อีกอย่างหนึ่งเขาไม่คิดว่า อิบิคัสซึ่งเป็นผู้นำชุมชนโลโคเทียและเป็นสหายของเขา จะทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ได้
และเขาก็รู้สึกประหลาดใจที่จู่ๆ สถาพรซึ่งกำลังจะถูกคนพวกนั้นเชือดคออยู่รอมร่อ กลับหายไปดื้อๆ อย่างนั้น! จากนั้น เขาก็คิดถึงคนที่บ้านของด็อกเตอร์หนุ่ม โดยเฉพาะ เอวา ภรรยาสาวสวยของเขา!
เขาเคยเห็นเลโอนีดาสลอบมองดูนางด้วยสายตาแทะโลม ! และเป็นห่วงว่า นางอาจจะมีภัยจากคนๆ นี้ จึงรีบออกจากเรือนจำไปขึ้นยานบินของตนและขับยานตรงไปยังบ้านพักของสถาพรทันที!
ทางด้านเลโอนีดาส เมื่อได้รับรายงานผลจากเหล่าบริวารแล้วก็มีอาการทั้งโมโห ตกใจ และวิตกกังวล
"มันหายไปเฉยๆ เลย กระนั้นหรือ ??" เขาถามย้ำ
"ใช่ขอรับนายท่าน พวกเราเห็นกันทุกคน" บรูตัสตอบ
"อย่างนั้นแย่แล้ว! พวกเรา รีบไปดูที่บ้านของสถาพรก่อน ถ้ามันกลับถึงบ้านแล้ว ก็ลงมือฆ่ามันในบ้านนั้นเลย! ฆ่าบริวารสามคนของมันด้วย ส่วนภรรยาของมัน จับนางใส่ในยานของข้า ข้าต้องการนาง !! รีบไปกันเถิด !!"
"ครับ นายท่าน!!" ทั้งห้าคนตอบรับพร้อมกัน จากนั้นจึงพาเจ้านายไปขึ้นยาน บินไปยังบ้านของสถาพรอีกราย
แต่ทว่า...เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว ปรากฏว่า ทุกอย่าง สงบเงียบ...ไม่มีใครอยู่ในบ้านเลยแม้แต่คนเดียว !!
(มีต่อครับ)
💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 6 🚀💫🕛💫
ในห้องทำงานทางวิทยาศาสตร์และเครื่องจักรกล ซึ่งเป็นสถานที่ที่อิบิคัส จัดไว้ให้เลโอนีดาสทำงานและคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ร่วมกับสถาพร ไม่ไกลจากบ้านพักของด็อกเตอร์หนุ่มมากนัก ขณะนี้ เขากำลังทำงานอยู่กับยอดนักวิทยาศาสตร์ผู้เป็นสายลับจากจักรวรรดิแอตแลนติสใต้ โดยยังไม่รู้ระแคะระคายใดๆ ทั้งสิ้นว่าตนเองกำลังจะถูกปองร้ายโดยเพื่อนร่วมงานใกล้ตัวคนนี้!
