ศูนย์วิทยาศาสตร์และกองบัญชาการกลางแห่งโลโคเทีย แอตแลนติสเหนือ...
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ทหาร และประชาชนภายนอกศูนย์ซึ่งสัญจรไปมากลางเมืองโลโคเทีย ต่างแหงนหน้าจ้องมองปรากฏการณ์ประหลาดซึ่งเกิดขึ้นบนท้องฟ้า รอยแตกปริแยกเป็นทางยาว ราวกับว่าถูกเทพองค์ใดองค์หนึ่งใช้มีดกรีดแผ่นฟ้าลากเป็นทางยาวจนผืนแผ่นฟ้าปริแยกเป็นแผลแบะออก แสงสว่างเจิดจ้าส่องลอดออกมาจากรอยแยกและมีการแตกแขนงแยกย่อยไปอีก กับทั้งมีอะไรบางอย่างพุ่งลอดออกมาจากรอยแยกบนแผ่นฟ้านั้น ครู่หนึ่งแผ่นฟ้าซึ่งปริแยกก็ปิดเข้าหากันกลับไปเป็นท้องฟ้าตามปกติ และสิ่งที่พุ่งออกมาจากรอยแยกนั้นตอนนี้ลอยนิ่งสนิทอยู่เหนือน่านฟ้าแห่งโลโคเทีย
ประชาชนพากันวิพากย์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ส่วนผู้คนภายในศูนย์ฯ หลายคนตื่นเต้นพูดคุยกันเสียงดังและต่างพากันชี้ไม้ชี้มือไปยังสิ่งที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้านั้น อิบิคัสเจ้าเมืองและเซบาสเต็นซึ่งกำลังร่วมประชุมปรึกษาหารือกับบุคคลสำคัญอื่นๆ ซึ่งมิได้เดินทางไปกับกัปตันวันชนะอย่างผู้เฒ่าไดโอเซนัส เฮโรดัส หรือแม่หมอฟรีด้าเป็นต้น เห็นผู้คนกำลังแตกตื่นกันเช่นนั้นจึงออกมาจากห้องประชุม ทำให้คนอื่นๆ พากันเดินตามออกมาด้วยเพื่อจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น
"มีอะไรกันหรือ ? ท่าทางคนทั้งหลายถึงได้แตกตื่นหรือตื่นเต้นกันแบบนี้ ?" เจ้าเมืองตะเบ็งเสียงถามโดยไม่เจาะจงใคร คือใครจะตอบก็ได้
"มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบนท้องฟ้าเมื่อสักครู่ขอรับท่านเจ้าเมือง และตอนนี้ มียานบินขนาดใหญ่พอสมควรลำหนึ่งลอยอยู่เหนือพวกเราขอรับ!" ทหารนายหนึ่งตอบ
"รู้สึกว่าลักษณะมันคุ้นๆ ตาอยู่นะขอรับ ยานลำนี้..." เจ้าหน้าที่ศูนย์คนหนึ่งกล่าวขณะยืนยกมือป้องหน้าผากจ้องดู
"ไหนขอดูหน่อยซิ" อิบิคัสเดินลงบันไดหน้าศูนย์ฯ ลงมาถึงกลางบันไดแล้วหยุด คนอื่นๆ ก็ตามมาเป็นพรวน แล้วแหงนมองดูฟ้าเบื้องบน พอมองเห็นยานลำนั้น พวกเขาต่างตื่นตะลึงและตื่นเต้นดีใจ
"นั่นมัน...ยาน THE FUGITIVE ของท่านวันชนะ ใช่หรือเปล่าน่ะ ?" อิบิคัสเอ่ยถามทุกคน
"ข้าว่า น่าจะใช่กระมัง ?" เซบาสเต็นกล่าวตอบ
"มันดูคล้ายมากนะ ทั้งขนาด และลักษณะ สีสรรค์" แม่หมอฟรีด้ากล่าวถัดมา "แต่ว่า...ไม่รู้สิ ข้าว่ายานลำนี้ ดูใหญ่โตกว่า THE FUGITIVE ของท่านวันชนะที่เราเคยเห็นนิดหน่อย อันนี้ข้าไม่แน่ใจนะ"
"อืมม...ข้าก็รู้สึกเหมือนเจ้านะ ฟรีด้า" ไดโอเซนัสผู้เป็นอาจารย์กล่าวสนับสนุน
"หรือว่า ท่านวันชนะกับสหายเหล่านั้น ได้ปรับปรุง พัฒนา ยกเครื่องใหม่ให้กับยานของพวกเขา ขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อสมรรถนะ และประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ?" วิศวกรคนหนึ่งลองคาดเดา
"อาจเป็นได้...เป็นไปได้ๆ" อิบิคัสกล่าวเห็นด้วย
"แต่ว่า ถ้าเป็นยานของท่านวันชนะจริง ทำไมจึงลอยเท้งเต้งอยู่อย่างนั้นเล่า ? เขาน่าจะวิทยุติดต่อเข้ามายังศูนย์ของเรามิใช่หรือ ? มัวรีรออะไรอยู่ ??" เซบาสเต็นกล่าวด้วยความสงสัย
"ข้อนี้ คงเดายากหน่อยหละนะ..." อิบิคัสผู้สหายกล่าวตอบ "...แต่ว่า จะอย่างไรก็ตามที ข้าคิดว่า ยานลำนี้คงมิใช่ศัตรูผู้มาร้ายเป็นแน่..."
ทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยุสื่อสารคนหนึ่งบอกกับอิบิคัส
"ท่านเจ้าเมืองขอรับ เราได้รับการติดต่อทางวิทยุสื่อสารเข้ามาที่ศูนย์ควบคุมการสื่อสารแล้ว แต่ว่า ไม่มีผู้ใดฟังเข้าใจภาษาซึ่งพวกเขาใช้ติดต่อสื่อสารเข้ามาได้เลยขอรับ! มันมิใช่ภาษาของชาวแอตแลนติส!! แต่เป็นภาษาที่ประหลาดมาก มีโทนเสียงสูงบ้างต่ำบ้าง แตกต่างกันประมาณ 5 ระดับขอรับ!"
"หรือว่า เป็นภาษาถิ่น ภาษาบ้านเกิดของพวกเขา ?" ไดโอเซนัสคาดเดา
"เดี๋ยวก่อนนะ..." แม่หมอฟรีด้าเบิกตากว้าง "มีโทนเสียงสูงต่ำประมาณ 5 ระดับ อย่างนั้นหรือ ? ภาษาของท่านวันชนะและสหายหลายคน แทบจะทุกคน ก็มีโทนเสียงสูงต่ำต่างกันอยู่ 5 ระดับเหมือนกันนะเจ้าคะ!"
"ถ้าอย่างนั้น อาจจะเป็นท่านวันชนะและเหล่าสหายจริงๆ ก็ได้นะ และยานนั่นก็คงจะใช่ THE FUGITIVE จริงๆ แล้วกระมัง ?" เซบาสเต็นกล่าวอย่างตื่นเต้น
"มีทางเดียวจะรู้ได้ ต้องลองส่งภาษาของเราติดต่อกับพวกเขาดู ถ้าเป็นท่านวันชนะและคณะจริง พวกเขาต้องฟังเข้าใจและตอบกลับพวกเราได้ เพราะพวกเขาเคยเรียนภาษาของพวกเราชาวแอตแลนติสมาแล้วและเก่งมากจนสอบผ่านระดับสูงถึงขั้นได้ประกาศนียบัตรเป็นพลเมืองกิติมศักดิ์แห่งสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือมาแล้ว! แต่ถ้าพวกเขาไม่พูดภาษาของเราตอบกลับมา ก็แสดงว่าไม่ใช่พวกของท่านวันชนะแน่นอน และยานนั้นก็ไม่ใช่ THE FUGITIVE แน่!" อิบิคัสวิเคราะห์และเสนอแนะแนวทาง
"ถ้างั้นก็ติดต่อไปเลย!" เซบาสเต็นกล่าวแล้วหันไปบอกเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้น "ท่านจงบอกให้ฝ่ายสื่อสารในห้องวิทยุสื่อสารติดต่อไปยังยานบินนั่นเดี๋ยวนี้ เชื่อมต่อสัญญาณกับเครื่องสื่อสารประจำตัวของข้าด้วย เดี๋ยวข้าจะคุยเอง!"
"ได้ขอรับ ท่านเจ้าเมือง" เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นพยักหน้าแล้วยกอุปกรณ์สื่อสารลักษณะเป็นแผ่นโลหะสีเงินทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวประมาณคืบหนึ่งขึ้นมา ซึ่งอุปกรณ์นั้นดูคล้ายสมาร์ทโฟนซึ่งผู้คนใช้กันมากในยุคต้นคริสตศตวรรษที่ 21 พอเขาใช้นิ้วชี้แตะบนอุปกรณ์เท่านั้นอุปกรณ์นั้นก็เปิดเครื่องหน้าจอสว่างขึ้นโดยทันทีทันใด จากนั้นเขาพูดว่า "เรียกศูนย์สื่อสาร" เพียงไม่กี่วินาทีก็มีเสียงพูดดังออกมาจากอุปกรณ์นั้น
"ศูนย์สื่อสารได้ยินแล้ว ว่าไง ?"
"ท่านเจ้าเมืองสั่งให้ติดต่อกับยานบินซึ่งลอยอยู่เหนือพวกเราในขณะนี้ และให้เชื่อมต่อสัญญาณสื่อสารกับเครื่องสื่อสารของท่านด้วย ท่านจะพูดคุยกับคนในยานลำนั้นเอง"
"ได้ๆ บอกท่านเจ้าเมืองเปิดเครื่องรอได้เลย โปรดรอสักครู่..."
จากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการสื่อสารข้างในศูนย์ส่งวิทยุติดต่อไปยังยานอาคันตุกะลำนั้น ซึ่งยังเป็นปริศนาว่าเป็นยานของใครมาจากไหน...
"ถึงยานของผู้มาเยือน...นี่คือการติดต่อจากศูนย์ควบคุมการติดต่อสื่อสารแห่งศูนย์วิทยาศาสตร์และกองบัญชาการแห่งแคว้นโลโคเทีย ขอทราบสถานะของท่าน ท่านมาจากไหน ในยานมีนักบินกี่คน ผู้โดยสารกี่คน หัวหน้าหรือผู้นำประจำยานของท่าน และยานของท่าน นามว่ากระไร ตอบด้วย! โปรดฟังอีกครั้ง! นี่คือการติดต่อจากศูนย์ควบคุมการติดต่อสื่อสารแห่งศูนย์วิทยาศาสตร์และกองบัญชาการแห่งแคว้นโลโคเทีย ขอทราบสถานะของท่าน ท่านมาจากไหน ในยานมีนักบินกี่คน ผู้โดยสารกี่คน หัวหน้าหรือผู้นำประจำยานของท่าน และยานของท่าน นามว่ากระไร ตอบด้วย!!"