ถึงตอนนี้ สถาพร และเอวา ได้รับการแต่งตั้งเป็นประชนชนพลเมืองกิตติมศักดิ์แห่งสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทั้งสองสามีภรรยาผ่านการทดสอบวัดผลวิชาความรู้ภาษาแอตแลนติสเชี่ยนกันทั้งคู่ในระดับ 7 ซึ่งดีเกินคาดกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เสียอีก และฝ่ายสามีก็ผ่านการแข่งขันทำความเร็วในการประกอบยานบินส่วนตัวด้วยตนเองเพียงคนเดียว ไม่มีลูกมือคอยช่วย เขาทำความเร็วได้ตามที่กฏการแข่งขันตั้งไว้ คือภายในเวลาสองส่วนยี่สิบสี่แห่งชั่วยามของวันหนึ่ง ก็คือ ภายในสองชั่วโมงของยี่สิบสี่ชั่วโมงแห่งหนึ่งวันนั่นเอง โดยเขาประกอบยานเสร็จด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 22 นาที
ส่วนลูกน้องหนุ่มอาข่าทั้งสาม ก็ได้เข้าสอบวัดผลทางภาษาด้วยเช่นกัน ผลปรากฏว่า บรรจงทำคะแนนได้ดีที่สุด สอบผ่านระดับ 5 ในขณะที่ อาบือ และอาเจอะ สอบผ่านระดับ 3 บรรจงแสดงความเสียดายเป็นอย่างมากที่ไม่ถึงระดับ 6 ไม่อย่างนั้นก็ได้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์ไปอีกคนหนึ่งแล้ว และเขา รวมทั้งอาบือและอาเจอะก็ได้รับการเชียร์ ให้กำลังใจจากเจ้านายทั้งสองในการสอบใหม่ปีหน้า ถ้ายังอยู่ต่อ ยังไม่ไปไหน...
เมื่อเห็นว่าสถาพรสามารถสื่อสารด้วยภาษาแอตแลนติสเชี่ยนได้พอสมควรแล้ว อิบิคัสจึงจัดสถานที่ทำงานนี้ให้เขาได้ร่วมงานกับเลโอนีดาส
วิศวกรต่างกาลเวลาทั้งสองทำงานเข้าขากันได้เป็นอย่างดี และสถาพรก็ชื่นชมเพื่อนร่วมงานคนนี้ ให้ความไว้วางใจเขาอย่างสนิทชิดเชื้อ
เวลาผ่านไปประมาณเดือนเศษๆ เลโอนีดาสเห็นว่าสถาพรให้ความสนิทสนมและไว้เนื้อเชื่อใจตนเองแน่นอนแล้ว จึงเริ่มดำเนินแผนการที่ตนได้รับคำสั่งมาจาก "สาสน์ลับ" !
ยามสายใกล้เที่ยงของวันหนึ่ง หลังจากที่ทั้งสองคนทำงานประกอบยานบินลำใหญ่ลำหนึ่งเสร็จไปประมาณครึ่งลำ เลโอนีดาสก็ชวนให้หยุดพัก
"ท่านสถาพร เราทำงานกันมามากแล้ว ตั้งแต่เช้า และตอนนี้ ก็ใกล้เวลาเที่ยง เราพักกันก่อนเถิด"
"ก็ได้ ดีเหมือนกัน ท่านเลโอนีดาส" ด็อกเตอร์หนุ่มพยักหน้าแล้ววางเครื่องไม้เครื่องมือในมือลงบนพื้น ลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจสองสามรอบ
"ข้าจะไปยกน้ำชามาให้ท่านดื่มนะ ท่านรออยู่ที่นี่สักครู่เถิด" เลโอนีดาสกล่าวแล้วเดินไปเข้าห้องส่วนตัว ครู่หนึ่งก็เดินกลับมาพร้อมด้วยถาดรองเหยือกน้ำชาและถ้วยหนึ่งใบ วางไว้บนโต๊ะตัวเล็กซึ่งมีเก้าอี้สองตัวตั้งหันหน้าเข้าหากัน มันคือที่ที่ทั้งสองนั่งคุยกันเป็นประจำในยามพักผ่อน
"ท่านนั่งดื่มน้ำชารอไปก่อนนะ ข้าจะไปสำรวจที่โรงครัวดูสักหน่อย ว่าวันนี้แม่ครัวทำอาหารชนิดใดบ้าง ประเดี๋ยวข้ามา"
"ได้ ท่านเลโอนีดาส ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่" สถาพรพยักหน้า ยกเหยือกขึ้นมารินน้ำชาลงไปในถ้วยแล้วลองจิบดู ปรากฏว่ามันร้อนฉ่า ต้องเป่าลมจากปากให้มันเย็นลง
"ไม่ต้องรีบร้อนดื่ม...ค่อยๆ ดื่มเถิด ข้าไปละนะ" เลโอนีดาสกล่าวพร้อมด้วยการยิ้มและแววตาซึ่งตนพยายามทำให้อ่อนโยนมากที่สุด! ต้องเป็นคนที่มีสัมผัสพิเศษเท่านั้นจึงจะมองเห็นความมุ่งร้ายที่แฝงอยู่ข้างใน!!