ทุกคนในทุกฝ่ายของศูนย์ฯ ต่างรอคอยการตอบกลับด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะบุคคลสำคัญอย่างอิบิคัส เซบาสเต็น ไดโอเซนัส แม่หมอ ฯลฯ
แล้วทุกคนก็ยิ่งตื่นเต้นกันเป็นทวีคูณ เมื่อได้ยินเสียงตอบกลับเป็นภาษาแอตแลนเชี่ยน
น้ำเสียงก็ฟังดูคุ้นหูอยู่บ้าง คล้ายใครบางคนที่พวกตนรู้จักและเคยพูดคุยด้วยจนจำเสียงได้อยู่บ้างเหมือนกัน! แต่ถ้าฟังดีๆ ก็จะแตกต่างกันนิดหน่อย!
"ถึงศูนย์ควบคุมการติดต่อสื่อสารแห่งศูนย์วิทยาศาสตร์และกองบัญชาการแห่งแคว้นโลโคเทีย...พวกเรา มาจากอนาคตกาลของพวกท่าน ในยานลำนี้ มีนักบินสามคน มีผู้โดยสารสิบกว่าคน ผู้นำของยานลำนี้ คือข้าพเจ้า นามว่า
วันชนะ และยานลำนี้มีนามว่า
THE FUGITIVE ซึ่งมีความหมายว่า ผู้ลี้ภัย !!"
เท่านั้นเอง เสียงเฮ เสียงโห่ร้องก็ดังลั่นจากเหล่าเจ้าหน้าที่และทุกคนในศูนย์ฯ ทุกคนล้วนตื่นเต้นดีใจและยิ้มแย้มแจ่มใส
"ท่านวันชนะ..." อิบิคัสกล่าวผ่านเครื่องสื่อสารในมือซึ่งเชื่อมต่อสัญญาณรออยู่ก่อนแล้ว "ดีใจที่ท่านและเหล่าสหายกลับมาอีกครั้งโดยสวัสดิภาพ รีบนำยานลงจอดที่ลานจอดและพากันลงจากยานเถิด เราจะได้พูดคุยกันว่าพวกท่านได้ทำอะไรมาบ้าง ทุกคนที่นี่ล้วนแต่เป็นห่วงพวกท่านกันทั้งนั้นเลยรู้ไหม"
"หืมม... ???" น้ำเสียงจากผู้ตอบกลับมานั้นเหมือนมีความแปลกใจ หรือสงสัย และตามมาด้วยคำถาม
"นั่น ใครกำลังพูดอยู่ขอรับ ?"
"นี่ข้าเอง...อิบิคัสไงเล่า!"
"ท่านอิบิคัส หรือขอรับ ?" ทางนั้นถามมาอีกเหมือนไม่แน่ใจ
"ใช่! ข้าเอง ท่านวันชนะ! อะไรกัน ท่านจำเสียงข้าไม่ได้หรือ ?" เจ้าเมืองก็เริ่มแปลกใจแล้วเหมือนกัน
"อ่าา...." เสียงจากอีกฝ่ายออกลักษณะลังเล ก่อนจะตอบพร้อมกับคำวิจารณ์
"รู้สึกว่าเสียงของท่านฟังดูทุ้มมากกว่าเดิมนะขอรับ!"
"อย่างนั้นหรือ ฮ่ะๆ" เจ้าเมืองตอบแล้วหัวเราะ ก่อนจะย้อนกลับไป "เสียงของท่านก็ฟังดูต่างจากเดิมเล็กน้อยนะ ท่านวันชนะ"
"ต่างอย่างไรหรือขอรับ ?"
ถ้าอิบิคัสได้มองเห็นผู้ที่กำลังพูดกับตนในตอนนี้ ก็จะเห็นเขาขมวดคิ้ว และคนอื่นๆ ภายในยานก็หน้าตาท่าทางมึนงงสงสัยอยู่เช่นกัน!
"ต่างสิ! เสียงท่านฟังดูเหมือนหนุ่มลงมากว่าที่เคยเป็น!"
แล้วอิบิคัส และทุกคนก็ยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงฝ่ายนั้นหัวเราะ และพูดคุยกับคนในยาน ซึ่งการพูดคุยนั้นก็ยิ่งทำให้ทุกคนทางนี้ต่างแปลกใจกันมากขึ้นไปอีก!
"นี่พวกเรา...ถามหน่อย เสียงผมฟังดูหนุ่มกว่าเดิม จริงเหรอครับ ?"
"อืม...ไม่รู้สิคะ เล็กว่าไม่นะ"
"นายว่าไง เสียงเราเปลี่ยนไปไหม สถาพร ?"
"ไม่เห็นเปลี่ยนตรงไหนนี่หว่า อิบิคัสและคนอื่นๆ ไม่ได้เจอพวกเรานานเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ก็อาจจะฟังเสียงนายแล้วรู้สึกไปเอง คิดไปเองมั้ง"
"เดี๋ยวๆๆ" อิบิคัสพูดแทรก "สหายทุกท่าน ได้โปรด!
พูดคุยกันเป็นภาษาชาวแอตแลนติสได้ไหม ข้าและทุกคนที่นี่จะได้ฟังรู้เรื่อง"
"อ้อ...โอเค เอ๊ย ได้ๆ ตกลงขอรับ...เอ้า! พวกเรา พูดภาษาแอตแลนเชี่ยนกันนะ ยังจำกันได้ไหมนี่ ไม่ได้พูดมานานแล้วนา" เสียงกัปตันวันชนะเปลี่ยนไปเข้าโหมดภาษาแอตแลนเชี่ยน แล้วคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนตาม
"พอได้อยู่ๆ "
"งั้นพูดประโยคที่เราพูดกันเมื่อตะกี้นี้ใหม่ อ่า...ขอถามหน่อย เสียงของข้า ฟังดูหนุ่มกว่าเดิม หรือเปล่า ?"
"ง่า...ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มั้งเจ้าคะ" คนเดิมตอบ
"ท่านเล่า คิดว่าเสียงข้าเปลี่ยนไปบ้างไหม สถาพร ?"
"ไม่เห็นเปลี่ยนตรงไหนเลย อ่า...ท่านอิบิคัสและคนอื่นๆ ไม่ได้พบพวกเรามานานมากแล้ว อาจจะฟังเสียงท่านแล้วรู้สึกไปเอง คิดไปเองกระมัง"
ฯลฯ
"พวกเรา จำเสียงใครได้บ้าง นอกจากเสียงท่านวันชนะ ?" อิบิคัสถามคนอื่นๆ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ตน
"เสียงบุรุษห้าวๆ นั่น คงเป็นท่านสถาพร" แม่หมอฟรีด้ากล่าวตอบ "และเสียงแหลมเล็ก ก็คงเป็นท่านหญิงเล็ก"
"รู้สึกว่าเสียงของทุกคน จะไม่เหมือนเดิม ต่างไปจากเดิมบ้างเล็กน้อยนะ ใครรู้สึกเหมือนข้าบ้าง ?" เซบาสเต็นถาม
"ใช่ๆ ข้ารู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน" ไดโอเซนัสตอบและพยักหน้า
"ข้าก็เช่นกัน" อิบิคัสกล่าวเห็นด้วย และตัดสินใจบอกกับคนบนยานซึ่งลอยลำนิ่งอยู่กลางฟ้า
"ท่านวันชนะ นำยานบินลงจอดบนลานจอดประจำของท่านเถิด ข้าและทุกคนกระหายอยากจะพูดคุยกับพวกท่านเต็มทีแล้ว"
"ได้ขอรับท่านเจ้าเมือง พวกท่านเข้าห้องประชุมภายในศูนย์ก่อนก็ได้นะขอรับ อีกสักครู่พวกกระผมจะตามเข้าไปเองขอรับ"
"เป็นข้อเสนอที่ดี ทางนี้จะได้มีเวลาจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม กว่าพวกท่านจะเข้าห้องประชุม ทางเราก็คงจะตระเตรียมอาหารและเครื่องดื่มเสร็จพร้อมพอดี ตกลง! อย่างนั้นพวกเราจะรอพวกท่านในห้องประชุมนะ"
"ตกลงขอรับ"
"เลิกการติดต่อ"
"เลิกการติดต่อขอรับ"
ทันทีที่จบการติดต่อสื่อสาร การพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันด้วยความฉงนสนเท่ห์ ก็เกิดขึ้นกับคนทั้งสองฝ่าย!!
บนยาน THE FUGITIVE กัปตันวันชนะ ถามทุกคนในยานทันที
"พวกเรา มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับพวกเรา ?"
"ตกลง ไม่มีการเปิดระบบจั๊มป์ข้ามเวลามาโดยตั้งใจ ใช่ไหม ?" สถาพรถาม
"ไม่มีครับผม" แอนดี้ตอบ
"การข้ามเวลา คือระบบสำคัญ เดี๋ยวนี้เราจะไม่เปิดกันง่ายๆ ถ้าไม่มีเหตุผลอันสมควร" เอ็มม่ากล่าวเสริม
"ก็ถ้าในหมู่พวกเรา ไม่มีใครเปิดระบบ แล้วพวกเรามาโผล่ที่แอตแลนติสอีกได้ยังไง ?
ปฏิบัติการครั้งนั้นมันจบไปนานแล้วนี่นา ???" พระมหาเอก กล่าวพลางยกมือกุมคาง
"ไม่เข้าใจเหมือนกันครับท่าน" กัปตันตอบพลางยิ้มและส่ายหน้า
"สงสัยจะมีใครอื่นมาเปิดประตูมิติ และดึงพวกเรามาที่นี่โดยจงใจแน่ๆ" เอ็มม่ากล่าวพลางขมวดคิ้ว
"ว้า....ตายละ หลวงพี่", "ไม่ได้กลับวัดแล้วเจ้าค่ะ" สองสาว รัชนก รัชนี ผลัดกันกล่าว
💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 68 🚀💫🕛💫
ศูนย์วิทยาศาสตร์และกองบัญชาการกลางแห่งโลโคเทีย แอตแลนติสเหนือ...