"ตกลง ท่านไปเถิด" ด็อกเตอร์หนุ่มพยักหน้าให้เขาอีกครั้ง แล้วเริ่มจิบน้ำชาต่ออย่างสบายใจ ก่อนจะร้องบอกเมื่อนึกขึ้นได้ "อ้อ ท่านเลโอนีดาส! เดี๋ยว!"
"มีอะไรหรือ ท่านสถาพร ?" สายลับผู้คิดการชั่วหันกลับมาถาม
"น้ำชาของท่าน รสชาติดีมาก" สถาพรกล่าวพร้อมกับยกถ้วยชาชูขึ้น
"ขอบคุณมากที่ชม ข้ายินดีที่ได้ยินท่านกล่าวเช่นนี้"
"ให้ภรรยาและบริวารสามคนของข้าได้ลองดื่มบ้างสิ ท่านกำลังจะไปโรงครัว ก็ต้องผ่านบ้านพักของข้าอยู่แล้วนี่นา" สถาพรเสนอแนะให้เขานำน้ำชาไปให้เอวาและหนุ่มอาข่าทั้งสามได้ดื่มด้วย โดยหารู้ไม่ว่ากำลังบอกให้ศัตรูนำยาพิษไปให้บริวารของตนดื่ม!
"อ๋อ...ได้สิท่าน !" เลโอนีดาสตอบรับทันที "อันที่จริง ท่านไม่จำต้องบอก ข้าก็กำลังจะนำไปฝากพวกเขาถึงที่บ้านอยู่แล้ว!"
"อย่างนั้นหรือ ? ท่านช่างมีน้ำใจเอื้ออารีย์ต่อพวกเราดีแท้!"
"ไม่ต้องเกรงใจ...พวกเราเป็นสหายที่ดีต่อกันนี่นา จริงไหมเล่า ?" พูดแล้วก็ยิ้มให้อีกที
"อืม...จริงของท่าน" ด็อกเตอร์หนุ่มพยักหน้าแล้วยกถ้วยชาขึ้นดื่มอีกครั้ง หมดแล้วก็รินต่อถ้วยที่สอง
เลโอนีดาสยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วกลับหลังหันเดินออกจากประตู และแอบซุ่มดูปฏิกริยาของสถาพรอยู่ข้างนอก
ความหอมหวานของชา ผสมกับยาสลบซึ่งไร้กลิ่น ทำให้สถาพรรู้สึกติดใจในรสชาติ จึงดื่มติดต่อกันไปสามถ้วยซ้อนๆ !!
แต่พอกำลังจะรินถ้วยที่สี่ อาการง่วงงุนอย่างปัจจุบันทันด่วนก็เข้าจู่โจมตัวเขาทันที และสุดจะต้านทานไหว ยังไม่ทันจะสงสัยว่าเพราะเหตุใดตนเองจึงง่วงอย่างหนักขนาดนี้ เขาก็ปิดเปลือกตาทั้งสองลงสนิท มือข้างที่ถือถ้วยชาอยู่ปล่อยถ้วยหลุดจากมือร่วงตกแตกกระจายบนพื้นพร้อมกับทั้งร่างซึ่งล้มไปพร้อมกับเก้าอี้ สลบเหมือด !!