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ ทหาร และประชาชนภายนอกศูนย์ซึ่งสัญจรไปมากลางเมืองโลโคเทีย ต่างแหงนหน้าจ้องมองปรากฏการณ์ประหลาดซึ่งเกิดขึ้นบนท้องฟ้า รอยแตกปริแยกเป็นทางยาว ราวกับว่าถูกเทพองค์ใดองค์หนึ่งใช้มีดกรีดแผ่นฟ้าลากเป็นทางยาวจนผืนแผ่นฟ้าปริแยกเป็นแผลแบะออก แสงสว่างเจิดจ้าส่องลอดออกมาจากรอยแยกและมีการแตกแขนงแยกย่อยไปอีก กับทั้งมีอะไรบางอย่างพุ่งลอดออกมาจากรอยแยกบนแผ่นฟ้านั้น ครู่หนึ่งแผ่นฟ้าซึ่งปริแยกก็ปิดเข้าหากันกลับไปเป็นท้องฟ้าตามปกติ และสิ่งที่พุ่งออกมาจากรอยแยกนั้นตอนนี้ลอยนิ่งสนิทอยู่เหนือน่านฟ้าแห่งโลโคเทีย
ประชาชนพากันวิพากย์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ส่วนผู้คนภายในศูนย์ฯ หลายคนตื่นเต้นพูดคุยกันเสียงดังและต่างพากันชี้ไม้ชี้มือไปยังสิ่งที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้านั้น อิบิคัสเจ้าเมืองและเซบาสเต็นซึ่งกำลังร่วมประชุมปรึกษาหารือกับบุคคลสำคัญอื่นๆ ซึ่งมิได้เดินทางไปกับกัปตันวันชนะอย่างผู้เฒ่าไดโอเซนัส เฮโรดัส หรือแม่หมอฟรีด้าเป็นต้น เห็นผู้คนกำลังแตกตื่นกันเช่นนั้นจึงออกมาจากห้องประชุม ทำให้คนอื่นๆ พากันเดินตามออกมาด้วยเพื่อจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น
"มีอะไรกันหรือ ? ท่าทางคนทั้งหลายถึงได้แตกตื่นหรือตื่นเต้นกันแบบนี้ ?" เจ้าเมืองตะเบ็งเสียงถามโดยไม่เจาะจงใคร คือใครจะตอบก็ได้
"มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นบนท้องฟ้าเมื่อสักครู่ขอรับท่านเจ้าเมือง และตอนนี้ มียานบินขนาดใหญ่พอสมควรลำหนึ่งลอยอยู่เหนือพวกเราขอรับ!" ทหารนายหนึ่งตอบ
"รู้สึกว่าลักษณะมันคุ้นๆ ตาอยู่นะขอรับ ยานลำนี้..." เจ้าหน้าที่ศูนย์คนหนึ่งกล่าวขณะยืนยกมือป้องหน้าผากจ้องดู
"ไหนขอดูหน่อยซิ" อิบิคัสเดินลงบันไดหน้าศูนย์ฯ ลงมาถึงกลางบันไดแล้วหยุด คนอื่นๆ ก็ตามมาเป็นพรวน แล้วแหงนมองดูฟ้าเบื้องบน พอมองเห็นยานลำนั้น พวกเขาต่างตื่นตะลึงและตื่นเต้นดีใจ
"นั่นมัน...ยาน THE FUGITIVE ของท่านวันชนะ ใช่หรือเปล่าน่ะ ?" อิบิคัสเอ่ยถามทุกคน
"ข้าว่า น่าจะใช่กระมัง ?" เซบาสเต็นกล่าวตอบ
"มันดูคล้ายมากนะ ทั้งขนาด และลักษณะ สีสรรค์" แม่หมอฟรีด้ากล่าวถัดมา "แต่ว่า...ไม่รู้สิ ข้าว่ายานลำนี้ ดูใหญ่โตกว่า THE FUGITIVE ของท่านวันชนะที่เราเคยเห็นนิดหน่อย อันนี้ข้าไม่แน่ใจนะ"
"อืมม...ข้าก็รู้สึกเหมือนเจ้านะ ฟรีด้า" ไดโอเซนัสผู้เป็นอาจารย์กล่าวสนับสนุน
"หรือว่า ท่านวันชนะกับสหายเหล่านั้น ได้ปรับปรุง พัฒนา ยกเครื่องใหม่ให้กับยานของพวกเขา ขนาดที่ใหญ่ขึ้น เพื่อสมรรถนะ และประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ?" วิศวกรคนหนึ่งลองคาดเดา
"อาจเป็นได้...เป็นไปได้ๆ" อิบิคัสกล่าวเห็นด้วย
"แต่ว่า ถ้าเป็นยานของท่านวันชนะจริง ทำไมจึงลอยเท้งเต้งอยู่อย่างนั้นเล่า ? เขาน่าจะวิทยุติดต่อเข้ามายังศูนย์ของเรามิใช่หรือ ? มัวรีรออะไรอยู่ ??" เซบาสเต็นกล่าวด้วยความสงสัย
"ข้อนี้ คงเดายากหน่อยหละนะ..." อิบิคัสผู้สหายกล่าวตอบ "...แต่ว่า จะอย่างไรก็ตามที ข้าคิดว่า ยานลำนี้คงมิใช่ศัตรูผู้มาร้ายเป็นแน่..."
ทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยุสื่อสารคนหนึ่งบอกกับอิบิคัส
"ท่านเจ้าเมืองขอรับ เราได้รับการติดต่อทางวิทยุสื่อสารเข้ามาที่ศูนย์ควบคุมการสื่อสารแล้ว แต่ว่า ไม่มีผู้ใดฟังเข้าใจภาษาซึ่งพวกเขาใช้ติดต่อสื่อสารเข้ามาได้เลยขอรับ! มันมิใช่ภาษาของชาวแอตแลนติส!! แต่เป็นภาษาที่ประหลาดมาก มีโทนเสียงสูงบ้างต่ำบ้าง แตกต่างกันประมาณ 5 ระดับขอรับ!"
"หรือว่า เป็นภาษาถิ่น ภาษาบ้านเกิดของพวกเขา ?" ไดโอเซนัสคาดเดา
"เดี๋ยวก่อนนะ..." แม่หมอฟรีด้าเบิกตากว้าง "มีโทนเสียงสูงต่ำประมาณ 5 ระดับ อย่างนั้นหรือ ? ภาษาของท่านวันชนะและสหายหลายคน แทบจะทุกคน ก็มีโทนเสียงสูงต่ำต่างกันอยู่ 5 ระดับเหมือนกันนะเจ้าคะ!"
"ถ้าอย่างนั้น อาจจะเป็นท่านวันชนะและเหล่าสหายจริงๆ ก็ได้นะ และยานนั่นก็คงจะใช่ THE FUGITIVE จริงๆ แล้วกระมัง ?" เซบาสเต็นกล่าวอย่างตื่นเต้น
"มีทางเดียวจะรู้ได้ ต้องลองส่งภาษาของเราติดต่อกับพวกเขาดู ถ้าเป็นท่านวันชนะและคณะจริง พวกเขาต้องฟังเข้าใจและตอบกลับพวกเราได้ เพราะพวกเขาเคยเรียนภาษาของพวกเราชาวแอตแลนติสมาแล้วและเก่งมากจนสอบผ่านระดับสูงถึงขั้นได้ประกาศนียบัตรเป็นพลเมืองกิติมศักดิ์แห่งสหพันธรัฐแอตแลนติสเหนือมาแล้ว! แต่ถ้าพวกเขาไม่พูดภาษาของเราตอบกลับมา ก็แสดงว่าไม่ใช่พวกของท่านวันชนะแน่นอน และยานนั้นก็ไม่ใช่ THE FUGITIVE แน่!" อิบิคัสวิเคราะห์และเสนอแนะแนวทาง
"ถ้างั้นก็ติดต่อไปเลย!" เซบาสเต็นกล่าวแล้วหันไปบอกเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้น "ท่านจงบอกให้ฝ่ายสื่อสารในห้องวิทยุสื่อสารติดต่อไปยังยานบินนั่นเดี๋ยวนี้ เชื่อมต่อสัญญาณกับเครื่องสื่อสารประจำตัวของข้าด้วย เดี๋ยวข้าจะคุยเอง!"
"ได้ขอรับ ท่านเจ้าเมือง" เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นพยักหน้าแล้วยกอุปกรณ์สื่อสารลักษณะเป็นแผ่นโลหะสีเงินทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวประมาณคืบหนึ่งขึ้นมา ซึ่งอุปกรณ์นั้นดูคล้ายสมาร์ทโฟนซึ่งผู้คนใช้กันมากในยุคต้นคริสตศตวรรษที่ 21 พอเขาใช้นิ้วชี้แตะบนอุปกรณ์เท่านั้นอุปกรณ์นั้นก็เปิดเครื่องหน้าจอสว่างขึ้นโดยทันทีทันใด จากนั้นเขาพูดว่า "เรียกศูนย์สื่อสาร" เพียงไม่กี่วินาทีก็มีเสียงพูดดังออกมาจากอุปกรณ์นั้น
"ศูนย์สื่อสารได้ยินแล้ว ว่าไง ?"
"ท่านเจ้าเมืองสั่งให้ติดต่อกับยานบินซึ่งลอยอยู่เหนือพวกเราในขณะนี้ และให้เชื่อมต่อสัญญาณสื่อสารกับเครื่องสื่อสารของท่านด้วย ท่านจะพูดคุยกับคนในยานลำนั้นเอง"
"ได้ๆ บอกท่านเจ้าเมืองเปิดเครื่องรอได้เลย โปรดรอสักครู่..."
จากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการสื่อสารข้างในศูนย์ส่งวิทยุติดต่อไปยังยานอาคันตุกะลำนั้น ซึ่งยังเป็นปริศนาว่าเป็นยานของใครมาจากไหน...