"บริวาร !!!" เลโอนีดาสร้องเรียกคนของตัวเองทันที
"ขอรับ นายท่าน!" ชาย 5 คนเปล่งเสียงขานรับพร้อมกันแล้วออกมาจากห้องพักส่วนตัวของเขา
"นำตัวชายคนนั้นไปมัดเชือกไพล่หลัง มัดข้อเท้า และเอาผ้ามัดที่ปากของมันด้วย จากนั้นใส่มันลงไปในถุงกระสอบ แล้วเอาไปโยนลงไปในบ่อจระเข้!! เมื่อเสร็จแล้วรีบกลับมาหาข้า !!" เลโอนีดาสสั่งด้วยน้ำเสียงเฮี่ยมเกรียม!
"ขอรับ นายท่าน!!"
ชายฉกรรจ์ทั้งห้า รับคำสั่งจากเจ้านายแล้วรีบเข้าไปข้างใน คนหนึ่งถือถุงกระสอบใบใหญ่เตรียมไว้ อีกสี่คนช่วยกันจับด็อกเตอร์หนุ่มนอนคว่ำ เอามือทั้งสองของเขาไพล่หลังเพื่อจะเอาเชือกมัด แต่ขณะที่กำลังจะมัด หนึ่งในสี่คนนั้นก็ห้ามไว้โดยกระทันหัน "เดี๋ยวก่อน!"
"อะไร เจ้าบรูตัส ?" เพื่อนคนที่ถือเชือกไว้ในมือชะงักและหันมาถาม
"ที่ข้อมือซ้ายของมัน มีกำไลเงินอยู่ ท่าทางจะมีราคามากโขอยู่ ถอดมันออกมาก่อน!"
คนถือเชือกมองดูที่ข้อมือซ้ายของสถาพร ก็เห็นว่ามีกำไลเงินวาววับสวมอยู่จริงๆ มันทำตาโตด้วยความโลภ
"ได้ลาภละโว้ย!" ว่าแล้วก็ลงมือแกะกำไลนั้น แต่ปรากฏว่า แกะอย่างไรก็แกะไม่ออก เพราะกำไลนั้นมันรวบสนิทเข้ากับข้อมือของด็อกเตอร์หนุ่มพอดี!
และกำไลนั้น เป็น "กำไลเทเลพอร์เตอร์" ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่ด็อกเตอร์หนุ่มได้รับมาจากเพื่อนรัก กัปตันวันชนะ หลังเสร็จสิ้นภารกิจคราวก่อน !!
"พวกเจ้า มัวทำอะไรกันอยู่ตั้งนาน ทำไมไม่จับมันยัดใส่กระสอบเสียที!!" เลโอนีดาสตะคอกถามด้วยความรำคาญ
"พวกผมจะเอากำไลข้อมือเงินของมันน่ะครับ นายท่าน" บรูตัสตอบ
"เงินอะไรกัน! นั่นไม่ใช่เงินหรอก สีของเงินไม่แวววาวมากถึงเพียงนี้ เป็นแค่กำไลเครื่องประดับธรรมดา อย่าไปสนใจ! รีบจัดการงานให้เสร็จ ไอ้พวกนี้นี่ โลภโมโทสันไม่เข้าเรื่อง!"
"เอ้อ...ขอรับๆ นายท่าน" ทั้งสี่คนระล่ำระลักตอบ แล้วจึงเลิกสนใจกำไลของสถาพร จัดการมัดเชือกไพล่หลังเขา มัดข้อเท้าและมัดปากเสร็จก็ช่วยกันนำร่างของเขาใส่กระสอบ แล้วผูกปากกระสอบจนแน่น
"รีบไปที่บ่อจระเข้ท้ายเรือนจำ โยนมันลงไป แล้วรีบกลับมาหาข้าที่นี่!!"
"ขอรับ นายท่าน!"
ชายโฉดทั้งห้า รีบช่วยกันนำกระสอบบรรจุร่างของสถาพรไปขึ้นยานบินลำหนึ่งซึ่งจอดอยู่ข้างหลังอาคารแห่งนั้น ไม่กี่นาทียานนั้นก็บินขึ้นอย่างเร่งด่วนและพุ่งไปยังบ่อจระเข้ ท้ายเรือนจำแห่งชุมชนโลโคเทีย!
โชคของด็อกเตอร์หนุ่มยังดี ที่ยานลำนี้ ไม่มีระบบส่งคนหรือสิ่งของลงจากใต้ท้องยาน จำเป็นต้องลงจอด ชายโฉดทั้งห้าคนจึงต้องเสียเวลากับการนำเขาลงจากยานหามไปยังท้ายเรือนจำ และต้องหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้ผู้ใดได้พบเห็นอีกด้วย!
แต่เมื่อมาถึงบ่อจระเข้ขนาดใหญ่ ปรากฏว่า มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาจากบนกำแพงเรือนจำ ผ่านกล้องส่องทางไกล!
นั่นคือ สายตาของ เซบาสเตน สหายของอิบิคัส และเลโอนีดาสนั่นเอง! เขามาเยี่ยมสหายซึ่งเป็นนักโทษในเรือนจำนี้ และเผอิญพบเห็นความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติบริเวณด้านหลังเรือนจำเข้าพอดี!!
เซบาสเตนสงสัยยิ่งนักว่าใครหรืออะไรที่กำลังดิ้นรนอยู่อย่างหนักในกระสอบที่ชายทั้งห้าคนนั้นกำลังช่วยกันหาม และเขาได้ยินเสียงร้องดังอื้อๆซึ่งรู้ได้ทันทีว่าคนร้องนั้นถูกปิดปากอยู่ แต่ก็พยายามส่งเสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่เจ้าตัวจะทำได้!
หนึ่งในห้าชายโฉดเห็นท่าไม่ดี กลัวว่าจะมีคนได้ยินเสียง จึงบอกกับพรรคพวก "เฮ้ย! มันส่งเสียงดังมาก ข้าว่า เชือดคอมันเสียก่อนมันจะได้เงียบ! แล้วค่อยโยนลงบ่อ บรูตัส เจ้าแกะเชือกเปิดปากถุง แล้วจิกหัวมันขึ้นมา!!"
ชายชื่อบรูตัสพยักหน้า แล้วเริ่มแกะเชือกที่มัดปากถุงกระสอบเพื่อทำตามที่เพื่อนบอก
ภายในถุง สถาพรซึ่งรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาแล้วและรู้แล้วว่ากำลังจะเกิดภัยอันตรายขึ้นกับตนจากสภาวการณ์ที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ ดิ้นรนสุดชีวิต แล้วก็นึกถึงคำที่กัปตันวันชนะเพื่อนรักเคยบอกไว้ในตอนที่มอบกำไลเทเลพอร์ตให้เป็นของที่ระลึกก่อนจากกันในครั้งนั้น... 'เวลาอยู่นอกบ้าน จงใส่กำไลไว้ตลอดเวลา เมื่อใด ที่นายพบกับสถานการณ์คับขันจวนตัว จำเป็นต้องหนีให้พ้น ก็ให้กดปุ่มแป้นสี่เหลี่ยมบนกำไล แล้วมันจะช่วยให้นายหนีไปไกลสิบไมล์'
ด็อกเตอร์หนุ่มถูกมัดมือไพล่หลัง มือทั้งสองจึงไขว่คว้าหากันได้!! เขาใช้นิ้วทั้งห้าของมือขวาควานหาแป้นสี่เหลี่ยมบนกำไลที่ข้อมือซ้าย และก็พบมันเข้าด้วยนิ้วโป้ง แต่ขณะเดียวกัน ปากถุงกระสอบก็ถูกเปิดออกพอดี!!
เซบาสเตียนซึ่งส่องกล้องมองดูอยู่บนกำแพงเรือนจำ มองเห็นศีรษะและใบหน้าของเขาโผล่พ้นปากถุง และอุทานออกมาด้วยเสียงอันดัง
"สถาพร !!"