"ถึงยานของผู้มาเยือน...นี่คือการติดต่อจากศูนย์ควบคุมการติดต่อสื่อสารแห่งศูนย์วิทยาศาสตร์และกองบัญชาการแห่งแคว้นโลโคเทีย ขอทราบสถานะของท่าน ท่านมาจากไหน ในยานมีนักบินกี่คน ผู้โดยสารกี่คน หัวหน้าหรือผู้นำประจำยานของท่าน และยานของท่าน นามว่ากระไร ตอบด้วย! โปรดฟังอีกครั้ง! นี่คือการติดต่อจากศูนย์ควบคุมการติดต่อสื่อสารแห่งศูนย์วิทยาศาสตร์และกองบัญชาการแห่งแคว้นโลโคเทีย ขอทราบสถานะของท่าน ท่านมาจากไหน ในยานมีนักบินกี่คน ผู้โดยสารกี่คน หัวหน้าหรือผู้นำประจำยานของท่าน และยานของท่าน นามว่ากระไร ตอบด้วย!!"
ทุกคนในทุกฝ่ายของศูนย์ฯ ต่างรอคอยการตอบกลับด้วยความตื่นเต้น โดยเฉพาะบุคคลสำคัญอย่างอิบิคัส เซบาสเต็น ไดโอเซนัส แม่หมอ ฯลฯ
แล้วทุกคนก็ยิ่งตื่นเต้นกันเป็นทวีคูณ เมื่อได้ยินเสียงตอบกลับเป็นภาษาแอตแลนเชี่ยน น้ำเสียงก็ฟังดูคุ้นหูอยู่บ้าง คล้ายใครบางคนที่พวกตนรู้จักและเคยพูดคุยด้วยจนจำเสียงได้อยู่บ้างเหมือนกัน! แต่ถ้าฟังดีๆ ก็จะแตกต่างกันนิดหน่อย!
"ถึงศูนย์ควบคุมการติดต่อสื่อสารแห่งศูนย์วิทยาศาสตร์และกองบัญชาการแห่งแคว้นโลโคเทีย...พวกเรา มาจากอนาคตกาลของพวกท่าน ในยานลำนี้ มีนักบินสามคน มีผู้โดยสารสิบกว่าคน ผู้นำของยานลำนี้ คือข้าพเจ้า นามว่า วันชนะ และยานลำนี้มีนามว่า THE FUGITIVE ซึ่งมีความหมายว่า ผู้ลี้ภัย !!"
เท่านั้นเอง เสียงเฮ เสียงโห่ร้องก็ดังลั่นจากเหล่าเจ้าหน้าที่และทุกคนในศูนย์ฯ ทุกคนล้วนตื่นเต้นดีใจและยิ้มแย้มแจ่มใส
"ท่านวันชนะ..." อิบิคัสกล่าวผ่านเครื่องสื่อสารในมือซึ่งเชื่อมต่อสัญญาณรออยู่ก่อนแล้ว "ดีใจที่ท่านและเหล่าสหายกลับมาอีกครั้งโดยสวัสดิภาพ รีบนำยานลงจอดที่ลานจอดและพากันลงจากยานเถิด เราจะได้พูดคุยกันว่าพวกท่านได้ทำอะไรมาบ้าง ทุกคนที่นี่ล้วนแต่เป็นห่วงพวกท่านกันทั้งนั้นเลยรู้ไหม"
"หืมม... ???" น้ำเสียงจากผู้ตอบกลับมานั้นเหมือนมีความแปลกใจ หรือสงสัย และตามมาด้วยคำถาม "นั่น ใครกำลังพูดอยู่ขอรับ ?"
"นี่ข้าเอง...อิบิคัสไงเล่า!"
"ท่านอิบิคัส หรือขอรับ ?" ทางนั้นถามมาอีกเหมือนไม่แน่ใจ
"ใช่! ข้าเอง ท่านวันชนะ! อะไรกัน ท่านจำเสียงข้าไม่ได้หรือ ?" เจ้าเมืองก็เริ่มแปลกใจแล้วเหมือนกัน
"อ่าา...." เสียงจากอีกฝ่ายออกลักษณะลังเล ก่อนจะตอบพร้อมกับคำวิจารณ์ "รู้สึกว่าเสียงของท่านฟังดูทุ้มมากกว่าเดิมนะขอรับ!"
"อย่างนั้นหรือ ฮ่ะๆ" เจ้าเมืองตอบแล้วหัวเราะ ก่อนจะย้อนกลับไป "เสียงของท่านก็ฟังดูต่างจากเดิมเล็กน้อยนะ ท่านวันชนะ"
"ต่างอย่างไรหรือขอรับ ?" ถ้าอิบิคัสได้มองเห็นผู้ที่กำลังพูดกับตนในตอนนี้ ก็จะเห็นเขาขมวดคิ้ว และคนอื่นๆ ภายในยานก็หน้าตาท่าทางมึนงงสงสัยอยู่เช่นกัน!
"ต่างสิ! เสียงท่านฟังดูเหมือนหนุ่มลงมากว่าที่เคยเป็น!"
แล้วอิบิคัส และทุกคนก็ยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงฝ่ายนั้นหัวเราะ และพูดคุยกับคนในยาน ซึ่งการพูดคุยนั้นก็ยิ่งทำให้ทุกคนทางนี้ต่างแปลกใจกันมากขึ้นไปอีก!
"นี่พวกเรา...ถามหน่อย เสียงผมฟังดูหนุ่มกว่าเดิม จริงเหรอครับ ?"
"อืม...ไม่รู้สิคะ เล็กว่าไม่นะ"
"นายว่าไง เสียงเราเปลี่ยนไปไหม สถาพร ?"
"ไม่เห็นเปลี่ยนตรงไหนนี่หว่า อิบิคัสและคนอื่นๆ ไม่ได้เจอพวกเรานานเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ก็อาจจะฟังเสียงนายแล้วรู้สึกไปเอง คิดไปเองมั้ง"
"เดี๋ยวๆๆ" อิบิคัสพูดแทรก "สหายทุกท่าน ได้โปรด! พูดคุยกันเป็นภาษาชาวแอตแลนติสได้ไหม ข้าและทุกคนที่นี่จะได้ฟังรู้เรื่อง"
"อ้อ...โอเค เอ๊ย ได้ๆ ตกลงขอรับ...เอ้า! พวกเรา พูดภาษาแอตแลนเชี่ยนกันนะ ยังจำกันได้ไหมนี่ ไม่ได้พูดมานานแล้วนา" เสียงกัปตันวันชนะเปลี่ยนไปเข้าโหมดภาษาแอตแลนเชี่ยน แล้วคนอื่นๆ ก็เปลี่ยนตาม
"พอได้อยู่ๆ "
"งั้นพูดประโยคที่เราพูดกันเมื่อตะกี้นี้ใหม่ อ่า...ขอถามหน่อย เสียงของข้า ฟังดูหนุ่มกว่าเดิม หรือเปล่า ?"
"ง่า...ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มั้งเจ้าคะ" คนเดิมตอบ
"ท่านเล่า คิดว่าเสียงข้าเปลี่ยนไปบ้างไหม สถาพร ?"
"ไม่เห็นเปลี่ยนตรงไหนเลย อ่า...ท่านอิบิคัสและคนอื่นๆ ไม่ได้พบพวกเรามานานมากแล้ว อาจจะฟังเสียงท่านแล้วรู้สึกไปเอง คิดไปเองกระมัง"
ฯลฯ
"พวกเรา จำเสียงใครได้บ้าง นอกจากเสียงท่านวันชนะ ?" อิบิคัสถามคนอื่นๆ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ ตน
"เสียงบุรุษห้าวๆ นั่น คงเป็นท่านสถาพร" แม่หมอฟรีด้ากล่าวตอบ "และเสียงแหลมเล็ก ก็คงเป็นท่านหญิงเล็ก"
"รู้สึกว่าเสียงของทุกคน จะไม่เหมือนเดิม ต่างไปจากเดิมบ้างเล็กน้อยนะ ใครรู้สึกเหมือนข้าบ้าง ?" เซบาสเต็นถาม
"ใช่ๆ ข้ารู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน" ไดโอเซนัสตอบและพยักหน้า
"ข้าก็เช่นกัน" อิบิคัสกล่าวเห็นด้วย และตัดสินใจบอกกับคนบนยานซึ่งลอยลำนิ่งอยู่กลางฟ้า
"ท่านวันชนะ นำยานบินลงจอดบนลานจอดประจำของท่านเถิด ข้าและทุกคนกระหายอยากจะพูดคุยกับพวกท่านเต็มทีแล้ว"
"ได้ขอรับท่านเจ้าเมือง พวกท่านเข้าห้องประชุมภายในศูนย์ก่อนก็ได้นะขอรับ อีกสักครู่พวกกระผมจะตามเข้าไปเองขอรับ"
"เป็นข้อเสนอที่ดี ทางนี้จะได้มีเวลาจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม กว่าพวกท่านจะเข้าห้องประชุม ทางเราก็คงจะตระเตรียมอาหารและเครื่องดื่มเสร็จพร้อมพอดี ตกลง! อย่างนั้นพวกเราจะรอพวกท่านในห้องประชุมนะ"
"ตกลงขอรับ"
"เลิกการติดต่อ"
"เลิกการติดต่อขอรับ"
ทันทีที่จบการติดต่อสื่อสาร การพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันด้วยความฉงนสนเท่ห์ ก็เกิดขึ้นกับคนทั้งสองฝ่าย!!
บนยาน THE FUGITIVE กัปตันวันชนะ ถามทุกคนในยานทันที
"พวกเรา มีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับพวกเรา ?"
"ตกลง ไม่มีการเปิดระบบจั๊มป์ข้ามเวลามาโดยตั้งใจ ใช่ไหม ?" สถาพรถาม
"ไม่มีครับผม" แอนดี้ตอบ
"การข้ามเวลา คือระบบสำคัญ เดี๋ยวนี้เราจะไม่เปิดกันง่ายๆ ถ้าไม่มีเหตุผลอันสมควร" เอ็มม่ากล่าวเสริม
"ก็ถ้าในหมู่พวกเรา ไม่มีใครเปิดระบบ แล้วพวกเรามาโผล่ที่แอตแลนติสอีกได้ยังไง ? ปฏิบัติการครั้งนั้นมันจบไปนานแล้วนี่นา ???" พระมหาเอก กล่าวพลางยกมือกุมคาง
"ไม่เข้าใจเหมือนกันครับท่าน" กัปตันตอบพลางยิ้มและส่ายหน้า
"สงสัยจะมีใครอื่นมาเปิดประตูมิติ และดึงพวกเรามาที่นี่โดยจงใจแน่ๆ" เอ็มม่ากล่าวพลางขมวดคิ้ว
"ว้า....ตายละ หลวงพี่", "ไม่ได้กลับวัดแล้วเจ้าค่ะ" สองสาว รัชนก รัชนี ผลัดกันกล่าว