ทางฝ่ายบรูตัส 1 ในกลุ่มชายโฉดผู้เป็นบริวารของเลโอนีดาส พอเห็นสถาพรโผล่ศีรษะขึ้นมา ก็ใช้มือซ้ายขยุ้มผมของเขาเพื่อจะ "จิกหัวขึ้นมา" ตามที่เพื่อนบอก มือขวาถือมีดคมกริบวาววับยาวประมาณฟุตหนึ่งเตรียมเชือด!
วินาทีนั้น สถาพรกดปุ่มซึ่งเป็นรอยแป้นสี่เหลี่ยมบนกำไลด้วยหัวแม่มือหนักๆ ลงไปทันที !!
กริ๊กก!!...
แว่บบบบบบบบ.......!!!!!
พริบตานั้น ชายฉกรรจ์ทั้งห้าก็ทำตาเหลือกเหมือนเห็นผี เพราะคนที่พวกมันจับมากับมือ หายวับไปต่อหน้าต่อตา !!!
"อะไรกันวะนี่เฮ้ยย !!" พวกมันร้องเอะอะโวยวายด้วยความตกใจจนลืมตัว แล้วก็พากันวิ่งหนีไปจากที่ใกล้บ่อจระเข้ตรงนั้น กลับขึ้นยานเพื่อไปรายงานผลต่อเจ้านายโดยด่วน!
ฝ่ายเซบาสเตน พอเห็นเหตุการณ์ซึ่งตนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นเช่นนั้น ก็สงสัยว่าจะเป็นแผนการณ์ของเลโอนีดาส เพราะเขาสังเกตเห็นเลโอนีดาสมีท่าทางแปลกๆ ในช่วงหลังๆ เวลาอยู่กับสถาพร อีกอย่างหนึ่งเขาไม่คิดว่า อิบิคัสซึ่งเป็นผู้นำชุมชนโลโคเทียและเป็นสหายของเขา จะทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ได้
และเขาก็รู้สึกประหลาดใจที่จู่ๆ สถาพรซึ่งกำลังจะถูกคนพวกนั้นเชือดคออยู่รอมร่อ กลับหายไปดื้อๆ อย่างนั้น! จากนั้น เขาก็คิดถึงคนที่บ้านของด็อกเตอร์หนุ่ม โดยเฉพาะ เอวา ภรรยาสาวสวยของเขา!
เขาเคยเห็นเลโอนีดาสลอบมองดูนางด้วยสายตาแทะโลม ! และเป็นห่วงว่า นางอาจจะมีภัยจากคนๆ นี้ จึงรีบออกจากเรือนจำไปขึ้นยานบินของตนและขับยานตรงไปยังบ้านพักของสถาพรทันที!
ทางด้านเลโอนีดาส เมื่อได้รับรายงานผลจากเหล่าบริวารแล้วก็มีอาการทั้งโมโห ตกใจ และวิตกกังวล
"มันหายไปเฉยๆ เลย กระนั้นหรือ ??" เขาถามย้ำ
"ใช่ขอรับนายท่าน พวกเราเห็นกันทุกคน" บรูตัสตอบ
"อย่างนั้นแย่แล้ว! พวกเรา รีบไปดูที่บ้านของสถาพรก่อน ถ้ามันกลับถึงบ้านแล้ว ก็ลงมือฆ่ามันในบ้านนั้นเลย! ฆ่าบริวารสามคนของมันด้วย ส่วนภรรยาของมัน จับนางใส่ในยานของข้า ข้าต้องการนาง !! รีบไปกันเถิด !!"
"ครับ นายท่าน!!" ทั้งห้าคนตอบรับพร้อมกัน จากนั้นจึงพาเจ้านายไปขึ้นยาน บินไปยังบ้านของสถาพรอีกราย
แต่ทว่า...เมื่อไปถึงที่นั่นแล้ว ปรากฏว่า ทุกอย่าง สงบเงียบ...ไม่มีใครอยู่ในบ้านเลยแม้แต่คนเดียว !!
(มีต่อครับ)